|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสียงและกลิ่น
เสียงและกลิ่น โดย เดชา เวชชพิพัฒน์
บ้านเก่าสองชั้นตั้งอยู่ริมถนนในบริเวณที่เรียกกันว่ากรุงเทพฯชั้นใน ด้านหน้ามีที่ว่างห่างจากทางเท้าเกือบ ห้าเมตร ในขณะที่ทางเท้าหน้าบ้านกว้างไม่ถึงเมตร สร้างความไม่สะดวกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาไม่น้อย โดยเฉพาะ นักศึกษามหาวิทยาลัยครูที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้านข้างของบ้านอยู่ติดรั้วข้างซอยใหญ่ราดยางมะตอย หากเงยหน้ามองจะเห็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ได้เกือบทั้งหลัง จัดเป็นบ้านในฝันของชาวเมืองหลวง ที่เจ้าของบ้านเองก็ภาคภูมิใจไม่น้อย แต่ก็ไม่มากพอออกรายการ โทรทัศน์ที่ติดต่อขอสัมภาษณ์มากมาย ทั้งเรื่องบ้านและเรื่องตัวเขา เพราะไม่อยากให้คนจำนวนมากเห็นสภาพผู้ป่วย อัมพาตของตน อีกทั้งไม่อยากรื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับเหตุร้ายที่ผ่านมา ศุภฤกษ์ตื่นนอนตามเสียงยวดยานพาหนะที่วิ่งกันขวักไขว่ตั้งแต่หกโมงเช้า ถือเป็นนาฬิกาปลุกที่แถมมากับ ความสะดวกสบายในการเดินทาง เขาหลับตาลงอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นดอกประดู่ หลับตาเพื่อหนีภาพเพดานห้อง หนีไป ตามจินตนาการที่กลิ่นดอกไม้จะพาไป เป็นวิธี รับอรุณ ที่คนเป็นอัมพาตอย่างเขาทำได้โดยไม่พึ่งพาอาศัยใคร ไม่นานนักน้องสาวเคาะประตูแล้วค่อยๆก้าวเข้ามาพร้อมอุปกรณ์เช็ดตัว กลิ่นน้ำหอมที่ผสมในน้ำอุ่นโชยออก มา ศุภฤกษ์สูดดมตั้งแต่เริ่มจนจบด้วยความพอใจ จนกระทั่งผู้ปรนนิบัติกลับออกไปแล้วเข้ามาอีกครั้งพร้อมถาดอาหาร กลิ่นที่ตามมาคือกลิ่นข้าวสวย ผัดสะตอกุ้ง และ
โชคไม่แน่ใจว่าเป็นไข่เจียวหรือไข่เจียวหมูสับ ชีวิตผู้ป่วยอัมพาตของศุภฤกษ์ทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่นและเสียง นอกจากกลิ่นดอกประดู่แล้ว เขายัง คุ้นเคยกับกลิ่นดอกไม้ต่างๆ และกลิ่นอาหารสารพัดชนิดที่เพื่อนฝูงนำมาเยี่ยมเยียน ของอร่อยต่างๆที่กระจายขายอยู่ทั่ว เมืองนั้น เขามีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสมากกว่าตอนปกติ นอกจากนี้ศุภฤกษ์ยังมีความสามารถในการสัมผัสกลิ่นอาย วันนี้เป็นวันที่เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่าง แรงของเมืองหลวง หลังตื่นนอนได้ไม่นาน เสียงการจราจรค่อยๆเบาลง ตรงกันข้ามกับทุกวันที่ดังขึ้นเรื่อยๆไปจนเย็นค่ำ แถวบ้านเขากำลังตกอยู่ในความเงียบ มันเกิดอะไรขึ้น
