|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
22 มีนาคม 2552 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก - วันที่ 4 : ปอดะ ทะเล (เกือบ) แหวก
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของ trip กระบี่ เนื่องจากมีเพื่อนตามมาอีกคนเมื่อวาน และเราต้องไปขึ้นเครื่องกันตอนบ่าย 3 ดังนั้น ก็เลยมีเวลาแค่ครึ่งวัน จึงเลือกที่จะไปปอดะ ทะเลแหวก เพราะว่าใกล้
วางแผนการเดินทาง ออกจากที่พักตอน 7 โมง เดินจากโรงแรม ไปหาซื้อของกินที่ 7-11 เป็นข้าวเช้า แล้วก็ขึ้นรถประจำทางหน้า 7-11 ไปเหมาเรือที่อ่าวนาง ซึ่งน่าจะไปถึงอ่าวนางประมาณ 8 โมง ชิลๆ
ตื่นเช้า แต่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่ 6.45 ว้าว เร็วกว่ากำหนด อ่ะ เดินไปหน้าโวค แต่พอเดินไปถึง ร้านนั้นขายไรอ่ะ เปิดยัง ร้านโน้นอ่ะ อุ้ย กินกาแฟกะซาลาเปาร้านนี้มิ ว๊ายร้านนี้มีติ่มซำ ซาลาเปา ลืม 7-11 ไปเลย สุดท้ายก็มาจบที่ร้านอรุณรุ่งโรจน์ มีขนมจีบ ซาลาเปา ติ่มซำ โจ๊ก ตรงซอยที่กลางคืนจะกลายเป็นถนนคนเดินนั่นเอง
สั่งโจ๊กหมูใส่ไข่มากิน แต่เหมือนข้าวต้มมากกว่า -*- เพื่อนสั่งติ่มซำ เค้าไม่ได้กิน แต่เพื่อนว่า ไม่ค่อยอร่อย แต่ซาลาเปาจิ้มกับสังขยา (มั้ง) อันนี้อร่อย
แล้วก็มีเรื่องขำขันนิดหน่อย ทำให้นั่งขำกันอยู่เป็นนานสองนาน ไม่ได้ออกเดินทางสักที ก็คือ ทางร้านเค้ามีชาร้อนมาเสริฟ เราก็รีบเลย แย่งกาชามารินให้เพื่อนๆ แล้วก็ทำท่าประหนึ่งวา เป็นแม่นางเสียวเกี้ยวกำลังรินชาให้ท่านโจโฉ แล้วก็ยกชาให้เพื่อน เชิญดื่ม เพื่อนก็ขำกันไป แต่ก็ไม่วาย โหย จะเป็นแม่นางเสียวเกี้ยวเลยหรอ หลังจากนั้น เพื่อนผู้แสนครีเอทก็เลยพยายามตั้งชื่อให้ใหม่ แล้วก็ได้ออกมาเป็น แม่นางเสี่ยวเกี๊ยว หรือ แม่นางเกี๊ยวน้อย ไม่ต้องไปกันละ อ่าวนงอ่าวนาง นั่งขำกันอยู่ตรงนี้แหละ แต่ยัง เรื่องมันยังไม่จบ ยังไปเล่นต่ออีก ก็เลยว่า ทำไม ที่เสียวเกี้ยวยังชงชาถ่วงทัพโจโฉได้ ข้าจะทอดเกี๊ยวถ่วงโจโฉบ้างไม่ได้ พร้อมทำท่าทอดเกี๊ยวประกอบ เอ้า ขำกันเข้าไปอีก กว่าจะได้ขึ้นรถไปอ่าวนางก็เกือบ 8 โมง
จากตัวเมืองกระบี่ ไปอ่าวนาง ศึกษาไว้ก่อนแล้วว่าต้องมาขึ้นรถสีขาวๆ หน้า 7-11 สอบถามราคาก็คนละ 50 บาท รถจะแวะไปรับคนที่สะพานเจ้าฟ้า จะเห็นเขาขนาบน้ำอยู่ไกลๆด้วย ใช้เวลาเดืนทางถึงอ่าวนางก็ประมาณ 30 นาที
ตกลงกันว่าจะเหมาเรือหางยาวไป เพราะเราต้องกลับมาตอนเที่ยง ก็ไปติดต่อที่ท่าเรือได้เลย ค่าเรือไปปอดะ ก็ 1700 บาท บนเรือจะมีชูชีพให้ แต่ถ้าจะเอาหน้ากากดำน้ำ เค้าก็มีให้เช่าคนละ 50 บาท แต่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่เล่นน้ำ เพราะกลับถึงที่พักก็เก็บกระเป๋าแล้วไปสนามบินเลย
จ้างเรือเรียบร้อย พร้อม ออกเดินทางได้
ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงที่หมายแรก เกาะปอดะ เรือเราเป็นลำแรกที่มาถึง ยังไม่มีคนเลย
คือแบบว่า สวยมาก อยากจะเปลี่ยนใจโดดลงไปเล่นน้ำจริงๆถ้าไม่กลัวตกเครื่อง หาดที่นี่ค่อนข้างยาว เหมือนไปพัทยาเลย
มีปลาลายเสือเจ้าเก่าด้วย แต่ทำไงดี ไม่มีขนมปังมา ตะโกนถามพี่คนเรือ พี่เค้ามีขนมปัง (เอาไว้กินเอง) ก็เลยขอมาให้อาหารปลา ซะงั้น แต่พออาหารหมด ทำไงดี ปลาไปแล้ว ตีน้ำเล่นๆ เผื่อปลาจะมา เห้ย มาจริงๆด้วย ปลาที่นี่ สุดยอดดดดดดดดดดดด สงสัยท่านผู้ว่าจะอบรมดี แค่ตีน้ำ ก็มาหา ก็เลยเล่นกับปลากันอย่างสนุกสนาน
