|
 |
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
 |
2 กุมภาพันธ์ 2553
|
|
|
|
กลับมาีอีกครั้ง
จำได้ว่า เคยเขียนบล็อกธรรมะเอาไว้นี่นา นานมากๆแล้ว
วันนี้ขอกลับมาเขียนใหม่ เอาสิ่งที่ได้รับ ไม่เข้าใจบ้าง หายสงสัยบ้าง เอามาโพสดีกว่า จะได้กลับมาย้อนอ่านได้ เวลาไม่เข้าใจ
ตอนนี้ได้ฟัง cd ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ทำให้เข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งมากกว่าเดิมเหมือนเปิดไฟในห้องมืด ทดลองฟังมา 1 เดือนแล้ว แต่สงสัย และ สับสนมากมาย อยากรู้ว่า เราทำดีหรือไม่ดี ผิดหรือไม่ผิด
วันนี้ได้อ่านคอลัมน์ ธรรมะจากพระผู้รู้ของนิตยสาร ธรรมะใกล้ตัว ของคุณดัีงตฤณ ได้คำตอบที่สงสัยมานาน เรื่องภาวนา ว่าคืออะไร ขอมาโพสเก็บเอาไว้อ่านทบทวนเวลาหลงลืมและสงสัยว่า ภาวนาคืออะไร ดังนี้
//www.dharmamag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=165&Itemid=38
ธรรมะเป็นของร่มเย็น ถ้าเราภาวนา เราก็ร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา หลักการภาวนานั้นมีอันเดียว แต่รูปแบบหรือวิธีการนี่ มีนับไม่ถ้วน หลักของการภาวนาจริงๆ มีไม่มากนะ ให้มีสติรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง หลักมีเท่านี้เอง จะรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริงได้ ต้องรู้ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง จิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลางคือ จิตที่มีสัมมาสมาธิ ตั้งมั่น ไม่ไหลไป ไม่หลงไป ไม่ลืมเนื้อลืมตัว จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว มีสติระลึกรู้กาย มีสติระลึกรู้ใจไป ด้วยจิตที่ตั้งมั่น ไม่ลืมตัว ไม่ไหลตามสิ่งที่จิตไปรู้ จิตตั้งมั่น รู้แล้วรู้ด้วยความเป็นกลาง ถ้าไม่เป็นกลาง ก็จะเข้าไปแทรกแซง เช่นเห็นกิเลสเกิดขึ้น อยากละ อยากละ เรียกว่าไม่เป็นกลาง เห็นกุศลเกิดขึ้น อยากรักษา อยากรักษา เรียกว่าไม่เป็นกลาง เมื่อไหร่มีความอยากเกิดขึ้น เมื่อนั้นจะมีความดิ้นรนทางใจเกิดขึ้น แทนที่จะหยุดดิ้นรน กลับดิ้นรนต่อไปอีก
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2553 20:09:21 น. |
Counter : 2703 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: 44SFA1 9 มีนาคม 2553 16:05:59 น. |
|
|
|
| |
|
 |
kaichan |
|
 |
|
|
ธรรมชาติของจิตของทุกคนมีกิเลสเกาะค่ะ ตัดสินยากว่าเป็นกลางหรือไม่เป็นกลาง แต่ความเป็นกลางต้องเป็นการเข้าใจตัวเองอย่าแท้จริง เข้าใจดีชั่วอย่างแท้จริง ความเป็นกลางไม่ใช่การละทิ้งค่ะ
กรณีเห็นกิเลาเกิดแล้วอยากละนั่นเรียกว่าเป็นกลางค่ะ
กรณีกุศลเกิดแล้วอยากรักษานั่นก็เรียกว่าเป็นกลางค่ะ
สำคัญคือ รูให้แน่ว่าอะไรเป็นกิเลสและอะไรเป็นกุศลด้วยใจไม่มีอคติใดๆค่ะ