Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ทริปท่องเที่ยวเกาหลี ไฮ โซล [Hi Seoul : Day II]

"อัน-นยองอาเซโย"
วันที่สองที่เกาหลี วันนี้ตามโปรแกรมมีไปอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน แล้วก็ขึ้นไปเที่ยวเล่นสกีที่ยงเพียง สกีรีสอร์ท (2 รายการ เท่าวันแรก)

ช่วงเช้าตื่นนอนแล้วลงไปทานอาหารบุฟเฟ่ท์ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ขนมปัง แฮม ไส้กรอก ข้าวต้ม ซุปสาหร่าย แล้วก็เครื่องเคียงคุ้นหน้าคุ้นตาที่มีกิมจิ มาให้เห็นได้ทุกๆ มื้อ แต่ที่แปลกจากวันแรกก็มีวุ้นเส้นผัดซอสมานี่ล่ะ ที่ทานได้ทานดี เพราะเส้นวุ้นเส้นเส้นใหญ่มากๆ น่าจะเท่าเส้นบะหมี่บ้านเราเลย

ทานข้าวเสร็จก็ออกมาเดินเล่นบริเวณหน้าโรงแรมที่พัก Seolag Youth Hostel

ช่วงที่มาพักที่โรงแรมนี้ เรียกว่าแทบจะพักอยู่กรุ๊ปทัวร์เดียวเลย บรรยากาศเลยดูเงียบๆ เชียบๆ ออกมาเดินเล่นสู้ลมหนาวด้านนอกดีกว่า วันนี้อุณหภูมิก็ลงไปที่ -3 องศาเซลเซียสแล้ว


ด้านหน้าโรงแรมก็มีการใช้รถมาไถหิมะให้เป็นทางรถวิ่ง จอดรถได้ แต่ส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน หิมะก็กองกันอยู่เต็มพื้นไปหมดเลย ต้นไม้ถ้าไม่ใช่พวกต้นสน ต่างก็ทิ้งใบกันหมดแล้ว


เทือกเขาด้านหลังน่าจะเป็นเทือกเขาโซรัคซาน ที่จะเดินทางไปวันนี้ล่ะ
อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน หรือเทือกเขาโซรัก ตั้งอยู่ในจังหวัด พังงวนโด เรียกว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งขุนเขาอันสลับซับซ้อน ก็มีหลายคนพูดและเรื่องให้ฟังก่อนไปแล้ว ว่ามาที่นี่เหมือนมาสวิสเซอร์แลนด์ แค่มองดูจากตำแหน่งนี้ก็พอเห็นความสวยงามแล้วล่ะ ว่าภูเขาหิมะมันช่างสวยงามตระการตาจริงๆ


ที่เห็นเป็นหลังคาที่คุ้นเคยกับละครซี่รีส์เกาหลี ทำให้ชวนเดินออกจากโรงแรมมุ่งสู่บริเวณที่เหมือนจะเป็นสถานที่ถ่ายละครแบบที่คุ้นตา หวังว่าจะเดินเข้าไปเก็บภาพสวยๆ สักหน่อย แต่พอเดินจวนเกือบผ่านหน้าประตูเข้าไปแล้ว สายตาพลันเหลือบไปเห็นสุนัขพันธุ์บูลด็อก ยืนจังก้าอยู่เลย จากที่เดินๆ อยู่ หยุดกึกเลย ค่อยๆ ลดกล้องลง แล้วก็ค่อยๆ เดินถอยหลังมาทีละก้าว สองก้าว พอดูว่ามันไม่วิ่งกระโจนออกมา ก็รีบเดินหนีออกมาโดยเร็ว กลับมาปักหลักอยู่ที่หน้าโรงแรมดีกว่า


