|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัว
ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง หลังจากหัวหน้าที่ทำงานด้วยกันมาเกือบ 4 ปีจำต้องลาจากไปอยู่ที่อื่น ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง รูปแบบการทำงานไม่ได้หยุดเพียงแค่งานที่รับผิดชอบเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการบริหารคนทั้งภายในทีมและระหว่างหน่วยงาน จากคนที่เคยมีกันชน กลับกลายต้องมาเป็นผู้ชนเสียเอง ตอนนี้เลยเจอทุกรูปแบบทั้งการโดนตลบหลัง โดนรุมกินโต๊ะ ทำให้บางครั้งน้ำตาตกในเลยก็มี ซึ้งเลยว่าชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวมันเป็นอย่างไร
แต่เอาเถอะ ที่เขียนวันนี้ก็แค่มีความรู้สึกบางแวปที่เซ็งๆและอยากระบายเท่านั้น แต่ก็ไม่อยากจะบ่นอะไรมากขอบ่นแค่ย่อหน้าแรกย่อหน้าเดียวก็พอ เพราะทุกวันนี้ก็พยายามคิดว่ามันก็คงไม่ได้แย่ไปตลอด หนังสือ The Secret บอกกับเราไว้ว่า หากเรายิ่งคิดอะไรที่แย่ๆ คลื่นความถี่นั้นก็จะยิ่งดึงดูดสิ่งนั้นกลับมาที่เราเสมอ ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตให้ดีขึ้น เราก็ควรที่จะเปลี่ยนความคิดและทัศนคติให้เป็นความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นมา แล้วสิ่งดีๆนั้นจะเกิดขึ้นเอง
ทุกวันนี้ก็พยายามคิดอยู่เหมือนกันว่า ชีวิตเมื่อไม่มีนายคุ้มกะลาหัวมันเป็นอีกบททดสอบการทำงานของเราอย่างหนึ่ง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำงานเป็นลูกน้องไปตลอด สักวันหนึ่งเราก็ต้องขึ้นมาเป็นหัวหน้าขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่จะเร็วจะช้ามันก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล บางครั้งเวลารู้สึกแย่ๆก็จะพยายามคิดว่านี่แหละที่เรียกว่าประสบการณ์ทำงานอย่างแท้จริง เพราะการทำงานเก่งอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่มันมีองค์ประกอบร่วมอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทักษะความเป็นผู้นำ การบริหารคนภายในทีม การวางตัวและการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น และจิตวิทยาในการทำงานอีกหลายๆด้าน ซึ่งเราจะไม่มีโอกาสได้ลองฝึกทักษะเหล่านี้เลยถ้านายยังคุ้มกะลาหัวเราอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่ท้อ ก็ยังระลึกถึงคำพูดหนึ่งซึ่งได้ฟังเสมอจากพี่ที่ทำงานที่แรกว่า สถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษเอง ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรเพราะยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้ก็เข้าใจแล้วถึงแก่นแท้ของความหมายนี้
แม้ตอนนี้พยายามที่จะเปลี่ยนมุมมองการทำงาน แต่ก็ยอมรับว่าบางชั่วขณะก็ยังแอบท้อใจอยู่บ้างโดยเฉพาะเวลาเจอเรื่องแย่ๆเข้ามา แต่ก็อย่างที่ว่าเวลาที่เรารู้สึกแย่ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้เราดีขึ้นมาได้ กลับยิ่งทำให้ทั้งเราเองและคนในทีมคอยหมดกำลังใจไปด้วย ก็เลยต้องพยายามปรับความคิดเสียใหม่ อย่างน้อยก็เป็นแรงจูงใจในการทำงานต่อไป บางคนอาจจะเห็นว่ากำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า แต่อะไรก็ช่างเถอะอย่างน้อยการหลอกตัวเองมันก็ยังกระตุ้นให้เราทำงานต่อไปได้ดีกว่ามานั่งคร่ำครวญถึงโชคชะตาแล้วจะพลอยทำให้ทุกอย่างเสียไปหมด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบททดสอบครั้งนี้จะดำเนินอีกยาวนานสักเพียงใด แม้ว่าจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเพียงใด แต่ท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรขึ้นมากๆเลย จากการที่ไม่มีนายคุ้มกะลาหัวเนี่ยแหละ
The Great power comes great responsibility พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับภาระอันใหญ่ยิ่ง
Create Date : 17 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 13:43:23 น. |
|
9 comments
|
Counter : 929 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พี่เติ้ง IP: 124.121.117.165 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:04:56 น. |
|
|
|
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:51:04 น. |
|
|
|
โดย: nattabe วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:28:49 น. |
|
|
|
โดย: bbb IP: 125.25.128.105 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:51:11 น. |
|
|
|
โดย: นู๋เมเปิ้ล IP: 203.148.221.20 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:37:14 น. |
|
|
|
โดย: JasonSจัง!!! IP: 124.120.180.232 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:58:21 น. |
|
|
|
โดย: P Tuk IP: 203.148.221.20 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:28:07 น. |
|
|
|
โดย: Perasa วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:16:39:12 น. |
|
|
|
โดย: Perasa วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:15:13:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ปล. ตัว s ตกไปนะ ตรง come น่ะ อิอิ