P R I N C E of T U M B U R L I A

องค์ชายข่าหลอ
Location :
Urbana, IL United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add องค์ชายข่าหลอ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
คนไทยรึป่าว?

จริง ๆ แล้วคิดจะ blog เรื่องนี้มานานแล้วนะครับ ก็ขอเป็นโอกาสนี้เลยแล้วกัน เพราะว่าผมได้ comment มาจากผู้อ่าน blog ของผมคนนึง (ไม่มี login) ถามผมว่าผมเป็นคนไทยรึป่าว ทำไมต้องเขียนไทยคำอังกฤษคำด้วย ผมเลือกที่จะลบ comment ไปนะครับ เพราะภาษาที่ใช้บวกับเจตนาที่ไม่ชัดเจนด้วยการไม่ login ครับ

ผมได้ยินคำถามนี้บ่อยมากนะครับ จากการสนทนาทั่วไปทั้งของตัวเองแล้วก็บังเอิญได้ยินมา หรือจาก webboard ทั้งหลาย เหมือนเป็นคำติดปากเวลาที่เราไม่ชอบใจใครเพราะเค้ามี value ไม่เหมือนกับเรา หรือใครที่ทำไม่เหมือน norm เราก็จะชอบถามเค้าเหล่านั้นว่า คนไทยรึป่าว ตัวอย่างนะครับ การที่คน ๆ นึงบอกว่าเค้าไม่ฟังเพลงไทย ฟังแต่เพลงฝรั่ง ก็อาจจะได้รับคำถามว่า คนไทยรึป่าว การพูดไทยคำอังกฤษคำ ก็ไม่หนีโดนถามคำถามเดิมเหมือนกัน คนไทยรึป่าว

หลายครั้งผมก็งงนะ ว่าผู้ถามเหล่านั้นเค้าคิดอะไรอยู่ การเป็นคนไทยทุกอย่างต้องเป็นไทยหมดเหรอครับ ผมว่าการศึกษาไทยมีปัญหามากในการสอนให้คนไทยเป็น independent thinker เพราะเราอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แนวความคิดที่เป็น collectivism มีผลต่อแนวความคิดของคนไทยเป็นอย่างมาก กระบวนความคิดของเราจะถูกกดและโดนตีกรอบเอาไว้ นอกจากนั้น คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เป็น lifelong learner ดังนั้น attitude ในการเปิดรับการเรียนรู้จีงยังเป็นปัญหา ทำให้ worldview ไม่กว้างและมีผลต่อการตัดสินใจหรือตีความ แต่ทุกอย่างปรับปรุงได้ครับ ซึ่ง พรบ.การศึกษาฉบับปัจจุบันของไทยก็ได้เน้นเรื่องการพัฒนาคนไทยให้เป็น lifelong learner ครับ

สำหรับผม การเป็นคนไทยไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องพูดหรือเขียนเป็นไทยทั้งหมดเลยครับ การใช้ภาษาไทยทั้งหมดเป็นการบ่งบอกความเป็นไทยเหรอครับ ผมว่าไม่น่าจะใช่ มันมีปัจจัยหลายอย่างมากกว่าการใช้ภาษาครับ พื้นฐานการศึกษา วิถีชีวิต และสังคมที่เราอยู่ ก็มีส่วนสำคัญในการเลือกภาษาในการสื่อสารครับ และผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่าใครผิดหรือว่าถูกเพียงเพราะเค้าไม่ได้ทำตามสังคมส่วนใหญ่ ความแตกต่างของแต่ละบุคล ทางสังคม เชื้อชาติ สีผิว เพศ ทำให้คนเกิดการเรียนรู้และสังคมพัฒนาได้ครับถ้าเปิดรับกับความแตกต่างนั้น

