ป.ป.ช.เริ่มสอบรัฐบาลบริหารจัดการน้ำ อภิสิทธิ์โดนด้วย กักน้ำในเขื่อน

ป.ป.ช.เริ่มสอบรัฐบาลบริหารจัดการน้ำ
ป.ป.ช.ทั้งคณะเตรียมตรวจสอบวิกฤติน้ำท่วมทั้งหมด ตั้งแต่การจัดซื้อถุงยังชีพหรืออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล "อภิสิทธิ์"โดนสอบด้วยข้อหากักน้ำ นายกอบต.โวยจังหวัดปทุมธานีถังแตกไม่มีงบสูบน้ำออกช่วยฝั่งตะวันออก

21พ.ย.2554 นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 พ.ย. ที่ประชุม ป.ป.ช.จะมีการแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ เป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบวิกฤติน้ำท่วมทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะการจัดซื้อถุงยังชีพหรืออุปกรณ์ต่างๆ แต่จะรวมถึงการบริหารจัดการน้ำด้วย โดยมอบหมายให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนจะพิจารณารายละเอียด และเมื่อพบว่าเกี่ยวข้องกับใครก็จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าคงเริ่มเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำได้

นายวิชา กล่าวว่า ในการตรวจสอบจะรวมถึงสำนวนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด กรณีการกักเก็บน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ไว้เกินแผนและสูงกว่า ความจำเป็นด้วย ส่วนชาวบ้านที่อยู่นอกแนวกั้นบิ๊กแบ็กบางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้รับผลกระทบจากการกั้นบิ๊กแบ็กนั้น ประชาชนเหล่านั้นสามารถร้องเรียนมายัง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้.



นายกอบต.โวยจังหวัดปทุมธานีถังแตกไม่มีงบให้จัดสูบน้ำออกช่วยฝั่งตะวันออก


นายเสวก ประเสริฐสุข นายกองค์บริหารส่วนตำบลเชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้เปิดเผยว่าขณะนี้น้ำท่วมขังฝั่งพื้นที่อำเภอสามโคกฝั่งตะวันออกจำนวน 4 ตำบลคือ ต.เชียงรากใหญ่ ต.บ้านปทุม ต.บ้านงิ้ว และ ต.เชียงรากน้อย ได้ถูกน้ำท่วมขังมากว่าสองเดือนแล้ว และน้ำยังไม่มีทีท่าจะว่าน้ำจะลดลงออกจากท้องทุ่งไปซึ่งน้ำยังสูงกว่าถนนเล็กน้อย และนายก อบต.ทั้งสี่ตำบลได้จัดทำโครงการกู้น้ำออกจากพื้นที่โดยใช้แนวกั้นน้ำเดิมที่ได้โผล่พ้นน้ำกว่า 50 ซม.เพื่อสูบน้ำออกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อจะช่วยให้ระดับน้ำในพื้นที่เขตติดต่อ อ.คลองหลวงรวมถึงนวนคร ตลาดรังสิต และไปถึงลำลูกกา ที่จะสามารถผันน้ำไหลตามคลองมาออกในคลองเปรมประชากรลงสู่คลองบ้านพร้อมสูบน้ำออกไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และจะช่วยให้พื้นที่เขตอำเภอเมืองซึ่งมี ต.บ้านกระแชง ต.บางพูด ต.บ้านกลาง ต.บางพูน ต.บางกะดี รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมบางกะดีด้วย

โครงการนี้จะใช้งบในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำท่อขนาด1.20 เมตร ตามประตูระบายน้ำต่างๆในเขตพื้นที่ไม่เกิน 15 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยสูบน้ำและดึงน้ำจากพื้นที่ข้างเคียงสูบออกแม่น้ำเจ้าพระยาจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วันน้ำจะลดลงทุกพื้นที่ และจะช่วยลดการประท้วงของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จึงทำให้มีการปิดถนนเหมือนที่ผ่านมา และทางจังหวัดปทุมธานีได้ใช้งบน้ำท่วมไปแล้ว 300 ล้านบาท แต่กลับป้องกันอะไรไม่ได้เลยไม่เหมือนพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ใช้งบประมาณน้อยกว่าจังหวัดปทุมธานีแต่สามารถป้องกันน้ำได้