ด้านข้างของโรงแรมก็ยังมีมุมมองให้ถ่ายภาพสวยๆ ได้อยู่
และที่บ้านหลังนี้ทำให้ได้ลิ้มรสพิษสงของหิมะน้ำแข็งเข้าอย่างจัง
จากมุมภาพด้านล่างทางขวามือ ที่เห็นเหมือนเป็นทางลงเนินเล็กๆ มองดูแล้วก็แทบจะไม่มีอะไรให้น่ากลัว บริเวณนั้นมีแนวของน้ำที่ไหลลงมาแล้วกลายเป็นน้ำแข็งแบบว่าเคลือบผิวถนนไว้เป็นแนวเล็กๆ เท่านั้น หลังจากเดินขึ้นไปถ่ายภาพด้านบนที่เห็นเป็นต้นสน ก็เดินมาปกติ เพียงแต่สายตาไม่ได้มองกับพื้นเท่านั้น มองหามุมมองถ่ายภาพอยู่ พลันที่เท้าเดินมาเหยียบทางน้ำไหลที่เป็นน้ำแข็งตัวนั้น ได้ลื่นล้มหงายหลังแบบไม่รู้ตัว ตัวน่ะไม่เจ็บอะไร ห่วงกล้องอย่างเดียว (5555) แต่พอจะลุกขึ้นขาเป็นตะคริวแป๊บเข้ามาทันที เรียกว่าล้มแล้วไม่ลุกเลย กว่าจะทำให้หายเป็นตะคริวได้ เล่นเอานั่งแช่อยู่ตรงนั้นหลายนาที

หลังจากที่กรุ๊ปทัวร์พร้อมกันทุกคนแล้ว ก็นั่งรถไปสัก 10 นาทีก็ถึงวนอุทยานโซรัคซานแล้ว

โซรัคซาน หรือภูเขาหิมะตั้งอยู่ใจกลางภูเขา แทแบค ที่ทอดยาวไปถึงเขา คึมคัง ของประเทศเกาหลีเหนือ มีเทือกเขาที่สลับซับซ้อน มีป่าไม้ หุบเขา สายน้ำ และทะเลสาบ รวมถึงหินรูปร่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง ที่สำคัญสถานทีแห่งนี้เป็นตำนานเล่าขานและเป็นจุดกำเนิดของเพลง อารีรัง อีกด้วย แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไปไม่ได้เลย เพราะหิมะลงหนามากๆ

ตามโปรแกรมต้องเข้าไปขมถึงเขตวัดชินฮึงซา วัดเก่าแก่ในนิกายเซน ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 652 และเดินข้ามสะพานชำระล้างจิตใจ วัดชินฮันซาเป็น วัดเก่าแก่สร้างในสมัยอาณาจักรชิลล่า ภายในวัดยังมีระฆังอันเก่าแก่ 1,400 ปีอีกด้วย ที่เล่ามาน่ะไม่ได้ไปอีกล่ะ ฟังจากไกด์เล่าให้ฟัง


เอาที่ไปมาก็แล้วกันนะ แล้วจะเล่าให้ฟังว่าไม่ได้ไปเพราะอะไร
จุดแรกเป็นอนุสาวรีย์หมี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวนอุทยานฯ แห่งนี้ ตามประวัติศาสตร์ของเกาหลี หมีเป็นสัตว์ในตำนานที่มีการเล่าสืบทอดกันมา และก่อให้เกิดประเทศเกาหลี


จากจุดอนุสาวรีย์หมีนี้ จะเดินเท้าต่อไปอีก เพื่อไปนมัสการพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางสมาธิขนาดใหญ่กลางหุบเขา พระพุทธรูปนี้ไกด์เล่าว่าได้มีการสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวเกาหลีได้สวดอ้อนวอนขอให้คาบสมุทรเกาหลีได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

แต่เนื่องจากหิมะที่ตกมาปิดเส้นทางเดินเท้า ทำให้ต้องเดินลุยหิมะไปในบางช่วง และบางช่วงก็เดินบนหิมะน้ำแข็ง ระยะทางน่าจะ 100 เมตรนิดๆ ได้ แต่เอาเข้าจริงหลายๆ คนที่เดินไปต่างก็ลื่นล้ม ล้มคนเดียวไม่พอไปดึงคนอื่นล้มลงไปอีกต่อก็มี


หลังจากที่ได้ล้มหงายหลังไปครั้งหนึ่งแล้วที่หน้าโรงแรม เจ็บแล้วไม่จำ พอเห็นวิวภาพสวยๆ ก็เดินไม่มองอีก ถ่ายภาพมาได้สวยสมใจ

