คนเรา...เมื่อประสบความสำเร็จ....ความรักก็เข้ามา
อาเจ้ฯ มีเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กๆ มิหนำซ้ำไอ้เพื่อนคนนี้..ก็มาเรียนมช.ด้วยกันซะอีกหลายๆ อย่างในชีวิตของเพื่อนคนนี้กับอาเจ้ฯ เหมือนกันเช่น...แนวคิดของครอบครัว...ความรักใคร่ในหมู่พี่น้อง ฯลฯเหมือนกันค่อนข้างเยอะ....เลยทำให้คุยกันรู้เรื่องกว่าเพื่อนคนอื่น.....ตอนเพื่อนไปมีแฟนเลวๆ ... ก็ไม่พูดกันพักนึงแต่หลังจากมันเลิกกับแฟน..อาเจ้ฯ เป็นเพื่อนคนแรกที่มันโทรมาบอกว่า..กูเลิกกับแฟนแล้วนะ เออออออออออ....กูรู้แล้ว...มีสายมารายงานกูแล้วล่ะ กูดีใจด้วยเหี้ยยยยยยยยยยยย มันด่านะ...แต่น้ำเสียงยิ้มละไมกับโทรศัพท์อ่ะอาเจ้ฯ แอบจับได้ ที่ว่าแฟนเพื่อนเลวอ่ะ..ขอแอบเล่าหน่อยเหอะคันปากว่ะ คือ..แฟนมันหึงที่มีทอมที่ทำงานโทรมาปรึกษาปัญหาชีวิตบ่อยๆก็ขอให้เพื่อนอาเจ้ฯ พิสูจน์ว่ารักมันคนเดียวด้วยการไปจดทะเบียนสมรสไว้ก่อน..ล่วงหน้าเพื่อนก็โทรมาปรึกษา....ว่ากูจะเอาไงดีวะเจ้ฯ กูอึดอัดลำบากใจอ่ะ อาเจ้ฯ ก็เลยบอกว่า..มึงห้ามไปจดทะเบียนเป็นอันขาดเลยนะไอ่เหี้ย...มีอย่างที่ไหน มึงเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะเว้ยอยู่ดีๆ จะมา...แอบไปจดทะเบียน..ไม่บอกพ่อกับแม่ได้ไงวะกูบอกได้เลย...ถ้าที่บ้านมึงรู้มึงไม่ต้องมองหน้าพ่อกับแม่อีกเลยตลอดชีวิตแฟนเก่าเพื่อนก็ด่าอาเจ้ฯ ว่า...เสือกกกกกกกเรื่องของมันสองคนอาเจ้ฯ ก็เลยไม่พูดกับเพื่อนไปพักใหญ่แต่หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนอาเจ้ฯ ก็เลิกกับมันลืมบอกไปว่าเพื่อนอาเจ้ฯ คนนี้เรียนด็อกเตอร์ก่อนหน้าอาเจ้ฯ 1 ปีพอเลิกกับแฟน....เพื่อนเจ้ฯ ก็หันมาตั้งอกตั้งใจเรียนให้จบเมื่อไม่นานมานี้มันพึ่งมาพูดกับอาเจ้ฯ ว่า....กูนะ...คิดว่ากูชอบการอยู่คนเดียวแล้วว่ะ...มันนิ่งดีมันไม่ต้องมาหวือหวา...มามีอารมณ์ขึ้นๆ ลง ๆ กับพวกแม่งอีกกูได้มีชีวิตส่วนตัวแบบที่กูอยากทำอะไรก็ได้สบายใจดี มันพูดได้แค่พักเดียวเอง.....ตอนวันพฤหัสที่ 7 มี.ค. ตอนเช้าอาเจ้ฯ กำลังจะกลับมาบ้านที่พิดโลกเพื่อนก็มาขอกลับด้วย...เพราะมีข่าวดีจะเอากลับไปบอกที่บ้านแล้วระหว่างทาง....ก็มีโทรศัพท์มาเป็นระยะแหม๋...