|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
โอเชี่ยนปาร์ค ฮ่องกง และ เรื่องฮา ๆ ของสากกระเบือ
พลนึกบ่น ๆ กับตัวเองมานานแล้วว่า ทำไมไม่เขียนบล็อกเรื่องไปเที่ยวฮ่องกงให้จบ ๆ สะทีวะ เคยไหมอ่านหนังสือทั้งหนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสารต่าง ๆ แล้วเห็นข่าวที่มันเกิดขึ้นนานแล้ว แต่ทำไมเค้าถึงเพิ่งเอามาลงข่าว(วะ) พลนะเป็นบ่อยมาก ถามตัวเองบ่อย ๆ ว่าหนังสือพวกนี้เค้าทำไมไม่ลงข่าวอะไรที่มันอัพเดทหน่อยฟะ ลงแต่อะไรที่มันเก่าแล้ว อย่างเช่น นิตยสารฉบับนึงเป็นฉบับประจำเดือนพฤษจิกายน แต่เพิ่งลงข่าวที่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม หรือ กันยายนโน่นนนน แหม อ่านทีไร อารมณ์เสียทุกที
อะ ๆ อย่ามัวแต่ว่าตัวเองมากเลยน้อ มาต่อเรื่องเที่ยวฮ่องกงกันดีกว่า ใครใคร่อ่านก็อ่าน ใคร่ดูก็ดู ไม่ใคร่อ่านไม่ใคร่ดู ก็ผ่านไปจ้า ไม่ว่ากัน
วันก่อนที่จะไปเที่ยวสวนสนุกเนี่ย พลได้มีโอกาสคุยกะป้าเดซี่ว่าไม่รู้จะไปไหนดี ระหว่าง ดิสนีย์แลนด์ กับ โอเชี่ยนปาร์ค ป้าเดซี่เธอก็ว่า เราคนไทยต้องไปนี่เลย ดิสนีย์แลนด์ เวลาไปเมาท์กะใครเค้าก็จะได้ ไปเที่ยวมาแล้วหรอ ดิสนีย์แลนด์ แถมใกล้ ๆ ดิสนีย์แลนด์มี เอาท์เลต เสื้อผ้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ให้ได้ช็อบปิ้งอีกต่างหาก
ฟากพี่สาว กับ พี่เขยของคุณคำรณ เธอก็ว่าไปโอเชี่ยนปาร์คดีกว่า ดิสนีย์แลนด์นะหรอ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไรหรอก เพราะมันเล็ก โอเชี่ยนปาร์คดีกว่าเห็น ๆ อยู่ใกล้บ้านอีกต่างหาก
และหลังจากช่วงเวลาลำบากใจในการตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนดีนี่เองได้ผ่านพ้นไปแล้ว เราสองคน พล กับ คุณคำรณ ก็ลงมติเป็นเอกฉันท์กันว่า เราจะไปโอเชี่ยนปาร์ค ใกล้บ้าน แถม เค้าว่ากันว่า (ใครวะ) ดีกว่า ดิสนีย์แลนด์อีกต่างหาก งั้นก็ลองดูละกัน
วันที่เราไปเที่ยวกันนั้น เป็นวันธรรมดา น่าจะอังคารหรือไงนี่แหละ จำไม่ค่อยได้แล้ว ก็คิดว่าคนคงไม่เยอะ ที่ไหนได้ คนเค้าแห่กันมาเที่ยวเหมือนเค้าแจกบัตรฟรี หลังจากต่อแถวซื้อบัตรกันแล้ว (ราคาประมาณ 300 กว่าเหรียญฮ่องกงดอลลาห์) ก็เข้าไปเที่ยวข้างในกันเลย แต่ก่อนเข้าขอถ่ายรูปนิดนึงงงง
เสร็จแล้วก็มา เข้าไปข้างในกัน มองซ้ายมองขวา พร้อมกับมองแผนที่ที่เจ้าหน้าที่ให้มา ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี เพราะมันกว้างเหมือนกันนะเนี่ย มองหน้ากันอีกที เอ้า เริ่มจากไปดูน้องหมีแพนด้าก่อนละกันน้อ เห็นตุ๊กตาน้องหมีเค้าใหญ่ตระหง่านสะขนาดนั้น แหม มันอยากดูสะจริง ๆ