แต่งานนี้เดินลื่นล้มไปอีก 5 ครั้ง แต่ทุกครั้งก็ห่วงกล้องมากกว่าตัวทุกครั้งไป กล้องน่ะไม่เป็นอะไรทั้ง 5 ครั้ง ตัวร่างกายก็ไม่ได้เจ็บอะไร แต่ก็เจ็บใจที่ดันลื่นล้มแบบไม่รู้จำนี่ล่ะ 555




นี่เป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่านทางแบบนี้ ถ้าเดินง่ายๆ หน่อยก็ต้องยอมไปย่ำจมหิมะเป็นทางๆ ไป แต่ถ้ามาเดินทางราบๆ ที่เห็น มันลื่นไถลดีจริงๆ

หลังจากล้มไป 5 ครั้ง ก็มาชมภาพสองข้างทางสักเล็กน้อยก็แล้วกัน ได้ภาพไม่เยอะเท่าไร เพราะมัวไปจับกบอยู่นั่นล่ะ









ที่โซรัคซานนี้ ได้ชมภาพก่อนไปในช่วงฤดูอื่นๆ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ แต่ก็คงไม่เหมาะที่จะมาชมในช่วงที่มีหิมะตกมากๆ เช่นนี้ ทริปนี้เลยไม่ได้ภาพอย่างที่ตั้งใจเป็นอีกทริปหนึ่ง
ก็ต้องขอจบไว้เพียงเท่านี้สำหรับวนอุทยานแห่งชาติโซรัคซานนี้

จากนี้ไปก็จะไปเที่ยวชมและเล่นสกีกันที่ ยงเพียงสกีรีสอร์ท แต่ก่อนไปที่นั่นก็แวะทานอาหารกันก่อน แต่ภาพอาหารหาไม่เจอ เจอแต่เครื่องเคียง (จำว่าได้ถ่ายภาพอาหารมาทุกมื้อ ไว้ค่อยตามหาภาพมาใส่ใหม่ก็แล้วกัน)


ลองชมดูแต่ในชุดนี้พวกน้ำจิ้ม น้ำพริก สาหร่ายก็เป็นส่วนเกินที่ทางไกด์นำมาเสริมให้ทุกๆ มื้อ เผื่อว่าใครยังจะทานอาหารในรสชาดที่คุ้นเคย จะได้เติมปรุงรสให้ถูกปากได้เอง


กล่องข้าวแสตนเลส ช้อนและตะเกียบแบบที่เห็นนี้มีให้เห็นกันทุกมื้อ จากที่ดูละครเกาหลี ก็แปลกใจทุกครั้งว่าทำไมช้อนต้องยาวแบบนี้ พอมาลองใช้ดูบ้างก็ดูไม่ค่อยคุ้นเคยมากนัก เพราะในละครจะใช้ช้อนตักข้าวคำใหญ่ อัดข้าวแน่นๆ แล้วค่อยตักใส่ปาก รู้สึกคำมันใหญ่ไป เลยได้แต่ตะเกียบคีบข้าว(ข้าวสวยที่นี่ค่อนข้างเหนียว คล้ายของญี่ปุ่น สามารถใช้ตะเกียบพอคีบข้าวขึ้นมาเป็นคำๆ ได้อยู่)


ภัตตาคารร้านอาหารที่ไปทานข้าวมื้อกลางวันนี้

ภัตตาคารร้านนี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงในการทำปลา ที่นำมาทำเป็นปลาเส้นให้ทานกันในมื้อนี้ด้วย


บริเวณสี่แยกหน้าทางเข้าภัตตาคาร ถนนเส้นนี้ยังต้องพึ่งการเกลี่ยเกรดหิมะบนพื้นถนนออกอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้เป็นเส้นทางที่รถพอวิ่งผ่านทางได้ บางช่วงที่นั่งรถมาก็ลุ้นไปเหมือนกัน เพราะดูว่ารถวิ่งไปลื่นไปนิดๆ เหมือนกัน แต่ตลอดเส้นทางที่เดินทางทั้ง 4 วันก็ปลอดภัยดี รวมถึงวันนี้ด้วยที่วิ่งบนหิมะแบบนี้มาหลายกิโลเมตรทีเดียว