เมื่อโครงการดังกล่าวส่งไปถึงนายขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กลับตบว่าทางจังหวัดไม่มีงบประมาณในการสนับสนุนดำเนินการจัดทำโครงการกู้น้ำในครั้งนี้ ซึ่งนายเสวก ประเสริฐสุข นายกองค์บริหารส่วนตำบลเชียงรากใหญ่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อโครงการนี้จะช่วยให้ชาวกรุงเทพไม่ถูกน้ำท่วมย่านชาญเมือง และจะช่วยให้น้ำลดเร็วกว่าเดิมและหากโครงการนี้ยังไม่มีการดำเนินการต่อไปน้ำจะท่วมขังไปจนถึงปีใหม่เลย และหากโครงการนี้ได้งบจากส่วนอื่นมาช่วยก็จะทำให้น้ำลดได้ไม่เกินต้นเดือนธันวาคมนี้ และพวกเราก็จะได้ร่วมกันฉลองวันพ่อเป็นของขวัญกันเลย และหากไม่ได้งบพวกตนก็จะลงขันหางบมาทำกันเองก่อนเพื่อที่จะได้พิสูจน์ให้ ศปภ.ได้ดูว่าในการทำงานเข้ามีการวางแผนทำงานกันจริงและน้ำลดจริงไม่เหมือนที่ผ่านมาแน่นอนนายกเสวกกล่าว


นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินนำพนักงานทำความสะอาดครั้งใหญ่


ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมต.กระทรวงแรงงาน นายวิทยา บุรณศิริ รมต.กระทรวงสาธารณสุข และนายสุภาพ คลี่กระจาย ผู้ช่วยรมต.กระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางมาร่วมกันเป็นประธานในงาน รวมพลังคืนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน หลังจากที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีพนักงานโรงงานต่างๆ มาร่วมทำความสะอาดจำนวนกว่า 3 พันคน โดยในงานนี้มีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการนิคมแห่งประเทศไทย นำรถฉีดน้ำมาร่วมด้วย ซึ่งหลังพิธีเปิดแล้วได้ร่วมกันทำความสะอาดถนนภายในนิคม และพนักงานต่างแยกย้ายกันไปเก็บขยะทำความสะอาด


นายเผดิมชัย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนได้เห็นว่าคนไทยไม่ได้หยุดนิ่ง หลังน้ำลดก็รีบทำการฟื้นฟูทันที ขณะเดียวกันในส่วนของแรงงานนั้นก็แสดงให้เห็นว่ายังสามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ ยังไม่ประสบปัญหาการเลิกจ้าง ซึ่งการกู้นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินนี้ ใช้เวลาหลังสูบน้ำเพียง 7 วันเท่านั้น แต่มีการเตรียมการกันมาหลายวัน โดยขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปกว่าครึ่งแล้ว เหลืออยู่ประมาณ 30 กว่าโรงงานเท่านั้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมีโรงงานผลิตได้นับสิบโรงงานแล้ว


เรือนจำนครปฐมอบรมผู้ต้องขังทำน้ำหมักชีวภาพ


ที่เรือนจำกลางนครปฐม โดยนายสุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ ผู้บัญชาการเรือนจำนครปฐม ได้จัดโครงการฝึกอบรมความรู้ให้เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังทำน้ำหมักชีวภาพสำหรับบำบัดน้ำเสีย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาน้ำเน่าเสียเนื่องจากการเกิดอุทกภัยน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อันส่งผลกระทบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน และเพื่อตอบสนองนโยบายของจังหวัดนครปฐมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ภายใต้โครงการ”อีเอ็ม เพื่อแประชาชน 999,999 ลิตร พิชิตน้ำเสีย” โดยมีนายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม,นายสุวรรณ นันทศรุต ผอ.สิ่งแวดล้อมภาค 5 ,นายราตรี บุญยงค์ นายอำเภอนครชัยศรี หน่วยงานข้าราชการที่เกี่ยวข้องและให้ความสนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554		0 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 22:03:20 น.
Counter : 476 Pageviews.
Share Tweet