Group Blog |
4.ชมลอนดอนทาวเวอร์บริดจ์,หอคอยแห่งลอนดอนและพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ วันนี้ผมตื่นนอนแต่เช้า ทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยจึงลงมาที่ห้องอาหาร เพื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมคณะ ตามเวลา 06.30 น. อาหารเช้าก็ไม่ต่างไปจากเมื่อวานมากนักเพราะอาหารสไตล์ยุโรป ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็เรียบร้อย อิ่มหนำสำราญ ซึ่งโปรแกรมวันนี้มีสถานที่ ที่คณะเราจะเที่ยวชมรวมสามแห่ง มีลอนดอนทาวเวอร์บริดจ์ , หอคอยแห่งลอนดอนและพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ โอ้ว!โปรแกรมยาวเหยียด ว่าแต่กว่าจะถึงเวลานัดปาเข้าไป 09.30น. ทำอะไรดีละ! คำถามเกิดขึ้นในใจ อย่ากระนั้นเลยเดินเก็บภาพต่อจากเมื่อวานดีกว่า วันนี้ผมเดินรอบใหญ่เก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าๆซึ่งช่วงนี้ถนนว่างมากก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ลองชมภาพประกอบดูครับ ภาพมุมสูงถ่ายจากห้องพักตอนเช้าตรู่ นี่คือเซ็นทรัล ฮอลล์ ถนนโล่งมากตอนเช้า นี่ก็เช่นเดียวกัน ทางฟุตบาทก็โล่งดูสบายหูสบายตามากๆ เดินมาสักพักเจอเฟอรารี่ม้าผยองเลยเก็บภาพมาให้ดู แต่เขาจอดริมถนนเลยนะ ดูอีกมุมครับงามจริงๆ ว่าแต่คันนี้โดนล้อคล้อแถมห้ามเคลื่อนย้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตรอกซอกซอยก็ดูเงียบ บ้านเรือนประดับด้วยดอกไม้เล็กๆดูสวยงามดี ถ่ายภาพอาคารที่พักให้ดูกันชัดๆ ผมว่าไม่มีสีสัน แต่ คลาสสิกดีครับ นี่คงจะเป็นโบสถ์เก่าอยู่สุดถนนที่ผมเดินวนกลับพอดี เริมจะเห็นผู้คนและรถราบนถนนบ้างแล้ว ชายคนนี้มาเปิดแผงขายหนังสือพิมพ์แล้ว ชีวิตเมืองเริ่มแล้ว ผมกลับมาที่พักเพื่อให้ทันกับคณะตามที่ได้นัดหมายกันไว้ โดยหัวหน้าไก้ค์ได้นำคณะของเราไป sightseeing ย่านต่างๆอีกครั้งเพราะยังพอมีเวลาเหลือประกอบกับว่าคณะของเราจะต้องเข้าชมสนามฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคือ โอลด์แทรฟฟอร์ดนั่นเอง ในอีกสองวันข้างหน้า ซึ่งจำเป็นจะต้องจองตั๋วล่วงหน้ารู้สึกว่าจะเป็นบริเวณใกล้ๆจตุรัสทราฟัลก้าที่ไก้ค์พาไปจองตั๋วทำให้ได้มีโอกาสชมตัวเมืองไปด้วย หลังจากรับตั๋วเรียบร้อยแล้วจึงออกเดินทางไปยังลอนดอนบริดจ์ทาวเวอร์และหอคอยแห่งลอนดอน ขณะนั่งรถผ่านสะพานลอนดอนเส่เขตลอนดอน ผมมีโอกาสได้เก็บภาพลอนดอนบริจด์ทาวเว่อร์ และ eye of London สังเกตุนะครับถ้าเป็นสะพานลอนดอนจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ธรรมดา แต่ถ้าเป็นลอนดอนบริดจ์ทาวเวออร์สะพานจะสามารถเปิด-ปิดให้เรือใหญ่ผ่านได้ครับ และยังเห็นพิพิธภัณฑ์ของกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งเป็นเรือปลดประจำการมาทอดสมออยู่กลางลำน้ำเทมส์จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เป็นไอเดียที่ดีเลยทีเดียว