แล้วทำคุยอุ๋มอิ๋ม..ๆ เบาๆ แถมพูดจาไพเราะ อาเจ้ฯ ก็ขำ..รู้สึกว่าผิดสังเกตุเหลือเกิ๊นนนนนนน "มึงเล่ามาเซะ....ครายวะ...""ใคร...อาไร...ไม่มี๊..."มึงจะเสียงสูงทำไม เล่ามาดี..ดี... เชี้ย... กูปิดได้ทุกคนอ่ะ...ยกเว้นเมิง แล้วประโยคคลาสสิคก็ตามมา...เพื่อนนนนนนนนนนน...ไม่มีไรหรอก (หน้าแดงประกอบ)ก็เค้าโทรมาถามว่า..กูเจอมึงหรือยัง...ขับรถไปถึงไหนกันแล้ว..อาเจ้ฯ ก็เลยแกล้งแซวไปว่า...ห่วง..ไม่ห่วงไม่รู้อ่ะนะ..ยังไม่ทันถึงนครสวรรค์เลย..โทรมา 3 รอบแล้ว อีเพื่อนก็หน้าแดงอี๊กกกกกกกกกกกโอ่ยยยย มึง...หยั่งกะ 17 อาเจ้ฯ ก็เลยถามว่าที่มึงจะกลับบ้านเพราะมีข่าวดีเนี่ย...ไม่ใช่ว่าไปบอกแม่....ว่าเจอเนื้อคู่แล้วนะ เพื่อนก็หันมาสรรเสริญอีกรอบ...แถมลากยาวกว่าเดิมเชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ปล่าว...กูจะไปบอกแม่....ว่ากูจบด็อกเตอร์อย่างสมบูรณ์แล้วนะเหรอ....อาเจ้ฯ ตาลุกวาว นี่ไง....กูได้ Transcript มาเรียบร้อยแล้ว..แล้วมันก็ควักออกมาให้ดู.....ว้าวววววววววววว...กูแม่งโคตรอิจฉามึงเลย เอาน่า...เดี๋ยวมึงก็ตามกูมาติดๆ น่า....อย่าคิดมากอาเจ้ฯ เคยไปทำผม...แล้วช่างเสริมสวยคนนั้นเล่าให้ฟังว่าเคยมีน้องคนนึงที่เป็นลูกค้าร้านเค้าเนี่ยแหล่ะมาเรียนด็อกเตอร์เหมือนกัน...แต่หลายปีแล้วล่ะ...ตอนนี้น้องเค้าจบแล้วเมื่อตอนต้นปีมีงานรับปริญญา....น้องเค้ากลับมาทำผมงานรับปริญญาก็มาเล่าให้ฟังว่า.....ตอนน้องเค้าเรียน....หน้าอย่างเยินเพราะเรียนหนักไม่มีเวลาเงยหน้าเงยตา...มามองชาวบ้านเลยแต่พอน้องเค้าเรียนจบด็อกเตอร์แล้วก็ค่อยมีเวลาขึ้นมานิดนึง...ได้ดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นและสถานะทางการทำงานก็เปลี่ยนทั้งงาน...ทั้งผู้ชาย....พุ่งเข้ามาตรึมจนเลือกไม่ไหว ต้องสะบัดทิ้งไปบ้าง อาเจ้ฯ ฟัง พี่ช่างเสริมสวยเล่า....อาเจ้ฯ ก็ขำเว้ย...เว่อร์ไปป่ะเนี่ย...แต่ตอนนี้ชักเริ่มจะเชื่อแล้วเว้ย...เพราะอีนังด็อกเตอร์จบใหม่...ที่นั่งข้างๆ อาเจ้ฯ ตอนกลับบ้านมันสวยขึ้นตรึมเลย.... แถมยังมีหนุ่มเข้ามาคุยอีก...อาเจ้ฯ เห็นยัยดร.นี่...หน้าตาแดงตอนโดนอาเจ้ฯ แซวมัน ก็ชักมั่นใจแล้วว่ะ.....ว่ามันจริง