เค้า No offense นะตัวเอง
ในวันหนึ่งที่อากาศร้อนๆ ตอนบ่ายๆ เด็กชายศรายุธได้มีโอกาสเข้าไปใช้บริการห้องคอมพิวเตอร์(Computer room) ที่โรงเรียน ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะคับ ว่าเด็กชายศรายุธเป็นเด็กน้อยที่โลเทคมากถึงมากที่สุด และเป็นครั้งแรกที่เด็กชายศรายุธ ได้รู้จักกับคำว่า Internet อันนี้จริงๆ เพราะตั้งแต่อยู่ประถมมาเค้าถูกกีดกันออกให้ไกลกับการติดต่อทางนี้มาตลอด
หลังจากติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการใช้บริการอินเตอร์เนตกับอาจารย์ เด็กชายศรายุธก็เดินเข้าไปนั่งประจำเครื่องที่ตัวเองได้ลงชื่อไว้ ทันใดนั้น Address แรกที่เค้าเลือกจะเข้าคือ www.sex.com เป็นแอดเดสแรกในชีวิตของการท่องสู่โลกอินเตอร์เนตของเค้า เค้าฝากผมมาบอกคับ ว่า ตอนนั้นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่รู้มีไม่กี่คำ และคำว่า sex นี่เห็นมาเป็นคำแรกในชีวิตเลย เค้าเลยใช้เข้าเป็น Address แรกในชีวิตซะเลย เข้าใจคิดนะคับเด็กคนนี้
หลังจากอิ่มเอมกับการท่องอยู่ในโลกของคำว่า sex จนสำราญใจแล้ว เด็กชายศรายุธ ก็ได้เปิดตัวเองไปสู่โลกใบอื่นๆที่เด็กน้อยในวัยเดียวกันไม่กล้าเข้าไป เค้าเข้าไปในเวปเสริชที่นิยมที่สุดในโลก google.com และพิมพ์คำว่า ทักษิณ ออกไป อันนี้ไม่เกี่ยวกันคับ เค้าค้นหาคำว่า ญี่ปุ่นกับฝรั่งอะไรดีกว่ากัน เด็กน้อยคนนี้เค้าหมายถึงประเทศไหนมีเทคโนโลยีที่ดีกว่ากัน แหม รู้นะคับว่าคิดอะไร ฮ่าๆๆ
จากบ่ายสู่เย็น เด็กชายศรายุธหมกหมุ่น อยู่ในห้องคอมพิวเตอร์อย่างไม่ลืมหูลืมตา ขอโทษนะคะ คือครูจะปิดห้องแล้ว ช่วยปิดเครื่องให้ครูได้แล้วนะ กับเด็กที่เพิ่งรู้จักคำว่าอินเตอร์เนต อาจารย์มาใช้เค้าปิดคอมพิวเตอร์ อาจารย์คิดว่าเค้าจะทำได้เหรอคับ แต่เด็กน้อยศรายุธเค้าไม่คิดมากคับ ปิดหน้าจอเดินไปถอดปลั๊กเหมือนปิดทีวีที่บ้านล่ะ ง่ายดี
คือผม(โอเล่ คนเล่าเรื่อง)ไม่ได้ว่านะคับ แต่ไอ้เด็กคนนี้มันโง่จริงๆนะคับ ว่าแล้วก็มีสำนวนภาษาอังกฤษที่หมายถึง ไม่ได้ว่า ไม่ได้ว่า มาฝากมิตรรักแฟนเพลงกันคับ No offense / ก็บอกว่าไม่ได้ว่าไม่ได้ว่า ในกรณีที่อยากด่าใครแต่ใจไม่ถึง ผมแนะนำให้เติมคำว่า No offense เข้าไปหน้าประโยคก่อนนะคับ เพื่อเป็นการsave ตัวเองในระดับนึง เช่น No offense , dude , you look like shit today.
เฮ้ย กูไม่ได้ว่านะ สารรูปมึงวันนี้โทรมเหี๊ยๆเลยว่ะ
.. No offense , honey , youre fat.!!!
อย่าว่าโง้นงี้เลยที่รัก เทอน่ะโคตรอ้วนเลย ดูตัวเองด้วย
. หรือจะเอาไว้ปิดประโยคก็ไม่ผิดคับพี่น้องคับ I thing the Korean do look horrible with any face
..No offense.
ไอ้ทรงผมแบบเกาหลงเกาหลีเนี๊ย กูคิดว่าใครไปตัดแม่งก็หน้าเหียกทุกคนเนอะ (หันไปหาเพื่อนนิดนึง) กูไม่ได้ว่าใครนะ
.. If you dont like soccer , youre a fag . No offense.
ไอ้พวกที่แม่งไม่ดูบอล กูว่าแม่งตุ๊ดว่ะ เฮ้ย นี่กูไม่ได้ว่าใครนะ แต่ อืม แม่งก็ตุ๊ดจริงนั่นล่ะ
.. (red/yellow)suck! Go fuck youself!.....No offense
(เสื้อเหลือง/เสื้อแดง)ไปตายซะไอ้สละ! (นิ่งแป๊ปนึง
.) กูไม่ได้ว่าใครนะ
.. การใช้ No offense นี่ก็คือการด่าดีๆนี่เองแหละคับ แต่ด่าแบบ เฮ้ย อย่าโกรธเค้านะ ห้ามโกรธเด็ดขาดนะตัวเอง วิธีที่จะใช้ตอบโต้บุคคลที่ชอบใช้คำว่า No offense มี 2 วิธีคับ 1.) ตอบ No taken คือ กูไม่ถือหร๊อกกกก ,อืม ไม่เป็นไรหรอก, ไม่เป็นไร เค้าไม่โกรธตัวเองหรอก ไอ้เฮีย 2.)
