5.เที่ยวบาธเมืองแห่งศิลปยุคโรมัน ในอังกฤษ

วันนี้ตื่นนอนแต่เช้า ทำภารกิจส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำกระเป๋ามาวางที่ด้านหน้าห้องพักรอพนักงานโรงแรมมาจัดการขนลงไปให้ การเดินทางเป็นกรุ๊ปก็ดีไปอย่างในเรื่องของการจัดการสัมภาระเพราะไก้ค์จะจะคอยคอนแทคกับโรงแรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคณะอยู่แล้ว ผมลงไปเพื่อรับประทานอาหารเช้าปรากฎว่าเช้านี้ลงมาก่อนเวลาอาหารเช้าประมาณห้านาทีจะขอเข้าไปก่อนทางบริกรก็ไม่ยอม จนกระทั่งเวลาหกโมงเช้าจึงยอมให้เข้าไปได้ ดูเหมือนว่าเราจะเป็นคณะแรกของวันนี้ที่เข้ารับประทานอาหารเช้า
หลังจากจัดการกับอาหารมื้อแรกของวันนี้แล้ว ยังมีเวลาเหลือผมจึงกลับไปที่ห้องพักอีกคร้ังเพื่อทำภารกิจส่วนตัว วันนี้ต้องเดินทางไกลทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์ผมหมายถึงเรื่องเกี่ยวกับท้องไส้ของเรา หากเกิดปวดกระทันหันขึ้นระหว่างการเดินทางก็คงจะทำให้การเดินทางไม่สนุก เสร็จแล้วจึงลงมาเช็คเอ้าท์พร้อมคณะเสร็จเรียบร้อย ลงมารอขึ็นรถพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ล้อหมุนประมาณแปดโมงสิบนาทีผ่านย่านเคนซิงตั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก จุดหมายปลายทางแรกคือเมืองบาธ เช้านี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายอุณหภูมิจากที่ไก้ค์บอกราวๆ 15 องศา ถนนในเมืองค่อนข้างที่จะโล่งเนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ชาวอังกฤษจะพักผ่อนกันอย่างเต็มที่เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา คือ คืนวันเสาร์จะเที่ยวผับกันอย่างเต็มที่ อันนี้ไกค์บอกนะคร้าบผมไม่เคยอยู่อังกฤษ
ไก้ค์นำคณะของเราออกพ้นจากตัวเมืองสู่เส้นทางหลวงแล้ว บรรยากาศบนทางหลวงก็เช่นเดียวกับในเมืองคือว่าถนนค่อนข้างโล่ง อากาศเย็นสบายกำลังดีขณะที่ผมกำลังนั่งเพลินกับบรรยากาศริมทางข้างหน้าต่างรถโค้ช ปรากฏขบวนรถยนต์ซิ่ง ไล่กันมาอย่างสนุกสนานสะใจในอารมณ์ สังเกตุเห็นเป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่แถมใช้รถดีๆ คงจะเป็นลูกคนมีกะตังค์เหมือนบ้านเรา ที่ชอบนำรถพ่อแม่มาซิ่งกันบนถนนหลวง แซงรถเราไปอย่างรวดเร็ว เสียดายไม่ได้เก็บภาพไว้
รถวิ่งมาได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆจึงแวะพักบริเวณที่เป็นจุดพักรถที่เรียกว่า mart บรรยากาศดีมากๆและมีของขายหลายอย่างเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อมๆเลยทีเดียว

