|
วันวานก่อนมีห้าง The Mall บางกะปิ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ราวๆ 20 กว่าปี ในย่านแฮปปี้แลนด์ บางกะปิ (โอว ย้อนไปนานแฮะ)
ผมจำได้ว่าสมัยผมเรียนประถมศึกษานั้น ห้างดังที่เคยแอบหนีพ่อไปเที่ยวกับเพื่อนก็คือ The Mall รามคำแหงครับ ตอนกระโน้นนั้นสาขารามคำแหงเป็นสาขาที่คนเดินเที่ยวกันขวักไขว่ มีร้านรวงมากมายตั้งเปิดขาย ซึ่งผิดกับปัจจุบันอย่างมาก
และไอ้ที่ผิดไปจากปัจจุบันอย่างมากก็คือ พื้นที่บริเวณแฮปปี้แลนด์ ครับ ในสมัยนั้น ผมจำได้ว่าตอนไปรร. ปานะพันธ์ เราต้องให้พ่อบึ่งรถมาส่งที่อู่ต้นทางสาย 44 หรือ สาย 8 ซึ่งยังอยู่สถานที่เดียวกัน ก็เลือกเอาว่าอยากซิ่งไปเร็วจี๋ก็นั่งสาย 8 กันไป ถ้าชิวๆ หน่อยก็ 44 เพราะเป็นรถของขสมก.
ยังจำได้ว่า ก่อนจะมาถึงอู่รถสาย 44และสาย 8 นั้น ต้องผ่านอารยธรรมโบราณของสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ ที่รุ่นผมนั้นเค้าก็เลิกราสวนสนุกแห่งนี้ไปแล้ว เหลือแต่พวกตุ๊กตาปั้นรูปตัวหุ่นต่างๆ ให้เห็น พอผ่านมาถึงแยกแฮปปี้แลนด์นั้น ก็จะพบร้านขายต้นไม้ ปลาตู้ ตั้งเรียงรายติดถนนลาดพร้าว ผมมักจะไปเดินเล่นหาซื้อปลาตู้อยู่เป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันมันก็คือสถานที่ตั้ง The Mall บางกะปินั่นเอง ใครจะรู้ได้ว่าในสมัยก่อนพื้นที่ของห้างดังนี้ เป็นร้านรวงขายต้นไม้ประดับบ้าน และร้านขายปลาตู้มาก่อน
สำหรับฟากตรงกันข้ามคือ ห้างน้อมจิตต์ ห้างนี้เค้าดังมานานมาก ในสมัยก่อนโน้น ห้างน้อมจิตไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นกันหรอกครับ มีกันตั้งหลายชั้น ชั้นล่างก็เป็นซุปเปอร์มาร์เกต ชั้นต่อมาก็เป็นชั้นเสื้อผ้าผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และเสื้อผ้านักเรียน ซึ่งเป็นสินค้าหลักของห้างน้อมจิตต์เค้าคือชุดนักเรียน
จำได้ว่า ก่อนเปิดเทอมใหม่ จะมีโฆษณาสารพัดอย่างเกี่ยวกับชุดนักเรียนบ้าง รองเท้านักเรียนบ้าง ซึ่งสิ่งที่เด็กๆ อย่างผมพวกรอคอยนั้น ไม่ใช่ชุดนักเรียนเสียทีเดียวหรอกครับ (ฮา) โน่น พวกเรารอคอยว่าของแถมที่มาพร้อมรองเท้าจะเป็นอะไร ซึ่งแต่ละปีก็จะไม่ซ้ำกัน อาทิจรวดแรงดันน้ำ ไอ้ตัวคล้ายกิ้งกือเอาไว้เล่นให้มันปืนลงบันได โอย....ในสมัยนั้นของเล่นพวกนี้มีแถมกันเป็นธรรมเนียมนิยมที่ทุกยี่ห้อต้องมีกัน ต่างจากสมัยนี้ที่ลดต้นทุนของแถมหายหมด (เด็กๆ เลยไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารอของแถมกันเลย)
หลังจากนั้นไม่นาน The Mall บางกะปิก็ได้รับความนิยม กอรปกับมีทางยกระดับที่ถนนรามคำแหงเกิดขึ้น ผู้คนเลยไปที่ The Mall รามฯ กันน้อยลงๆ และกลับถ่ายเทจำนวนคนมาเดินที่สาขาบางกะปิแทน มันก็เลยกลายเป็นว่าห้างน้อมจิตต์เองก็เริ่มลดขนาดลง จนในปัจจุบันผมได้กลับไปเดินตามรอยเท้าเล็กๆ ของผมที่เคยเดินไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน น้อมจิตต์ในปี 54 นี้ มันเหลือเพียงพื้นที่ไม่มากสำหรับเสื้อผ้านักเรียน ส่วนพื้นที่อื่นทางห้างก็ปรับเป็นขายของแฟชั่นและจิปาถะอีกมากมาย คิดไปคิดมาก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
บล๊อกผมวันนี้ก็เลยจะสื่อให้ท่านๆ ได้รู้กันว่า ของทุกสิ่งมันก็มีเวลาเกิด และดับไปตามกาลเวลาของมัน แต่วงจรการเกิดขึ้นและดับลงนั้น หากได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลา มันก็อาจชะลอวันดับได้ไปอีกมาก ตัวเราเองก็เหมือนกันครับ เติบโตผ่านยุคสมัย ได้เห็นสิ่งของหลายอย่างเกิดและดับไป เราเองก็ต้องยึดถือแนวคิดการปรับเปลียนตัวเองให้ก้าวทันยุคสมัยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นยุคสมัยมันจะกลืนตัวเราให้หายไป รู้กันอีกทีก็สายเกินแก้ไข
บางทีการเกิดก่อน มันก็ทำให้เราเห็นภาพที่เด็กรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสได้เห็น บางครั้งมันก็รู้สึกโหวงเหวงเมื่อเห็นภาพที่เคยรุ่งเรืองในอดีตมันเป็นภาพที่หดหู่ในปัจจุบัน
เอาว่าเกิดก่อน ให้เป็นพวกที่ได้ประสบการณ์ชีวิตก่อน แต่อย่าทำตัวแก่ให้เด็กที่เกิดทีหลัง ก้าวข้ามไปโดยไม่เคารพและหยุดฟังคติดีดีจากคนรุ่นเรากันนะครับ
ปอลิง จำกันได้ไม๊ จำได้อะป่าว ว่าครั้งหนึ่งถุงเท้านักเรียนที่ฮิตสุดๆ และต้องซื้อมาใส่กันให้ได้คือ ถุงเท้านักเรียนคาร์สัน และรองเท้าที่เท่ห์มากคือ BM 2000 แต่ก็ไม่วายเป็นรอง รองเท้านักเรียนชาย นันยาง นะจะบอกให้ .........
Create Date : 29 มกราคม 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2554 16:39:18 น. |
Counter : 2988 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: labor_pu IP: 182.52.215.168 30 มกราคม 2554 9:56:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้อง IP: 125.26.210.108 30 มกราคม 2554 15:57:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: torti 30 มกราคม 2554 21:17:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปอง IP: 125.27.113.160 24 กุมภาพันธ์ 2554 18:11:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|