พอเข้าไปถึงส่วนที่เค้าจับน้องหมีมาใส่ห้องกระจกไว้แล้ว พลก็พยายามที่จะถ่ายรูปน้องหมีให้ได้ กว่าจะได้ แหม ต้องรอคิวนานสะเหลือเกิน เพราะมีแต่คนอยากถ่ายรูปน้องหมี (เคยเห็นน้องหมีทีนึงแล้ว ที่เชียงใหม่ ตอนนั้นคนเยอะมากกกกกกกก แต่ก็ยังติดใจในความน่ารักของน้องหมีเค้า) รูปแรกน้องหมีเห็นของกินวางอยู่ใกล้ ๆ แต่คงกำลังคิดอยู่ว่ามันกินได้หรือเปล่าว้า
อะ ๆ ไหนลองกินหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง ก็หมีอยากกินอะ
ส่วนน้องหมีอีกตัวนึง เธอสบายอุรากับใบไผ่มาก อ้าซ้าเปิดเผยสะไม่มี ถ้าไม่มีใบไผ่มาปิดนะ หม๊ดกันเล๊ย
อันนี้แพนด้าเหมือนกัน แต่เป็นแพนด้าแดง ตัวน้อยกว่าแพนด้าที่เรา ๆ รู้จักกันเยอะเลยนะ แต่น่ารักเหมือนกัน แถมเดินเร็วปรู๊ดปร๊าดดดดสะไม่มี
เสร็จจากดูหมีแล้ว เราก็เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ เริ่มจากส่วนแสดงพันธุ์ปลาต่าง ๆ แต่โซนนี้พลว่ามันพื้น ๆ เกินไป ไม่มีอะไรน่าติดใจ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน พอออกมาจากโซนนี้ ก็เจอ เพื่อนร่วมอุดมการณ์รุ่นเยาว์ น่ารักกันจริง ๆ
เดินมาอีกหน่อยเราก็มาเจอโซนนี้เข้า Whiskers Harbour เป็นโซนการแสดงของแมวน้ำ แต่ดันโชคไม่ดี รอบต่อไปที่จะแสดง รอนานมาก เลยต้องตัดใจ เดิน ๆ ดูอย่างเดียว
เห็นคุณม้าลาย กับคุณแพะนั่งชมผู้คนอยู่ เลยขอไปกระแซะด้วยสะหน่อย
เดินมาอีกหน่อย เจอคนขอถ่ายรูปด้วย อ๊ายยย ประหนึ่งว่าพลเป็นคนดัง ดังเหมือนประทัด คือได้ยินได้เห็นแล้วอารมณ์จะเสียอย่างแรง
เดินดูข้างล่างกำลังจะทั่วแล้ว ฝนดันตกลงมาหยุมหยิม ๆ เลยคุยกันว่า ขึ้นไปหาเครื่องเล่นข้างบนอีกฟากของภูเขากันดีกว่า ว่าแล้วเราก็จัดแจงไปต่อคิวขึ้นกระเช้า ไปอีกฟากนึงของภูเขา (โอเชี่ยนปาร์คตั้งอยู่ริมทะเลส่วนหนึ่ง) แต่คนกลัวความสูงอย่างพล และ คุณคำรณนั้น มอง ๆ ดูกระเช้าและความสูงแล้ว ก็ได้แต่ปลอบใจกันเองว่า เอาน่าไม่มีไรหรอก คนเค้าขึ้นกันเยอะแยะ
รูปร่างของกระเช้าจะหน้าตาประมาณรูปข้างบนนั่นแหละ ออกจะแข็งแรง ไม่รู้จะกลัวอะไร กระเช้านึงจะนั่งได้ประมาณ 6 คน แต่กระเช้าเราขึ้นกันแค่สองคนเท่านั้น (ก็มากันแค่สองคนอะน้อ ไม่มีใครเค้าอยากนั่งด้วยหรอก ) พอขึ้นไปแล้ว กระเช้าเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใจก็เริ่มสั่น แต่มือก็ไม่ยอมหยุดถ่ายรูป เริ่มแรกก็นี่เลย บอลลูนสีสันสดใส เห็นแล้วแหม มันอยากได้เอาไว้ที่บ้านสักลูกนึง มีหลายขนาดต่างกันไป (เห็นบอลลูนแล้วนึกถึงปกหนังสือเรื่อง "80 วันรอบโลก" ที่เคยอ่านตอนเด็กจริง ๆ ใครพอจำได้บ้างไหมอะ)
พอสูงขึ้นเรื่อย ๆ วิวก็แปลกตาไปเรื่อย ๆ ได้เห็นฮ่องกงในอีกมุมนึง
หันไปมองกระเช้าข้างหลังอีกที หัวใจจะวายตาย ไมมันสูงอย่างนี้
