พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
ใบเหลืองหรือแดง แถมลุ้นถึงยุบพรรค? 'พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา' ขอกรองผู้ว่าฯกทม.

ใบเหลืองหรือแดง แถมลุ้นถึงยุบพรรค? 'พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา' ขอกรองผู้ว่าฯกทม.


ลุ้นกันเต็มที่ในโค้งสุดท้าย สำหรับอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องประกาศรับร้องผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยช่วงที่ผ่านมาแสนจะหวือหวา เรื่องการทำหน้าที่  กับการรับข้อร้องเรียนมาพิจารณาเพื่อประกอบหลักฐานต่างๆ  ว่าเป็นเรื่องที่สุจริต โปร่งใส ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่  ด่านแรกชั้นต้นที่ต้องผ่านให้ได้ คือ กกต.กทม.ในการรับหน้าที่ดูแล โดยมี พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธาน กกต.กทม. เป็นกำแพงตะแกรงร่อน ตรวจสอบความถูกต้องในการเข้ามาสู่อำนาจบริหารของผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่อีกชั้นหนึ่ง

กระแส ที่ผ่านมาหลายเรื่องที่ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ทั้งบอกเอง  และการให้ข่าวจากที่ต่างๆ ถึงกระแสการทำหน้าที่คัดกรองผู้ว่าฯ กทม.  ทำให้หลายเรื่องยังมีข้อสงสัยและเป็นเรื่องที่สังคมอยากรู้ต่อการทำหน้าที่  วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ ได้ถือโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ และนั่งเคลียร์ปมข้อสงสัย  กับข่าวใหญ่ที่เคยเกริ่นออกมาก่อนหน้านี้ว่าอาจจะมีเหลืองหรือแดง....

สำหรับกระแสเรื่องการลาออกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นมาอย่างไร

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : คืออย่างนี้ พวกเราเรียนจบมหาวิทยาลัยเดียวกันทั้ง 3 คน  เมื่อเราทำงานใหญ่ไปสักงานหนึ่ง ก็จะผลัดเปลี่ยนกันให้คนอื่นมาเป็นบ้าง  คนแรกที่ผ่านมาก็ พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ รับงานการเลือกตั้ง ส.ส.  พอเสร็จก็เปลี่ยนให้ ดร.เครือทิพย์ ธีรานุรักษ์  พอเสร็จเป็นเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ผมก็มาเป็น  ก็จะถามว่าการเลือกตั้งผมจัดดีไหม? ดีกว่าเมื่อก่อน มีทุจริตไหม?  ก็ให้นายสุพจน์ ไพบูลย์ มาเป็นบ้าง เราคิดว่าช่วงนี้ไม่ได้มีอะไร  เราอยู่กันแบบพี่น้อง ตำแหน่งประธาน กกต.กทม.นั้น ไม่ได้ใหญ่โตอะไร  เราทำงานเป็นคณะก็หนึ่งเสียงเท่ากันทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ดีๆ เราจะเก่ง  ทุกอย่างต้องวินิจฉัยเป็นคณะและมติ ไม่มีความขัดแย้งกันเลย  ตอนประชุมอาจจะมีการทะเลาะกันได้ในเรื่องการเห็นต่างทางข้อกฎหมาย  ถ้าได้มติก็คือจบ

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกจากตำแหน่งเพื่อหวังจะไปลงสมัคร กกต.กลาง

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : คนที่พูดนั้นไม่รู้ข้อเท็จจริง กกต.กลางจะหมดวาระเดือนกันยายน  แต่ผมจะเปลี่ยนให้เขามาทำหน้าที่เดือนหน้าแล้ว เราคุยกันมานานแล้ว  ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาคุย การลง กกต.กลาง มีคนเสนอตัวแล้ว คือ นายอรรณพ  ลิขิตจิตถะ ต้องการจะลง เราก็สนับสนุนเขา  ตัวผมเองยังมีงานเป็นบอร์ดดาวเทียม เป็นบอร์ดสปาใน ก.สาธารณสุข  ผมไม่ได้ทำงานเฉพาะที่นี่ ผมยังมีงานที่ต้องทำในรัฐสภาของวุฒิสภา ข้อสำคัญ  คือ ตอนนี้ได้การทาบทามให้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ยังตัดสินใจอยู่  ตอนนี้ก็ขอคิดดูก่อนเพราะ กกต.เป็นงานที่มีเกียรติ  ยังไม่รู้ว่าจะชะลอได้มากแค่ไห

