สุภาษิตจีน成语
สุภาษิตเปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การศึกษาสุภาษิตเป็นการศึกษาเพื่อค้นคว้าหาแนวความคิด และวิถีชีวิตของมนุษย์ในอดีต ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตของชนรุ่นหลังในปัจจุบัน
คำกล่าวที่ยกมานี้ไม่ได้ผิดไปจากข้อแท้จริงของความหมายโดยแท้จริงนัก คำสุภาษิต หรือสำนวนของชนชาติใดไม่ว่าผ่านกาลเวลาไปนานสักเท่าไร ได้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมแต่ละยุค แต่ละสมัย แต่ละท้องถิ่นนั้นนั่นเอง เรามักใช้สุภาษิตในการอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ในการชมเชย ให้กำลังใจ การสั่งสอนการออกต้ว การเสียดสี และการเยาะเย้ย ฯลฯ ดังนั้นควรเข้าใจความหมายและขอบเขตของสุภาษิตแต่ละบท

สุภาษิตจีนทีมีที่มาจาก 4 แหล่ง ได้แก่

1. สุภาษิตที่มาจากพงศาวดารจีน古代文献 หรือวรรณกรรมจีนโบราณ มี 3 ประเภทได้แก่
1.1 เค้าโครงประวัติศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องทหาร ชนรุ่นหลังได้ใช้คำวลี หรือประโยคสั้น ๆ แต่กินใจแทนเรื่องราวเหล่านี้ เช่น

 望梅止渴(三国)วั่ง เหม่ย จือ เข่อ (ซานกั๋ว) “มองต้นบ๊วยแล้วหยุดกระหายน้ำ(สามก๊ก)”

 四面楚歌(秦朝)ซื่อ เมี่ยน ฉู่ เกอ(ฉิน ฉาว) “ถูกศัตรูล้อมทั้งสี่ด้าน (ราชวงศ์ฉิน)”

1.2 เค้าโครงนิทาน ซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิต ในวรรณกรรมจีนโบราณได้บันทึกเรื่องราว ที่สนุกสนานและน่าสนใจหลายเรื่อง ในที่นี้มีคำสุภาษิตหลายบทที่มาจากนิทานเหล่านี้ด้วย เช่น
 狐假虎威(战国)หู เจี่ย หู่ เวย(จั๋นกว๋อ) “หมาจิ้งจอกแอบอ้างอำนาจเสือ(ยุคสงคราม)
 滥竽充数ลั่น หวี ซง ซุ่(จั๋นกว๋อ) “ตบตาคนโดยเอาของเสียปนกับของดี(ยุคสงคราม)

1.3 ตัดตอนมาจากบทประพันธ์โบราณ สุภาษิตบางคำมาจากบทประพันธ์โบราณ และบางคำได้วิวัฒนาการมาจากบทประพันธ์โบราณมาเป็นสุภาษิตอีกต่อหนึ่ง เช่น

 青出于蓝ชิง ชู หวี หลัน(สวิน จื่อ เชวี่ยน เสวีย) “ลูกศิษย์เก่งกว่าครู” (เรื่องการศึกษาของสวินจื่อ)
 后来居上โฮ่ว ไหล จวี ซั่ง(สื่อ จี้) “คนมาทีหลังดังกว่า” (พงศาวดาร
เรื่องสื่อจี้)

2. สุภาษิตมาจากการสืบทอดทางวรรณกรรมพื้นบ้าน 民间文学ซึ่งมีคำสุภาษิตที่ชาวบ้านนิยมใช้กันทางมุขปาฐะ จากปากสู่ปากที่สืบทอดต่อ ๆ กัน จากคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง หรือจากสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เช่น
 唇亡齿寒ฉุน หวัง ฉื่อ หัน “ลิ้นกับฟัน”

