|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทำไงเวลาเพื่อนยืมเงินแสน
เรื่องนี้สด ๆ ร้อน ๆ กำลังไม่รู้จะทำยังไง เลยเอามาเล่าสู่กันฟังเผื่อใครเคยเจออย่างนี้จะได้แนะนำกันบ้าง ช่วยหน่อยเถ๊อะ
เรามีเพื่อนที่เคยสนิทอยู่คนนึง เป็นผู้หญิง ที่สนิทเพราะว่าเคยเรียนด้วยกัน ตอนปริญญาตรี แต่หลังจากที่เรียนจบตั้งแต่ปี 2543 ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร
เรียนจบประมาณสองสามปีเธอก็แจกการ์ดแต่งงาน เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนเธอสมัยเด็ก ๆ แต่ไปอยู่อเมริกาตั้งแต่ตอนจบ ม.3 ตอนที่เจอกันเนี่ย เจ้าบ่าวเธอมีสถานะเป็น พลเมืองของประเทศอเมริกาไปเต็มตัวแล้ว
หลังจากแต่งงานกัน เธอก็ย้ายไปอยู่อเมริกากับสามีของเธอ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย ลอสแอนเจลีส วันที่เธอไปเรายังจำได้ เพราะวันนั้นเป็นวันหยุดเรานอนตื่นสาย แต่ต้องตื่นเพราะว่าเสียงโทรศัพท์ ปรากฏว่าเป็นเพื่อนเรา เธอโทรมาลาบอกเราว่ากำลังจะขึ้นเครื่องไปอเมริกา
หลังจากนั้นก็มีการติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนเราโทรหาเรามากกว่า เพราะค่าโทรจากอเมริกามาเมืองไทย จะถูกกว่าเมืองไทยโทรไปอเมริกา ส่วนเราก็ได้แต่ส่ง sms ไปหาเธอบ้างตามโอกาสสำคัญ ๆ
ครั้งหลังสุดที่ได้เจอกัน ก็คือตอนที่เธอกลับเมืองไทย เมื่อปลายปี 2550 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2551 จากการพบกันครั้งนั้น เราได้พูดคุยกันเยอะแยะ เธอว่าอยู่ที่โน่นสะดวกสบายทุกอย่าง มีรถขับ แถมเธอยังหิ้วกระเป๋า หลุยวิตตอง ของแท้มาโชว์อีกแนะ บอกว่าเป็นของขวัญจากสามี และยังซื้อบ้านที่อเมริกาสองหลัง แถมกำลังซื้อที่ที่เมืองไทยอีกแปลงนึง ราคาประมาณล้านกว่า ๆ แต่ทุกอย่างคือผ่อนเอาน่ะ ไม่ว่าบ้าน หรือว่า ที่ดิน เราได้ฟังก็ยินดีกับเพื่อนด้วย ที่ประสบความสำเร็จระดับนึง
หลังจากที่เธอกลับอเมริกาตั้งแต่เมื่อต้นปี ข่าวคราวของเธอก็ค่อย ๆ เงียบไป ได้ข่าวว่าเธอโทรหาเพื่อนคนอื่นบ้างเป็นครั้งคราว
จนเมื่อปลายปีที่แล้ว อย่างที่ทั่วโลกรู้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกย่ำแย่แค่ไหน โดยเฉพาะอเมริกา ตอนได้ฟังข่าวนี้ก็คิดถึงเพื่อนคนนี้อยู่น่ะ ว่าเออเพื่อนจะเป็นไงบ้างว๊า
เหมือนเพื่อนรู้ความคิดเรา เธอโทรหาเราประมาณต้นเดือนธันวาคม เพื่อนบอกเราว่าตอนนี้ออกจากงานที่ทำอยู่แล้ว [เธอทำงานเป็นคนแจกไพ่อยู่ในบ่อน เงินเดือนน้อย แต่อาศัยว่าได้ทิปดี] เพราะว่าตอนนี้ท้อง และแพ้ท้องหนัก เลยทำให้ทำงานไม่ไหว และว่าบ้านที่ผ่อนอยู่สองหลัง จำใจต้องปล่อยไปหลังนึง เพราะส่งไม่ไหว แต่ก็ยังเล่าให้ฟังน่ะว่า ตอนทำงานกันสองคนผัวเมียก็มีเงินใช้สบายน่ะ ขับรถเบนซ์ แถมยังเคยพักโรงแรมที่ราคาต่อคืนอยู่ที่ 200 ดอลล่าห์
เราฟังแล้วก็เออ เพื่อนเราโชคดีเว้ย ได้ไปเที่ยวไหนต่อไหน แถมได้ขับรถเบนซ์ด้วย
แต่ เพื่อนเราดันตบท้ายว่า มีเงินให้ยืมไหม เราก็เฮ่ย กรูหูฝาดไปป่าวว่ะ ไหนเมื่อกี้มันยังเล่าถึงความสุขสบายอยู่เลย เราก็บอกว่า มีให้ก็ไม่มากน่ะหมื่นนึงคงจะได้ เพื่อนก็ถามว่า หมื่นบาทหรือหมื่นเหรียญ เอ๊า เอาเข้าไป กรูจะไปมีเงินมากไรขนาดนั้น ก็บอกเพื่อนไปว่าเงินที่มีอยู่เอาไปซื้อสลาก ธกส หมดแล้วมันถอนไม่ได้หรอก เพื่อนก็เออ ๆ ออ ๆ ไปว่าไม่เป็นไร หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
จนเมื่อวานนี้เพื่อนโทรมาหาเราตอนสาย ๆ คราวนี้ไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังจากที่ถามสารทุกข์สุขดิบกันแค่ไม่กี่คำ ทีนี้เพื่อนเราเอาเลยว่า จะขอยืมเงินหน่อยได้ไหม สลาก ธกส น่ะไปถอนมาได้ไหม เราก็เฮ่ย อะไรเนี่ย จะยืมเงินอีกแล้วหรอ แถมจะให้เราไปถอนสลาก ธกส ออกมาก่อนเวลาอีกแนะ เราก็บอกไปว่าไม่ได้หรอก มันยังไม่ถึงเวลาถอนไม่ได้ [จริง ๆ มันถอนได้น่ะ แต่เราจะขาดทุนเพราะว่าไม่ครบกำหนดฝาก] เธอก็เลยว่าพอจะหยิบยืมใครให้ได้บ้างไหม เราก็ว่าไม่รู้จะไปยืมใคร ตอนนี้ที่เมืองไทยก็แย่ ๆ กันทั้งนั้น ถามว่าจะเอาไปทำไม เธอก็ว่าจะเอาไปใช้หนี้ แต่เราก็ไม่ได้ถามต่อน่ะว่าหนี้อะไร ได้แต่คิดในใจว่าหนี้ไรว่ะ เยอะแท้
