|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
นกปรอดดำ
นกปรอดดำ Hypsipetes leucocephalus (Black Bulbul) เป็นนกปรอดที่จำแนกได้ง่ายที่สุดในจำนวนนกปรอดทั้งหมดก็ว่าได้ เพราะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือมีขนคลุมลำตัวทั้งหมดสีดำ โดยขนคลุมลำตัวด้านล่างจะสีจางกว่าด้านบนเล็กน้อย ปาก ขา และเท้าสีแดง นกตัวเมียสีจางกว่านกตัวผู้ นกตัวไม่เต็มวัยมีสีน้ำตาลทั้งตัวโดยปีกและหางจะมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นๆ นกปรอดดำมีความยาวจากปลายปากจรดปลายหาง 23.5-26.5 เซนติเมตร ใหญ่กว่านกปรอดสวนที่เห็นได้ทั่วไปซึ่งมีขนาด17.5-19.5เซ็นติเมตรอยู่มากพอสมควรทีเดียว
อาหารของนกปรอดดำก็เหมือนนกปรอดอื่นๆคือกินลูกไม้สุก ดอกไม้ป่า หนอน แมลงขนาดเล็ก เราจะพบนกชนิดนี้เป็นคู่หรือฝูงเล็กๆ หรือเป็นฝูงใหญ่มากนอกช่วงฤดูผสมพันธุ์ หากินตามยอดไม้สูง ขยันหากิน ไม่ค่อยหยุดนิ่ง ตามป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบเขา และป่าชั้นรองในระดับความสูง500-2565เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ในฤดูหนาวอาจลงมาหากินที่ระดับ120เมตรจากระดับน้ำทะเลได้
นกชนิดนี้ทำรังในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน ทำรังเป็นรูปถ้วยก้นตื้นตามกิ่งหรือง่ามไม้สูงจากพื้นดินราว2-6เมตร วางไข่ราว2-4ฟอง ขนาด 21.7x19.9มม. ทั้งพ่อและแม่นกช่วยกันทำรังฟักไข่เลี้ยงลูกอ่อนโดยเริ่มฟักตั้งแต่วางไข่ฟองแรกใช้เวลาฟักราว15วันและอยู่ในรังต่อราว14-15วัน
สำหรับประเทศไทย เราสามารถพบนกปรอดดำได้ 4 ชนิดย่อย ชนิดย่อยหลัก concolorซึ่งมีความหมายว่ามีสีเดียวเป็นชนิดที่เป็นนกประจำถิ่น อีก 3 ชนิดย่อยเป็นนกอพยพนอกฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งหาพบได้ยาก หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับชื่อชนิดย่อยและลักษณะ คลิกที่นี่
นกปรอดดำที่เป็นนกประจำถิ่นเป็นนกประจำถิ่นทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตก สถานที่ที่จะพบนกชนิดนี้ได้ง่ายๆได้แก่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หน่วยช่องเย็นของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ดอยอินทนนท์ เป็นต้น
ภาพนกปรอดดำนี้ถ่ายมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว นกลงมากินน้ำที่บ่อน้ำเทียมที่เจ้าหน้าที่ของทางเขตฯทำเอาไว้
ข้อมูลจาก ://www.bird-home.com
Create Date : 27 กันยายน 2549 |
|
3 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2549 19:53:42 น. |
Counter : 4815 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|