ผ่านมาก็ 1 เดือนแล้ว แต่เพิ่งจะมาอัพแล้วยังอัพไม่จบอีก 555ที่ไม่ได้มาอัพก็เพราะว่าหลังจากคอนเสิร์ตนี้ก็ไปเที่ยวต่ออีกไปเหนือ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้มาอัพทริปเหนือเมื่อไหร่ 555กลับจากเหนือก็เหนื่อยๆ เนือยๆเพราะป่วย บวกกับ ความขี้เกียจด้วยแหละงานการก็ไม่ค่อยทำ 555(แต่ตอนนี้อยู่ห้องแลบนะ)เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยละกัน=========================================Season of Love Songณ สวนผึ้งรีสอร์ท จ.ราชบุรีจุดเริ่มต้นของการไปดูคอนเสิร์ตนี้มาจาก ขวัญ ขวัญส่งลิ้งค์ของ Thai ticket major มาให้ดู ด้วยอารมณ์ดี๊ด๊า อยากเที่ยวอยู่แล้ว อีกอย่างก็คือ ยังไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตเลยซักครั้ง (ถ้าไม่นับพวกงานเฟรชชี่อะไรแบบนี้นะ) เลยรีบเข้าไปดูรายละเอียดแล้วตกลงไปทันที ใจง่ายจริงๆ 555บัตรราคา 1200 บาท แต่ถ้าซื้อพร้อมกัน 6 ใบ จะเหลือใบละ 900 บาท ระหว่างที่คิดอีกทีว่าไปหรือไม่ไป เพื่อนคนอื่นจะมีใครสนใจไปด้วยมั้ย จะหาให้ครบ 6 คนยังไงดี ก็รู้มาว่า น้องแป้ง อยากไปงานนี้เหมือนกัน เลยรีบไปชวนซะเลย สรุปว่ามีผู้ร่วมทริป 3 คน หลังจากที่ตัดสินใจไปแน่แล้ว ผู้ร่วมเดินทางตกลงปลงใจกันเรียบร้อยแล้ว ขวัญก็ไปโพสต์หาคนแชร์เพื่อซื้อบัตรพร้อมๆ กัน ก็มีพี่ๆ มาสนใจ 2 คน คนละ 2 ใบ เรากับขวัญก็รีบไปซื้อบัตร จองพื้นที่กางเต็นท์ แล้วพอดีกับที่ Thai ticket major เปิดรถบัสคันที่ 3 พอดี เลยรีบจองซะเลย เป็นอันว่าเสร็จภารกิจ รอวันเดินทางไปลั้นลาได้เลย27 พฤศจิกายน 2553 เป็นวันเดินทาง รถออกเที่ยงที่หมอชิต แต่ในบัตรเขียนว่า 12.10 น. เราก็รอน้องแป้ง จะไปพร้อมกัน แต่น้องแป้งดันสาย เราก็เลยแยกกันไป ลงจาก BTS เราก็ต่อแท็กซี่ ไปทันเวลาพอดี ก็รอลุ้นว่าน้องแป้งจะมาทันมั้ย และแล้วก็ทัน มาเร็วมากๆ เพราะว่านั่งมอเตอร์ไซต์มาจาก BTS เลย แต่รถก็ยังไม่ออก เพราะคนยังมาไม่ครบ ให้เราตื่นเต้นซะมากมายเลย เจ้าหน้าที่ก็รอๆ จนเที่ยงครึ่งจึงเริ่มออกเดินทางการเดินทางยาวนานมาก ไม่รู้เป็นเพราะใจเราไปอยู่ที่สวนผึ้งแล้ว หรือระยะทางมันไกลกันแน่ 4 ชั่วโมงผ่านไปก็ถึงสวนผึ้งรีสอร์ท ความคาดหวังแรกคือ สนามหญ้าสีเขียว นุ่มๆ อากาศเย็นๆ ได้นั่งฟังเพลงชิวล์ๆ แต่... ไม่ใช่เลย สนามเป็นดินแดง อากาศร้อน คนเยอะมากๆ เราก็เดินเข้าไปด้วยความไม่รู้อะไร ได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์ ก็เดินไปลงทะเบียนเต็นท์กับขวัญ แล้วก็ให้น้องแป้งไปจองที่นั่งดูคอนเสิร์ต หลังจากลงทะเบียนเต็นท์เสร็จแล้ว ก็ไปกางเต็นท์ ทางเดินเข้าก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตร แล้วก็มีสายรัดข้อมือให้ จริงๆ มันเป็นกระดาษ แล้วเค้าก็ติดให้เลย ติดแน่นด้วยอ่ะ ไม่ชอบๆ รำคาญ แต่ก็ต้องยอม ผ่านจากด่านนี้ก็เดินๆ เพื่อไปขึ้นรถที่เค้าเตรียมไว้ไปยังที่กางเต๊นท์ เราก็กางด้วยความเอ๋อ เจ้าหน้าที่คงเห็นแล้วว่าถ้าปล่อยให้สองคนนี้ทำกันเองวันนี้คงไม่เสร็จ 55 เลยมาช่วย เราก็อ๋อๆ ก็ไม่ได้ใช้เต็นท์มานานหลายปีมากๆ มันก็จะไม่ได้สิ แล้วคราวก่อนที่ไปนอนเต็นท์เราก็ไม่ใช่คนกางซะด้วย เลยไม่ค่อยรู้กางเต็นท์เสร็จก็พร้อมลุย!!!
อยากดูอ่ะ .. ^^