อัพเดทข้อมูลแผนที่เสี่ยงภัยล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญ เผย!! อนาคต กทม. ท่วมหนักกว่าเดิม 4 เท่า
ผู้เชี่ยวชาญชี้ อีก 50 ปี พื้นที่กทม.ส่วนใหญ่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เสี่ยงน้ำท่วมเพิ่ม 4 เท่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า น้ำท่วมในกรุงเทพฯ ขณะนี้อาจเป็นเพียงเป็นสัญญาณเบื้องต้นของอนาคตที่น่ากลัวสำหรับเมืองหลวงของไทย ซึ่งตั้งอยู่บนที่ลุ่มต่ำและจมลงช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่อยู่เหนืออ่าวไทยเพียง 30 กิโลเมตร ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยจะสูงขึ้น 19-29 เซนติเมตร ภายในปี 2050 เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระดับน้ำที่สูงขึ้นจะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักผ่ากลางกรุงเทพฯ สูงขึ้นตามไปด้วยจากปกติที่น้ำล้นฝั่งอยู่เป็นประจำ
ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตือนว่า หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ จะต่ำกว่าระดับน้ำทะเลภายใน 50 ปี
รายงานที่ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศเผยแพร่เมื่อปีก่อนระบุว่า กรุงเทพฯ จมลงปีละ 10 เซนติเมตรในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 เป็นผลจากการสูบน้ำบาดาลจำนวนมากรองรับความต้องการของคนในเมืองหลวง 12 ล้านคน และโรงงานต่าง ๆ ปัจจุบันอัตราดังกล่าวลดลงเหลือน้อยกว่าปีละ 1 เซนติเมตร หลังจากรัฐบาลออกมาตรการควบคุมการสูบน้ำบาดาล แต่ ดร.อานนท์ แย้งว่า กรุงเทพฯ ยังคงจมลงปีละ 1-3 เซนติเมตร
ธนาคารโลกทำนายว่า ภายในปี 2050 กรุงเทพฯ จะเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มขึ้น 4 เท่า จากปัจจุบัน เพราะแผ่นดินทรุดลง ประกอบกับระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งใน 10 เมืองของโลกที่เสี่ยงได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปรากฏการณ์น้ำท่วมชายฝั่งภายในปี 2070 ผู้เชี่ยวชาญชี้ตรงกันว่า การขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างรวดเร็วคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมสร้างความเสียหายรุนแรงแก่กรุงเทพฯ เพราะเหลือทางให้น้ำไหลน้อยมาก ทางการไทยจะต้องแก้ปัญหาการใช้ที่ดินในกรุงเทพฯ ปัญหาการวางผังเมือง และอาจต้องพิจารณาเรื่องย้ายโรงงานและนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม หรืออาจถึงขั้นต้องพิจารณาย้ายเมืองหลวง
"ทีมกรุ๊ป" (Team Group) ได้อัพเดทข้อมูลแผนที่เสี่ยงภัยล่าสุด ณ วันที่ 6 พ.ย. 54 ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นคือ
-เขตสวนหลวง ที่อยู่ด้านบนของคลองประเวศบุรีรมย์ขึ้นไป มีความเสี่ยงเปลี่ยนจากสีเหลืองอ่อน เป็นสีเหลืองเข้ม -เขตบางกอกน้อยและบางกอกใหญ่ มีโอกาสเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มขึ้น จากสีเหลืองเข้ม เป็นสีส้ม -เขตคันยายาว มีนบุรี คลองสาม เหนือถนนถามอินทราทางตะวันออกของถนนวงแหวนรอบนอก เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีส้ม -เหนือถนนรามอินทรา ทางตะวันตกของวงแหวนรอบนอก จนถึงแยกหลักสี่ เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีแดง -ใต้ถนนนรามอินทราจนถึงถนนประเสริฐมนูกิจ ด้านฝั่งตะวันออกของคลองบางบัวจนถึงถนนนวมินทร์ เปลี่ยนจากสีเหลือเข้มเป็นสีส้ม -เหนือถนนงานวงศ์วาน-รัตนาธิเบศ ด้านตะวันตกของคลองบางบัวจนถึงทางด่วนศรีรัช เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มเป็นสีแดง -เหนือคลองภาษีเจริญทั้งหมด เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีแดง
ความหมายของโซนแต่ละสี
-สีเหลืองเข้ม : พื้นที่ที่โอกาสน้ำเข้าท่วมสูง เนื่องจากปริมาณน้ำด้านเหนือมีมาก ระดับน้ำจะอยู่ที่ 0.5 - 1 เมตร โดยความแรงของน้ำจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเหนือคันกั้นน้ำ หากเป็นกรณีน้ำล้นธรรมดา ก็จะค่อยๆซึมขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ แต่หากคันกั้นน้ำพัง หรือมีการเปิดประตูน้ำให้น้ำเข้ามา น้ำจะมาเร็วและแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับชุมชนที่อยู่ในบริเวณใกล้คันกั้นน้ำ และจะค่อยๆลดความแรงต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ
-สีเหลืองอ่อน : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าสีเหลืองเข้ม แต่ยังมีโอกาสที่จะท่วมในปริมาณ 0.5 - 1 เมตร โดยความแรงของน้ำที่เข้ามาจะไม่รุนแรงเหมือนสีเหลืองเข้ม
-สีส้ม : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะโดนน้ำท่วมมากถึง 1 - 1.5 เมตร ปริมาณน้ำที่เข้ามาจะค่อนข้างรุนแรงกว่าพื้นที่สีเหลือง
-สีแดง : พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด ปริมาณน้ำท่วมอาจสูง 1-2 เมตร
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2554 18:15:46 น. |
Counter : 1143 Pageviews. |
|
|
|
อ้าวลืมไป... เชียงใหม่ก็ท่วมนี่นา