ลองชมภาพในเบรคแรกดูกันก่อนนะครับ




บรรยากาศบนถนนหลวงยามเช้าอากาศดีมาก



สภาพชนบทของอังกฤษ ทำให้คิดถึงทุ่งรวงทองเลยนะ เนี่ย



รถวิ่งมาได้สักพักใหญ่ๆจึงแวะพัก ที่จุดพักรถดูสะอาดเรียบร้อย



บรรยากาศด้านหน้าประตูทางเข้า

หลังจากใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ ยี่สิบนาทีจึงออกเดินทางต่อ สภาพทั่ๆไปก็เช่นเดียวกับที่ผ่านมาคือเป็นถนนระหว่างเมือง และเป็นย่านชนบทเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมรู้สึกชอบชนบทที่นี่มาก แต่อย่างไรเสียเมืองไทยก็คือบ้านเกิดเมืองนอน ความอบอุ่นก็คงจะสู้บ้านเราไม่ได้ ผมนั่งคิดไปเพลินๆก็ได้ยินเสียงไก้ค์ แจ้งให้พวกเราทราบว่า ขณะนี้คณะของเราได้เดินทางเข้าสู่เมืองบาธแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าเมืองแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม ทั้งถนนหนทางและตัวอาคารตึกรามบ้านช่องล้วนแต่มีศิลป และแน่นอน ศิลปะที่ผมกำลังพูดถึงก็คือศิลปะของโรมันครับ
ผมได้มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับชาวโรมันที่เข้ามาในอังกฤษมาเล่าพอที่จะให้ท่านได้ติดตามเรื่องราวได้อย่างมีอรรถรสครับ คือ หลังจากที่ชาวโรมันมารุกรานเกาะอังกฤษในสมัยปีคริสต์ศักราช 43(AD) ชาวโรมันก็ได้เริ่มสร้างสถานอาบน้ำแร่แบบโรมัน (Roman Spa)ที่เมืองบาธ จากการค้นพบอักษรที่จารึกไว้ทำให้ทราบว่าสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นแล้วในสมัยคริสต์ศักราช 75(AD) ชาวโรมันตั้งชื่อสถานที่นี้โดยเรียกรวมกันตามชื่อท้องถิ่นของเทพธิดาแห่งน้ำคือ Sulis ผู้เทียบเท่ากับเทพธิดาแห่งน้ำของโรมันคือ Roman goddess Minerva ทิศเหนือของบ่อน้ำร้อนมีการสร้างเสาระเบียงเรียงรายประกอบเป็นวิหาร Sulis Minerva และทิศใต้มีการสร้างสถานที่อาบน้ำแบ่งเป็นห้องต่างๆสำหรับอาบน้ำแร่เพื่อความสะอาดบริสุทธิ์และเพื่อการบำบัดโรค สำหรับบ่อน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ (Sacred Spring)ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ สองอย่าง คือ อย่างแรกเป็นการบูชาผู้นำเครื่องบูชาต่อเทพธิดา Sulis Minerva จะโยนเครื่องบูชาไว้ที่ลานนี้ และอย่างที่สองคือใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำร้อนไว้เพื่อใช้ในเมืองบาธ เนื่องจากสถานที่นี้เป็นสถานที่ศักดิสิทธิจึงไม่มีผู้ลงไปอาบน้ำ แต่ภายหลังจากที่ชาวโรมันอพยพไปแล้ว วิหารแห่งนี้ก็ถูกทำลายสถานที่อาบน้ำก็เสื่อมสลักหักพังและถูกทับถมอยู่ใต้พื้นดิน ต่อมาในสมัยศตวรรษที่ 12 มีการสร้างKing's Bath คร่อม Secred Spring และมีการใช้บ่อน้ำแร่เพื่อบำบัดโรคและเพื่อการอาบน้ำร้อนในศตวรรษที่ 18 เกิดความนิยมในการดื่มน้ำแร่ขึ้น และเพื่อการนี้จึงมีการสร้างห้อง Pump Room ติดกับ King's Bath ในตอนต้นศตวรรษที่ 18 มีการค้นพบส่วนหนึ่งของ Roman Baths เป็นครั้งแรก แต่ยังไม่มีใครทราบแน่นอน ถึงความใหญ่โตของวิหารโรมัน
จวบจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1880 ได้มีการขุดพบซากปรักหักพังส่วนใหญ่ที่เหลือของ Roman Baths ทำให้ทุกคนทราบถึงความใหญ่โตที่แท้จริงของสถานที่แห่งนี้ เล่ามาตั้งนานหวังว่าคงจะไม่เบื่อ ข้อมูลที่ได้มาก็นำมาจาก The Roman Baths Bath

ต่อจากนี้ก็จะให้ชมภาพเท่าที่เล่ามาทั้งหมด เป็นภาพด้านหน้าและภายในและเป็นศิลปโรมันอย่างแท้จริง