สองข้างแม่น้ำที่ตอนนี้แห้งเหือดไปเยอะแล้ว แต่ก็มีนำปลามาตากเป็นแถวเป็นแนวตลอดทางด้วย


มาถึงเส้นทางเข้า Yongpyoung Ski Resort แล้ว



จุดตำแหน่งที่ยืนกับแผนที่บอกเส้นทางจุดต่างๆ ที่สามารถไปเล่นสกีได้
ส่วนเส้นสีแดง เส้นยาวสุดเป็นเส้นกระเช้าไฟฟ้าจากล่างสุดขึ้นไปสู่ยอดเขาสูงสุด

ยงเพียงสกีรีสอร์ท มีเนินสกีถึง 25 เนิน แยกเป็นเนินสำหรับมือใหม่ 6 เนิน เนินสำหรับผู้เป็นแล้ว 5 เนิน และ เนินสำหรับมือโปรอีก 14 เนิน

แวะมาส่งในจุดเพื่อนๆ ที่จะเล่นสกี ต้องมาเช่าชุด เช่ารองเท้าสกี เช่าสกีที่นี่กันก่อน



ส่วนกลุ่มที่ไม่เล่นสกี ก็เตรียมมาขึ้นกระเช้า ซึ่งใช้เวลาจากด้านล่างสู่จุดสูงสุดใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระยะทางก็ค่อนข้างสูงมาก 1140 เมตร กระเช้าก็ขึ้นๆ ลงๆ ไปตามเส้นทางที่ขึ้นไปสู่ยอดเขา ตอนขึ้นไปนี่นั่งกันจนเต็ม 6 คน ต่อหนึ่งกระเช้า แต่ขาลงสามารถนั่งคนเดียวหรือสองคนก็ได้ แล้วแต่ช่วงเวลาที่กระเช้าวนมาถึง ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าคนส่วนที่เล่นสกี ก็จะลงเล่นสกีไปตามเนินต่างๆ แล้ว ส่วนผู้ที่ขึ้นมาเที่ยวชมบรรยากาศเฉยๆ หรือมาใช้บริการอื่นๆ พอพร้อมที่จะลง กระเช้าก็จะว่างให้นั่งได้ตามสะดวกทีเดียว


ส่วนกลุ่มที่เล่นสกีช่วงสั้นๆ ก็สามารถขึ้นกระเช้าแบบเปิดนี้ได้เช่นกัน



ภาพที่ถ่ายจากกระเช้าที่ถ่ายภาพนักเล่นสกีที่พอซูมภาพและจับภาพได้บ้าง

ส่วนภาพนี้คนทางขวามือคงมือโปร.แล้ว ถ้าเป็นเราเล่น และมีคนยืนขวางแบบนี้ สงสัยดับเครื่องชนแน่ๆ 555


ถึงทางเข้าของกระเช้าบนยอดเขาแล้ว


ชมภาพวิวจากบนยอดเขาพัลวัง กันดูสัก 2-3 ภาพ อากาศบนยอดเขานี้ -8 องศาเซลเซียสแล้ว มีลมแรงพอสมควร จุดที่ออกจากตัวตึกสู่ภายนอกตัวตึกเจอลมครั้งแรกเล่นเอาสะท้านไปเลย แต่อยู่ๆ ไปสักพักก็พอทนที่ทำให้พอเดินถ่ายภาพได้บ้าง แต่ก็ไปได้ไม่ไกลมากนัก










ที่ลานหิมะ ก็มีจุดให้ถ่ายภาพตามรอย Winter Love Song อีก 1 จุด
ที่จริงเคยเห็นจากภาพถ่ายใน web มีการนำรูปมาจัดวางไว้หลายๆ จุดด้วยกัน แต่ช่วงนี้ลมแรงหรือเปล่าไม่รู้ เหลือจุดนี้จุดเดียว พอถ่ายภาพได้สักพักเดียว บวกกับความหนาวที่มาเยือนในแต่ละครั้ง หลายๆ คนก็กลับเข้าไปในตัวตึกกันหมด....ช่วงนี้เกิดความผิดพลาดอีกนิดหน่อย มีการดูเวลาผิดกัน จวนใกล้เวลานัดอีกแล้ว ไม่อยากเป็นคนสุดท้ายอีกแล้ว พอคนบอกเวลามาผิด มองนาฬิกาไปก็มองผิดตามเค้าอีก เลยรีบลงกระเช้ามาสู่ด้านล่างทันที แต่พอใกล้ๆ ถึง ก็มองนาฬิกากันใหม่ อ้าว.....ยังเหลือเวลาอีกตั้งแยะ รีบลงมาซะนี่ (แต่ที่จริงข้างบนมันก็หนาวเหน็บ อยู่นอกตัวอาคารได้ไม่นานเท่าไรเช่นกัน)