หลังจากขึ้นไปถึงบนเขาอีกฟากนึงด้วยอาการใจหายใจคว่ำกันแล้ว เราก็จัดการเดินหาเครื่องเล่นต่อทันที แต่ดันไปเจอส่วนแสดงสัตว์น้ำก่อนอย่างอื่น เราเลยต่อแถวแบบเนียน ๆ ไปกะเค้าแต่ระหว่างรออยู่นั้น สายตาดันไปเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์รุ่นเยาว์กลุ่มเดิม แต่คราวนี้ความเยาว์วัยมีประโยชน์สุด ๆ เพราะเค้าเหล่านั้น ไม่ต้องยืนต่อคิวตากแดดตากลมเหมือนพวกพล เดินผ่านกันไปเฉย ๆ และคงจะคิดในใจว่า "พวกหนูเป็นเด็ก ยังไม่เคยเห็น ขอให้หนูไปกันก่อนเหอะ"
พอพลได้เข้าไปแล้ว ก็ยังรู้สึกเฉย ๆ กับส่วนแสดงสัตว์น้ำส่วนนี้นะ มันไม่ได้อลังการงานสร้างเท่าไร เพียงแค่สร้างบ่อใหญ่ ๆ ให้ปลาชนิดต่าง ๆ ได้อยู่ร่วมกัน ในความสูงประมาณตึกสามชั้น คนดูก็เดินจากชั้นสูงสูด ลงไปชั้นล่างกัน แค่นั้นเอง แต่ที่ติดใจนะ คืออันนี้ เห็นว่ามันสวยดี
ส่วนปลาดาวตัวนี้ ถ้าอยู่แถวปักกิ่งนะ โดนจับไปปิ้งขายแถว วังฟูจิงแล้วเนี่ย (ไม่รู้ว่าแถวฮ่องกงเค้ากินปลาดาวกันไหม แต่ปักกิ่งนะ กินแน่ ๆ )
ปิดท้ายกันที่ปลาฉลามตัวนี้ ตัวที่พลไม่เคยเห็นเค้ากระดุกกระดิกอะไรสักนิดเลยนะ ยืนรอดูอยู่ตั้งนาน พี่แกเอาแต่นอน สงสัยเมื่อคืนดูละครดึกไปมั้ง วันนี้เลยตื่นสายมากกกกกกกก
พอออกมาพลก็เห็นเจ้าเครื่องเล่นอันนี้ เค้าเรียกว่าอะไรอะ ที่มันเหวี่ยง ๆ อะ แค่เห็นก็แหม มันชวนมึนหัวจริง ๆ แค่เห็นเด็ก ๆ เค้าเล่นกัน ยังกรี๊ดกันสุดฤทธิ์ วัยรุ่นตอนปลายอย่างพลเลยได้แต่ยืนมองดูตาปริบ ๆ ไม่กล้าเสี่ยง เพิ่งรอดตายมาจากความสูงของกระเช้า ยังอยากเล่นเครื่องเล่นอื่นต่อจ้า
เดินมาอีกหน่อย ก็มาเจอสิ่งที่อยากเล่นมากก คือรถไฟตีลังกา คือตอนที่อยากเล่นนะ ไม่รู้ไงว่านรกมันมีจริง คุณคำรณนี่เธอโบกมือบ๊าย บายก่อนเลยนะ เธอว่า กลัวหัวใจวาย แต่กระเหรี่ยงหน้าดำอย่างพลมันไม่เจียมสังขาร คิดว่าขำ ๆ จะอะไรกันนักหนา ตัดสินใจ เล่นคนเดียว ไปยืนต่อคิวอยู่คนเดียว คุณคำรณเธอเลยไปหาที่ตั้งหลักยืนรออยู่ห่าง ๆ รูปถ่ายเลยไม่มีให้ดู แต่ถ้าดูจากรูปข้างล่าง จะเห็นรางรถไฟอยู่ติดริมทะเล อันนั้นนะแหละ แหม นึกแล้วยังติดใจ ของเค้าดีจริง ๆ
เล่นเสร็จลงมา คุณ ๆ เอ๊ยยยย ขาอ่อน อยากจะอ๊วกออกมาสะให้ได้ พะอืดพะอม แหม ของเค้าดีจริง ๆ ใครหัวใจไม่แข็งแรง อย่าได้เล่นเด็ดขาดเชียว พลนะแหกปากสะสุดฤทธิ์ น้องผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ พล ยังกรี๊ดเบากว่าพลเลย คิดดูเหอะ
หลังจากนั้น เราก็คิด ๆ กันว่าจะไปเล่นอะไรกันต่อดีกว่า สายตาดันไปเห็นป้ายแสดงเวลาโชว์ของ โลมา เลยรีบเดินไปกันแย่เลย เห็นอยู่ใกล้ ๆ ตา แต่แหม ความที่โซนนี้มันอยู่บนภูเขาอะน้อ กว่าจะเดินไปถึงโซนโชว์โลมา เล่นเอาเดินกันหนื่อยเลย
พอไปถึงเค้าก็เริ่มโชว์กันพอดีเลย จับจองที่นั่งกลางแดดได้แล้ว (โดยไม่ได้เจียนสังขารเลยว่าตัวเองนะดำจะแย่อยู่แล้ว ) ก็เริ่มอู้อ้าโอ้ว กับการแสดงของโลมา และ แมวน้ำ เริ่มที่แมวน้ำกันก่อนเลย น่ารักจริง ๆ เลยนะ อยากเล่นกับแมวน้ำจริง ๆ
