|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หนีงาน ไปเที่ยวเขาพระวิหารมาละครับ - แบบ nonstop trip ครับ
เอาเป็นว่าเดินทางไปเมื่ออังคาร 17 มิ.ย 2551 แล้วกลับมาวันนี้ครับ จริงๆไปก็สองวัน พูดเหมือนนานนะครับ วิธีการคือเดินทางด้วย รถ Camry 2.0 - CNG ไปสามขับรถแค่มือเดียวครับ
ออกเดินทางไปตอนเช้าของอังคารจากกรุงเทพครับ เติม NGV เต็มถัง เข้าไปที่โคราชเพื่อไปทานข้าวเที่ยงที่นั่นครับ ก็ไปแวะเติมแกสที่ตรงแถวๆ ก่อนเข้าสระบุรีครับ แล้วไปทานข้าวเที่ยงกันที่โคราชครับ พร้อมกับไปทำธุระปะปังเล็กน้อยบวกกับเติม NGV อีกรอบ ได้เป็นเวลาประมาณบ่ายแก่ๆ ก็ออกเดินทางไป สุรินทร์ เพื่อไปกราบหลวงปู่ที่เคารพกัน ก่อนเข้าสุรินทร์ก็หลงอ้อมไปครบุรีกันเสียประมาณ 30 โลครับ แถมทางขรุขระบวกกับฝนตกหนักเป็นช่วงๆ แต่ได้บารมีของผู้ใหญ่เลยได้คนนำทางไปวัดป่าครับ ช่วงนี้ก็เป็นน้ำมันละครับไม่มี NGV ให้เติม แม้เมื่อไปถึงวัดก็จะเจอฝนหนัก เหมือนกับเป็นใจให้ได้กราบท่านหลวงปู่ครับได้ทราบจากพระลูกวัดว่าหลวงปู่ได้ออกไปจำวัดที่ในเมืองก็เลยต้องวกเข้ามาที่เมืองสุรินทร์เพื่อไปกราบหลวงปู่เดินทางถึงช่วงบ่ายสี่ครับ กว่าจะได้กราบท่านก็นานพอควรละครับเพราะหลวงปู่ก็คิวแน่นมากๆ ครับ มีลูกศิษย์ลูกหามาไม่ขาดสาย กว่าจะเสร็จก็ประมาณ 6 โมงเย็นครับ หลังจากนั้นก็ตีรถเข้าไปที่ศรีสะเกษครับ เพื่อไปที่พักก็ประสานงานไปได้ที่พักเป็นโรงแรม S.P. ครับแถมได้ห้อง VIP ห้องหนึ่งสำหรับคุณๆ เขา ส่วนผมก็พักห้องธรรมดา ไปถึงก็ประมาณเกือบสองทุ่มครับ หิวก็หิว เข้า check in เสร็จก็ไปหาอะไรรองท้องแล้วกลับมานอนเพื่อเตรียมตื่นเช้า
เช้าตรู่ครับเริ่มออกจากโรงแรมเมื่อประมาณ 6 โมงครึ่ง แล้วไปหาอะไรอาหารเช้าแบบรีบด่วนกันครับคือโจ๊กในตลาดใกล้ๆ โรงแรม ก็รีบบึ่งไปที่อุทยานแห่งชาติพระวิหารครับ ที่ห่างจากโรงแรมที่พักไปประมาณสองร้อยกว่าโล ระหว่างทางอากาศก็แจ่มใสครับ เพราะไม่ร้อนและอากาศเย็นๆ ครับ เล่าข้ามไปถึงที่เลยครับ ปากทางเราก็ต้องจ่ายเงินค่าเข้าอุทยานฝ่ายไทยครับ คนละ 40 รถคันละ 20 หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็เดินทางเข้าอุทยานต่อ ระหว่างทางก็มีจุดพิศวงครับ ในทีมที่ไปก็งงๆ ว่ามันตรงไหน เห็นแต่หมอกทั้งนั้้น แต่พอเลยเท่านั้นแหละครับ ก็ร้องอ๋อครับ พอเลยจุดพิศวง หมอกที่ลงจัดๆ หายไปสิ้นครับ ร้องเห้ยกันทั้งคัน ก็รีบเดินทางเข้าไปที่จุดข้อมูล ก็ได้ไปเจอพี่ที่เป็นคนนำพาไปทัวร์ครับ ซึ่งได้ประสานจากท่าน มาเช่นกัน ก็พาลัดเลาะไปดู ผามออีแดง ซึ่งมีภาพแกะหินนูนอยู่ครับ ต่อจากนั้นก็พาลัดเลาะไปตามเขตแดนที่ทางไทยได้ทำไว้ เราก็เดินตามเข้าไป ดูพี่เขาบรรยายไปเรื่อยๆ เรื่องประวัติความเป็นมา พร้อมๆ กับเล่าเรื่องที่มีปัญหาระหว่างเขตแดนไทยด้วยครับ ว่าเมื่อก่อนเขตแดนที่มีนั้นได้ยึดเอาตามสันน้ำที่ไหลผ่าน มันก็น่าจะตกเป็นของไทยทั้งหมด แต่ฝรั่งเศษก็ทำแผนที่อีกฉบับไว้ แล้วส่งมอบให้ไทยไว้ด้วย ก่อนที่ไทยจะมีกรมแผนที่ ดั้งนั้นเมื่อไทยรับเอาแผนที่นั้นโดยไม่ได้ทักท้วงก็เท่ากับเป็นการยอมรับ ซึ่งแผนที่ฉบับนั้นเขตแดนจะโดนคอดเอาส่วนเขาพระวิหารไปด้วย แต่เมื่อมีการรังวัดทำแผนที่ฉบับอเมริกาก็ได้ตีแถวตามสันเขา ซึ่งเขาพระวิหารก็น่าจะไปของไทย แต่เมื่อไปฟ้องศาลโลก ไทยก็แพ้ แล้วต้องยกเขาพระวิหารให้ไป เห้อ!!!