ช่วงขาลงได้ถ่ายภาพบางมุมที่มีการเล่นสกี และมีทางโค้งสวยๆ เลยถ่ายภาพมาให้ชมกันด้วย เผื่อว่าใครคิดว่าพอเล่นเป็นแล้วจะขึ้นไปด้านบน เห็นภาพลานสกีโค้งๆ แบบนี้จะได้เปลี่ยนใจ เล่นแค่ข้างล่างก็พอ


พอดีมีไกด์เล่าให้ฟังว่ากรุ๊ปก่อนๆ เป็นแบบนี้เลย ไม่เคยเล่นสกีมาก่อน พอเล่นลานสกีด้านล่างจนพอเป็นแล้ว เห็นคนอื่นๆ เค้าขึ้นมาด้านบนกันก็ขึ้นมาด้วย คราวนี้ช่วงสกีจากด้านบนลงไปด้านล่างระยะทางค่อนข้างไกล และคงต้องเก่งจริงๆ ถึงจะเล่นได้ แต่คนที่ไกด์เล่าให้ฟัง ได้แผลรอยฟกช้ำกลับไปเต็มๆ



มุมนี้มองเห็นกังหันอยู่ไกลๆ แต่ไม่ได้ติดซูมขึ้นมาด้วย ก็เลยถ่ายภาพไกลๆ แบบนี้มาให้ชมกัน


ภาพนี้มองเห็นเงาของกระเช้าอยู่กันคนละฝั่งกับตัวกระเช้าที่เรียงรายกันขึ้นมา เห็นว่าสวยดี


ภาพนี้จะเห็นเครื่องพ่นหิมะให้เป็นฝอยจอดเรียงรายอยู่ ช่วงขาขึ้นก็เห็นว่ากำลังพ่นหิมะเป็นฝอยๆ กระจายทั่วลานสกี แต่ถ่ายภาพไม่ทัน ได้มาถ่ายภาพนี้ตอนขาลง


จุดนี้เป็นจุดที่ใกล้จะถึงจุดที่เป็นทางลงของกระเช้าแล้ว ภาพมุมกว้างนี้ ก็อยากนำเสนอว่าชาวเกาหลีต่างก็สนใจที่จะมาเล่นสกีกันที่นี่ หรือ ทุกๆ ที่กันอย่างคับคั่งทีเดียว ถือว่ากีฬายอดฮิตอีกหนึ่งกีฬาของเกาหลีเลย เพราะที่เห็นด้วยสายตานั้นมีตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ เด็กวัยรุ่น คู่รักหนุ่มสาว และแบบที่มากันเป็นครอบครัวก็มีหลายครอบครัวทีเดียว ส่วนชาวต่างชาติยังเห็นได้ไม่มากนัก


และภาพนี้ก็ถ่ายภาพไว้ตอนก่อนออกจากลานสกี ที่อุณหภูมิ -3 องศาเซลเซียส

ส่วนอาหารมื้อเย็นเป็นหม้อไฟเห็ด ประกอบด้วย หมู,ผักสด,เต้าหู้,เห็ดเข็มทอง,เห็ดหอม,เห็ดหูหนู เสริฟพร้อมเครื่องเคียง ได้แก่ กิมจิ ,สาหร่าย ทะเลสด,โอเด้ง ปลาข้าวสาร