ศุภฤกษ์ถามตัวเองได้ไม่นานเขาก็ตกใจจนหัวใจ แทบหยุดเต้น ตูม เสียงระเบิดลูกแรกดังขึ้นไม่ไกล ศุภฤกษ์ถามตัวเองพร้อมคำนวณทิศทาง
เสียงยิงระเบิดที่ยังอยู่ใน ความทรงจำอันเลวร้าย ไม่น่าเชื่อว่ามันกลับมา กลับมาอยู่ใกล้บ้านเขา เพียงครู่เดียวศุภฤกษ์มั่นใจว่าเสียงปีศาจนั้นดังอยู่แถวๆสถานที่สำคัญใกล้บ้าน สถานที่ที่ตัวแทนคนไทยทั้งประเทศมาประชุมร่วมกัน
ศุภฤกษ์ย้ำกับตัวเองด้วยความหวั่นใจและหงุดหงิด รู้ดีว่าน้องสาวออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงไม่มีใครเปิดโทรทัศน์ให้เขาดูข่าวติดตามสถานการณ์ ถึงตอนนี้เขาเหมือนคนตาบอดที่รับรู้ได้เพียงเสียงและกลิ่น เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ศุภฤกษ์อธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เขาหายจากการเป็นอัมพาตใน ทันที อย่างน้อยก็ขอเพียงให้ขยับแขนและมือทั้งสองข้างได้ เพื่อยกขึ้นอุดหูอย่างรวดเร็ว เพราะในชีวิตที่เหลืออยู่ เขาไม่ อยากได้ยินเสียงนี้อีกแม้แต่ครั้งเดียว ไม่นานนักเสียงตูมเปลี่ยนเป็นเสียงปืนดังรัว ยิ่งกว่านั้น มันดังใกล้เข้ามาทุกที ใกล้จนศุภฤกษ์รู้ดีว่ากำลังเกิด กลียุคบนถนนหน้าบ้านเขา เสียงปืนดังกระหน่ำราวชมภาพยนตร์สงคราม กลิ่นควันปืนลอยเข้ามาในห้อง ศุภฤกษ์นอนน้ำตาไหลอาบ สองแก้ม เขาอยากอุดจมูกด้วยรู้ดีว่ากลิ่นที่จะตามมาคือกลิ่นอะไร
กลิ่นคาวเลือด กลิ่นคาวเลือดของผู้บริสุทธิ์ กลิ่นที่เกิดจากปืนในมือของผู้ถืออาวุธ ยิงใส่คนมือเปล่าผู้มีเพียงความหวังดีต่อ บ้านเมือง กลิ่นที่เขาเคยสัมผัสตลอดเวลาทั้งก่อนและหลังล้มลงเพราะกระสุนปืน มันอยู่ในความทรงจำของเขามาโดยตลอด ทั้งเสียงทั้งภาพ ทหารถือปืนยิงใส่ประชาชนมือเปล่า ร่างเหล่านั้นกระตุกไปตามแรงกระสุน ก่อนล้มลงหลั่งโลหิตอาบถนน เหตุการณ์นั้นฝังอยู่ในทุกอณูเนื้อของสมองและหัวใจ เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงรัฐบาลเมื่อหลายปีก่อน ที่ส่งผล ให้เขามีสภาพร่างกายเช่นในปัจจุบัน ไม่นานนัก กลิ่นคาวเลือดโชยขึ้นมาบนห้องศุภฤกษ์ตามคาด ถึงตอนนี้ เขาแทบร้องไห้เป็นสายเลือด ภาวนา ขออย่าให้มีผู้บริสุทธิ์คนใดโชคร้ายเป็นเช่นเขา มีสภาพร่างกายเช่นเขา ขณะอธิษฐาน ศุภฤกษ์ได้ยินเสียงปืนดังกระหน่ำขึ้นอีกครั้ง
- จบ -
Create Date : 26 เมษายน 2553 |
Last Update : 26 เมษายน 2553 15:23:59 น. |
|
1 comments
|
Counter : 672 Pageviews. |
|
|
|
โดย: thanitsita วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:18:29:24 น. |
|
|
|
| |
|
|