เชิญชมภาพครับ บริเวณจตุรัสทราฟัลก้าอยู่ระหว่างบูรณะ ขณะรถแล่นผ่านสะพานลอนดอนมองเห็นลอนดอนบริดจ์ทาวเวอร์ พิพิธภัณฑ์กองทัพเรืออังกฤษ eye of London นวัตกรรมสมัยใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ระหว่างที่รถแล่นไปยังลอนดอนทาวเวอร์นั้น ผมสังเกตุเห็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่แย่งกันขึ้นเพื่ออวดโฉมแข่งกับสถาปัตยกรรมยุคก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นรถเลี้ยวนำคณะของเราเลี้ยวเข้าสู่บริเวณลานจอดรถลอนดอนทาวเวอร์ รถจอดเป็นระเบียบเรียบร้อยมากตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เราลงรถแล้วไก้ค์ไปจัดการเรื่องตั๋ว บอกให้พวกเราทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เราพร้อมกันอีกครั้งไกค์พาไปหยุดบริเวณลอนดอนบริดจ์ทาวเวอร์ โดยไกค์ได้เล่าถึงความเป็นมาอะไรต่างๆเช่นเดียวกับที่เราได้เคยได้พบเห็นกันทั่วไป แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยตั้งใจฟังกันหรอกเพราะห่วงแต่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึก ไกค์บอกมีเวลาให้เราเก็บภาพประมาณสิบนาที เข้าทางครับแต่กว่าจะแล้วเสร็จกันก็ปาไปกว่าสิบห้านาทีตามสไตล์ไทยๆ หลังจากนั้นจึงเดินเข้าชมลอนดอนทาวเวอร์มีอะไรให้ชมเยอะมาก รวมถึงประวัติความเป็นมา ศาสตราวุธสมัยต่างๆ รูปจำลองขณะทรงม้าพร้อมอาวุธของกษัตริ์สมัยต่างๆ เราใช้เวลาอยู่ที่นั่นร่วมสองชั่วโมงจึงกลับออกมาขึ้นรถ ซึ่งจอดรออยู่อีกด้านหนึ่ง เข้าทางหนึ่งออกอีกทางหนึ่งว่างั้นเถอะ ชมภาพดูครับ ลงจากรถแล้วทยอยเดินไปทำธุระส่วนตัว จุดแรกบริเวณริมแม่น้ำเทมส์ด้านหน้าลอนดอนบริดจ์ทาวเวออร์ สะพานลอนดอนบริดจ์ทาวเวอร์ถ่ายใกล้เข้ามาอีกนิด เดินเข้าสู่ลอนดอนทาวเวอร์ สนามหญ้าและอีกา ที่นี่มีเรื่องเล่าในทางที่ดีสำหรับอีกา Tower of London เป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ของอังกฤษมีอายุกว่า 900 ปี ในสมัยก่อนใช้เป็นที่กักขังนักโทษ ซึ่งเป็นราชวงศ์ชั้นสูง เมือผ่านเข้าไปถึงชั้นใน ทำให้นึกถึงบรรยากาศที่ดูขรึมๆ ประกอบกับฟังว่าเคยเป็นที่กักขังนักโทษราชวงศ์ชั้นสูงด้วยแล้วทำให้ความรู้สึกและจิตใจเริ่มหดหู่ลงไปอีก แต่เมื่อผ่นอาคารพวกนี้แล้วเข้าสู่ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเข้ามาใหม่ๆกลับเปลี่ยนไป หรืออาจจะเป็นเพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์หน้าตาดีมาคอยต้อนรับหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ จึงเดินออกมาสู่อีกด้านหนึ่ง โดยมีรถมาคอยรับอยู่แล้วหลังจากนั้นจึงทานอาหารเที่ยงย่านโซโห ไชน่าทาวน์ โดยโปรแกรมช่วงบ่ายจะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์มาดามทรุสโซ่และบริเวณบิกเบนครับ เชิญชมภาพได้ครับ ประชาสัมพันธ์หน้าตาดีคอยต้อนรับ ม้าสำหรับกษัตริย์ อัศวินเกราะเหล็ก ศาสตราวุธชุดที่1 ศาสตราวุธชุดที่2 อาวุธปืนยาว เดินกลับไปขึ้นรถเจอนักท่องเที่ยวกล่มใหญ่ รถขายไอสครีมดูเท๋ไปอีกแบบ แท็กซี่ดูดีมีเอกลักษณ์ รถโค้ชมาจอดรออยู่แล้ว หลังจากนั้นไปรับประทานอาหารแล้วต่อไปพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซชมภาพต่อเลยครับ บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ รอซื้อตั๋วเข้าชม เข้าไปด้านในภาพแรกถ่ายคู่รูปเหมือนดาราแต่ไม่รู้จักชื่อ นี่น่าจะเป็นนักร้องแต่ไม่รู้จัก ยักษ์เขียวผู้ทรงพลัง ดาราหนังเคาบอย ไม่รู้จักชื่อ เวนน์ รูนี่ย์ นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ แลนซ์ อาร์มสตรอง แชมป์ตรูเดอฟร็องซ์ 7 สมัย ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับจักรวาลเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังแต่จำชื่อไม่ได้ ชุมนุมผู้นำศาสนาในยุคปัจจุบัน ผู้นำจีน หูจิ่นเทา อับบราฮัม ลินคอร์น นักประชาธิปไตย ยุคแรกๆของอเมริกา ที่นี่มีรูปเหมือนของบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แต่ขอนำเสนอเพียงเท่านี้นะครับเพราะจะไปชมอื่นๆอีกครับ คณะของเราใช้เวลาที่นี่ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็นการใช้เวลาที่เหมาะสมแล้วสำหรับการชมหุ่นขี้ผึ้ง หลังจากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังจตุรัสทราฟัลก้า (ออกเสียงถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อิ อิ)แต่ได้แค่นั่งชมบนรถ ต่อมารถจึงจอดให้คณะของเราลงเพื่อจะได้ถ่ายภาพกับหอนาฬิกาบิกเบนและมหาวิหารเวสมินเตอร์ มีเวลาเพียง 15 นาทีในการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แต่ผมก็พยายามเก็บภาพมาให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้นจึงกลับขึ้นรถอีกครั้งและโชเฟอร์ก็แสนจะใจดี วนรถให้ชมอีกรอบ ชมภาพครับ หอนาฬิกาบิกเบนจากมุมที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆนะครับ มีโอกาสก็มิควรจะปล่อยให้พลาด เก็บเป็นที่ระลึก มหาวิหารเวส์มินเตอร์ มุมข้างก็ดูสง่ามีราศรี อีกมุมครับ ชัดๆกันไปเลย บริเวณใกล้ๆกันมีศูนย์ประชุม อลิซซาเบทที่ 2 เสร็จจากที่นี่แล้วคณะจึงกลับย่านเคนซิงตันอีกครั้งหนึ่ง แถมมีเวลาอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง ให้เดินชมย่านออกฟอร์ดสรีท และนัดแนะเวลาและสถานที่กันเรียบร้อยแล้วจึงแยกย้ายกัน จนถึงเวลานัดรวมพล พร้อมแล้วจึงมูฟไปร้านอาหาร เรียบร้อยแล้วก็คืออิ่มหนำสำราญ จึงกลับที่พักเพื่อจะได้จัดกระเป๋าเดินทาง เพราะพรุ่งนี้จะเดินทางต่อไปที่เมืองบาธ ครับแล้วเจอกันในตอนต่อไปครับ |
koonkrich
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog Link |