แล้วก็มาต่อที่การแสดงของ โลมา การแสดงวันนั้น เค้ามีการประกาศหาอาสาสมัครไปร่วมโชว์กะโลมา และ แมวน้ำสะด้วย ตอนนั้นด้วยความซื่อ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เห็นสาวนางนึงเธออาสาออกไปร่วมแจม แต่เล่นไปเล่นมา เธอทำเป็นกลัวแมวน้ำจนตกน้ำไป พลนะตกใจแย่เลย นึกว่าเรื่องจริง และแล้ว โลมาน้อยก็มาช่วยคนตกน้ำไปได้ ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนดู ส่วนแมวน้ำนะหรอ ก็ตกเป็นจำเลยไป อดกินปลาไป แมวน้ำคงคิดอะน้อ ว่าคนหนอคน ช่างทำกันได้
เสร็จจากการดูการแสดงโลมาแล้ว เราก็มุ่งหน้าหาเครื่องเล่นกันต่อ จะเล่นอะไรดีนา เดิน ๆ ไปจนมาเจอล่องแก่งเข้าให้ คุณคำรณเห็นว่าไม่โลดโผนเท่าไร เอาสิวะ เล่นสะหน่อย ซึ่งจริง ๆ ล่องแก่งเนี่ย พลว่ามันก็ไม่น่ากลัวอะไรเท่าไรจริง ๆ นะ ยืนรอต่อคิวสักเกือบยี่สิบนาที ร้อนก็ร้อน พอถึงคิวเล่นจริง ๆ แป็บเดียวจบแล้ว ใครเคยเล่นคงรู้อะ ว่ามันจะมีช่วงน่ากลัวอยู่หน่อยเดียว ตอนที่มันดิ่งลงมาจากเนินลงในน้ำ ให้น้ำกระจายแค่นั้นเอง (แต่ความรู้สึกตอนนั้น มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ พลนั่งหน้าสะด้วยสิ) พลนะไม่เท่าไร แต่คุณคำรณนะ มีอาการดังนี้เลยนะ
ตอนรอต่อคิวเล่นล่องแก่งอยู่เนี่ย ตาดันไปมองดูเครื่องเล่นข้าง ๆ กะว่าเล่นอันนี้เสร็จจะไปต่อ แต่พอเล่นเสร็จก็ดูสภาพผู้ร่วมทริปละกัน ว่าทำไมไม่ได้เล่น
ขากลับ คิดว่าคงจะไม่มีไรน่าตื่นเต้นแล้ว แต่ก็ยังมีอะไรให้แวะดูได้เรื่อย ๆ นะ เช่นส่วนแสดงนกตัวน้อยตัวนิด ไหนจะนกฟลามิงโก้เอย ไหนจะส่วนแสดงไดโนเสาร์เอย ถ้าเป็นเด็ก ๆ คงจะสนุกมากกว่านี้อะน้อ แต่ด้วยว่าเรื่องไดโนเสาร์กะพลมันเป็นอะไรที่เฉย ๆ กันมาก มีก็แต่คุณคำรณนะแหละ จ้างร้อยนึงให้ทำท่ากลัวไดโนเสาร์ พี่แกเล่นให้สะหมื่นนึงเลย กลัวไดโนเสาร์สะหน้ายับเลย
กำลังเดินกลับไปขึ้นกระเช้ากันแล้ว ตาดันไปเห็นรถไฟเหาะอีกขบวนนึงดูไม่น่ากลัวเท่าไร คราวนี้คุณคำรณเธอขอแจมด้วย ผลหรอ เป็นไงละ ใครว่าไม่น่ากลัว จำไว้เลยนะ ว่ามันน่ากลัวเจง ๆ
เป็นอันว่าวันนั้น ความสนุกที่ได้รับ คุ้มค่าราคาตั๋วจริง ๆ ติอยู่หน่อยที่มันร้อนมากกกกกกกก นี่แหละ นอกนั้นก็โอหมดทุกอย่าง แนะนำว่าถ้าใครที่ชอบเที่ยวสวนสนุก และมีโอกาสไปฮ่องกง นอกจากดิสนีย์แลนด์แล้ว พลก็แนะนำ โอเชี่ยนปาร์คนี่แหละ ของเค้าดีจริง
ส่วนวันก่อนกลับ อย่างที่ป้าเดซี่ได้แนะนำพลไว้ว่าให้นั่งรถไฟไปช็อบปิ้งที่สถานี Tung Chung ป้าเดซี่เค้าว่ามีแบรนด์ดัง ๆ เยอะ พลก็เลยลองไปสะหน่อย
