Group Blog
 
 
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
22 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 
นกจาบคาเคราน้ำเงิน

นกจาบคาเคราน้ำเงิน Nyctyornis athertoni (Blue-bearded Bee-eater) เป็นนกจาบคาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ 33-37 เซ็นติเมตร มีลำตัวเพรียว คอสั้น หัวโต ปากยาวโค้งงอ ขาและนิ้วเท้าเล็กไม่เหมาะสำหรับเดินหรือกระโดด สีสันโดยรวมเป็นสีเขียว ขนบริเวณอก คอ คาง สีฟ้าค่อนข้างยาวเป็นพิเศษจึงดูคล้ายมีเคราสีฟ้าเป็นที่มาของชื่อ บริเวณท้องมีลายขีดสีเขียวจางๆขนคลุมลำตัวด้านล่างส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง นกตัวผู้และตัวเมียคล้ายคลึงกัน







นกจาบคาเคราน้ำเงินชอบเกาะกิ่งนิ่งๆนานๆหลายๆชั่วโมง ไม่ค่อยเกาะตามยอดไม้แบบนกจาบคาอื่นๆแต่จะเกาะที่ระดับกลางของต้นไม้ อาหารของนกจาบคาเคราน้ำเงินได้แก่ ผึ้ง แมลงปอ ด้วง เป็นต้น ในการกินอาหารนกจะบินออกไปโฉบอาหารกลับมากินที่กิ่งโดยขยับแมลงให้หันหัวเข้าก่อนเช่นเดียวกับนกจาบคาอื่นๆ แต่นกชนิดนี้มีวิธีการกินอาหารแบบอื่นๆด้วย เช่นบินเข้าไปในโพรงไม้ผุๆเพื่อจิกกินไรไม้และด้วงที่ขุดเจาะเนื้อไม้ เป็นต้น

ในฤดูร้อน นกจาบคาเคราน้ำเงินจะเกี้ยวพาราสีโดยเกาะชิดๆกัน แผ่ขนหางเป็นรูปพัดแล้วก้มหัวลงติดๆกันเป็นเวลา 1 นาที พร้อมทั้งส่งเสียงร้อง ในบางโอกาสก็คาบเหยื่อไว้ในปากด้วย นกชนิดนี้ทำรังโดยการเจาะโพรงดินเช่นเดียวกับนกจาบคาอื่นๆ โดยเริ่มขุดโพรงก่อนวางไข่ประมาณ 1 เดือนหรือมากกว่า ในการเจาะโพรงบางครั้งนกอาจเปลี่ยนใจย้ายที่ขุดได้ บางโพรงก็ขุดสูงถึง 6-8 เมตรจากระดับพื้น บางโพรงก็เกือบจะติดดิน นกทั้งสองตัวจะสลับกันขุดโพรงรัง ในการขุดนกจะใช้ปากขุดและใช้เท้าเขี่ยดินออกมาทางด้านหลัง โพรงรังอาจมีปากโพรงกว้าง 7.5-9.5 เซ็นติเมตร และลึกได้ถึง 1.3-3 เมตร ขนานกับพื้นด้านล่าง หรือเอียงลง ปลายโพรงเป็นห้องกว้างราว 20*13เซ็นติเมตรสำหรับวางไข่และเลี้ยงลูก นกจะไม่หาวัสดุมารองรังแต่ในโพรงรังจะมีชิ้นส่วนของแมลงที่ย่อยไม่ได้ที่นกสำรอกออกมาเต็มไปหมด เพราะในระหว่างที่ยังไม่ได้วางไข่ นกจะอาศัยนอนในโพรงรังนี้ด้วย







นกจะวางไข่ครั้งละประมาณ 6 ฟองหรือน้อยกว่า เมื่อวางไข่ใหม่ๆไข่จะขาวสะอาดเป็นมัน แต่นานๆไปก็จะเลอะเทอะขึ้นและด้าน ไข่ค่อนข้างกลมมีขนาด 28.2*25.4มม. พ่อแม่นกช่วยกันกกไข่จนฟักเป็นตัว ลูกนกที่ยังไม่เต็มวัยรูปร่างหน้าตาคล้ายตัวเต็มวัย

นกจาบคาเคราน้ำเงินถูกพบครั้งแรกในอินเดีย และพบที่เชิงเขาหิมาลัย เนปาล สิกขิม ภูฐาน บังคลาเทศ พม่า จีน ไทย ลาว เขมร เวียตนาม สำหรับประเทศไทย นกชนิดนี้อาศัยในป่าผสมผลัดใบและป่าดิบแล้งบนที่ราบต่ำจนถึงป่าดิบเขาที่ความสูง 2200 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมทั้งป่าเต็งรัง ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือของภาคอีสาน และภาคตะวันออก





ภาพนกในบล็อกถ่ายจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาช่วงกลางเดือนเมษายน นกกำลังป้อนอาหารลูกที่คลานออกมากินอาหารจากปากพ่อแม่นกที่ปากโพรงรัง

ข้อมูลจาก :

//www.bird-home.com


Create Date : 22 มิถุนายน 2548
Last Update : 30 สิงหาคม 2551 12:05:55 น. 3 comments
Counter : 4740 Pageviews.

 
สวยจังคะ


โดย: แพนด้า (ซุ้มลำโพง ) วันที่: 1 กันยายน 2548 เวลา:15:53:51 น.  

 
ภาพสวยนารักดีครับเคยพบนกชนิดนี้ที่บริเวณการเต็นท์ผากล้วยไม้บริเวณหลังห้องอาบนำตกดชายป่า


โดย: baracuda1961 IP: 125.26.234.117 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:55:12 น.  

 
อยากเจอ


โดย: โรนิน IP: 118.173.127.165 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:18:53:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จันทร์น้อย
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




เล็กๆน้อยๆ
" ฤดูที่เหมาะสมในการดูนกในเมืองและใกล้เมืองคือฤดูหนาว เพราะเป็นเวลาที่นกอพยพเดินทางไกลมาอาศัยร่วมพื้นที่กับนกท้องถิ่น ทำให้มีปริมาณมากขึ้นและมีนกหลากหลายชนิดขึ้น "






เรื่องเล่าวันนี้

เมษายน เดือน "ฮ็อต"

นกใหม่วันนี้
















ค้นหาในGOOGLE.CO.TH















ขอบคุณ:

ไฟล์เสียงเพลงประกอบบล็อกและสคริปต์ อนุเคราะห์โดย ป้ามด

ตัวหนังสือที่ใช้ทำปุ่มต่างๆและโลโก้จาก www.f0nt.com

ภาพวาดการ์ตูนนกน่ารักสีสันสดใสจากบล็อกคุณ Pichsud

Friends' blogs
[Add จันทร์น้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.