|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
12 สิงหาคม 2552
|
|
|
|
วันแม่
ว่ากันว่า วันแม่ ก็เหมือนกับวันพ่อ วันวาเลนไทน์ หรือวันอื่นๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องรักแม่ รักพ่อ รักแฟนกันแค่เฉพาะในวันนี้เท่านั้น เราก็เห็นด้วยนะคะ เพราะว่า ความรัก แต่ไหนแต่ไรมันก็กำหนดวันไม่ได้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่แสดงความรักไม่เก่งอย่างเรา...ต้องขอบคุณคนที่สร้างวันนี้ขึ้นมาเลยค่ะ เพราะมันเป็นวันเดียวที่ทำให้เรากลบเกลื่อนความเขินและบอกรักแม่ได้อย่างเต็มที่
ข้อดีอีกข้อของการได้มาเรียนและใช้ชีวิตในต่างประเทศคือ ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้นค่ะ อันนี้ไม่ใช่แค่เรานะคะ เพื่อนๆอีกหลายคนก็คอนเฟิร์มว่าจริงค่ะ ความห่างกันทำให้ใกล้กันมากขึ้น..นึกแล้วก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ค่ะ รู้สึกว่าฟังดูประชดยังไงไม่รู้นะคะ
เราจำเรื่องสมัยเด็กของตัวเองไม่ได้เท่าไหร่ (ความจำปลาทองมาก) แต่ความรู้สึกในตอนนั้นที่ยังจำได้ดีคือ เหงา ค่ะ (แถม อิจฉา ด้วย ฮ่าๆๆ) เราเป็นลูกคนกลาง แถมนิสัยก็ดื้อๆ แข็งๆ ปากก็ขวานผ่าซาก ไม่ได้น่ารักอ่อนหวานเหมือนพี่สาว และไม่ได้ว่านอนสอนง่ายเหมือนน้องชาย เลยทะเลาะกับคนที่บ้านประจำ แล้วตอนเด็กๆก็เป็นช่วงที่พ่อแม่ยุ่งๆกับงาน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยอดคิดไปไม่ได้ว่า พ่อแม่ไม่รักเรา (พ่อแม่ทุกคนเป็นมั้ยคะ ที่ชอบบอกว่า เก็บเรามาจากถังขยะ นอกจากเราแล้วเพื่อนเราก็เจอ (แถมที่ญี่ปุ่นก็มี แต่เปลี่ยนเป็น เก็บมาจากกระบอกไม้ไผ่ ) จะบอกว่า มันทำให้เด็กคิดมากนะคะ อยากให้พ่อแม่เลิกใช้มุกนี้ค่ะ )
สมัยเด็กนี่ ความสุขมันก็มีอ่ะนะคะ แต่นึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ จะนึกถึงแต่อะไรที่มันแย่ๆทั้งนั้นเลย (ไอดีๆไม่ค่อยจะจำ จำได้แต่สิ่งที่ไม่ดี สมองคนเรานี่แปลกนะคะ)
เหมือนเราแรงมา แม่ก็แรงไป ทะเลาะกัน พูดจาไม่ดีใส่กันก็หลายต่อหลายครั้ง หนีออกจากบ้านก็เคย ที่แย่ที่สุดก็คือ ช่วงม.สี่ ที่พี่และน้องไปพักที่หอของโรงเรียน มีแค่เรากับแม่ที่อยู่บ้านด้วยกัน ตอนนั้น บรรยากาศเป็นอะไรที่มาคุมาก แบบว่า พอแม่ทำกับข้าวเสร็จก็วางไว้ แล้วต่างคนก็ต่างหยิบไปกินในห้องของตัวเอง ซะงั้นอ่ะค่ะ ความสัมพันธ์มันแย่ขนาดนั้นเลย (คิดแล้วเศร้า )
แต่ว่าพอมาตอนม.หก ที่เราตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อ แล้วมันมีเวลาเกือบครึ่งปีว่างๆก่อนที่จะไป วันๆเลยอยู่แต่บ้านทุกวัน ช่วยงานที่บ้านมั่ง ไปธุระเป็นเพื่อนแม่มั่ง ตอนนั้นเองแหละค่ะ ที่เราเพิ่งจะรู้สึกว่าสนิทกับแม่ ม.หกนี่เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ค่ะ ความสัมพันธ์ทั้งกับพ่อแม่พี่น้องเพื่อนดีไปหมด วันๆมีแต่เสียงหัวเราะ
แล้วพอมาญี่ปุ่น ก็ทำให้เข้าใจถึงความรักของแม่มากขึ้นค่ะ
แม่ชอบโทรมาทั้งที่ไม่มีอะไร ทำเป็นถามเรื่องอากาศว่าเป็นไงบ้าง กินข้าวรึยัง เรียนเป็นไงบ้าง แต่บางทีก็พูดตรงๆว่าคิดถึง
แม่ชอบส่งของกินมาให้เยอะมาก (เพราะรู้ว่าเราชอบกิน) บอกว่า เห็นแล้วมันน่าอร่อย คิดว่าเราน่าจะชอบ ส่งมาแม้กระทั่งข้าวกับน้ำตาล เพราะบอกว่า ของไทยกับญี่ปุ่นไม่เหมือนกัน กินข้าวไทยจะได้อร่อยๆ
ตัวอย่างของที่แม่ส่งมาให้ในหนึ่งครั้ง แทบจะเต็มพื้นที่เตียงเลยค่ะ
เราก็บอกแม่หลายรอบแล้วเหมือนกัน ว่าไม่ต้องส่งอะไรมามาก (เพราะจริงๆมันก็มีหลายอย่างที่เราและเพื่อนไม่กิน แถมปริมาณมันก็เยอะจนกินไม่หมด - -") แต่ก็...ยังเหมือนเดิมค่ะ ตกใจทุกทีที่เปิดกล่อง แต่ก็รู้สึกถึงความรักของแม่ดีค่ะ
