|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา : 11-June-2009
จริงแล้ว ไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องงานเท่าไรหรอกครับ แต่ก็กระทบกับตัวเองอย่างเต็มที่ เอาเป็นว่า Reduce in Force กับบริษัทสัญชาติอเมริกาเป็นของคู่กันครับ
ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยมา ก็ทำงานกับบริษัทที่สำนักใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศอเมริกาตลอด ระยะเวลาการทำงาน 8 และ 5 ปีที่ผ่านไปได้คลุกคลีในวงการงานคอมพิวเตอร์มาตลอด เริ่มตั้งแต่เป็น engineer ที่ดูแลระบบ ติดตั้งระบบ มาถึงเป็นคนออกแบบระบบ
ที่ทำงานแรกก็เป็นบริษัทที่เกือบจะล้มละลาย แต่ด้วยความยิ่งใหญ่และความเก่งกาจของผู้เท่าเข้ามาบริหารงาน ทำให้บริษัทได้ยืนขึ้นได้อย่างสมกับความยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในองค์กรใหญ่ ความอุ้ยอ้ายของระบบ งานที่คล้ายๆ กับระบบราชการ การปรับเปลี่ยนที่ทำได้ยาก
มันกลายเป็นที่มาของการข้ามค่าย ..........................................................................................................................
องค์กรที่สองที่ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงาน มีขนาดที่เล็กและระบบที่ค่อนข้างจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร บริษัทก็มีความเสี่ยงในการสร้างผลกำไร คนทำงานก็มีความเสี่ยงในความมั่นคงของงาน ไม่มี career path, ระบบงานที่เราต้องพึ่งตัวเอง, ทุกอย่างต้องเริ่มทำเอง สานต่อเอง จบงานเองทั้งหมด แถมต้องเป็นลูกไล่ของเจ้านายที่พูด SingLish การตัดสินใจบางอย่างที่อาจจะเหมือนกับการซื้อหวย ดีหรือไม่ดี บางครั้งแนวการบริหารบริษัทก็ไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง
สิ่งดีดี ...............................................................................................................................................................
ด้วยความที่องค์กรที่ไม่มีระบบที่รองรับที่ชัดเจน มันทำให้ พนักงานได้แสดงความคิด ไอเดีย ความรู้เชิงวิศวกรรม การปรับเปลี่ยนที่ทำได้ง่าย(ที่มาพร้อมกับความไม่แน่นอน) การสร้างสรรค์เทคโนโลยี
ผลที่ได้กับตัวเราเอง ก็เป็นการได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้จักการปรับตัวเอง ได้รู้จักการวางรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ มาพร้อมกับยาขมครับ ไม่มีการเตือนล่วงหน้า ตอนนี้ มองย้อนกลับไป หลายๆ สิ่งเกิดขึ้นในบริษัทนั้น ทำให้เราเติบโตขึ้น มองได้กว้างขึ้น ใจเย็นขึ้น ให้อภัยมากขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น
เพื่อนร่วมงาน .....................................................................................................................................................
ในยามที่ปัญหาเกิดหรือมีประเด็นอะไรขึ้น เพื่อนร่วมงาน ที่ค่อยๆ ได้เรียนรู้กัน ได้รู้จักตัวตนกันมากขึ้น ได้ปรับเข้าหากัน ก็คอยเป็นคนที่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้มาก หลายๆ คนจากความไว้ใจก็กลายเป็นไม่ไว้ใจ หลายๆ คนจากที่ไม่เคยไว้ใจก็กลายเป็นเพื่อนที่สามารถจะพูดคุยได้มากขึ้น เพราะคนไม่ได้มากมาย หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นก็จะมองออกได้ทันทีว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่เหมือนกับองค์กรใหญ่ที่บางครั้ง ไม่ทราบต้นตอและเหตุ
ดนตรี .................................................................................................................................................................
กิจกรรมที่กลุ่มในทีมพยายามที่จะสร้างขึ้นมา เพื่อลดความเครียด ลดกำแพงระหว่างกัน จนหล่อหลอมให้กลายกลุ่มสนิทกันมาก เป็นสิ่งที่จะใช้แสดงความเป็นเพื่อน การเป็นทีม การทำงานร่วมกัน ความตั้งใจในการทำงาน แสดงออกถึงความเป็นตัวตน การเป็นบุคคลเบื้องหลังความสำเร็จของหลายๆ คน ที่ทุกคนอาจจะมองข้ามไปหลังจากได้รับความสุขหรือแม้แต่เรื่องงานเองก็ตาม
เวลา ............................................................................................................
อีกไม่กี่วันก็จะมีความชัดเจน ใครที่ต้องดิ้นรนที่จะต้องเดินไปกับบริษัทที่ปรับเปลี่ยนไป คนที่ต้องไปดิ้นรนข้างนอก คนที่อาจจะได้ค้นพบหรือมีจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อไม่มีองค์กรให้ได้ยึดติด คำว่า "ปลายทาง" ก็มาถึง สิ่งที่ตามมาของแต่ละคน ย่อมมีแนวทางการดำเนินเป็นไป ทางออก มีแล้วเสมอ จะชอบมันหรือเปล่า นั่นเป็นอีกเรื่ิองหนึ่ง
"งานเลี้ยงมีวันเลิกลาที่มาพร้อมกับจุดเปลี่ยนในชีวิต"
อ่านไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรครับ ดูรูปประกอบก็พอ ผมก็เขียนไปตามความรู้สึก (ที่เข้าใจได้คนเดียว ...... หรือเปล่า) ที่อยากจะเก็บบันทึกไว้ เมื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องงานที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวผมเองครับ เชิญชมครับ
Create Date : 14 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 14 มิถุนายน 2552 10:28:08 น. |
|
3 comments
|
Counter : 756 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เพกร วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:16:35:36 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:40:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ภาพถ่ายสวยมาก ...