ข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องสำนวนเมื่อวันก่อนที่บอกว่าเป็นข่าวใหญ่ เพราะอะไร?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : คือมี 2  เรื่องที่เราสั่งให้ไปดำเนินการสอบสวนสืบสวนเพื่อตรวจสอบพิสูจน์ทราบว่า  มีการตรวจสอบการกระทำผิดในด้านกฎหมายเลือกตั้ง  ที่มีผลต่อตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครฯ  ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด หรือผู้สมัครผู้ว่าฯ  กทม.ที่ได้รับคะแนนเสียงรองลงมา มีผลต่อการทำให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี  โดยหมายความว่า คุณไม่สามารถที่จะสมัครรับเลือกตั้งได้เลยภายใน 1 ปี  และถ้าหากผู้ที่ได้รับเพิกถอนสิทธิ เป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเข้า  ก็จะไม่ได้รับตำแหน่ง ก็คือใบแดงนั่นเอง  เพราะฉะนั้นจะต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งในครั้งต่อไปด้วย

และวันก่อน  เราพิจารณาอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องเกี่ยวกับการร้องคัดค้านของ นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ เกี่ยวกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  ซึ่งเราเห็นว่าไม่ได้ร้องเกี่ยวกับผู้สมัครอย่างเดียว  แต่ร้องไปเกี่ยวกับพรรคการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นประเด็นสำคัญ

ส่วน รายของ พล.ต.อ.พงศพัศ เบอร์ 9 นั้น มีประเด็นที่ว่า  ร้องนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่า  กระทำการในฐานะหน้าที่รัฐแต่ให้คุณให้โทษกับผู้สมัครเบอร์ 9 ก็จะมีผลไปยัง  พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ด้วย ในกฎหมายว่ารู้เห็นเป็นใจ เนื่องจาก  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี  ถ้าหากการสอบสวนมีมูลนั้น อาจจะมีผลต่อการทำงานของท่าน  และอาจจะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งด้วย และกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  ถ้าเกิดสอบสวนไปแล้วมีผลว่า  คนที่เกี่ยวข้องกฎหมายพรรคการเมืองและระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น  เราต้องแจ้งข้อกล่าวหาด้วย  ซึ่งถ้าผู้บริหารพรรคการเมืองกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งนั้น  โทษคือยุบพรรค เพราะกฎหมายมีความเกี่ยวข้องกัน  มันจะเกี่ยวพันกับกฎหมายพรรคการเมืองข้อนี้ คือว่า  วิธีการปฏิบัติในการแจ้งข้อกล่าวหา สมมติว่า ถ้าเกิดมีการแจ้งข้อกล่าวหา  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อาจจะมีความผิดอยู่อย่างเดียว คือ ใบเหลืองหรือใบแดง

ตอนนี้การทำงานใน กกต.กทม.ในเรื่องการรับเรื่องร้องคัดค้านมีทั้งหมดกี่สำนวน?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : ถึงตอนนี้มีทั้งหมด 24 สำนวนแล้ว  แบ่งเป็นเรื่องที่เราไม่รับเป็นร้องคัดค้านไปแล้วทั้งหมด 12 สำนวน  ประเด็นที่ไม่รับเป็นเรื่องคัดค้านนั้น มีอยู่ 2 แบบ คือ 1  ผู้ร้องไม่ได้ร้องถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการร้องคัดค้าน 2  เป็นเรื่องที่ว่า ร้องมาแล้วหลักฐานที่ประกอบมากับคำร้องไม่สอดคล้องกัน  ไม่เพียงพอ เราก็ไม่รับเป็นเรื่องร้องคัดค้าน  ส่วนเรื่องที่เรารับเป็นเรื่องร้องคัดค้านก็กำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวน  และกระบวนการสอบสวนเองก็มีอยู่สองขั้นตอน  ขั้นตอนแรกก็คือการสั่งให้ไปรวบรวมพยานหลักฐาน  พร้อมสอบปากคำคนที่เกี่ยวข้อง  ส่วนอีกอันหนึ่งที่เห็นว่ามีการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ส่งไปที่  กกต.กลางว่า  เรื่องนี้เราควรจะรับเป็นการดำเนินคดีที่มีผลต่อผู้สมัครจะรับรองหรือไม่ รับรองผลการเลือกตั้ง อีกส่วนที่เห็นสมควรว่ายกคำร้อง ก็มีอยู่เท่านี้  เราก็ส่งไปให้ กกต.กลางทั้งหมด ขณะนี้อยู่ในมือเราด้วยกันจำนวน 5 เรื่อง  ที่อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ส่วนที่อยูในมือของเจ้าหน้าที่มี 1 เรื่อง  อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานที่ยังไม่ได้ส่งเข้ามา  ส่วนเรื่องอื่นผ่านการตรวจสอบแล้ว เราจะประชุมกันอีกทีในวันพุธหน้า  คิดว่าน่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมด

มีความมั่นใจเรื่องใดบ้างกับสำนวนที่ทำอยู่ในขณะนี้?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : เรื่องมาตรา 57(5)  พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เรื่องเดียวเลย  พูดถึงหลักฐานที่มานั้น  การร้องเรียนและหลักฐานที่พิจารณาครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่าที่มีการนำเสนอ คราวที่แล้ว พูดได้เท่านี้ ของใหม่ที่ยื่นมาของ นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะครั้งนี้ เป็นช่วงปราศรัยใน 9 วันสุดท้าย อันก่อนมันของเดิม  อันนั้นไม่ค่อยมีความรุนแรงเท่าไหร่ แต่อันนี้รุนแรงกว่า  กรณีเทียบเคียงก็มีในอดีตแต่เรายังบอกไม่ได้ เพราะถ้าบอกไปแล้ว  ก็อาจจะรู้เลยว่าผลจะเป็นอย่างไร แย้มไม่ได้ ห้ามบอก หากอยากรู้ ต้องไปถาม  กกต.กลาง มีเคสประกอบของเดิมแต่พูดไม่ได้ อันนี้มันเหลืองคร่อมแดง  ต้องไปถาม กกต.ใหญ่ หลักฐานคำร้องข้อกฎหมายความรุนแรงกว่าของเดิม  ที่เสนอไปทั้งคู่เลย เราทำงานตรงไปตรงมา ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดเลย

เลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นเลือกตั้งใหญ่ที่มีความรุนแรงของ กทม.หรือไม่?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : เลือกตั้งครั้งนี้สู้กันแรง ซัดกันแรง เราต้องมาสกัดให้อยู่  ในลู่ในทาง อย่าฝ่าฝืนกฎหมายให้มากนัก ขนาดเตือนทุกวัน วันเว้นวัน  มันไม่ใช่เป็นการขู่แต่ว่าเราเอาจริง เรามีฝ่ายสืบสวนคอยตามหมด  เพราะเราไปดูมาเองเหมือนกันว่า มันสอดคล้องกับคำร้องไหม  การพิจารณาเลยมีความรวดเร็ว
สำหรับที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีการรับรองตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ไปก่อน?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ :  ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะมีเวลาถึงวันที่ 2 เม.ย.  ก็ถือว่ายังพอมีเวลาอยู่ แต่สำนวนที่สำคัญนั้นอันใหม่ เราจะเร่งส่ง  เพราะหลักฐานและองค์ประกอบกับกฎหมายมันรุนแรงกว่า ไม่ได้ขู่  แต่พูดถึงความเห็นในฐานะของนักกฎหมายแล้วมันรุนแรงกว่าเรื่องที่เสนอไปแล้ว

ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการยื้อการรับรอง?

พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ : ที่เราทำเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ยื้อ เราเร่งทุกสัปดาห์ที่มีการประชุมกัน 2 ครั้ง

เรื่องของการกดดันการทำหน้าที่ในขณะนี้ รวมถึงมีฝ่ายที่ชี้นำต่างๆ สร้างความหนักใจหรือไม่