ปากพาจนก็ดันถามเธอต่อว่า จะเอามากไหมล่ะ เธอก็ถามกลับมาว่า หาให้ได้เท่าไรล่ะ เธอจะเอาเยอะ เป็นแสน เราก็โฮ ไรเนี่ย อุตส่าห์โทรมาจากอเมริกา มายืมเงินกรูเป็นแสน แล้วถ้ามีให้ยืม ถึงเวลาจะไปตามเก็บได้ที่ไหนล่ะเนี่ย เธอก็ว่าพอจะยืมใครให้ได้บ้างไหม เราก็ได้แต่บอกเธอไปว่าเออ เดี๋ยวจะลองถาม ๆ ดูให้ว่า ใครพอมีให้บ้าง เธอเลยบอกว่าเออ เดี๋ยวโทรหาใหม่น่ะ แล้วก็วางสายไปเลย
เรื่องมันก็ด้วยประการละฉะนี้ ตอนนี้เป็นโรคระแวงมาก กลัวเพื่อนโทรมาอีก ในชีวิตเราเนี่ยหลายครั้งมากเลยกับการให้คนอื่นยืมเงิน แล้วมันต้องมีปัญหากันในภายหลัง ตอนนี้ตั้งใจไว้เลยว่า ถ้าให้ใครยืมเงิน ถ้าเค้ายืมไม่มาก แล้วเกิดไม่คืน แต่เราไม่เดือนร้อนภายหลัง ก็ให้ยืมได้ แต่นี่เล่นยืมเป็นแสน แถมตัวไม่ได้อยู่เมืองไทย คนอยู่ใกล้ ๆ กันยืมไปไม่กี่หมื่น แล้วไม่คืน เรายังไม่มีปัญญาไปทำไรมันได้เลย แต่นี่อยู่ตั้งอเมริกา
ก็เลยอยากถามเพื่อน ๆ ว่า ถ้าเจอเพื่อนยืมเงินแสนอย่างนี้ ขนาดบอกไปแล้วว่าไม่มี ก็ยังให้ไปยืมคนอื่นให้อย่างนี้ คุณ ๆ จะทำยังไงกั๊น ช่วยบอกที
ก่อนจาก ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
Create Date : 07 มีนาคม 2552 |
Last Update : 29 มีนาคม 2552 11:37:37 น. |
|
41 comments
|
Counter : 1573 Pageviews. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:8:38:04 น. |
|
|
|
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:11:25:28 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:19:49:41 น. |
|
|
|
โดย: รัตนลาวัณย์ วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:21:31:11 น. |
|
|
|
โดย: ป้าแก่.. (elastigirl ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:12:44:22 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:14:25:07 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:14:27:39 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:14:37:38 น. |
|
|
|
โดย: รัตนลาวัณย์ วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:20:10:34 น. |
|
|
|
โดย: naydin วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:22:51:05 น. |
|
|
|
โดย: ป้าแก่ (elastigirl ) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:11:38:41 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:12:35:27 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:14:27:21 น. |
|
|
|
โดย: แมงแสบบบ (pongporc007 ) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:18:48:47 น. |
|
|
|
โดย: ColaGirl วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:23:01:55 น. |
|
|
|
โดย: แมงแสบบ (pongporc007 ) วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:23:16:19 น. |
|
|
|
โดย: Khun_Pitta วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:0:10:34 น. |
|
|
|
โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:2:28:51 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:13:26:30 น. |
|
|
|
โดย: pinkyrose วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:16:47:54 น. |
|
|
|
โดย: Book (pimsararn ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:5:39:41 น. |
|
|
|
โดย: รัตนลาวัณย์ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:7:36:50 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:12:04:09 น. |
|
|
|
โดย: ป้าแก่ (elastigirl ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:12:31:24 น. |
|
|
|
โดย: naydin วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:13:11:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องเงินเรื่องทองทำเสียเพื่อนมาแล้วมากมายนะครับ
ส่วนเรื่องหายืมให้ก็บอกว่า หาไม่ได้ ถ้าจะยืมต้องใช้หลักทรัพย์อ้างเหตุผลเถอะครับ ไม่งั้นจะมาสงสารตัวเองภายหลังนะครับ