พอไปถึงก็ตื่นตาตื่นใจน่าดู ร้านค้ามากมายหลายหลาก แต่ที่เค้ามีก็ไม่ชอบ ที่ชอบก็แพงเกินไป แทบจะไม่ได้ซื้อไรติดมือมาเลย แต่พอจะกลับ ดันไปเจอช็อปของ Calvin Klein Jeans เลยไปสอยเสื้อเชิ้ตมาสองตัว ผ้าพันคอผืนนึง แล้วก็หมวกสำหรับหน้าหนาวมาอีกใบ ราคาก็ลด 50% (แต่พลว่าก็ยังแพงอยู่ดีนะ) แต่แหม ไหน ๆ มาฮ่องกงแล้วช็อบแค่นี้ก็เหมือนจะกระไรอยู่ รบเร้าให้คุณคำรณพาไปช็อบปิ้งที่ตลาดอื่นอีกมีไหม เธอก็ไม่อยากจะไปเท่าไรหรอก แต่คงเห็นว่าเป็นวันสุดท้ายแล้ว เธอเลยพาไปที่ Stanley Market อีกที่นึง ขอบอกว่านั่งรถข้ามเกาะเลยมั้ง ไกลมากกก (อย่าถามนะว่าอยู่พิกัดไหนของฮ่องกง คนฮ่องกงอย่างป้าเดซี่ และอาจิมคงรู้จัก ไปถามเองละกันเน้อ) แต่บรรยากาศที่ Stanley แตกต่างจากที่ Tung Chung เห็น ๆ เลยนะ เพราะที่ Tung Chung เป็นห้างสรรพสินค้า มีแอร์เย็น ๆ แต่ที่ Stanley จะคล้าย ๆ ตลาดนัดบ้านเรา จำพวกจตุจักร อะไรประมาณนั้น ได้อารมณ์บ้าน ๆ มาก
เดินไปเจอรานดอกไม้น่ารัก ๆ อยู่ร้านนึง เห็นแล้วอยากถ่ายรูปเก็บไว้ดู เลยเอาสะหน่อย แต่พอเดินไปอีกฟากนึงของร้าน เจอป้ายอันนึงเข้า แต่ก็สายไปแล้ว
ก่อนกลับเห็นตึกอยู่หลังนึง ชอบจังเลยอะ ไม่รู้ทำไม
วันก่อนสุดท้าย เป็นอันว่าจบกันที่ Stanley Market กันนี่แหละ แต่ไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่างเลยนะ ไม่มีอะไรทำให้อยากซื้อได้เลย แต่ก็ใช้ได้ เดินเล่นสบาย ๆ สนุกดี
วันสุดท้าย ก่อนกลับปักกิ่ง ระหว่างนั่งรถแท็กซี่ไปสถานีรถไฟ สายตาไปเห็นป้ายร้านนี้เข้า น้ำลายนี่ไหลมาเป็นทาง ป้าเดซี่รู้จักหรือเปล่าป้า ว่ามันอยู่แถวไหน อร่อยหรือเปล่า ถ้ายังไม่รู้ ก็ไปชิมแล้วมาเล่าให้ฟังหน่อยนะ ว่าอร่อยหรือเปล่า
พอไปถึงสถานีรถไฟฮ่องกงแล้ว พวกเราก็เช็คอินทันที พลก็ได้แต่คิดในใจว่าแหม มันช่างสะดวกสบายจริง ๆ ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าไปสนามบินให้วุ่นวาย พร้อมกับแบกครกกับสากกระเบือลั้ลลานั่งรถไฟไปสนามบินต่อ กะว่าจะหิ้วขึ้นเครื่องชิล ๆ
ครกกะสากกระเบือนะ แพ็คอย่างดี ไม่กล้าเอาใส่กระเป๋าใบใหญ่โหลดใต้ท้องเครื่อง เพราะกลัวว่าเค้าจะโยนกระเป๋าทำให้ครกแตก ส่วนสากกระเบือนะ ก็ไม่อยากพรากจากครก กลัวจะเป็นบาป ไปพรากคนรักเค้าจากกัน โดยหารู้ไม่ว่าอีกชั่วโมงนึงข้างหน้า กำลังจะมีเรื่องวุ่นวายขำขันรอท่าอยู่
ไปถึงสนามบินก็ยังอุตสาห์ไปแอ็คท่าถ่ายรูปกันสะอีกนะ กลัวเค้าไม่รู้ว่ามาถึงฮ่องกงแล้ว เสร๊อเสร่อน้อ
คุณคำรณนะ เธอดีใจจะได้กลับบ้าน
และแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องลาฮ่องกงกันสะที แต่ปัญหามันก็ดันมาเกิดอีตอนที่พลต้องเอ็กซเรย์กระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่องนี่แหละ เจ้าหน้าที่เค้าเห็นว่ามีอะไร เป็นดุ้น ๆ อยู่ในกระเป๋า เลยเรียกให้พลเปิดกระเป๋าให้ดู
