ความดับลงแห่งกองทุกข์ มีได้เพราะการดับไปแห่งความเพลิน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

มาฝึก กายคตาสติ กันเถอะ




ผู้ใด บริโภค กายคตาสติ ผู้นั้นชื่อว่า บริโภค อมตะธรรม


..........กายคตาสติ หมายถึง การตั้งจิต อยู่ ที่กาย การรู้ ความเคลื่อนไหวของกาย เช่น การเดิน ก็ รู้ ว่า เดิน การ นั่ง ก็ รู้ว่า นั่ง การ แกว่งมือ ไกวแขน ก็ รู้ว่า ไกวแขน การก้าวขา ขาซ้ายก้าว ก็รู้ว่า ขา ซ้ายก้าว ขาขวาก้าว ก็ รู้ว่า ขาขวาก้าว เป็นต้น ถ้า จะเปรียบ ก็ คือ การเดินจงกลม นั่นแหละ ให้มีสติ อยู่กับการก้าวเท้าเดิน ให้มีสติ อยู่กับปัจจุบันว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ อย่าให้ จิต ไปคิดถึงสิ่งใด อย่าให้ จิต ไปคิด อดีต หรือ อนาคต เมื่อจิต หลุดไปคิด สิ่งใด ให้ ดึงกลับมา อยู่กับ ปัจจุบัน ให้ รู้การเคลื่อนไหวของกาย

การฝึก กายคตา สติ เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ ฆราวาส เพราะฆราวาส ไม่มีเวลา ที่จะฝึกนั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ หรือเดินจงกลม สลับนั่งสมาธิแบบพระสงฆ์ การฝึกกายคตาสติ จึง สามารถนำมาฝึกใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีสติที่ต่อเนื่อง เป็นสาย อยู่ตลอดเวลา เมื่อสติ ต่อเนื่องอยู่ตลอด ผู้นั้น เรียกว่ามี สัมปชัญญะ มีสมาธิ

การฝึก กายคตาสติ สามารถฝึก ได้ตลอดเวลา เช่น เราทำงาน ก็ มีสมาธิ จดจ่อ อยู่กับการทำงาน สิ่งใด ที่เกี่ยวเนื่องอยู่กับการเคลื่อนไหวของกาย ให้ นำจิต ไปตั้งอยู่กับการเคลื่อนไหวนั้นๆ เช่น มือเราล้างจาน ก็ ตั้งจิต อยู่กับมือ ที่ล้างจาน เรากวาดบ้าน ก็ ตั้งจิต อยู่ที่ปลายไม่กวาดก็ได้ นิ้ว จิ้ม คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ก็ มีจิต อยู่ที่นิ้ว นิ้วไหนจิ้ม จิตก็รู้อยู่ที่นิ้วนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็ ตั้งจิตอยู่กับการทำงานให้มีสมาธิรู้อยู่กับการทำงานในปัจจุบัน

การที่เรามีสติ รู้อยู่กับการทำงานในปัจจุบัน พระพุทธเจ้า เรียก อนุสติฐานที่หก หรือ จิตอธิษฐานการงาน คือ ให้จิตมีสติ มีสมาธิรู้อยู่กับการทำงานในปัจจุบัน หรือ รู้การเคลื่อนไหวของกาย

พระพุทธเจ้า ให้ ฝึก กายคตาสติ ก็เพราะ คนเราจะนั่งสมาธิ ตลอดทั้งวันไม่ได้ ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ เมื่อ เปลี่ยนอิริยาบถ ก็ จึงให้ มีสติ สมาธิ อยู่ในอิริยาบถนั้นๆ เพื่อที่จะได้มี สติ สมาธิ ต่อเนื่อง การเจริญสมาธิ จึงจะก้าวหน้า

ฉะนั้น การปฎิบัติธรรม จริงๆแล้วก็ คือ การ ฝึกรู้ การเคลื่อนไหวของกาย แล้ว ถ้า เรานั่ง หรือ นอน หละ กายไม่เคลื่อนไหว ต้องทำอย่างไร เมื่อกายไม่เคลื่อนไหว ยังมีอะไร ที่เคลื่อนไหว คือ ลมหายใจ ยังเคลื่อนไหว ไหลเข้าไหลออกอยู่ ก็ ให้ นำจิต กลับมารู้ ลมหายใจ เมื่อรู้ลมหายใจเข้า หายใจออก พระพุทธเจ้า เรียก อานาปานสติ ให้จิตรู้อยู่กับลมหายใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ลมหายใจ พระพุทธเจ้า เรียกว่าเป็นกาย กายหนึ่ง ในกายทั้งหลาย ในขณะที่จิตรู้ลม ดับไป ไป เกิดจิตดวงใหม่ ที่ไปรับรู้อารมณ์ อื่น เช่น ไปคิดอดีต อนาคต สุข ทุกข์ ก็ ให้ ดับจิตดวงนั้นเสีย แล้ว นำจิต ดวงใหม่ มาตั้งไว้ที่กายหรือ ลมหายใจ ดังเดิม แล้ว ให้เห็นว่า นี่คือ การเกิดดับ ของจิต มีเกิด และมีดับ ไม่เที่ยงแท้อะไร มีการแปรเปลี่ยน เกิดดับ อยู่ตลอดเวลา แบบนี้ นี่คือ วิปัสสนา หรือ การเห็นการเกิดดับของจิต เป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส

การฝึกแรกๆ จิตจะไปคิดไวมาก จนเราเพลินไปกับอารมณ์ต่างๆ ความเพลินนั้นคือ อุปาทาน หรือ เรียกว่า มีนันทิ นันทิ คือความเพลิน ผู้ใด มี นันทิ ผู้นั้น มีอุปาทาน ผู้ใดมีอุปาทาน ก็ ปรินิพพานไม่ได้

