Hotline News Today
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัว

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง หลังจากหัวหน้าที่ทำงานด้วยกันมาเกือบ 4 ปีจำต้องลาจากไปอยู่ที่อื่น ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง รูปแบบการทำงานไม่ได้หยุดเพียงแค่งานที่รับผิดชอบเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการบริหารคนทั้งภายในทีมและระหว่างหน่วยงาน จากคนที่เคยมีกันชน กลับกลายต้องมาเป็นผู้ชนเสียเอง ตอนนี้เลยเจอทุกรูปแบบทั้งการโดนตลบหลัง โดนรุมกินโต๊ะ ทำให้บางครั้งน้ำตาตกในเลยก็มี ซึ้งเลยว่าชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวมันเป็นอย่างไร

แต่เอาเถอะ ที่เขียนวันนี้ก็แค่มีความรู้สึกบางแวปที่เซ็งๆและอยากระบายเท่านั้น แต่ก็ไม่อยากจะบ่นอะไรมากขอบ่นแค่ย่อหน้าแรกย่อหน้าเดียวก็พอ เพราะทุกวันนี้ก็พยายามคิดว่ามันก็คงไม่ได้แย่ไปตลอด หนังสือ The Secret บอกกับเราไว้ว่า หากเรายิ่งคิดอะไรที่แย่ๆ คลื่นความถี่นั้นก็จะยิ่งดึงดูดสิ่งนั้นกลับมาที่เราเสมอ ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตให้ดีขึ้น เราก็ควรที่จะเปลี่ยนความคิดและทัศนคติให้เป็นความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นมา แล้วสิ่งดีๆนั้นจะเกิดขึ้นเอง

ทุกวันนี้ก็พยายามคิดอยู่เหมือนกันว่า ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวมันเป็นอีกบททดสอบการทำงานของเราอย่างหนึ่ง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำงานเป็นลูกน้องไปตลอด สักวันหนึ่งเราก็ต้องขึ้นมาเป็นหัวหน้าขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่จะเร็วจะช้ามันก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล บางครั้งเวลารู้สึกแย่ๆก็จะพยายามคิดว่านี่แหละที่เรียกว่าประสบการณ์ทำงานอย่างแท้จริง เพราะการทำงานเก่งอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่มันมีองค์ประกอบร่วมอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทักษะความเป็นผู้นำ การบริหารคนภายในทีม การวางตัวและการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น และจิตวิทยาในการทำงานอีกหลายๆด้าน ซึ่งเราจะไม่มีโอกาสได้ลองฝึกทักษะเหล่านี้เลยถ้านายยังคุ้มกะลาหัวเราอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่ท้อ ก็ยังระลึกถึงคำพูดหนึ่งซึ่งได้ฟังเสมอจากพี่ที่ทำงานที่แรกว่า “สถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษเอง” ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรเพราะยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้ก็เข้าใจแล้วถึงแก่นแท้ของความหมายนี้

แม้ตอนนี้พยายามที่จะเปลี่ยนมุมมองการทำงาน แต่ก็ยอมรับว่าบางชั่วขณะก็ยังแอบท้อใจอยู่บ้างโดยเฉพาะเวลาเจอเรื่องแย่ๆเข้ามา แต่ก็อย่างที่ว่าเวลาที่เรารู้สึกแย่ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้เราดีขึ้นมาได้ กลับยิ่งทำให้ทั้งเราเองและคนในทีมคอยหมดกำลังใจไปด้วย ก็เลยต้องพยายามปรับความคิดเสียใหม่ อย่างน้อยก็เป็นแรงจูงใจในการทำงานต่อไป บางคนอาจจะเห็นว่ากำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า แต่อะไรก็ช่างเถอะอย่างน้อยการหลอกตัวเองมันก็ยังกระตุ้นให้เราทำงานต่อไปได้ดีกว่ามานั่งคร่ำครวญถึงโชคชะตาแล้วจะพลอยทำให้ทุกอย่างเสียไปหมด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบททดสอบครั้งนี้จะดำเนินอีกยาวนานสักเพียงใด แม้ว่าจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเพียงใด แต่ท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรขึ้นมากๆเลย จากการที่ไม่มีนายคุ้มกะลาหัวเนี่ยแหละ

“The Great power comes great responsibility
พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับภาระอันใหญ่ยิ่ง”



Create Date : 17 กรกฎาคม 2551
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 13:43:23 น. 9 comments
Counter : 929 Pageviews.

 
สู้เขาน้อง เราทำได้อยู่แล้ว

ปล. ตัว s ตกไปนะ ตรง come น่ะ อิอิ


โดย: พี่เติ้ง IP: 124.121.117.165 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:04:56 น.  

 
คนเราต้องโต

อย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สิ่งที่ต้องกลัวอย่างเดียว คือ การหยุดนิ่ง

เปนกะลังจัยให้ จ๊ะ



โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:51:04 น.  

 
นี่ก็เป็นแบบ จขบ. เหมือนกันค่ะ
3 เดือนกว่าๆแล้ว ที่ไม่มีนายคุ้มหัว
เหลือเราอยู่คนเดียว
น้ำตาตกจนหายไปหมดแล้ว
อาศัยความหน้าด้านเข้าว่า เลยรอดมา 555

สู้ๆนะคะ เป็นกะลังใจให้เหมือนกันค่ะ


โดย: nattabe วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:28:49 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ มองวิกฤตให้เป็นโอกาสซะ เพื่อก้าวที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต


โดย: bbb IP: 125.25.128.105 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:51:11 น.  

 
สู้ๆ ค่ะ พี่ตุ๊ย ทำได้อยู่แล้ว และสุดท้ายก็จะผ่านไปได้ เป็นเรื่องปกติของการทำงานที่ต้องเจอปัญหา ที่สำคัญอย่าเก็บมาใส่ใจมากจนทำให้ตัวเองแย่ค่ะ ปัญหาเกิดจากคนอื่นสร้าง เราแค่โดนเข้าไปเกี่ยวด้วย แต่ไม่ได้เกิดจากตัวเราซะหน่อย เพราะฉะนั้นอย่าให้ความสำคัญของปัญหาคนอื่นจนลืมตัวเราค่ะ Let it go......


โดย: นู๋เมเปิ้ล IP: 203.148.221.20 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:37:14 น.  

 
ไม่ต้องห่วง ยังมีนาย(ผมทอง) คุ้มกะลาหัวอยู่ไม่ใช่เหรอ เหอๆๆๆๆๆ


โดย: JasonSจัง!!! IP: 124.120.180.232 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:58:21 น.  

 
มีประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินจากเจ้านายสมัยทำงานอยู่ที่ห้องสมุดที่อเมริกา
"It's not the end of the world"

เป็นประโยคที่ช่วยทำให้เราคิดได้เสมอ


โดย: P Tuk IP: 203.148.221.20 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:28:07 น.  

 
น้องตุ๊ย คิดถึงจัง แวะมาทักทาย จุ๊บ ๆๆ


โดย: Perasa วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:16:39:12 น.  

 
รูปไปสิงค์โปร์อ่ะ รอชมอยู่นะจ๊ะ


โดย: Perasa วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:15:13:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Crackerjack
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Google
Friends' blogs
[Add Crackerjack's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.