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ :  ไม่มี ก็เห็นพูดกันไปมา แต่ต้องบอกว่า ผมนั้นชี้นำไม่ได้  ไม่หนักใจ ผมเป็นคนตรงไปตรงมา เรารักใครชอบใครก็ต้องอยู่ในใจ  เวลาทำงานต้องไร้อารมณ์ ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่ากันไปตามผิด  อย่างที่บอกว่า รู้จักกับ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็เพราะว่าเป็นรุ่นน้อง อย่าง  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็เคยสอนหนังสือให้ผมที่จุฬาฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  ก็เป็นเจ้านายเก่า พูดถึงความสัมพันธ์ก็รู้จักกันทั้งนั้น ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีก็เป็นเพื่อนกับพี่สาว  เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์รู้สึกรักชอบได้ แต่การทำงานต้องตรงไปตรงมา  อันนี้คือตัวผม ไม่มีเรื่องการข่มขู่ และการที่ขู่ตำรวจ  ทุกคนน่าจะรู้ว่าขู่ยาก



ได้มีการคุยกันใน กกต.กทม.ถึงกระแสสังคมหรือไม่?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : ก็ยังหัวเราะกันอยู่เวลาประชุม ไม่เครียด เรามาทำงานที่นี่  เพราะอาสามาทำ ถ้าทำไม่ไหว ถูกกดดันมากจะออกก็ออกได้ ไม่ได้มีใครว่าอะไร  เมื่อยังอยู่ก็ต้องทำไป ต้องทนรับแรงกดดันให้ได้จากสื่อ จากผู้บังคับบัญชา  เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดา แต่เราต้องอย่าหลบ มีความรู้สึกตลอดเวลา  แต่เวลาให้สัมภาษณ์ต้องไร้อารมณ์

เบื่อหรือไม่ที่โดนนักการเมืองโจมตี?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : ไม่เบื่อ การเลือกตั้งก็เหมือนการทำคลอดนักการเมือง  เราในฐานะเป็นผู้ที่มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องทำให้การเมืองให้อยู่ในลู่ในทาง  คือการเข้าสู่อำนาจรัฐจำเป็นต้องมีความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม  และมีประโยชน์กับส่วนรวมและประเทศชาติ คือหัวใจสำคัญในการทำหน้าที่ กกต. 4  อย่าง 1.คือมีความรู้ความสามารถ ต้องรู้กฎหมาย  2.ต้องมีประสบการณ์การเลือกตั้ง 3.ความซื่อสัตย์สุจริต 4.ต้องมีจิตสาธารณะ  และมีความกล้าหาญยืนหยัดในความถูก ก็ต้องดูว่าที่ผ่านมากล้าหาญหรือเปล่า  ถ้ากลัวก็มาทำหน้าที่ไม่ได้

ส่วนตัวเองไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่  กระบวนการกฎหมายเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น  ไม่อย่างนั้นประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ ตนไม่เชื่อว่า  ถ้าไม่สุจริตในการเลือกตั้งแล้วจะสุจริตในการทำหน้าที่รับใช้ประชาชน  จากประสบการณ์ที่เคยทำงานที่สภา เราเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นอย่างที่เห็น  ประโยชน์ของชาติยังไม่ได้รับการพิจารณาเป็นหลัก ความจริงก็ท้อเหมือนกัน  เราก็ตัวเล็กๆ แต่ก็พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้  ตำแหน่งไม่ใช่เรื่องสำคัญของผม

ฝากอะไรกับเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ไหม?

พล.ต.ท. ทวีศักดิ์ : ผู้ที่ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งเข้าไปบริหารทำหน้าที่  ไม่ว่าระดับชาติ หรือท้องถิ่น ถ้าเขาเป็นคนไม่รักษาคำพูด  และสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน รีบรวมตัวกันไปฟันลงมาเลย  พ.ร.บ.การลงคะแนนเสียง เพื่อถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่นมีอยู่แล้ว แค่ 3  หมื่นคน ไปยื่นคำร้องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องแล้วยื่นมาให้ กกต.เราจะจัดให้ลงคะแนนเสียงว่า  อยู่ต่อไปหรือไม่ ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่ให้อยู่ ก็ต้องลงจากตำแหน่ง 3  หมื่นชื่อ ถือว่านิดเดียว เป็นกฎหมายที่นักการเมืองไม่อยากให้ประชาชนรู้  เราต้องให้ประชาชนรู้.  


Create Date : 22 มีนาคม 2556
Last Update : 22 มีนาคม 2556 10:51:28 น. 0 comments
Counter : 2022 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.