บางที แม่ก็ชอบลงท้ายโทรศัพท์ว่า แม่รักหนูนะ ซึ่งหลายๆคนก็คงรู้นะคะ ว่าคนแก่(โทษนะแม่)กับคนจีน ปกติไม่พูดแสดงความรักกันอยู่แล้ว แค่ คิดถึง เราก็ตกใจจะแย่แล้ว พอมา รัก นี่..ครั้งแรกนี่อึ้งไปเลยค่ะ ไม่ได้ตอบอะไร จนหลังๆชักชิน ก็เลยกล้าบ้างที่จะตอบว่า หนูก็รักแม่ คิดถึงแม่เหมือนกัน
และที่สุดๆเลยก็คือ มีตอนนึงที่เรากลับมาอยู่บ้าน แล้วไปทำอีท่าไหนไม่รู้ อยู่ๆก็ตะคริวกินเท้า แล้วพอเราร้องออกมา แม่ก็...มานวดเท้าให้เราค่ะ เรางี้แบบ อึ้ง..หยุดร้อง ไปเลย อยากจะร้องไห้แทน ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่ซึ้งจริงๆค่ะ เพราะเราว่า คงไม่มีใครที่จะมานวดเท้าให้เราทันทีโดยไม่คิดอะไรเลย นอกจากแม่อีกแล้ว
กล่าวโดยสรุป ตอนนี้ ความสัมพันธ์กับแม่ ก็ราบรื่นดีแล้วค่ะ (เพียงแต่ต้องบอกแม่ให้เพลาๆการแสดงความรักลงหน่อย ความรักของแม่ทำให้หนูอ้วน ไม่ผอมซะที )
วันแม่ปีนี้ ไม่มีโอกาสได้อยู่กับแม่ที่เมืองไทย แต่ก็คิดว่า ตอนเย็นๆจะโทรศัพท์ไปคุยให้หนำใจและบอกรักแม่ดังๆค่ะ
สำหรับเรา โลกนี้ไม่มีใคร ให้ เราได้เหมือนและเท่าแม่แล้วค่ะ คุณๆทุกคน ก็อย่าลืมบอกรักแม่นะคะ
สวัสดีค่ะ
Create Date : 12 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 12 สิงหาคม 2552 11:22:22 น. |
|
24 comments
|
Counter : 408 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: pet.sp วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:13:37:38 น. |
|
|
|
โดย: princenobu วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:23:03:44 น. |
|
|
|
โดย: varunrint วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:4:53:04 น. |
|
|
|
โดย: ชากีร่า วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:6:39:45 น. |
|
|
|
โดย: veerar วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:29:30 น. |
|
|
|
โดย: brackleyvee วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:3:45:05 น. |
|
|
|
โดย: debry วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:00:09 น. |
|
|
|
โดย: I_sabai วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:32:53 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:35:05 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:23:21 น. |
|
|
|
โดย: basbas วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:18:44 น. |
|
|
|
โดย: retrojass วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:49:13 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:24:10 น. |
|
|
|
โดย: yxoxy วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:25:09 น. |
|
|
|
โดย: tangieka วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:56:56 น. |
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:57:04 น. |
|
|
|
โดย: joblovenuk วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:32:10 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:06:01 น. |
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:10:41 น. |
|
|
|
โดย: หนูดำจำมัย วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:51:20 น. |
|
|
|
โดย: princenobu วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:59:15 น. |
|
|
|
| |
|
|
princenobu |
|
|
|
Location :
Oita Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เพิ่งเรียนจบ ตอนนี้ขออยู่ในสถานะว่างงานครึ่งปี เพื่อเรียนเพิ่มเติม ทำสิ่งที่อยากทำ เติมหัวใจของเราให้เต็ม
ชอบกิน เที่ยว ถ่ายรูป และแมว
ยินดีที่ได้รู้จักนะ:)
|
|
|