|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Tiger Temple : เที่ยวเมืองกาญจน์ : วัดเสือ (วัดป่าหลวงตาบัว)
เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ได้มีโอกาสไปเที่ยววัดหลวงตาบัวที่เมืองกาญจน์ครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ที่ได้ไปก็เพราะมีญาติมาจากต่างประเทศเค้าอยากไปที่นี่กัน เราในฐานะเจ้าของบ้านก็ต้องตามไปดูแลกันหน่อย ทั้งๆที่จริงๆไม่ได้อยากไปเล้ยยยยย จาปายกันทามม้ายยยยยยย.... พวกเราคนไทยไม่มีใครเคยคิดอยากไปที่นี่เลย บางคนก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่ว่าที่นี่ต้องมีอะไรดีๆแน่เลย ชาวต่างชาติเค้าถึงอยากจะไปกันนักหนา
จากคำบอกเล่าเค้าบอกว่าวัดนี้ที่เลี้ยงเสือเยอะๆ แล้วปล่อยให้ใกล้ชิดคนได้ .. เริ่มคุ้นๆว่าเราเคยดู tv นะ พวกเราคนไทยเลยต้องหาข้อมูลเพื่อพาเค้าไปเที่ยวตามคำขอ เราก็เลยเข้า google หาคำว่าวัดเสือ ก็ได้เวปนี้มาค่ะ ใครสนใจก็เข้าไปหาข้อมูลได้ //www.tigertemple.org/luangta_chan.htm เข้าไปดูแผนที่ได้เลยค่ะ โดยวัดจะอยู่เลยจากตัวเมืองกาญจน์ไป 38 กิโล ถ้าเราตั้งต้นจากตัวเมืองขับไปถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกไทรโยค (ขับรถไป 36 กิโลจากสี่แยกนี้ค่ะ) ไปเรื่อย ๆ พอเห็นปั๊มบางจากทางซ้ายมือ ก็เตรียมสังเกตุหลักกิโลทางขวาเลยนะคะ ทางเข้าจะอยู่ตรงหลักกิโลที่ 21 ค่ะ (ระวังเลยนะคะ เพราะเราเลยมาแล้วคุยกันเพลินลืมมองหาทางเข้า ดีนะที่ยังสังเกตหลักกิโล) ไปไม่ยากค่ะ
จากการศึกษาข้อมูล(ทางโทรศัพท์..อิอิ) ต้องเสียค่าเข้าชีวิตละ 300 บาทค่ะ !!! คนไทยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แพง !!! เราก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าพอได้ไปจริงๆแล้ว เราว่าคุ้มค่ามากๆเลย
*** ข้อมูลเพิ่มเติม : ห้ามใส่ชุดสีแดง หรือ ส้มนะคะ เค้าห้ามเข้า มันอันตราย!!!!
*** อย่าลืมเตรียมกล้องส่วนตัวไปนะคะ มั้ยงั้นเดี๋ยวเสียดาย (มันไม่คล่องตัวหน่ะค่ะ)
และแล้วก็ถึงวันเดินทางค่า พวกเราเช่ารถตู้ไปกันค่ะ เริ่มออกเดินทางก็เก้าโมงกว่าๆ ... ไปเล้ยยยยย
ออกเดินทางจากโรงแรมปทุมวันฯ ดั้นด้นไปข้ามสะพานปิ่นเกล้า ต่อด้วยขึ้นทางลอยฟ้า ไปจนสุดทาง รู้สึกจะแถว ๆ พุทธมณฑลสาย 4 ก็ตรงไปเรื่อยหล่ะค่ะ จนขึ้นสะพานโค้งขวาไปทางนครชัยศรี,นครปฐม จากนั้นก็ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงทางเลี้ยวไปเมืองกาญจน์ ... แล้วยังไงก็ไม่รู้ก็ถึงที่แรกที่เราจะแวะก่อน นั่นก็คือ "สะพานข้ามแม่น้ำแควววววววว" ... ร้อนชมัด
ไม่รอช้าเรารีบมุ่งหน้าเดินไปที่สะพาน เพราะอยากรู้ว่าฝั่งตรงข้ามมีอะไร (เพราะฝั่งนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไร) เดินข้ามสะพานก็ตื่นเต้นดี ว่าเราได้มีโอกาสมาเดินในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์อย่างนี้ คิดถึงคนไทยที่เคยโดนทารุณ โดนบังคับใช้แรงงาน ...
