|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
วงจรชีวิตของสิว
วงจรชีวิตของสิว มีบทความจำนวนมากมายที่อธิบายเกี่ยวกับการก่อตัวของสิว แต่ละบทความนั้นยากเกินกว่าจะเข้าใจ
เริ่มตั้งแต่ต่อมไร้ท่อ ในผู้ชายคือลูกอัณฑะ และในผู้หญิงคือรังไข่ ซึ่งฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้น และเป็นสาเหตุของปัญหา นั่นก็คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน
แอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่บ่งบอกลักษณะเพศชาย และที่รู้จักกันมากก็คือ เทสโทสเตอโรน ซึ่งไม่เพียงมีในผู้ชายเท่านั้น แต่มีในผู้หญิงด้วย แอนติ-แอนโดรเจนิค สเตียรอยด์ เป็นสิ่งที่ทั้งหญิงและชายจะต้องมี ได้แก่ พละกำลัง, ความหนาแน่นของกระดูก, ความต้องการทางเพศ และระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกสร้างโดย เทสโทสเตอโรน ซึ่งในผู้ชายจะมีปริมาณมากกว่าผู้หญิงประมาณ 30 เท่า แอนโดรเจนจะอยู่ในเลือด และดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเข้าไปถึงบทที่สองของเรื่องนี้ Pilosebaceous unit. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูขมขน และต่อมไขมัน ดังภาพ
อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดความแตกต่างของสิวในแต่ละคน
ในคนที่เป็นสิวนั้นพบว่าไม่ได้มีแอนโดรเจนมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นสิว แต่ต่อมไขมันของคนที่เป็นสิวนั้นไวกว่าปกติ ต่อมไขมันตื่นตัวและผลิตซีบั่มมากเกินไป ที่หน้าอก, หลัง และใบหน้า พบว่ามีจำนวนของต่อมไขมันมาก หน้าที่หนึ่งของซีบั่มคือการส่งเซลผิวที่ตายแล้วให้ออกไปจากท่อขุมขน แต่หากรูขุมขนเต็มไปด้วยซีบั่ม ขั้นตอนนี้ก็จะไม่สามารถทำได้ รูขุมขนของคุณขัดขวางและอุดตัน ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ความสกปรกและน้ำมันบนผิวไม่ใช่ตัวการของสิว แต่เป็นน้ำมันที่อยู่ใต้ผิวต่างหาก น้ำมันที่ถูกกักและเซลผิวที่ตายแล้วก่อให้เกิดความข้นเหนียวที่มีประสิทธิภาพในการอุดตันรูขุมขน ซึ่งเรียกว่า ไมโครคอมีโด เมื่อความเหนียวข้นเพิ่มขึ้นก็จะทำให้สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจะเรียกว่า คอมีโด หรือที่เรียกกันว่าสิวอุดตัน หรือสิวเสี้ยน
สิวอุดตันและสิวเสี้ยนนั้นค่อนข้างเล็ก แล้วทำไมบางอันใหญ่ ในกรณีนี้เกิดจากความสกปรกอันมีแบคทีเรียเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ เราเรียกแบคทีเรียตัวนี้ว่า P.Acne ซึ่งเป็นตัวการสุดท้าย แบคทีเรียตัวนี้ปกติอาศัยอยู่บนผิวหน้าทุกคนอยู่แล้ว แต่หากว่ารูขุมขนไม่อุดตันมากพอที่จะให้แบคทีเรียอยู่ได้ก็จะไม่เป็นปัญหา เมื่อแบคทีเรียจับตัวกัน ก็จะเกิดการอักเสบขึ้น แล้วก็จะเกิดสิวอักเสบตามมา
P.Acne ไม่สามารถกินซีบั่มเป็นอาหารได้โดยตรง แต่จะผลิตเอนไซม์ชื่อ Lipase ซึ่งจะเปลี่ยนซีบั่มเป็นกรดไขมันที่สามารถกินเป็นอาหารได้ จุดนี้เองที่ร่างกายเริ่มมีปฎิกิริยาต่อต้าน กรดไขมันจะรบกวนเนื้อเยื่อ ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดสิ่งรบกวน
เซลเม็ดเลือดขาวและเซลเม็ดเลือดแดงจะถูกส่งออกไปเพื่อต่อสู้ เซลเม็ดเลือดขาวจะทำงานโดยการกลืนกินแบคทีเรีย ตุ่มหนองสีขาวที่เห็น เกิดจากการกลืนกินแบคทีเรียของเซลเม็ดเลือดขาว
เซลเม็ดเลือดแดงทำหน้าที่เสมือนรถไฟ ที่วิ่งเข้ามาชน ความเข้มข้นของเซลเม็ดเลือดแดงทำให้เกิดการอักเสบ
ข้อมูลจาก
//www.acnetreatmentinfo.org/info/The_Life_of_a_Pimple //www.teenwire.com/ask/2007/as-20070530p1514-acne.php
สำหรับคนที่มีประสบการณ์กับการใช้ผลิตภัณฑ์อะไร สามารถเข้าไปร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับที่ หน้านี้
Create Date : 11 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2551 13:02:20 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1163 Pageviews. |
|
|
|
โดย: sak (psak28 ) วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:06 น. |
|
|
|
โดย: brianaz (brianaz ) วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:0:53:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|