พลนะรู้อยู่แล้วไงว่ามันคืออะไร พอเปิดกระเป๋าปุ๊บก็แกะห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ห่อสากกระเบือส่งให้เจ้าหน้าที่ดู อีเจ้าหน้าที่ผู้ชายนั่นพอเห็นว่าเป็นสากกระเบือ มันอมยิ้มที่มุมปากทันที พร้อมกับเดินไปที่เจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ โชว์สากกระเบือไทยที่ระเบือไกลใปทั่วโลกให้เพื่อนดูทันที พร้อมกับหัวเราะออกมา ห่าจิก หัวเราะกะกรูก็ได้ กรูก็ขำ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็มาบอกพลว่า พลไม่สามารถนำสากกระเบือขึ้นเครื่องได้ ต้องนำไปโหลดใส่ใต้ท้องเครื่องบิน เพราะกลัวว่าพลอาจจะคลุ้มคลั่ง ควงสากกระเบือไล่ตีหัวชาวบ้านได้ ตอนนั้นก็แบบเฮ่ย ยุ่งยากอะ กระเป๋าก็เช็คอินไปแล้ว เวลาก็จวนเจียน ไม่อยากออกไปเลย แต่จะให้ทิ้งสากกระเบือก็ใช่ที่ กลัวน้องครกจะเป็นหม้าย ก็เลยต้องจำใจวิ่งออกไปที่เคาเตอร์เช็กอินเพื่อ พี่สากกระเบือกะน้องครก
พอไปถึงเคาเตอร์ อารามด้วยความรีบร้อน พลก็ยื่นสากกระเบือภายในห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ให้เจ้าหน้าที่ทันที พร้อมกับชี้แจงว่า ฉันเอาพี่สากขึ้นเครื่องไปกะฉันำไม่ได้ ช่วยโหลดพี่สากไปไว้ใต้ท้องเครื่องเพื่อที่ไปเจอน้องครกที่ปักกิ่งจะได้ไหม
ใบหน้าของเจ้าหน้าที่สาวตอนนั้น ก็คงตกใจไม่แพ้พลเท่าไร ว่าอีบ้านี่ มันเอาอะไรเป็นบ้อง ๆ มายื่นใส่หน้ากรูวะ แล้วเธอก็บรรจงจีบปากบอกพลว่า "คุณจะยื่นพี่สากกระเบือมาให้ดิฉันในสภาพอย่างนี้ไม่ได้นะค่ะ ต้องหาหีบห่อใส่มาบรรจุให้เรียบร้อยกว่านี้ แล้วดิฉันจะจัดการส่งพี่สากไปพบกับน้องครกให้คุณที่ปักกิ่งนะคะ" ได้ยินแล้วก็ขำอีกรอบ ห่าจิกเอ๊ย กรูทำไมฟายอย่างนี้ ไปยื่นสากกระเบือใส่หน้าเค้าอย่างนั้นได้ไง
สุดท้ายเรื่อวุ่นวายทั้งหลายก็ผ่านพ้นไปด้วยดี พี่ครกกะน้องสากก็ได้มาครองคู่อยู่ด้วยกันที่ปักกิ่งจนถึงทุกวันนี้ แฮ็บปี้ทั้งคน ทั้งครกและสากกระเบือจ้า
ทริปฮ่องกงของพลก็จบด้วยประการฉะนี้ละจ้า
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2552 22:05:59 น. |
|
53 comments
|
Counter : 2536 Pageviews. |
|
|
|
โดย: noomod IP: 68.68.107.28 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:36:45 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:06:42 น. |
|
|
|
โดย: A'Jim วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:00:37 น. |
|
|
|
โดย: 309 IP: 221.222.234.133 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:28:35 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:01:38 น. |
|
|
|
โดย: kea (kearaly ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:27:27 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:55:14 น. |
|
|
|