แต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปค่า
เราจะเดินข้ามไปฝั่งโน้นกันค่ะ
แวะถ่ายรูปกลางทาง ตลอดสะพานนี้จะมีที่พักยื่นออกไป ตรงที่เราทำลูกศรสีแดงไว้หน่ะคะ ตอนแรกนึกว่าเค้าทำเป็นจุดพักดูวิว พักถ่ายรูป แต่ทำไมมันถี่จัง คิดไปคิดมาเค้าคงทำเอาไว้ให้คนหลบตอนมีรถไฟแล่นมามากกว่า
ก็เดินไปจนถึงฝั่งตรงข้าม ก็มีขายของนิดหน่อย แล้วก็มีช้างที่เค้าเลี้ยงไว้ 1 เชือก พวกเราก็แวะไปเลี้ยงช้างนิดหน่อย
ก็เลยได้ถ่ายมุมไกลๆหน่อย
ตอนนี้ก็บ่ายแล้ว พวกเรายังไม่ถึงที่หมายเลย "วัดเสือ"ไงคะ ยังจำได้หรือเปล่า ไปจากตรงนี้ไม่ยากค่ะ ไปตามทางที่เราบอกไว้ข้างบนเลยค่ะ
...
เป็นอันว่าหลังจากที่เราขับรถเลยทางเข้าไปนิดนึง พวกเราก็ย้อนกลับมาเจอทางเข้าจนได้ (อิอิ)
ขับตามถนนเข้าไม่ไกลก็ถึงที่จอดรถค่า พวกเรารีบลงจากรถ มาต่อแถวจ่ายเงินค่าเข้าชีวิตละ 300 บาท
กรอกข้อมูลนิดหน่อย แล้วก็เดินเข้าไปในบริเวณเลยค่ะ ระหว่างทางก็มีหมูป่าให้เราเห็นตลอด แต่เราไม่ได้ย่อรูปมาลงค่ะ เดินเข้าไปเจอห้องน้ำ พวกเราก็เลยแวะพักก่อน (ทำเหมือนเดินมาไกล เดินมานิดเดียวเองค่ะ) ห้องน้ำสะอาดดีค่ะ เราต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าห้องน้ำด้วย
จากตรงนี้มี 2 ทางให้เราเลือกเดิน เราก็เลยจะไปที่หุบเสือก่อน เดินไปทางที่อยู่ข้างซ้ายนะคะ
หุบเสือ มีเสืออยู่ซัก 10 ตัวได้ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปคู่กับเสือค่ะ
นักท่องเที่ยวต้องเข้าแถวเพื่อที่จะรอเข้าไปถ่ายรูปในบริเวณที่เสือนอนอยู่ค่ะ (ต่อแถวถ่ายรูปฟรีค่ะไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว) เค้ามีน้ำเปล่าไว้บริการด้วนนะคะ ไปหยิบเองได้เลยค่ะ พอถึงคิวเรา เค้าห้ามไม่ให้ถืออะไรหรือสะพายกระเป๋าเข้าไปบริเวณนี้ เราต้องวางทุกอย่างไว้ที่เก้าอี้นอกบริเวณที่เสือนอนอยู่ค่ะ ถือไว้ได้แต่กล้อง
นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นชาวต่างชาติค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะมีอาสาสมัครชาวต่างชาติมาคอยอธิบาย (แต่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยนะคะ หรือต่างด้าวก็ไม่รู้) พอถึงคิวเราจะมีเจ้าหน้าที่ 2 คนคอยดูแลเรา คนนึงจะคล้องแขนเราเลย พาเราไปถ่ายรูปกับเสือแต่ละตัว ส่วนอีกคนจะถือกล้องของเราและจะเป็นคนถ่ายรูปให้เรา
แต่ละจุดเค้าจะถ่ายให้เรา 3-4 รูป หลายมุม
ไม่ได้ถ่ายกับเสือแค่ตัวเดียวนะคะ เจ้าหน้าที่เค้าจะพาเราไปถ่ายกับเสือ ประมาณ 4 จุด
เราถ่ายไปประมาณ 20 รูป เค้าก็พาเราออกมาจากตรงนั้น บอกเราว่าถ้าพี่ดูรูปแล้วไม่ชอบให้เข้ามาถ่ายใหม่ได้ แต่เราดูแล้วชอบทุกรูปเลยค่ะ น้องเค้าเลือกมุมเก่ง แบบพอเรานั่งปุ๊บเค้าก็ถ่ายๆๆเลย ... ประทับใจมากๆเลย คิดว่าแค่มาถ่ายรูปกับเสือก็คุ้ม 300 แล้ว (กังวลอยู่แต่เรื่องเงิน 555)
เราไปต่อแถวถ่ายอีกรอบด้วยหล่ะ พอดีคนรออีกไม่เยอะ สรุปแค่เฉพาะตรงนี้ก็น่าจะ ประมาณ 40 รูป
อ้าปากซะกว้างเชียว
ตัวนี้นอนนิ่งเลย
ง่วงแล้วมาเล่นี้หล่ะกันนะคะ
Create Date : 24 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 1:07:08 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2462 Pageviews. |
|
|
|
โดย: iamorange วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:9:13:56 น. |
|
|
|
โดย: f18hornet วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:16:35:25 น. |
|
|
|
โดย: casinobet99 IP: 182.52.122.142 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:52:33 น. |
|
|
|
โดย: casinobet99 IP: 182.52.120.72 วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:13:26:41 น. |
|
|
|
โดย: gclubpanon IP: 182.52.121.218 วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:10:28:53 น. |
|
|
|
| |
|
|