ถนนหนทางดูสะอาดเรียบร้อยมีระเบียบ



รถราจอดกันอย่างเป็นระเบียบ รับกับฉากหลังที่เป็นอาคารสไตล์โรมัน



นี่ก็ดูโล่งสะอาดตาจริงๆ



ต้นไม้ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น



บ้านเรือนประดับด้วยดอกไม้ ดูดีมีคลาสมากๆ



นี่ก็อีกมุมหนึ่งที่ดูดีมากกกกกก



ถนนทางไปโรมันบาธเพื่อแวะที่สวนสาธารณะก่อน



บริเวณหน้าสวนสาธารณะมีผู้สูงอายุมานั่งพักผ่อนอย่างมีความสุขแสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ดี



เป็นสถานที่สำคัญของเมืองนี้แต่ผมไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าอะไรใครทราบช่วยบอกที เข้าใจว่าไก้ค์บอกแล้วแต่ผมลืม เดินผ่านสวนสาธารณะนิดเดียวก็เห็นแล้ว


หลังจากที่คณะของเราได้เก็บภาพกันอย่างเต็มที่แล้ว (แปลกแต่จริงนะ) หากเราไปเที่ยวที่ไหนก็ตามหากไม่ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้ล่ะก็เหมือนกับมันอะไรไปสักอย่าง การถ่ายภาพจึงเป็นของคู่กับการท่องเที่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ทีเดียว
คณะกลับมาขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังโรมันบาธ บริเวณด้านหน้ามีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางกันมาเรื่อยๆเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ไก้ค์ให้เรารอ อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าเพื่อที่จะไปซื้อตั๋วเข้าชมบริเวณด้านใน ระหว่างที่รอเห็นกิจกรรมของคนที่นี่มีเยอะมาก เช่น เปิดหมวกเล่นไวโอลิน หรือกิจกรรมวาดภาพของเด็ก เป็นต้น หลังจากที่ได้ตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว คณะของเราจึงเข้าชมซึ่งใช้เวลาชมประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยมีไก้ค์อธิบายให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ และมีเครื่องมือช่วยสำหรับการฟังให้นักท่องเที่ยวถือคนละเครื่อง แต่ผมไม่ค่อยได้ฟังอธิบายหรอกเพราะไม่ถนัดเท่าไรภาษาต่างประเทศ อาศัยชมของจริงตรงน้ั้นเลยจะอินกว่า หลังจากใช้เวลาในการชมจนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้วจึงทยอยเดินออกมาซื้อของที่ระลึก หลังจากนั้นจึงออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารจีนเป็นอันว่าเสร็จเรื่องราวตอนเช้า ครับขอคั่นรายการด้วยภาพอีก 1 ชุด แล้วเดี๋ยวมาเล่าต่อ





บริเวณด้านหน้าถ่ายจากบนรถ



ลงรถแล้วขอหนึ่งภาพครับ



ผู้คนมากมายทยอยเข้าชมพิพิธภัณฑ์



นี่ครับเปิดหมวกสีซอ เอ้ย สีไวโอลิน



กิจกรรมของจิตรกรน้อย



ขี่คอพ่อเพื่อที่ดูโชว์ (ฟรี)


จากภาพด้านล่างผมจะแสดงภาพภายในพิพิธภัณฑ์โรมันบาธต่อเนื่องกันไป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
























เราใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบชั่วโมงครึ่ง และได้ซึมซับบรรยากาศและกลิ่นไอแห่งโรมันอย่างเต็มที่ที่แปลกก็คือว่าเป็นศิลปโรมันที่อยู่ต่างถิ่น และปัจุบันกลายเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางโบราณคดีที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุดในยุโรป จากนั้นคณะของเราจึงออกมายังร้านขายของที่ระลึกใช้เวลาช้อบปิ้งเล็กน้อย จึงออกมารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้า ผมแอบเห็นความสวยงามของสถาปัตย์จึงอดที่จะเก็บภาพไว้ไม่ได้ กดชัตเตอร์ไปชุดหนึ่ง ลองชมความงามดูครับ




แนวเสาเรียงรายสวยงาม





บริเวณด้านหน้าอาคารสวย

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2554 Last Update : 16 ธันวาคม 2554 13:49:40 น. Counter : 2511 Pageviews.		7 comments
Share Tweet