แล้วก็เข้าที่พัก Yang Ji PINE Resort เป็นโรงแรม-รีสอร์ทที่มีลานสกีไว้ให้แขกที่เข้าพักได้เล่นสกีกันด้วย ลานสกีก็มีทั้งแบบมือใหม่ฝึกหัด และแบบเนินสกีที่คนเล่นเป็นแล้วอีกด้วย
มาชมภาพภายในห้องนอนที่พักกันก่อน

ห้องนอนที่พักนี้ใหญ่มากๆ แถมมีถึง 2 ห้องด้วยกัน สามารถนอนกันได้หลายสิบคนทีเดียว


ภายในห้องพักนี้เป็นห้องนอนสไตล์เกาหลี ที่เรียกว่า "อนโดล" คือการนอนกับพื้นไม้ที่เห็นนี่ล่ะ แต่ภายในห้องพักมีตู้เสื้อผ้าที่มีหมอน ผ้าห่ม ผ้านวมปูนอน ซึ่งพื้นไม้ที่เห็นนั้นภายใต้พื้นไม้มีระบบทำความร้อน Heater กระจายความร้อนมาตลอดทั่วพื้นห้องนี้ ทำให้นอนสบายมากๆ อุณหภูมิกำลังพอเหมาะอุ่นๆ

เมื่อเปิดม่านออกมาจะได้เห็นลานสกีที่อยู่ภายนอกได้อย่างชัดแจ้ง

เวลาที่มาถึงที่โรงแรมยังหัวค่ำอยู่ ยังมีเวลาให้เดินเล่นอีกเยอะ ก็ออกจากห้องไปเดินเล่นภายในโรงแรม และภายนอกโรงแรมยังบริเวณลานสกีได้อยู่
ลงมาที่ lobby ของโรงแรมก็ยังมีการจัดโชว์ snowman ฉลองคริสต์มาสกันอยู่ มาชมกัน










บริเวณหน้าโรงแรมก็ยังมีต้นคริสต์มาสให้ถ่ายรูปได้อยู่


และที่ลานสกีด้านนอก



ภาพนี้ถ่ายซุมมาสุดๆ แล้ว crop มาอีกที

หลังจากกลับจากลานสกี และอาบน้ำอาบท่าเตรียมเข้านอนแล้ว และก็เปิดหน้าต่างดูนักเล่นสกีอยู่ ก็อยากจะถ่ายภาพจากมุมบนจากบนห้องพักไปยังลานสกีดูบ้าง และก็เตรียมเจ้ากอริลล่า pod ขาตั้งกล้องตัวเล็กติดตัวมาด้วย ก็เลยเปิดหน้าต่างออกไปถ่ายภาพ ปรากฏว่าช่วงที่ออกไปนั้นน่าจะถือว่าเจออากาศที่หนาวจัด หนาวสุดๆ จริงๆ เดาเอาว่าอุณหภูมิน่าจะต่ำกว่า -10 องศาแล้ว เพราะตอนอยู่บนยอดเขาเจอประมาณ -8 องศา ก็สั่นๆ เดินไปก็ต้องถูมือไป แค่ไปจัดวางกางขาเจ้ากอริลล่า ก็ทนไม่ไหวแล้ว ต้องรีบกลับเข้ามาในห้อง ถูมือไปมาให้อุ่นๆ สักหน่อยแล้วก็ออกไปใหม่ พอจะถ่ายภาพก็ทนอากาศหนาวไม่ได้อีก เรียกว่าอยู่ด้านนอกนี้ได้นานไม่เกิน 30 วินาที ต้องกลับเข้ามาภายในตัวห้องนอนที่พักทุกที มาลองชมกันดู 2 ภาพจากระเบียงห้องพักไปยังลานสกีทั้ง 2 ลานสกี




และก็ขอจบไว้แค่นี้ก่อนสำหรับทริปวันที่สอง Hi Seoul : day II ไว้เพียงเท่านี้ และก็ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ไว้ด้วย และให้เข้ากับการมาท่องเที่ยวเกาหลี ขอขอบคุณเป็นภาษาเกาหลีไว้ด้วยนะ "คัมซาฮัมนิดา"

มาสรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่จำได้ดังนี้
- ค่าเช่าชุดเล่นสกี 30000 วอน
- ค่ากระเช้า Gondola 12000 วอน