-2-

 孤掌难鸣กู่ จั่ง หนัน หมิง “ตบมือข้างเดียวไม่ดัง”
3. สุภาษิตที่มาจากภาษาจีนปัจจุบัน 现代汉语ภาษาเป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการตามกาลสมัย ปัจจุบันมีคำสุภาษิตที่เกิดใหม่จำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งใหม่ หรือความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่ เช่น
 脚踏实地เจี่ยว ท่า สือ ตี้ “เท้าติดดิน”
 取长补短ฉวี่ ฉัง ปู๋ ต่วน “หยิบยาวปะสั้น”
 费力不讨好เฟ่ย ลี่ ปู้ ถาว ห่าว “เสียแรงเปล่าแล้วยังถูกตำหนิอีก”
4. สุภาษิตที่มาจากภาษาต่างประเทศ 外来语ซึ่งมาจากมิตรภาพของชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีการติดต่อแลกแปลี่ยนกันทางศิลปวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน มีสุภาษิตต่างประเทศไม่น้อย ที่มีปรากฏอยู่ในสุภาษิตจีนปัจจุบัน เช่น

 五体投地อู๋ ถี่ โถว ตี้ “เบญจางคประดิษฐ์”(เลื่อมใสอย่างยิ่ง)
 现身说法 เซี่ยน เซิน ซวอ ฝ่า “ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่าง”
 回头是岸หุย โถว ซื่อ อั้น “กลับใจเป็นคนดี”

นอกจากนี้ถ้าเราเปรียบเทียบสุภาษิตจีนและสุภาษิตไทย จะพบว่าสุภาษิตทั้งสองประเทศมีความหมายใกล้เคียงกัน เนื่องจากภาษาจีนกับภาษาไทยเป็นภาษาที่จัดอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ธิเบตด้วยกัน ทั้งสองภาษานี้มีการถ่ายโอนและแลกเปลี่ยนคำกัน มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีใกล้เคียงกัน ดังนั้นเรามักจะเห็นคำสุภาษิตของสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันมาก เช่น

 自力更生 จื้อ ลี่ เกิ้ง เซิง "พึ่งลำแข้งตนเอง"
 口是心非โข่ว ซื่อ ซิน เฟย "ปากหวานก้นเปรี้ยว"
 知面不知心จือ เหมี่ยน ปู้ จือ ซิน “รู้หน้าไม่รู้ใจ"
 唇亡齿寒ฉุน หวัง ชือ หาน “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า”
 尽力而为จิ้น ลี่ เอ่อร์ เว่ย “หนักเอาเบาสู้
 天长地久เทียน ฉาง ตี้ จิ่ว“ชั่วฟ้าดินสลาย”

ยังมีคำสุภาษิตอีกมากมายที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ประเพณีของชนชาตินั้น โดยผ่านอักษรสั้น ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งกินใจ ซึ่งเราควรเลือกใช้สุภาษิตให้เหมาะสมกับสถานการณ์

******************
แหล่งข้อมูล
เสาวภาคย์ วรลัคนากุล,ผู้ช่วยศาสตราจารย์. สุภาษิตจีน. กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, พิมพ์ครั้งที่ 1/ 2538



Create Date : 05 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 20:18:30 น.
Counter : 7105 Pageviews.

2 comments
  
ฮ่าฮ่าฮ่า... สมัยก่อนใช้มุข 《滥竽充数》บ่อย
สมัยนี้ใช้ไม่ค่อยได้แล้ว เพราะทำงานแบบข้ามาคนเดียว จะหมู่หรือจ่าก็ข้าทั้งนั้นหละวะค่ะ
โดย: ริมยมนา วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:01:37 น.
  
สักวัน จะหาทางใช้
โดย: i am tabo วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:23:42:34 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

grinny2545
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ก็เพราะกาลเวลาไม่หยุดนิ่ง

เราจึงต้องวิ่งแข่งเพื่อชัยชนะ

และความฝันของเราเอง
พฤศจิกายน 2550

 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
5 พฤศจิกายน 2550