Blog ร้านชำยำ(การ)ตลาด สารพัดเรื่องการตลาด อร่อยย่อยง่ายมาก ไม่เชื่อลองอ่านดูเลยครัชชชช
 
 

B.A.N.T. รหัสลับจับกลุ่มเป้าหมาย ภาค 4 ตอนจบจ้า

เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของการถอดความลับของทฤษฎี BANT กันแล้วครับซึ่งตัวอักษรที่จะมาไขไอเดียกันนะครับ นั่นคือ B หรือ Budget เรื่องเงินๆทองๆ ผมว่าใครๆก็สนใจแหละครับและแน่นอนเรื่องเงินในกระเป๋าสตางค์ของกลุ่มผู้สนใจ ในผลิตภัณฑ์ของคุณหรือคนที่กำลังเล็งอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็คำนึงถึงจุดจุดนี้เช่นกันครับ

เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้หรือเปล่าครับเราอยากได้อะไรสักอย่างแบบใจจะขาด แทบจะลงไปดีดดิ้นแบบไร้สติแต่มีสตางค์ คุณพระ!!!เงินไม่พอซะอย่างงั้น (เอิ่ม...อันนี้ไม่นับการรูดเครดิตการ์ดหรือไปใช้บัตรกดเงินสดนะ) อารมณ์ความรู้สึกคือ ทำไมต้องแพงกว่าด้วย หรือขาดไปอีกนิดเดียวเองก็จะซื้อได้แล้ว แหม๋ แอบเสียดายสุดๆ แต่หันไปเจอร้านข้างๆ ของคล้ายๆกันราคาย่อมเยาว์กว่า งั้นรีบไปจัดหามาเป็นเจ้าของดีกว่า

ถ้าถามผมนะว่าถ้าคุณเป็นร้านค้าร้านแรกที่ของดูแพงกว่าและลูกค้าก็มีเงินไม่พอจริงๆ ยอมกรีดเลือดลดราคาให้แล้วก็ไม่พออยู่ดีงานนี้เป้าหมายรายนี้คงต้องปล่อยหลุดมือไป แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าเป้าหมายหรือผู้สนใจคนไหน มีงบประมาณเท่าไรล่ะ ที่น่าจะพอมาซื้อเราได้จะให้ประกาศกล้าแปะป้ายหน้าร้าน ว่าร้านนี้รับคนที่มีเงินในกระเป๋าตั้งแต่เท่านี้บาทขึ้นไปก็ดูทำร้ายบาดจิตกันไป

มาดูตัวอย่างกันร้านอาหารจีนดีกว่าเคยเปิดเมนูแล้วเจอสารพัดราคาของชุดโต๊ะจีน ที่มีให้เลือกตั้งแต่หลักไม่กี่พันไล่ต่างราคา ต่างอาหารจานเด็ด จนไปถึงหลักหมื่นก็มีลูกค้าพึงพอใจช่วงราคาไหนก็สั่งเอง เลือกเองในระหว่างนั้นก็พิจารณาว่าอาหารในชุดมีอะไรบ้างที่อยากกิน


หลายคนคงคิดว่า อ้าวก็แหง่จิเมนูอาหารมันบอกราคามาอยู่แล้ว ลูกค้าก็เลือกได้ อีกหนึ่งตัวอย่างที่ลูกค้าบอกงบประมาณมาให้เราเองเลยเคยทำประกันกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ ตัวแทนประกันส่วนใหญ่จะถามก่อนอยู่แล้วว่าพี่ต้องการความคุ้มครองประมาณเป็นตัวเลขเงินเท่าไร ยิ่งต้องการสูงเงินที่ต้องจ่ายเบี้ยก็จะแปรผันไปในทางเดียวกัน (อันนี้ผมขอยกไม่นับปัจจัยอื่นๆ ก่อนนะ)หรือแม้แต่คุณเข้าไปชุดสูทชุดใหม่ที่ร้านขายสูท พนักงานก็อาจจะถามคุณว่ามีสีที่ต้องการขนาดไหน เนื้อผ้าชอบ และคำถามสุดท้ายงบประมาณที่ต้องการเท่าไร

ในมุมมองของบางคนเรื่องนี้อาจจะดู Sensitiveเกินไป แต่ถ้าคุณมีวิธีอ้อมๆ ค่อยๆ เก็บข้อมูลไปปัจจัยนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้เรารู้ว่าในขณะนี้คนที่เดินเข้ามาในร้านเราใช่หรือไม่ได้นะครับ

