|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เช้าวันใหม่กับโทรศัพท์จากใครบางคน กับการใช้ชีวิตโสด
เช้านี้อากาศโคตรน่านอน อาเจ้กำลังหลับอย่างแสนสบายในผ้าห่มหมีพูห์
อยู่ดีๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา หึยย ใครวะแม่งโทรมาแต่เช้า มองดูนาฬิกา...โหยเชี้ยจริง..พึ่ง 6 โมงเช้าเอง ครายเนี่ย.....
ปัดมือควานหาโทรศัพท์ไปมา แม่งอยู่ไหนวะ ... ได้ยินแต่เสียง หยิบมาดูเบอร์....อ้าว ชายหนุ่มเพื่อนชายมหาเศรษฐีของอาเจ้นี่เอง มันมีไรของมันแต่เช้าวะ
เพื่อนคนนี้ตื่นไปทำงานแต่เช้าตลอดแหล่ะ เพราะที่ทำงานของเค้าไกล แล้วบ้านเค้าอยู่ในกลางกรุง ก็จะนิสัยคนกรุงแหล่ะค่ะ คือ ตื่นนอนออกจากบ้านแต่เช้าตรู่และก็กลับดึก
มึงมีอาราย....เสียเจ้ฯ ยานสุดฤทธิ์ ....เอิ่ม...กูขอโทษนะ...แต่กูคิดว่า ... กูต้องโทรหาเมิงอ่ะ น้ำเสียงของเพื่อนเกรงใจสุดฤทธิ์
อาเจ้ฯ รีบเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงทันที สัญญาณอะไรบางอย่างบอกเจ้ว่า .. เพื่อนต้องการความช่วยเหลือจากเราแล้วล่ะ ไม่งั้นมันไม่โทรมาแต่เช้าขนาดนี้หรอก
เออ...ไม่เป็นไร....มึงมีไรล่ะ...ว่ามาเหอะ กูตื่นแล้ว (อาเจ้โกหก...ผมงี้ชี้เชียว ปากก็เหม็น ยังไม่ได้แปรงฟันเลย..สะตอไปบอกเพื่อนว่าตื่นแล้ว)
กูแม่ง....แอบจิตตตก กูคิดอยู่หลายวันแล้ว แต่ไม่รอดว่ะ คิดว่า..ต้องพึ่งมึงแล้วล่ะ
แล้วเพื่อนก็เริ่มเล่า...เรื่องราวของเค้ามา อาเจ้ฯ ก็ .... อืมม์.. เอิ่ม... เออ.. ไปตามเรื่อง
แล้วก็สรุปเรื่องราวจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังทั้งหมดได้ว่า มันเหงา...
เพราะจริงๆ ในวัยของอาเจ้ฯ และเพื่อนๆ มันเป็นวัยที่ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว บางคนก็มีไปก่อนจะถึงวัยนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เพื่อนในกลุ่มเราก็ยังไม่แต่งงานกันเยอะอยู่เหมือนกัน และก็มีหลายคน...ที่คาดว่าคงไม่แต่งงานแล้ว
เพื่อนชายหนุ่มคนนี้อายุอ่อนกว่าอาเจ้ฯ 3 ปี แต่ตอนรู้จักกันนึกว่ามันอายุเท่ากัน ก็มึง..กูกันมาตลอด ตอนมันกลับมาจากเยอรมันมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับกลุ่มของอาเจ้ฯ ก็ลืมถามอายุมันจากเพื่อนที่แนะนำให้รู้จักว่ามันอายุเท่าไหร่
ก็ขึ้นมึง ขึ้นกู กันมาตลอด จนมาค้นพบว่ามันอายุอ่อนกว่า อ้าว...เชี้ยแล๊ะ... ถ้างั้นก็...มึงกูกันต่อไปนะ...
