การเลี้ยง ปลาหางนกยูง เพื่อส่งออก
[Main : หน้ารวมเกษตร พรรณไม้]
เลี้ยงปลาหางนกยูง เพื่อส่งออก อ.ท่ามะกา จากอาชีพเสริมแต่สร้างรายได้หลัก เกษตรกรส่วนใหญ่ของพื้นที่หมู่ที่ 4 ของ ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มีอาชีพในการทำนาและปลูกข้าวโพดฝักอ่อน ในการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนจะใช้เวลาปลูกประมาณ 2 เดือน จะได้กำไรเป็นเงินเพียงไร่ละ 1,500-2,000 บาทเท่านั้น คุณประพันธ์ ลิ้มละมัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่แห่งนี้ ได้หาอาชีพเสริมด้วยการให้เลี้ยงปลาหางนกยูงเพื่อการส่งออก โดยได้รวมกลุ่มในหมู่บ้านได้ 50 ครัวเรือนปัจจุบันแต่ละครัวเรือนมีรายได้จากการขายปลาหางนกยูงเฉลี่ยเดือนละ 8,000-10,000 บาท จากอาชีพเสริมกลับสร้างรายได้หลักให้กับเกษตรกรในหมู่บ้านนี้ ในการเลี้ยงปลาหางนกยูงของแต่ละครัวเรือนจะใช้เนื้อที่ประมาณ 2 งาน จำนวน 100 บ่อซึ่งเป็นบ่อ 4 เหลี่ยม ขนาดกว้างxยาว 2x2 เมตรและมีความสูงของบ่อ 40 เซนติเมตร ปลาหางนกยูงที่คุณประพันธ์นำมาส่งเสริมให้เลี้ยงนั้นจะ แบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ เรดอาบิโน่, ริบบอน, คิงคอบร้า, โกลเด้น ทักซิโด้, เยลโล ทักซิโด้, เยลโล กร๊าซ ฯลฯ (ความจริงแล้วปลาหางนกยูง ที่มีการเพาะเลี้ยงในบ้านเราขณะนี้มีมากกว่า 300 สายพันธุ์ แต่ตลาดหลัก ๆ ต้องการประมาณ 30 สายพันธุ์) ปัจจุบันปลาหางนกยูงของหมู่บ้านแห่งนี้จะส่งขายให้ไต้หวันเป็นหลัก ทราบมาว่าทางไต้หวันรับปลาหางนกยูงจากไทยไปส่งขายที่ประเทศสิงคโปร์อีกต่อหนึ่ง คุณประพันธ์ได้ให้รายละเอียดถึงวิธีการเลี้ยงปลาหางนกยูงว่าเป็นปลาที่จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน ปลา 1 บ่อ จะปล่อยลูกปลาลงเลี้ยงได้ประมาณ 2,000 ตัว เมื่อถึงเวลาจับขายจะเหลือปลาต่อบ่อประมาณ 1,000 ตัว ปลาที่ตายเกิดจากความอ่อนแอของลูกปลา, โรคและอากาศหนาว โดยเฉพาะในช่วงอากาศหนาวเป็นปัญหามากที่สุดเพราะน้ำที่ใช้เลี้ยงจะเย็นทำให้ปลาไม่ค่อยกินอาหารและมักจะเกิดโรคตามมา สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาหางนกยูงจะให้ ไรแดง เป็นหลัก เนื่องจากหาได้ง่ายตามแหล่งน้ำธรรมชาติ (จ.กาญจนบุรีมีบ่อน้ำทิ้งจากโรงงานน้ำตาล มี กากน้ำตาล ทำให้เกิดไรแดงจำนวนมาก) ทำให้ช่วยประหยัดในเรื่องต้นทุนอาหารไปได้ทางหนึ่ง ในการจับปลาส่งขายยังตลาด คุณประ พันธ์จะมีการจับปลาหมุนเวียนทุกบ้านใน 50 ครัวเรือน จะจับปลาส่งลูกค้าทุก ๆ 3-7 วันต่อครั้ง ครั้งละประมาณ 30,000-100,000 ตัว ราคาจำหน่ายเฉลี่ยประมาณ 2-3 บาทต่อตัว ขนาดของปลาที่นิยมของพ่อค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ไซซ์ คือไซซ์ L ที่มีขนาดลำตัวเฉลี่ย 1.5-1.7 นิ้ว (วัดความยาวจากหัวถึงปลายหาง) และไซซ์ M มีขนาดลำตัวเฉลี่ย1.3 นิ้ว โดยทั่วไปแล้วตลาดมักจะชอบปลาไซซ์ L มากที่สุด สำหรับขั้นตอนในการผลิตลูกปลาหางนกยูงนั้น คุณประพันธ์แนะนำให้ปล่อยพ่อ-แม่พันธุ์ปลา อัตราตัวผู้จำนวน 100 ตัว ต่อตัวเมีย จำนวน 300 ตัว อย่างกรณีของคุณประพันธ์เลี้ยงปลาหางนกยูงมานานกว่า 10 ปี มีบ่อเลี้ยงปลาหางนกยูงจำนวน 500 บ่อ จะตักลูกออกจากบ่อพ่อ-แม่พันธุ์ได้วันละ 1,000 ตัว.
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ เดลินิวส์
[Main : หน้ารวมเกษตร พรรณไม้]
Create Date : 08 เมษายน 2550 |
|
57 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 22:29:47 น. |
Counter : 80813 Pageviews. |
|
|
|