ชกแม่งเลย
พักเรื่องของเด็กชายศรายุธไว้ซักแป๊ปดีกว่าคับ มาอ่านเรื่องของผมดีกว่า คือผมได้มีโอกาสเปิดหนังสือภาษาอังกฤษที่ทางมหาลัยบังคับให้ซื้อในราคา 330 บาท ที่ต้องเปิดเพราะว่าจะสอบ แต่ถ้าไม่สอบ คิดว่าคงไม่เปิด ไปเจอคำศัพท์ที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เป็น เข้าใจความหมาย แต่ผมละอายไม่รู้ความหมายแถมใช้ไม่เป็น วันนี้ก็เลยขอเอาคำเหล่านี้มาประจานตัวเองหน่อยละกันคับ Nod / ก้มศรีษระ (v.)
.ยอมรับโดยดีว่าไม่รู้จักคำนี้จริงๆเฮ้ย น่าสงสารแม่ผมนะคับ Palms / ผ่ามือ (n.)
ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ ที่ผมจะเข้าใจคำง่ายๆแบบนี้ เฮ้ย แม่ ผมรักแม่คับ Both / ทั้งสองอย่าง-คน-อัน-ตัว , ทั้งคู่นั่นแหละอีดะออก ใช้เป็นได้หลายอย่างคับ(a, adv, pro.) Cheeks / แก้ม(ไม่ใช่แก้มก้นนะคับ), หน้า , หน้าด้าน(คนละอันกับด้านหน้า), ความทะลึ่ง, บังอาจ, ทะเล้น (n.) Crowd / ฝูงชน , คนมากๆ (n.) เพิ่งได้รู้ว่านอกจากเป็นยี่ห้อน้ำเมาแล้ว มันยังมีความหมายแบบนี้นี่เอง Fantastic / น่าอัศจรรย์ , น่าขนลุก Glad / ยินดี , ดีใจ , ชื่นชม , ความยินดี , เบิกบาน , ปิติ(ต๊อด), (ข่าว)ที่น่ายินดียิ่ง (a.) Whenever / เมื่อใดก็ตาม (adv.) ขนาดคำนี้ผมยังไม่รู้จักคับ อยากจะคบกับผมมั๊ยต้องคิดหนักๆคับ พอแค่นี้ก่อนคับ รับตัวเองไม่ได้ หลายคำเหมือนง่ายๆแต่ผมไม่รู้จริงๆ
ต้องยอมรับคับ ตอนเด็กๆแม่บอกให้ท่องศัพท์วันละ 5 คำก่อนไปโรงเรียน ผมไม่เคยคิดที่จะสนใจ โตมาโดนเต็มๆเลยคับ เค้าพูดอะไรนิดหล่อนภาษาฝรั่งก็ฟังกับเค้าไม่รู้เรื่อง ล่าสุดหลังจากสอบภาษาอังกฤษผ่านพ้นไป ผมกลับมาที่หอ ตั้งใจเข้าไปdownload หนังฝรั่งแบบที่ยังไม่พากษ์ไทยมานั่งดู ได้มาสองเรื่องคับ the gamer กับ อินเดียหน้าโจร นั่งดูไป พยายามจะเข้าใจ แต่ทำไมมันอยากร้องไห้จังคับ ฟังก็ฟังไม่ออก ไม่ค่อยจะรู้เรื่องซักเท่าไหร่ ได้บางประโยคที่นักแสดงเค้าพูดคำง่ายๆ yes , sir หนังเรื่องละเกือบสองชั่วโมงทั้งสองเรื่อง ดูเสร็จผมมานั่งถามตัวเอง นี่กูทำเฮียอะไรวะ กูได้อะไรจากการนั่งทรมานครั้งนี้วะ
คิดๆดูแล้ว ผมว่าผมวิ่งหนีภาษาอังกฤษทั้งชีวิตไม่ได้หรอกคับ นับวันมันก็ยิ่งมีผลกระทบโดยตรงกับการใช้ชีวิต ไหนๆวิ่งหนีไม่ได้ ผมวิ่งเข้าหามันเลยล่ะกัน ผมไม่ใช่เด็กชายศรายุธนะที่คิดว่าภาษาอังกฤษเป็นผีร้าย ที่ต้องวิ่งหนีอยู่ร่ำไป ฮ่าๆๆๆๆๆ โอเล่นายพูดได้เท่ห์มาก
..
ผมกับเด็กชายศรายุธจะกลับมาอีกครั้งก็นานหน่อยนะคับ ตอนนี้วิชา structures กำลังจะฆ่าผมแล้ว ว้ายยยยยยช่วยด้วย!!
เคดิต: a day เล่ม 108 คอลัมป์ a an the ,หนังสือภาษาอังกฤษperson to person third edition ของ oxford
Create Date : 15 มกราคม 2553 |
Last Update : 15 มกราคม 2553 9:16:18 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2750 Pageviews. |
|
|
|
โดย: mookyja วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:22:22:15 น. |
|
|
|
โดย: vbvbvb IP: 180.180.63.182 วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:14:12:31 น. |
|
|
|
โดย: ผ่านมาค่ะ IP: 49.48.3.115 วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:03:13 น. |
|
|
|
| |
|
|