Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
James Morrison--He Give Me A Wonderful World




อาจจะเป็นเพราะอากาศรอบตัวที่สุมหัวกันลดอุณภูมิลงอย่างไม่บอกกล่าวล่วงหน้า หรืออาจะเป็นเพราะช่วงเวลาในชีวิตที่ความรื่นเริงหลบเน้นหนีหน้า หรืออาจจะเป็นเพราะใครคนหนึ่งที่เคย Give Me A Wonderful World ได้หายไปอย่างไรร่องรอย

ผมถึงได้นึกถึงเพลงของ James Morrison

ก่อนหน้านี้ผมคุยกับหนัเขียนคนหนึ่งถึงเรื่องลอนดอน เขาเล่าให้ฟังว่าที่เมโทร เต็มไปด้วยศิลปินอิสระที่สะบายกีตาร์อะคูสติกตัวเดียวยืนร้องเพลงขับกล่อมผู้คนที่เร่งรีบ และทุกคนเสียงเหมือน James Blunt

หลังจากนั้นผมนำคำถามนี้ไปคุยกับดีเจและผู้รู้ในวงการดนตรีคนหนึ่ง เขาตอบผมว่า ใช่! ทุกคนเสียงเหมือน James Blunt เหมือน Damien Rice พวกเขาร้องเพลง 'You're Beuatiful' ได้ไม่ผิดเพี้ยน แต่ไม่มีใครถ่ายทอดอารมณ์ได้เหมือนกับที่ James ร้อง และไม่มีใครร้องเพลง Cold Water ได้เจ็บปวดเท่ากับ Damien Rice เช่นเดียวกัน

ผมเห็นด้วยตามนั้นโดยดุษณี

ผมเริงรื่นเหมือนเด็กได้ของขวัญชิ้นใหม่ เมื่อได้รับซีดีอัลบั้มของ James Morrison เสียงเพลงของเขา เสียงร้องของเขาในเพลง 'You Give Me Something' ที่ได้ฟังตามสถานีวิทยุมันช่างจับอยู่ในหัวใจ และวนเวียนอยู่ในหัวสมอง ไม่หนีหายไปไหน

เขาทำให้ผมนึกถึง James Blunt อย่างช่วยไม่ได้ ทำให้ผมนึกถึงเพลง 'You're Beautiful' อย่างยอมจำนน ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียงหรือเมโลดี้ของดนตรีในแบบโซลป๊อป

ในขณะที่ James Blunt เลือกกีตาร์เสียงใส james Morrison กลับเลือกเปียโนเสียงสวย

แต่ทั้งคู่ให้อารณ์ในน้ำเสียงเช่นเดียวกัน แต่ James Morrison นั้นสั่นเครือมากกว่า กระเดียดไปทางบลูส์มากกว่า

'You Give Me Something' ผมสะดุดกับเสียงของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ เมื่อประโยคแรกร้องขึ้นมาว่า 'You Only Stay With Me In The Morning' เขาสะกดคนฟังด้วยน้ำเสียงอันคาดเดาไม่ได้ ใน้เสียงนั้นเหมือนผมได้ยินสำเนียงของ Tracy Chapman ครั้งแรก เพลงนี้เติมแต่งเมโลดี้ให้สวยงามด้วยเสียงไวโอลินที่ดังคลอเหมือนงานออเครสต้า แต่ผมอยากหลับตาฟังเสียงของเขามากกว่า

จากน้ำเสียงของเขา จับทางได้ถึงความเป็นบลูส์ที่ซ่อนอยู่ และในซิงเกิลที่สอง 'Wonderful World' ก็ส่งสำเนียงเดียวกัน เมื่อเขายังคงประโคมเมโลดี้ตามแบบฉบับบลูส์ ไม่ว่าจะเป็นไวโอลิน เปียโน แซ็กโซโฟน และด้นแบ็กกราวนด์ด้วยเสียงเบส เสียงไวโอลินในเพลงนี้ขับกล่อมให้ความแข็งกร้าวของเสียงร้องของ james น่าฟังยิ่งขึ้น มีพลังและน่าฟังอย่างอัศจรรย์

ผมชอบฟังเพลงโดยใช้หูฟัง และเปิดเสียงดังจนเพื่อนตกใจ แต่มันทำให้ผมเห็นรายละเอียดที่น่าอัศจรรย์ของตัวโน้ตต่างๆ ที่ดังมาจากการประโคมเครื่องดนตรีเข้าด้วยกัน มันสามารถสร้างความอิ่มเอิบ และสุนทรีย์ในการฟังได้อย่างมากโข และทำให้เพลงบางเพลงเป็นมากกว่าเพลงเพื่อฟังผ่าน
'The Pieces Don't Fit Anymore' งานบัลลาดที่สละสลวยและพลิ้วไหว ด้วยเมโลดี้ของวงออเครสต้า เสียงไวโอลินที่ยังคงหวานเศร้าและโดดเด่นเหมือนดังเช่นทุกแทร็กที่ผ่านมา เพียงแต่สะกดสำเนียงให้เศร้าหม่นลง จนน่าใจหาย