โดย: ขาวอวบ IP: 117.47.137.43 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:33:11 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:28:57 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:30:29 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:52:22 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:56:10 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:58:10 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:53:04 น. |
|
|
|
โดย: Bananarumba วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:05:46 น. |
|
|
|
โดย: naydin วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:24:47 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:10:14 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:11:20 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:06:56 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:30:27 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:24:30 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:2:17:39 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:10:59:07 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:13:59:52 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:22:46:54 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:12:48:05 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:23:51:50 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:12:19:40 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:13:31:42 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:23:32:52 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:2:44:02 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:11:53:00 น. |
|
|
|
โดย: รัชชึ่ (รัชชี่ ) วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:21:35:02 น. |
|
|
|
โดย: A'Jim วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:23:04:00 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:23:16:31 น. |
|
|
|
โดย: aoiobake วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:8:37:59 น. |
|
|
|
โดย: kea (kearaly ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:13:06:55 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:13:25:08 น. |
|
|
|
โดย: Ta..Tae IP: 118.172.146.239 วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:22:25:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ช่วงพักระหว่างกะ อิอิ
ปล.สากกะครกนี่ฟังกี่รอบก็ขำ ฮาๆๆๆๆ
อยากไปฮ่องกงจังเล้ยยยยย