เลยทำให้อาเจ้ฯ ผ่านความรู้สึกนี้มาก่อนมัน คือ อารมณ์ประมาณว่า...เหงาอยากมีครอบครัว ชีวิตเหมือนส่งบททดสอบมาให้เราทำตอนเราอายุ 30 กว่าๆ แล้วก็ทดสอบว่าเราจะผ่านไปได้ไม๊
ถ้าเราผ่านไปได้ เราก็จะใช้ชีวิตที่เหลือ...แบบคนโสดของเราเนี่ยแหล่ะ.. ได้ดีและมีความสุขมาก
อาเจ้ฯ กับเพื่อนอีกคนนึง..ผ่านความรู้สึกนี้มาแล้ว จนตอนนี้.....รู้สึกว่าชีวิตตัวเองโคตรดี และมีความสุขกับทุกวันเหลือเกิน
เพื่อนมหาเศรษฐีก็ถามว่า แล้วพวกเมิง...ผ่านมาได้ยังไงกันวะ
พวกกูก็หาอะไรทำไง และก็ใช้ชีวิตอย่างเสมือนหนึ่งว่าจะไม่มีพรุ่งนี้ คิดว่าวันนี้มีอะไรต้องทำบ้าง ทำให้เสร็จแล้วก็หาสิ่งที่เราอยากทำมานั่งทำ
อาเจ้ฯ เห็นสัจธรรมเมื่อวันนึง..ที่ไปเจอหนุ่มนักบินแฟนเก่า วันนั้นเป็นวันที่อาเจ้ฯ รู้สึกเหงาๆ พิกลบอกไม่ถูก
เห็นหนุ่มนักบินคนนี้เดินจูงมือมากับแฟนใหม่ของเค้า อาเจ้ฯ เดินอยู่ข้างหลัง.....แล้วถามตัวเองว่า เราปล่อยให้เพชรหลุดมือไปหรือเปล่า
ถามตัวเองจบปุ๊บ ตัวเองก็ตอบตัวเองได้ทันทีว่า......เปล่า เราได้ชีวิตของตัวเราเองกลับคืนมาต่างหาก ที่เราปล่อยไปนั้น คือ พลอยที่พยายามทำตัวเองให้เป็นเพชรต่างหาก เพราะอาเจ้ฯ มองเค้าคนนี้ผิด
พอได้คุย ได้คบ ได้ศึกษาคนคนนี้มากขึ้น เราก็ตอบตัวเราเองได้ว่า เค้าไม่ใช่
อาเจ้ฯ มีเงินเก็บในธนาคารจากการทำงานเยอะพอสมควร คบกับคนคนนี้....เงินเก็บอาเจ้ฯ หมดลงอย่างรวดเร็ว มารู้สึกเมื่อวันนึงที่เอาสมุดบัญชีธนาคารไปอัพ แล้วมานั่งนึกว่า...เงินกูหายไปไหนวะ
อาเจ้ฯ ใช้เงินกับการซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เสริมสวย ฯลฯ สารพัดที่จะเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยและเปลือกนอกทั้งสิ้น ไปไหนก็เติมน้ำมันรถเอง จ่ายค่าอาหาร
เอ...มึงก็แดกกับกู แล้วทำไมกูต้องจ่ายเยอะขนาดนี้วะ ก็เริ่มได้สติกลับมาเรื่อยๆ กลับมาเป็นตัวเราคนเดิม
พอเค้าชวนไปทานอาหารร้านแพงๆ อาเจ้ฯ ก็ไม่ไป ชวนไปร้านข้าวต้มแทน ... ดูซิ๊แม่งจะจ่ายไม๊ ก็เหมือนเดิม.....ฟอร์มเดิม ลืมเอากระเป๋าตังค์ลงมาจากรถอ่ะ ..ตัวเองจ่ายไปก่อนนะ
อันนี้เป็นตัวอย่างแค่เรื่องเดียว มันยังมีอีกหลายเรื่อง
เอาตัวอย่างไปเบาะ ๆ ละกาน
เรื่อง ความเจ้าชู้ เรื่อง นิสัยกับเพื่อนร่วมงาน เรื่อง ความหน้าใหญ่ใจโต เรื่อง ปัญหาในครอบครัวของเค้า คือ พ่อมีปัญหากับแม่ และมีเมียน้อย
