แด่เธอ....
ช่วงเวลาที่ผ่านไปไม่นานนี้ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ฉันเองก็งานยุ่ง อยากจะมาเขียนไดอารี่ ก็ไม่มีเวลาสักที วันนี้ฤกษดิ์งามยามดี เลยมานั่งรวบรวมเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วเขียนลงในบันทึกเดียวเลยละกันค่ะ สืบเนื่องจาก blog ที่แล้ว ที่ฉันตัดสินใจลบใครบางคนออกจาก list เพื่อนใน facebook แต่ฉันเองกลับเป็นฝ่ายที่เสียใจ 14 ก.ค. 54 สุดท้าย ฉันเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไปทักเค้าอีกครั้งนึง >*< ฉันจึงได้รู้ว่า สิ่งที่ฉันคิดนั้นเป็นการเข้าใจผิด เขาไม่ได้ไม่อยากคุยกับฉัน แต่เป็นเพราะเขาไม่เห็นข้อความที่ฉันพิมพ์ไปเลย ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แป่ววว!!!! ฉันขอโทษเค้า และบอกให้เค้าแอดกลับ เพราะฉันไม่สามารถแอดเขาได้ กว่าเค้าจะยอมแอดฉันกลับได้ ก็ปาเข้าไปวันที่ 19 ก.ค. เราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม แม้เขาจะยังไม่เปิดใจกับฉันมากนัก แต่ก็มีปรึกษาเรื่องงานกับฉัน ซึ่งฉันก็ให้คำปรึกษาไปเท่าที่รู้ ความสัมพันธ์ก็ดูเหมือนจะดี เพราะช่วงนี้เขาก็หาเพลงเก่าๆมาให้ฉันฟังอยู่เรื่อย แต่ในที่สุด มันก็มาถึงทางแยกอีกครั้ง.... 24 ก.ค. 54 ฉันเห็นเพื่อนเค้าคนนึงที่รู้จักกันมานานกว่าฉันหายไปจาก list เค้า ซึ่งคนนี้เป็นคนเดียวที่โพสต์ข้อความเป็นห่วงเป็นใยกับเค้า ฉันไม่ได้สนิทกับผู้หญิงคนนี้ แต่ก็รู้จักเคยคุยกันบ้าง ฉันก็เกิดความสงสัยว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้จึงหายไปจาก list มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า เพราะข้อความที่เขาเคยโพสต์ลงบน ก็หายไปหมดเลย ฉันถามเค้า ดูเหมือนเขาก็จะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก มันคงเป็นนิสัยที่ไม่ดีของฉันด้วย ที่แคร์คนอื่นมากเกินไป ในช่วงเวลาที่ฉันตัดสินใจลบเค้า ฉันก็ยังคิดว่า ยังมีผู้หญิงคนนี้ที่คอยเป็นห่วงเค้าอยู่ ฉันเลยไม่สบายใจถ้าพวกเขาจะมีปัญหากัน ฉันบังเอิญได้คุยกับฝ่ายหญิง และก็เลยคุยกันทางข้อความ ฉันถามเค้าถึงเหตุผล ซึ่งเหตุผลจริงๆก็คือเค้าต้องการเปลี่ยน ID ใหม่ ก็เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เดี๋ยวจะไปอธิบายให้ฝ่ายชายทราบ ฉันกลับมาบอกเค้าถึงเหตุผล เค้างงมากๆๆ เค้าถามฉันว่า รู้ได้ยังไง ส่งข้อความไปถามมาหรอ ฉันก็บอกว่าใช่ ฉันบอกเค้าว่า ฉันรู้ว่าอาจยุ่งเรื่องเค้ามากไป แต่ฉันเป็นห่วงความรู้สึกเค้า เค้าก็ยังคุยกับฉันเหมือนปกติ แต่คำทิ้งท้ายของคืนนั้น มันทำให้ฉันรู้ว่าเขาโกรธที่ฉันทำแบบนั้น.... 26 ก.