ก่อนเข้าไปที่ด่านทางออกไทยก็ต้องเสียเงินอีกคนละ 5 บาทประมาณจ่ายค่าธรรมเนียม Visa ครับ เมื่อเดินไปถึงฝั่งโน้นก่อนเข้าไปที่เขาพระวิหารก็ต้องเสียเงินให้ฝั่งโน้นอีกคนละ 50 บาท (อย่าลืมเตรียมเงินไปด้วยนะครับ) ก็ได้เริ่มเข้าไปดูก็มีรายละเอียดอีกจากภาพแกะสลักหินทราย มากมายครับ เรื่องต่างๆ ไม่ว่านารายณ์เกษียณสมุทร หรือเรื่องรามยณะ จะเอาไว้มาเล่าต่อให้ทราบชุดต่อไป (รูปก็จะตามครับ)
จะกล่าวถึงตอนกลับแล้วกันครับ ออกจากเขาพระวิหารออกมาก็รีบทำเวลาอย่างยิ่งครับ ระหว่างทางที่ลงมานั้น ด้วยความเร็วประมาณ 140 ที่ไมล์รถครับ ไม่สามารถที่เบรคเพื่อยั้งไม่ให้ชนหมาตัวหนึ่งครับ ทำให้คนขับใจแป้วไปเลยครับ กันชนรถแตกไปพอควร แต่ด้วยความรีบก็ต้องเดินทางต่อครับ ลงมาไม่นานมากนักก็ได้เจอรถบรรทุก Toyota แต่ที่น่าแปลกใจคือว่า ได้เห็น Altis โฉมใหม่ที่ขายตอนนี้เป็น Version 1.8 TRD ครับมีสองท่อที่ปลาย พร้อมกับ Yaris Version แต่งสุดๆ โดยรถบรรทุกนั้นได้วิ่งออกจากฝั้งกัมพูชเช่นกัน เป็นที่ให้ตั้งคำถามว่า Toyota ไปทำอะไรกับรถฝั่งกัมพูชาหรือเปล่า เลยมาประมาณ 10 นาทีก็แวะกินข้าวเที่ยงด้วยความหิวครับระหว่างทาง ไม่อยากบอกว่าไม่อร่อยและแพงครับ แม้หิวก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าอร่อย กินเพราะกันท้องร้องโดยแท้ ก็ตรงเข้ามาที่โคราชครับ ระหว่างนั้นก็ใช้น้ำมันวิ่งมาตลอด จนเข้ามาที่โคราชเพื่อทำการรายงานตัว แล้วก็เดินทางเข้ามาเติม NGV ที่แถวๆ ทางออกเมืองจากโคราชครับ แล้วรีบบึ่งเข้ามากรุงเทพครับ ถึงประมาณ 18:30 ครับ
เห้อ! สุดเหนื่อยครับ คนขับ แต่ไป trip นี้ได้อะไรมามากมายครับ มากกว่าที่คาดคิด.
Create Date : 19 มิถุนายน 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 19 มิถุนายน 2551 20:33:43 น. |
Counter : 1865 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: nathanon 19 มิถุนายน 2551 5:28:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูน้อยทางด้านขวามือ (kaichan ) 19 มิถุนายน 2551 9:14:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เพราะกำลังจะเป็นมรดกโลกอยู่แล้ว
ตอนนี้กำลังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน......
คอยฟังข่าวกันต่อไปว่าจะเป็นของไทย
หรือของกัมพูชา หรือเป็นเจ้าของร่วมกัน
ขอบคุณนะคะที่บรรยายจนอยากไปซะแล้ว...............