การได้เจอชายหนุ่มคนนี้...ทำให้เรานึกหลายอย่างในชีวิตออก และทำให้รู้สึกว่า การอยู่เป็นโสดไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย เป็นสิ่งที่มีความสุขด้วยซ้ำ
อีกทั้งยังเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ที่เราได้เลือกเอง ไม่ใช่คนอื่นเป็นคนกำหนดให้เราสุขหรือทุกข์
ความร้ายกาจของความเหงา มันไม่ได้ร้ายกาจอะไรมากมาย มันก็แค่เหงา ไปหาไรทำซะก็หาย อาเจ้ฯ ไปทำผม ไปทำเล็บก็หายแล้ว
แต่ความร้ายกาจของการมีแฟนที่ไม่ดี มันเลวร้ายกว่าความเหงาเยอะเลย
ตอนเป็นแฟน มันเลวเราก็เลิกได้ไง แต่พอมันเป็นสามีแล้วปุ๊บ มันเลิกยาก เผลอๆ แม่ง...มาเกาะเราแดกซะอีก ซวยล่ะทีนี้ มันไม่ไปไหนแน่...คงหนึบเราไว้แน่นเลย
อาเจ้ฯ สรุปให้ชายหนุ่มมหาเศรษฐีฟังว่า มึงมีตังค์.....คนเข้ามาหามึงก็ต้องมองให้ดี ว่าเค้ามาแบบไหน เค้ามาเพราะเงินมึง หรือมาเพราะรักมึง....มึงมองให้ดีๆ ก่อน
มึงเป็นผู้ชาย...ไม่เสียหายหรอก ถ้าจะค่อยๆ เลือกไป ไม่ต้องรีบร้อน.... ผู้หญิงมีมากมายหยั่งกะฝูงลิง... ขี้คร้านจะมีให้มึงเลือกไม่หวาดไม่ไหว
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ จิตใจของเมิง อย่าปล่อยให้ความเหงาเข้าครอบงำ จนตกต่ำ ดำลึก ทำไรไม่ได้ ไปหากิจกรรมทำซะ
ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำแล้วอยากทำ แล้วมึงจะตื่นเต้น...จะอยากค้นหา และก็อยากทำมันให้ได้
อาเจ้ถามเพื่อนไปว่า....แล้วมึงอยากทำอาราย พอมันตอบมา...แทบหงายท้อง...
กูอยากเรียนร้องเพลง
อีกทีเซ่ะ....เมิงอยากทำรายนะ กูอยากเรียนร้องเพลง...เอาไว้ไปร้องคาราโอเกะเพราะๆ อ่ะ
โหยเหี้ยเจงเพื่อนกรู... กิจกรรมแม่งโคตรปัญญาอ่อนเลยเมิง เออ...ถ้างั้นมึงไปเริ่มเลย แล้วมารายงานกูด้วย....ว่ามึงไปเรียนแล้วเป็นไง
ถ้ามันเวิร์คกูจะไปเรียนมั่ง
Create Date : 14 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2555 13:36:47 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1258 Pageviews. |
|
|
|
โดย: WonOccNU วันที่: 14 ธันวาคม 2555 เวลา:14:10:47 น. |
|
|
|
โดย: WonOccNU วันที่: 14 ธันวาคม 2555 เวลา:14:11:46 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:13:24:27 น. |
|
|
|
โดย: นีระพารถ วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:18:39:56 น. |
|
|
|
| |
|
|
ว่าแต่ คิดได้งัยอ่ะ ไปเรียนร้องเพลง
เชื่อแล้วว่า เวลาเบลอๆๆๆ งงๆๆ คนเรามักจะเพี้ยนๆๆ
ทำไรแบบที่ไม่เคยทำ 555 เวลาจะทำให้อะไรๆๆดีขึ้น เน้อ+++