ตามไปชมจาก Link ของวันอื่นๆ ได้ตาม Link ข้างล่างนี้

ทริปท่องเที่ยวเกาหลี ไฮ โซล [Hi Seoul : Day I]


ทริปท่องเที่ยวเกาหลี ไฮ โซล [Hi Seoul : Day III]


ทริปท่องเที่ยวเกาหลี ไฮ โซล [Hi Seoul : Day IV]




Create Date : 08 มกราคม 2552
Last Update : 13 มกราคม 2552 12:41:50 น. 13 comments
Counter : 6525 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

หิมะเต็มเลย
ท่าทางจะหนาวมากๆๆๆๆเเน่เลย

เห็นอาหารเกาหลีแล้วอยากกินจัง

เห็นคนไปเมืองนอกเเล้วอิจฉาจังครับ

................................................
วันนี้ชวนมาเที่ยววัดที่ลำปางดีกว่า


โดย: chalawanman วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:18:55:37 น.  

 
ว๊าว..หิมะหนาสะใจมากเลยค่ะ ดูรูปแล้วคิดถึงหิมะที่ Big Bear Mt.ที่ CA,USA จัง อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความหนาว อิอิ


โดย: kaajibjib วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:18:58:32 น.  

 


ตามเที่ยวต่อค่ะ





โดย: d__d♥ (มัชชาร ) วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:00:30 น.  

 
ขอมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ไม่เคยไป
"คัมซาฮัมนิดา" สำหรับภาพสวยๆที่นำมาให้ชมค่ะ


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:15:50 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยจ้าาาาา


โดย: Opey วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:19:23 น.  

 
ภาพสวยจังเลยค่ะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:19:59:58 น.  

 
ยิ่งอ่านแล้วยิ่งดูภาพก็เกิดความรู้สึก
หนาวโดยพลัน เพราะตอนนี้อากาศด้านนอกบ้าน
ไม่ถึงกับเกาหลีเลยคะ แต่ว่าก็เล่นเอาสั่นแล้ว
เพราะว่าเสื้อผ้าแขนสั้น มันเอาไม่ค่อยอยู่
กับอากาศเย็นแล้วอ่ะคะ ....


โดย: JewNid วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:21:11:46 น.  

 
รูปเยอะมากๆ..

เห็นแล้วหนาว...ว...... เลย


โดย: VELEZ วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:21:25:24 น.  

 
ว๊าววว!! ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

เคยเห็นแต่ในซีรีย์เกาหลี อิอิ

เห็นแล้วอยากไปจัง หิมะเต็มเลย

หม้อไฟเห็ด น่าทานชะมัดเลยค่ะ หิวๆๆๆ

แวะมาทักทายค่ะ :)


โดย: ChocolateStory วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:22:26:57 น.  

 
"อัน-นยองอาเซโย" และ "คัมซาฮัมนิดา" สวัสดีและขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายใน blog ชุดนี้ด้วย ช่วงนี้อาจจะยังไม่ได้แวะไปทักทายเพื่อนๆ ยังไงขอเร่งทำภาพให้ครบทั้ง 4 วันก่อนนะ และก็มีหลายท่านที่อาจจะสอบถามค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังไงจะไปเขียนไว้ให้รวมๆ กันใน day 4 ก็แล้วกันนะ


โดย: ถปรร วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:8:24:13 น.  

 

รูปสวยอีกเช่นเคยค่ะ ตามทางเดินเขาโรแมนติกดีจังค่ะ
หิมะลงเยอะมากๆ เลย ที่นี่ยังไม่มากเท่าเลยค่ะ

Photobucket




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:18:20:45 น.  

 
?????? At site
ไปเยี่ยมผมบ้างนะครับ


โดย: prempcc วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:19:03:32 น.  

 
กำลังอยากไปค่ะช่วงมกรา-กุมภา53
ไม่เคยไปเลย และคงไปตะลอนกันเองได้ความรู้และวิธีการเที่ยวมากเลยคะ
ขอบคุณนะคะที่นำรูปและประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ฟัง เผื่อแผ่ คนไม่เคยไปเลยดีจัง


โดย: zony IP: 203.156.56.243 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:14:08:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.