เพราะฉะนั้น เราต้องฝึก การละนันทิ หรือละความเพลิน พยามดึงจิต ให้มาตั้งไว้อยู่ที่กาย หรือลมหายใจ ให้เร็วที่สุด ผู้ใด ทำได้ไว ดุจกระพริบตา พระพุทธเจ้า จะทรงชมว่าเป็นผู้ที่มีอินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ การฝึก ทิ้งอารมณ์ ต่างๆ เช่น ไปคิด อดีต อนาคต สุข ทุกข์ ก็ ตาม อารมณ์ ต่างๆเหล่านี้ คือ ภพ ที่จะนำพาเราไปเกิด

พระพุทธเจ้าจึง ให้เราฝึก ทิ้งภพ คือ สถานที่ตั้งของจิต ที่จะนำพาเราไปเกิด ให้เรานำจิต มาตั้งไว้ที่เสาเขื่อนเสาหลักคือ กายหรือ ลมหายใจ เมื่อเราฝึกจนชำนาญแล้ว จิต จะมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่กาย จิตจะไม่ไปสร้างภพอีก เมื่อถึงเวลาตาย ลมหายใจดับ จิต ก็ จะไม่มีภพ ให้เป็นที่ตั้งอาศัย เราก็จะนิพพานตอนตาย จิตจะดับไปพร้อมๆกับลมหายใจ จะไม่มีการไปเกิดอีก

ส่วนจะนิพพานในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีวิธี ฝึกรายละเอียดมากพอสมควร ซึ่งจะอธิบายในโอกาสต่อๆไป แต่ใช่ว่า จะยากเกิดความสามารถของมนุษย์ หากเรามีความพยายาม หรือความตั้งใจที่จะทำอย่างจริงจัง
.
.........ภิกษุ ท.! ธรรมข้อหนึ่งอันบุคคลเจริญให้มาก แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อทำ โสดาปัตติผลให้แจ้ง ย่อมเป็นไปเพื่อ ทำ สกทาคามิผลให้แจ้ง ย่อมเป็นไปเพื่อ ทำอนาคามิผลให้แจ้ง ย่อมเป็นไปเพื่อ ทำอรหัตตผลให้แจ้ง ธรรมข้อนี้ คือ กายคตาสติ




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2553
8 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2553 14:13:11 น.
Counter : 1012 Pageviews.

 



ก็พอจะเข้าใจบ้างค่ะลุง

 

โดย: พธู 10 กรกฎาคม 2553 20:41:03 น.  

 

โย สหสฺสํ สหสฺเสน สงฺคาเม มานุเส ชิเน เอกญฺจ เชยฺยมตฺนานํ ส เว สงฺคามชุตฺตโม
ถึงผู้ใดจะชนะเหล่าชนได้พันคนพันครั้งในสงคราม ก็หาชื่อว่าเป็นผู้ชนะยอดเยี่ยมไม่
ส่วนผู้ชนะตนคนเดียวได้ ผู้นั้นแล ชื่อว่าผู้ชนะยอดเยี่ยมในสงคราม

ขอให้มีความสุข ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
ด้วยความเป็นผู้ชนะตน ตลอดไป..นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 12 กรกฎาคม 2553 14:14:29 น.  

 

น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ อตฺตโน ว อเวกฺขเยยฺ กตานิ อกตานิ จ
ไม่ควรใส่ใจคำแสลงหูของผู้อื่น ไม่ควรแส่มองธุระที่เขาทำและยังไม่ทำ
ควรตั้งใจตรวจตราหน้าที่ของตนนี่แหละ ทั้งที่ทำแล้ว และยังไม่ทำ

มีความสุขกับการเป็นไบ้ หูหนวก ตาบอด ในสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ ตลอดไป...นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 13 กรกฎาคม 2553 11:55:15 น.  

 

อตฺตาทตฺถํ ปรตฺเถน พหุนาปิ น หาปเย อตฺตทตฺถมภิญฺญาย สทตฺถปสุโต สิยา

การทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น ถึงจะมาก ก็ไม่ควรเป็นเหตุทำลายประโยชน์ที่เป็นจุดหมายของตน
กำหนดประโยชน์ที่หมายของตนให้แน่ชัดแล้ว พึงขวนขวายแน่วแน่ในจุดหมายของตน

ขอให้ประสบความสำเร็จในจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต ตลอดกาล...นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 14 กรกฎาคม 2553 12:15:58 น.  

 

น หิ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ
ความชนะที่ไม่กลับแพ้เป็นดี

มีความสุขกับการชนะใจตน เพื่อการดำเนินชีวิตที่ดี ตลอดไป...นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 15 กรกฎาคม 2553 13:54:50 น.  

 

ละความโกรธได้ ชีวิตมีแต่สุข

สุขกาย เย็นใจ ด้วยความสามารถในการควบคุมโทสะได้ ตลอดไป...นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 16 กรกฎาคม 2553 14:47:09 น.  

 



สวัสดีค่ะ ลุง
เอาภาพสาวงามมาฝาก
กับกุหลาบสวยๆ
เอ..มันจะขัดกับบล็อคลุงมั้ยเนี่ย



 

โดย: พธู 16 กรกฎาคม 2553 15:20:28 น.  

 

ครับนับว่าคนไทยยังโชคดีอยู่ที่ยังไม่สิ้นคนดีขอให้....เวปของท่านจงอยู่คู่ไปกับคนไทย...และขอให้ท่านและครอบครัวของท่านจงประสพแต่ความสุขความเจริญตลอดกาลนานเทิญ

 

โดย: บางแก้ว IP: 117.47.242.117 28 สิงหาคม 2553 3:22:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ดูกรภิกษุทั้งหลาย : บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ฯ
Friends' blogs
[Add จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.