blog นี้มันอยู่ใน lifelong lesson ต้องโยงให้มันเป็นบทเรียนสำหรับชีวิตผมให้ได้ครับ สำหรับผม ผมเลือกที่จะยอมรับ แล้วก็ appreciate และก็เรียนรู้ไปกับความแตกต่างครับ ไม่รู้นะสำหรับผมการยึดติดกับอะไรมากไปมันจะทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างลำบากหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยครับ ผมชอบใช้สองภาษาในการสื่อสาร ผมไม่ชอบดูรำไทย แต่ผมชอบอาหารไทย ฟังเพลงไทย มันก็ปน ๆ กันไปครับ แล้วมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนไทยน้องลงไปรึป่าว ผมบอกเลยครับว่า ไม่ หลายคนอาจจะถามว่าแล้ววัฒนธรรมไทย เอกลักษณ์ไทย เราจะรักษาเอาไว้ได้เหรอ ผมว่า วัฒนธรรมก็ต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามสังคมและเวลาที่เปลี่ยนไปนะครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ดี ๆ ยังไงก็ยังคงอยู่ สิ่งใดที่ไม่ดีไม่เหมาะสมมันก็จะสูญหายไปตามกาลเวลาครับ




Create Date : 28 พฤษภาคม 2552
Last Update : 28 พฤษภาคม 2552 12:33:36 น. 4 comments
Counter : 732 Pageviews.

 
สวัสดีคะคุณชายขำหล่อ ขอแซวหน่อยเข้าใจตั้งชื่อจัง เคยอ่านเม้นท์ของคุณในบล็อคของน้องนิ ยังอดชื่นชมภาษาอังกฤษที่ดีของคุณ สำหรับบล็อคนี้เขียนได้ดีและเห็นด้วยคะ บางครั้งเราตีความแบบเหมารวมด้วย (stereotype)


โดย: tanya tanya วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:02:45 น.  

 
Really dislike stereotype people as well, sometime due to acting differently to other Thais, they tend to isolate you out.... Which, in a way, I really appreciated though....I love to mix around and meet new people...learning new things....rather than sitting around and experiencing the same environment u have back at home...
Hope I am not being too harsh and no offence to any Thais out there..I know there are good people out there as well but I have just had bad experience with some Thais...
To conclude...I agree with you...



โดย: SENieez วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:54:00 น.  

 
สวัสดีอีกครั้งคะคุณชายข่าหล่อ ขอบคุณที่แวะไปอ่านและเม้นที่บล็อคนะคะ ขอกลับมาเม้นท์ที่บล็อคนี้อีกครั้งก็แล้วกันเนื่องจากไม่มีความรู้ทางหนังจีนเลย

ชอบหัวข้อของคุณ Lifelong Lessons การเรียนรู้ในชีวิตของคนเราคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนได้ทุกเรื่องไม่เฉพาะในห้องเรียน ที่อังกฤษนะคะจะมี Lifelong Learning Centre เยอะแม้แต่ตามพิพิธภัณฑ์ ยังชอบความคิดของเขาและอยากให้มีแบบนี้ที่บ้านเราจัง ตอนทำงานด้านพัฒนาในเมืองไทย (UN) มีโอกาสได้เดินทางไปดูงานศูนย์เรียนรู้ชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ตลอดชีพ และเห็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ด้วย


โดย: tanya tanya วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:02:55 น.  

 
ขอบคุณทั้งคุณ tanya tanya แล้วก็ SENieez ครับที่เห็นด้วย ตอนนี้งานวิจัยที่ผมทำอยู่ก็เป็นเรื่อง informal learning ซึ่งเป็นส่วนหลักสำคัญของการที่คนเราจะเป็น lifelong learner ครับ ผมก็ได้อ่าน articles ของทาง UK กับ Canada ด้วยครับ ผมว่าพวกเค้าล้ำหน้าเราไปไกลครับ ถ้าเรายังไม่รู้จักขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวกัน และไม่เริ่มที่จะปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้รักที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เราก็จะยังวนเวียนอยู่กับฉากเดิม ๆ กับเศรษฐกิจและการเมือง แค่เปลี่ยนคนเล่นใหม่แค่นั้น

คุณ tanya tanya ครับผมสนใจนะครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยเล่าได้มั้ยครับว่า lifelong learning center ที่มีตามหลายที่ของเค้าเนี่ย เค้าเข้าถึงคนของเค้ายังไงครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ


โดย: องค์ชายข่าหลอ วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:39:44 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.