พี่คนเรือ ใช้มือจับปลาได้ด้วย พอจับขึ้นมา ปลาตัวนิดเดียวเองอ่ะ ดูในน้ำตัวใหญ่ นี่ใช่มะ ที่เค้าเรียก การหักเหของแสง
นู๋มะได้ทรมานปลาเน้อ โปรดสังเกต พี่คนเรือเอาน้ำรดปลา 555+ ถ่ายรูปเสร็จก็ปล่อยไป
อันนี้หาดอีกด้าน ถ่ายตอนจะกลับ
ออกจากปอดะ ก็ไปทะเลแหวก แต่พี่คนขัยเรือว่า มันยังไม่ปหวกนะ ไม่เป็นไร ไม่แหวกก็ไป
ทะเลแหวก จะเป็นเกาะ 3 เกาะใกล้ๆกัน พอน้ำลด ทรายก็จะโผล่ (ที่เห็นเป็นทางขาวๆ) เดินหากันได้ แต่ช่วงนี้ทะเลจะแหวกตอนบ่าย ก็พลาดไป แต่ไม่เป็นไร มาแล้วก็ถ่ายรูปกันหน่อย
แล้วก็เกือบกลายเป็นข่าวพาดหน้า 1 ทำฝรั่งที่นอนอาบแดดสำลักทราย เนื่องด้วยใส่เสื้อสีแดง เหลือง เขียว กันมาโดยมิได้นัดหมาย ก็เลยต้องเก็กถ่ายรูปแบบนี้สักหน่อย ฝรั่งนอนขำกันกลิ้งเลยทีเดียว
จากเกาะตรงนี้ ก็ไปถ่ายรูปตรงอีก 2 เกาะที่เริ่มมีสันทรายโผล่แล้ว แล้วเราก็เหมือนเป็น amazing thailand หรืออย่างไร คือมีแต่ฝรั่งมาขอถ่ายรูป แลพมองไปมองมา เออ ก็ไม่มีคนไทยเลย สงสัยเพราะเป็นวันจันทร์ด้วย ถ่ายรูปกันสักพัก มีเรือมาจอด อ้าวคุ้นๆ นั่นน้องลูกเรือวันที่เราไปทัวร์เกาะห้องนี่นา อิอิ พี่ไกด์ (แต่ไม่ใช่ไกด์ทัวร์ที่เราไป) เห็นทักทายกัน ก็เลยแบบมา ถ่ายรูปให้มั้ย โดว จะบอกว่าไกด์ของเกาะพีพีทัวร์ เทพมาก ถ่ายรูปกระโดดสวยอีกละ
แล้วก็ได้เวลากลับบ้าน ก่อนกลับ แวะซื้อของฝากกันนิดที่ร้านศรีกระบี่ ตอนแรกก็หยิบเงินติดมากันคนละนิดหน่อย เพราะลงเงินกันเป็นกองกลางไปแล้ว หยิบไปหยิบมา เยอะแฮะ สักพักดีใจ เค้ารับบัตรเครดิตด้วย แต่ความหวังก็พังทลายเมื่อเพื่อนทักว่า แล้วเอาบัตรมาหรอ เออ นั่นจิ ไม่ได้เอามา
ก็ซื้อกันไปเท่าที่เงินจะมี คนละถุงใหญ่ๆ กลับที่พัก แล้วก็ไปสนามบิน ตอนเครื่องออกฝนตกด้วยแหละ
แต่ดีนะ ยังไม่หลับ เพราะพอฝนหยุดตก เข้าใจเลย คำว่าฟ้าหลังฝน นี่มันสวยงามแค่ไหน เห็นรุ้งกินน้ำด้วย
ใช้เวล่ประมาณชั่วโมงนึง เครื่องก็ลงจอดถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ แต่ใช้เวลารอกระเป๋าประมาณ 45 นาที เห่ย
trip นี้ สนุกมากๆๆๆๆๆ กระบี่ สวยสมค่ำเล่าลือ และผู้คนน่ารักจรงๆ ไปไหนมีคนมาทักทายตลอด ก็อย่างที่ ททท เค้าว่าไว้
"เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้"
--- เก็บตก --- จะมาว่า เค้กกระบี่ (ก็เค้ดตรังอ่ะ) ร้านนี้อร่อยมากมาย น้ำพริกกุ้งเสียบก็อร่อย พี่ที่ทำงานเอาไปกินกะขนมปังตอนเช้าด้วย แต่ก็มีเรื่องขำขันนิด เค้ซื้อเม็ดมะม่วงอบแห้งแบบที่มัเปลือกมา แม่ก็แกะกินแล้วบอกว่า ไม่เห็นอร่อยเลย เราก็ เย้ย ปกติ เวลาเพื่อนลงมากระบี่ ซื้อมาให้กินก็อร่อยดี ก็หยิบมากิน มันก็อร่อยดีนี่แม่ แม่ก็แบบ หรอ ก็เลยส่งไปให้แม่กิน พอแม่กินแล้วก็บอกว่า อ๋อ แมนึกว่ามันเคลือบช็อคโกแลต คือแม่กินเปลือกไปด้วย เลยว่ามันไม่อร่อยนั่นเอง
Create Date : 22 มีนาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2552 16:26:35 น. |
Counter : 675 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: nokkatua 24 มีนาคม 2552 22:30:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณที่เอาภาพสวย ๆ มาแบ่งปันให้ชมน่ะค้า