ค. 54 ทั้งเมื่อวาน และวันนี้ ฉันพยายาม ทักทายเค้า แต่เค้าไม่ตอบกลับมาเลย จนฉันถามไปว่า หากไม่อยากคุยกันแล้วก็บอกมาตรงๆค่ะ ฉันจะได้ไม่มารบกวนอีก คราวนี้หละค่ะ ข้อความมาเป็นขบวน ยาวเหยียด ฉันยังจำความรู้สึกที่อ่านข้อความ ณ ตอนนั้นได้เป็นอย่างดี ตกใจ กังวลใจ ดีใจไปพร้อมๆกัน และจบลงด้วยความเสียใจ ฉันตกใจ : เพราะ ข้อความที่ขึ้นมาในประโยคแรก ดูเย็นชา ห่างเหิน มากๆ ฉันกังวลใจ : เพราะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจ เขาใช้คำที่ค่อนข้างแรงมากๆ ในการสื่อสารกับฉัน ฉันดีใจ : ที่ในที่สุดก็ยอมบอกฉันซะที ว่าเขาคิดยังไง ไม่ใช่นิ่งเงียบอยู่แบบนั้น และฉันเสียใจ : เพราะในที่สุด เขาตัดสินใจหยุดความสัมพันธ์กับฉัน เพราะเขาเสียความรู้สึกกับฉันมากๆ ที่ไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเขา ทั้งๆที่เขาไม่ต้องการ แถมยังเดาความคิดเขาผิดอีก T_T ฉัน ณ ตอนนั้น ดูไร้ค่า สำหรับเขามาก เขาไม่ยอมให้อภัยฉัน และ คิดที่จะ จบกันแค่นั้น ฉันเครียดเสียใจ ฉันบอกเขาไปแล้วว่า ถ้าเขาต้องการแบบนั้น ฉันก็จะเคารพการตัดสินใจของเค้า ฉันทำได้แค่ไปโพสต์บ่นใน wall ของฉัน เพื่อนๆเป็นห่วง ต่างมาให้กำลังใจ คนที่ห่วงฉันมากที่สุดคือแม่ (แม่เล่น facebook ด้วย) แม่แชทกับฉัน ณ ตอนนั้นเลย ฉันส่งข้อความที่เค้าพิมพ์มาทั้งหมดให้แม่อ่าน แม่ก็ให้กำลังใจฉัน และขอให้ฉันอยู่เฉยๆ อย่าไปใส่ใจคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา ฉันบอกว่า ฉันจะเชื่อแม่ โดยการอยู่เฉยๆ ฉันขอยกคำพูดที่แม่โพสต์ลงบน wall ของฉัน มาสักนิด แม่ : คนๆนั้นเปรียบไปก็เหมือนไก่ได้พลอย ย่อมไม่รู้ถึงคุณค่าของพลอยนั้น ที่ดีที่สุด ให้แม่ดีกว่าจ้ะ เพราะแม่คือคนที่แคร์ความรู้สึกของลูกเสมอ ขอเพียงลูกมีความสุขแม่ก็สุขใจแล้ว ฉัน : แม่คะ จ้าเป็นได้แค่พลอยอ่ะค่ะ แต่คนๆนั้นเค้าเคยบอกว่าเค้าต้องการเพชร ซึ่งจ้าคงไม่มีวันเป็นเพชรในใจของเค้าได้หรอกค่ะ T_T แม่ : แม่เพียงแต่เปรียบให้เห็นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจ้าเป็นได้แค่พลอย จ้าอาจเป็นเพชรสำหรับอีกคนที่รู้ค่าของจ้า แต่สำหรับแม่จ้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของแม่เป็นยิ่งกว่าเพชร..หรือโคตรเพชร เพราะถ้าให้เลือกระหว่างจ้ากับโคตรเพชรแม่ก็ขอเลือกจ้า..โคตรเพชรไม่มีความสำคัญหรอมีความหมายใดๆสำหรับแม่เลย ถ้าอ่านข้อความต่อไปนี้จ้าจะเข้าใจ ...สองคนยลตรงช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย...จ้า 100 คนก็ไม่อาจเป็นแสงสว่างให้กับใจที่มืดสนิทของคนๆนั้นหรอกจ้ะ คำพูดของแม่ ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้นมาทันที ไม่ว่าลูกสาวคนนี้จะเสียใจเพราะใคร เพราะเหตุผลใด แม่ก็เป็นคนที่เข้าใจฉันที่สุด แม่ไม่เคยตำหนิถึงความรู้สึกของฉันที่มีต่อคนที่ยังไม่เคยพบกันจริงๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ทำให้รู้ว่า ในโลกนี้ ถึงใครจะไม่เห็นความสำคัญกับเรา แต่แม่ก็ยังรักเราอยู่ตลอดเวลาค่ะ T_T 28 ก.ค. 54 ฉันตัดสินใจเขียนบันทึกหนึ่งใน facebook แล้ว tag ให้เขา เพื่อที่จะให้เขาอ่านความรู้สึกของฉัน มันเป็นความพยายามครั้งสุดท้าย ที่ฉันจะบรรยายความรู้สึกให้เขารู้ และฉันก็ตั้งใจว่าหลังจากนั้น ฉันจะไม่ส่งข้อความหาเขาอีกเลย 1 ส.ค. 54 และแล้ว ความอดทนของฉันก็ส่งผล .... เวลาประมาณตี 2 เค้าทักเข้ามาว่า “ยังไม่นอนอีกหรอ“ ความรู้สึกตอนนั้น มันแบบบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆนะ ฉันดีใจมากๆ แต่ก็แอบยังไม่วางใจ ว่าจะมาว่าอะไรฉันอีกหรือเปล่า ก็เลยตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” จากนั้น เขาก็ ขอโทษฉัน ที่พูดจาแรงเกินไป เขาพยายามอธิบายถึงตัวตนของเค้า และบอกว่าเค้าเองคงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกปัจจุบันให้มากกว่านี้ ฉันดีใจมากๆๆ ความรู้สึกตอนนั้น คือ โลกสว่างสดใส ทันตาเห็น ขึ้นมาจริงๆ ฉันไม่เคยโกรธเขาเลยนะ ฉันรอวันนี้มาตลอด เกือบ 1 อาทิตย์ ฉันไม่รู้ว่าเขานึกยังไง ถึงกลับมาทักฉัน ฉันไม่กล้าถาม และในช่วงแรกของการกลับมาคุยกัน ฉันเองก็ยังหวั่น ๆ ไม่รู้ว่าจะเจอแบบนั้นอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าจะไปพลาดทำให้เขาไม่พอใจอีกตอนไหน แต่ก็ยอมรับว่า เขาดีกับฉันขึ้นมากๆ เปิดใจมากขึ้น มาทักฉันก่อนตลอด ฉันก็หวังว่า ฉันจะสามารถรักษาความสัมพันธ์นี้ไปได้นานๆ แต่เรา 2คน มีลักษณะนิสัย แนวคิด การศึกษา และความเป็นอยู่ ค่อนข้างต่างกันพอควรเลย ถ้าวันใดเราจะต้องเกิดเหตุไม่เข้าใจกันอีก มันก็คงไม่แปลก แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก คราวนี้ ฉันคงจะถอดใจจริงๆแล้วหละ (ตอนนี้ก็เริ่มๆลงๆมาบ้างแล้ว) และ สิ่งที่เรียนรู้หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้คือ"แม่" คือคนที่รักและเห็นคุณค่าของฉันมากที่สุด แม้ฉันจะไม่สามารถเป็น"เพชร" ในใจของใครได้ แต่ก็มีค่ามากกว่า "โคตรเพชร"ในสายตาของแม่เสมอ... “ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ อยากบอกว่า ขอบคุณ แม่ จริงๆค่ะ ที่คอยอยู่เคียงข้าง ให้กำลังใจลูกสาวคนนี้เสมอมา “รักแม่นะคะ”
Create Date : 15 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 23:29:38 น. |
|
6 comments
|
Counter : 857 Pageviews. |
|
|
และมีความแท้ที่ยิ่งใหญ่มอบให้เราตลอดเวลา