บันทึกจากแม่ถึงลูกคับ ตอนที่ 1
ใจจริงอยากเขียนบันทึกเกี่ยวกับลูกทุกวัน แต่ในแต่ละวันหาเวลา+อารมณ์อยากเขียนไม่ค่อยได้เลย กว่าจะมีเวลาเป็นของตัวเองก็เหนื่อยแทบสลบ7 เดือน 26 วันแล้วนะคับลูก ที่เราได้อยู่ด้วยกันแบบตัวเป็นๆ ก่อนหน้านั้น หนูอยู่ในท้องแม่มา 9 เดือน 3 อาทิตย์ กับอีก 3 วัน แม่เป็นคนเลือกเองให้หนูลืมตาออกมาดูโลกในวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเป็นวันจันทร์วันเดียวกับแม่ ในความรู้สึกคือ ชอบวันจันทร์ คิดว่ามันเป็นอะไรที่เย็นๆดี ใจจริงอยากคลอดธรรมชาติ แบบว่า once in a life time อยากสัมผัสกับความรู้สึกนั้น แต่คุณยายไม่อนุญาต ณ ตอนนั้น แม่ก็ดื้อหัวชนฝา จะคลอดธรรมชาติให้ได้ แต่ก็ต้องยอมจำนน คำหว่านล้อมของคุณปู่และญาติๆ อีกทั้งเสียดายเวลาที่ต้องรอ กลัวว่าถ้าหนูออกมาช้า แม่จะได้ใช้เวลาที่เหลือกับหนูน้อยลง เพราะต้องกลับไปทำงานตอนที่ลาคลอดไปอยู่ที่บ้านก็คอยลุ้นกับน้าๆหนูตลอด ว่าเมื่อไหร่จะเจ็บคลอดสักที เวลาท้องแข็งก็ตื่นเต้นกันใหญ่ นั่งนับครั้ง นั่งจับเวลา แต่ก็ไม่มีวี่แวว และแล้ววันจันทร์ที่ 30 มีนาคมก็มาถึง คุณหมอนัดให้ไปที่ รพ. บ่ายโมงมั้ง จำไม่ค่อยได้แล้วหล่ะ แม่กับป๊า คุณยาย และน้าๆ ไปถึงเกือบๆ บ่ายโมง ก็ถือว่าสายแล้วหล่ะ เพราะก่อนจะมา คุณน้าข้างบ้านที่เค้ามาส่งซ้อมขับรถ (ยืมรถมาจากคนข้างบ้านอีกทีนึง) แล้วเกิดทำตะกร้าของที่คุณยายเตรียมไว้ให้หนูหล่นหาย เที่ยวตระเวนหากันสองสามซอยก็ไม่เจอ (มือไวจริงๆคนสมัยนี้) ก็เลยเป็นเหตุให้มาถึงช้าไปหน่อย กลายเป็นว่า เป็นคนสุดท้ายที่จะได้ผ่าในวันนั้น มีคนรอผ่าทั้งหมด 3 เคสก่อนไปผ่าตัดคุณหมอสั่งงดอาหาร งดน้ำ ตั้งแต่แปดโมงเช้า โอ้ยยยยยยยยย หิว ไปถึงพยาบาลก็ให้เปลี่ยนชุด ถอดหมดเลย แล้วก็ไปจัดการทำความสะอาดเนื้อตัวและแวกซ์ขนตรงนั้น อายยยยยยยยยยมาก แต่พยายามคิดว่า เค้าเห็นมาจนเอียนและ จะอายทำไมฟระ ของเรามันก็เหมือนๆ ของชาวบ้านแหละนะ จากนั้นก็มานอนรอหมออีก กว่าหมอจะมาปาเข้าไป ทุ่มนึง ระหว่างนั้น หิวมาก ตาลาย แอบเอาน้ำเข้าไปกินในห้องน้ำ (กลัวพยาบาลเห็น) หุหุ หิวแบบแทบจะไม่มีแรงเดินอะ มีเหตุซวยซ้ำซ้อน คือว่า ท้องเสียยยยยยยยย นั่งอยู่ในห้องน้ำเป็น ชมๆ ลุกแล้วปวด มีอารมณ์อยากอึแบบ infinity ในทีสุดพยาบาลก็มาเรียก แบบทำไมอินี้เข้านานจัง คนอื่นเค้าจะเข้ามั่ง หมดจากท้องเสีย ก็ซวยกันต่อ เนื่องจากเกิดอาการที่พยาบาลเค้าเรียกว่า chilled หรือสั่นสะท้านนั่นเอง คงเป็นเพราะเสียน้ำไปมาก (เกี่ยวกันไม๊) หนาวแบบตัวสั่น ยังกะผีเข้าอะ เป็นชม.ๆ เลยนะ จนพยาบาล เอาผ้าห่มไฟฟ้ามาห่มให้ แต่ก็เอาไม่อยู่ สักประมาณ ครึ่ง ชม. ถึงดีขึ้น หมอมา จริงๆ ตอนแรกหมอบอกว่าจะผ่าให้เราก่อนละ (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆที่เรา ก็มาคนสุดท้าย) แต่บังเอิ๊ญว่า เกิดอาการชิลล์นี่แหละ ถึงต้องไปตามคิว อารมณ์ตอนที่โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัดประมาณว่า "ถึงคิวกรูซักที" ตอนนอนรอให้หมอพร้อม พยาบาลพร้อมอยู่หน้าห้องผ่าตัด รู้สึกเหมือนว่า ฉี่แตก แบบไม่สามารถจะบังคับได้ เคยอ่านเจอในห้องชานเรือน แอบคิดในใจ เอ๊ะ หรือว่า ถุงน้ำคร่ำแตก บอกพยาบาลไปว่า เหมือนฉี่แตกเลยค่ะ พยาบาลก็เฉยๆ แล้วก็เข็นเราเข้าห้องดับจิตไป แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย ห้องผ่าตัด To be continued . . .