|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกตบยุงหางยาว
นกตบยุงหางยาวCaprimulgus macrurus (Large-tailed Nightjar) อยู่ในสกุลนกตบยุงเล็ก( Genus caprimulgus)เช่นเดียวกับนกตบยุงป่าโคก ซึ่งนกในสกุลนี้กำเนิดมาเป็นเวลาประมาณ 1 ล้านปีมาแล้ว มีการกระจายพันธุ์เกือบทั่วโลก ยกเว้นนิวซีแลนด์และฮาวาย รากศัพท์ของสกุลนกตบยุงเล็กนี้มาจากคำว่า capr หรือ capra ซึ่งแปลว่าแพะ และ mulg หรือ mulgere แปลว่านม หรือการดูดนม เนื่องจากชาวยุโรปมีความเชื่อว่านกชนิดนี้ดื่มนมแพะเป็นอาหาร ทั้งที่ความจริงแล้ว นกตบยุงกินแมลงต่างๆเป็นอาหาร
นกตบยุงหางยาวมีตาโตสีน้ำตาลเข้ม ปากเล็กดูบอบบาง โคนปากกว้างและมีเส้นคล้ายหนวดเรียงเป็นแถบบริเวณโคนปาก จมูกมีลักษณะเป็นหลอดสั้นๆเห็นได้ชัดเจน มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ 25-30 เซ็นติเมตร เฉพาะหางยาวไม่น้อยกว่า 14.6 เซ็นติเมตรในตัวเต็มวัย นกตัวเมียและนกตัวผู้คล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว คือ นกตัวผู้จะมีสีน้ำตาลแกมเทา ปลายหางมีแถบใหญ่สีขาวสองแถบด้านนอก รอบคอด้านบนมีลายน้ำตาลแดง ใต้คอสีขาว ท้อง ขนคลุมหางด้านล่างสีเนื้อมีลายแถบเล็กๆสีเข้ม นกตัวเมียจะมีลายแถบที่ขนปลายปีกเล็กกว่าและเป็นสีเนื้อแกมน้ำตาลเหลือง ในขณะที่ตัวผู้จะเป็นลายแถบสีขาวเด่นชัด
จุดเด่นที่สามารถใช้แยกนกตบยุงชนิดนี้ออกจากนกตบยุงชนิดอื่นๆที่พบในประเทศไทยคือ นกตบยุงหางยาวจะมีเส้นสีขาวเล็กๆคล้ายหนวดลากจากมุมปากไปยังข้างแก้ม ซึ่งเส้นสีขาวนี้จะกว้างกว่านกตบยุงชนิดอื่นๆ และบริเวณใต้คอจะมีแถบสีขาวค่อนข้างกว้าง เวลาที่นกบิน ตัวผู้จะเห็นจุดสีขาวกว้างบริเวณเกือบปลายปีก สีขาวที่คอและแถบคล้ายหนวดสีขาวและสีขาวที่ปลายหางกินระยะประมาณ 1ใน 4 ของปลายหางคู่นอกชัดเจน ขณะที่ถ้าเป็นนกตัวเมียจุดที่ปลายปีกจะเห็นเป็นสีเนื้อและแถบสีขาวที่ปลายหางจะเล็กกว่าของตัวผู้
ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือน พฤษภาคม เป็นช่วงที่นกตบยุงหางยาวทำรัง ซึ่งรังที่ว่านี้ก็เพียงแต่ขุดดินให้เป็นแอ่งเล็กน้อยหรือไม่ขุดเลย แล้ววางไข่ซึ่งมักจะมีเพียงครอกละ1-2ฟอง เปลือกไข่สีขาวเป็นมัน หรือสีครีมแกมเหลือง ม่วงปนน้ำตาล หรือสีเนื้อแกมชมพู มีจุด หรือดอกดวงสีเทา หรือเทาแกมแดง ขนาดเฉลี่ย 22.6ม.ม.x31.3 ม.ม. นกทั้งสองเพศช่วยกันฟักไข่และเลี้ยงลูกอ่อน โดยใช้เวลาฟักไข่ราว16-22วัน ลูกนกมีขนปกคลุมลำตัวเพียงบางๆทำให้มองเห็นหนังหุ้มกระดูกของลูกนกได้ลางๆ เมื่อลูกนกออกจากไข่ได้2วันพ่อแม่ก็จะพาเคลื่อนที่ออกจากรังเดิมประมาณ 3 เมตร โดยใช้วิธีเกาะห่างๆแล้วส่งเสียงเรียกลูกนกไปกิน อาหาร
ในการป้อน พ่อแม่นกจะอ้าปากให้ลูกนกมุดหัวเข้าไปกินในลำคอ พ่อแม่จะป้อนลูกทั้งกลางวันกลางคืน ระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์หลังออกจากไข่ ลูกนกก็จะผลัดขน กระพือปีก วิ่งและกระโดด จนบินได้ เมื่อบินขึ้นต้นไม้ได้ลูกนกจะอยู่กับพ่อแม่อีกราว 35 วันก็จะแยกไปหากินตามลำพัง
เราสามารถพบนกตบยุงหางยาวได้ในทุกภาคของประเทศไทยบริเวณชายป่า ป่าโปร่ง ทุ่งหญ้า พื้นที่เกษตรกรรมจากที่ราบจนถึงความสูง 2000 เมตรจากระดับน้ำทะเล นกชนิดนิ้มักหากินโดดเดี่ยว หรือเป็นคู่ โดยเวลากลางวันจะนอนหลับตามพื้นดิน รากไม้ใหญ่ ขอนไม้ล้มโดยเกาะตามแนวยาวของกิ่ง นกที่เป็นคู่กันจะเกาะนอนใกล้ๆกัน พอเข้าช่วงเย็นๆ ค่ำๆก็จะเริ่มออกหากิน โดยจะบินขึ้นโฉบแมลงในอากาศ หรือบินลงโฉบแมลงบนพื้นดิน เมื่อกินอิ่มก็จะเกาะนอนพักบนกิ่งไม้ ไม่ลงนอนที่พื้นอีก เว้นแต่เป็นนกที่เลี้ยงลูกก็จะอยู่บนพื้นกับลูก
นกตบยุงหางยาวที่ถ่ายภาพมานี้เลี้ยงลูกอยู่ที่รีสอร์ตบ้านมะค่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อเดือนมีนาคม 2549
ข้อมูลจาก
//www.bird-home.com หนังสือ A Guide to the Birds of Thailand โดย น.พ.บุญส่ง เลขะกุล และ Philip D. Round
Create Date : 29 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2549 21:08:23 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2463 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Zantha วันที่: 29 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:28:12 น. |
|
|
|
โดย: ป้ามด วันที่: 29 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:42:51 น. |
|
|
|
โดย: มัชฌิมา วันที่: 29 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:02:57 น. |
|
|
|
โดย: ปลากระดี่ได้น้ำ IP: 58.136.98.105 วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:7:50:55 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์น้อย วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:38:56 น. |
|
|
|
โดย: เปรี้ยวปิ๊ด วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:01:29 น. |
|
|
|
โดย: อีกา IP: 203.113.17.148 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:28:42 น. |
|
|
|
โดย: อีกา IP: 203.113.17.148 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:29:44 น. |
|
|
|
โดย: อีกา 2 IP: 203.113.17.148 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:31:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|