'Undiscovered' เพลงแค่เสียงฮัมเมื่อต้นเพลง กับเสียงเปียโนที่สวยเศร้าจนน่าใจหาย ผมถึงกับน้ำตารื้นอย่างช่วยไม่ได้ ไม่อยากอ่อนไหวง่ายดาย แต่ช่วยไม่ได้ที่ชีวิตช่วงนี้ป่วยไข้เกินกว่าจะเยียวยา และเพลงบางเพลง เมโลดี้เพียงไม่กี่ท่อนก็สามารถขโมยน้ำตาได้อย่างง่ายดาย ทั้งๆที่เพลงนี้ไม่เศร้าขนาดนั้น ภาคดนตรีเพลงนี้เหมือนเพลง You're Beautiful ทั้งจังหวะจะโคน การขึ้นท่อนฮุก น้ำเสียงการร้อง จังหวะเปียโนสวยจนไม่อยากให้เพลงจบ แถมด้วยการร้องประสานเสียงแบบเพลงใบโบสถ์ในช่วงท้ายที่เสริมควายิ่งใหญ่ อลังการของเพลงนี้ให้กลายเป็นเพลงเอกของอัลบั้มได้เลย และที่สำคัญที่สุดคือเนื้อเพลงที่ทำให้น้ำตาที่กำลังระรื้นริมขอบไหลออกมา

'I'm Not Lost Just Undiscovered'

ผมก็เหมือนกัน

'The Letter' เพลงนี้จังหวะเหมือนกับเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม ทั้งการร้อง จังหวะ และเสียงเปียโน แต่ที่โดดเด่นคือเสียงฮาร์โมนิก้า ที่สร้างความสุขได้อย่างมากล้น

เกือบลืมแทร็กแรกไปเลย 'Under The Influence' เพลงทีมีจังหวะสนุกสนานและแตกต่างจากหลายๆ แทร็กในอัลบั้มนี้ ให้อารมณ์การบันทึกสดได้อย่างดี ผมชอบเสียงกลองที่ร่าเริง เสียงเปียโนที่สนุกสนานของเพลงนี้เป็นที่สุด ฟังแล้วสุขใจเป็นบ้าเลย หนำซ้ำยังแอบใส่ไวโอลินเสียงสวยเป็นลูกคู่อีก หลงรักแทร็กนี้อย่างง่ายดายเลยครับ

'Call The Police' ใครก็ได้บอกผมทีว่าแทร็กนี้ไม่ใช่เพลงของ Damien Rice ใช่ไหม เพราะเหมือนกันยังกับแกะ ไม่เชื่อลองไปหามาฟังเทียบเคียงกันดู แต่เพลงของ james ไม่หม่นเศร้าเจียนตายเหมือน Damien

'This Boy' อะคูสติกกีตาร์สวย ที่เพิ่งโผล่มาให้ได้ยิน หลังจากที่ทุกแทร็กโชว์เสียงเปียโนและไวโอลินมากกว่า น่ารักไปอีกแบบ

'If The Rain Must Fall' งานแบบโอลด์บลูส์ ที่ด้นเสียงไปพร้อมกับเสียงแกรนด์เปียโน วงเครื่องสายไวโอลิน ออกสำเนียงบลูส์จั๊ดจัด แต่ชอบครับ

'The Last Goodbye' แทร็กสุดท้ายของอัลบั้ม ที่สำเนียงเศร้า เหงามาตั้งแต่เสียงไวโอลินกรีดร้อง เป็นบลูส์แบบเรื่อยเอื่อย เน้นอารณ์ในการร้อง พร้อมเสียงกลองดังแต็กๆ คลอไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะประโคมเสียงเครื่องสายเมื่อถึงท่อนฮุกเช่นเคย

ไม่ว่าอากาศจะเย็นลงไปกว่านี้หรือไม่ หรือว่าพรุ่งนี้จะมีเรื่องอะไรเข้ามาในชีวิตอีก บางทีพรุ่งนี้ผมอาจจะฟังเพลงของเขาด้วยอารณ์ที่เปลี่ยนไป แต่ยังคงไว้ด้วยความสุขเหมือนเคย






Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2550 22:51:20 น. 3 comments
Counter : 592 Pageviews.

 
Blog นี้เรื่องเพลงเยอะเหมือนกันครับ
ว่าง ๆ อาจมาขอวิชา



โดย: ShadowServant วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:55:25 น.  

 
ชอบ you give me something เหมือนกันค่ะ

ดีจังได้อ่านเพลงอื่นๆจะได้ตัดสินใจว่าจะไปหาซีดีพี่แกแบบเต็มอัลบั้มมาฟังดีมั้ย


โดย: tistoo วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:5:14:49 น.  

 
ควรซื้ออย่างยิ่งครับ
อ้อ...และจะพยายามอัพเรื่องเพลงบ่อยๆ


โดย: รติ (แอบชอบ คห. ข้างล่าง ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:57:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แอบชอบ คห. ข้างล่าง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจัย 5 อย่าง หนัง เพลง หนังสือ กาแฟ และบุหรี่
Friends' blogs
[Add แอบชอบ คห. ข้างล่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.