อย่างที่ผมบอกไปในตอนก่อนๆ BANT Model เป็นเหมือนธาตุทั้ง 4 ดิน-น้ำ-ลม-ไฟที่ต้องอยู่ด้วยกันเสมอ เพียงแต่ผมหยิบมาเล่าให้ฟังเป็นชิ้นๆเพื่อให้สะดวกต่อการทำความเข้าใจ ฉะนั้นแล้วห้ามทิ้งตัวใดเด็ดขาด!!! คุณๆได้เห็นทั้งหมด 4 ส่วนแล้ว ที่คุณต้องมองต่อไป คือทำอย่างไรที่เราจะรู้ข้อมูลหมดให้เร็วที่สุด และไม่ก่อความรำคาญให้คนที่กำลังเป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในขณะนี้การเก็บรวบรวมข้อมูลน่าจะเป็นทางแก้ปัญหา และคาดเดาได้ในอนาคตได้ใครจะไปรู้ว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณอาจจะมีสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เคบแวะมาหาคุณได้แบบ 100% เป๊ะเลย

“ในวันนี้อาจจะไม่ใช่ลูกค้าของคุณแต่วันหน้าไม่มีใครรู้นะครับ”

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Google ครับ




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2558   
Last Update : 28 ธันวาคม 2558 13:35:20 น.   
Counter : 666 Pageviews.  


B.A.N.T. รหัสลับจับกลุ่มเป้าหมาย ภาค 3

ถึงเวลามาอ่านเรื่องมันๆของการตลาดกันต่อกับ #ร้านชำยำ(การ)ตลาด แล้วครับ2 ภาคที่ผ่านมา เราพูดถึงเรื่องถอดรหัสลับสายลับจับบ้านเล็กเอ๊ะ!!! อันนั้นชื่อหนังหรือเปล่า? สงัสกยกำลังอินกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของค่ายหนังอารมณ์ดีGTH นั่นไงไปไกลอีกแล้ว กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตากับ BANT Model องค์ประกอบของการคัดเลือกว่าใครสักคนที่เข้ามาเราคนคนนั้นคือเธอที่ใช่หรือเปล่าได้อย่างไรนั่นเองครับ

2 ส่วนที่ผ่านไปแล้วคือเรื่องของ T (Time) หรือระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อหรือห้วงเวลาในการขอศึกษาข้อมูลนั่นเอง และอีกตัวก็คือ N (Need) หรือความต้องการของคนที่วิ่งปรู้ดเข้ามาเรา แล้วของของเราตอบโจทย์ความต้องการที่ขาดไม่ได้ของคนคนนั้นได้หรือเปล่าวันนี้ไม่ได้ แต่อนาคตไม่แน่นะครับถ้าใครที่อยากอ่านแบบเต็มลองเลื่อนดูด้านล่างของเพจนี้ได้เลยนะครับ

งั้นมาต่อกันเลยกับตัวที่ 3(แบบย้อนขึ้น เหมือนกรดไหลย้อนเวลาตีขึ้นมา แสบอกกันเลยทีเดียว)คือตัว A หรือ Authority ที่แปลว่าอำนาจนั่นเองนะครับ ผมว่าใครที่เคยทำงานประจำมา หรืออยู่ในวัยทำงานน่าจะเคยได้ยินประโยคสุด Classicนั่นคือ “Put the right man on the right job.” หลายคงเริ่มปวดหัวกว่าเดิมว่าอันนี้เพจการตลาดหรือแนะนำเรื่องทรัพยากรบุคคลกันแน่ อย่าเพิ่งงงจนคอพับคอเอียงไปก่อนครับประโยคนี้แหละอธิบายความเป็น Authority ได้ดีเลย


ถ้ามองแบบมุมการตลาด คงต้องเปลี่ยนเป็น Putthe right man on the right shop น่าจะถูกกว่า 555 ขอเปลี่ยนแบบนี้เลย ลองคิดภาพตามผมนะครับ...

บางครอบครัวทำไมเวลาซื้อของเข้าบ้านทุกอย่างต้องให้แม่บ้านเป็นคนซื้อล่ะครับ

บางคนทำไมจะซื้ออะไรทีถามตั้งแต่พี่ป้าน้าอา ข้ามย้อนไปอีก 3 รุ่นถึงค่อยตัดสินใจได้

บางครั้งเราพาเพื่อนไปซื้อของด้วยแต่ไม่มั่นใจขึ้นมา ให้เพื่อนที่ไปด้วยเคาะคอนเฟิร์มให้ซะงั้น

ตัวอย่างที่ยกมาจะเห็นว่า ถ้านักการตลาดหาเจอว่าใครที่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อแสนสบายจิตเลยครับ เพราะเราคุยกับคนที่มีอำนาจเคาะตัดสินได้ว่า “เอาหรือไม่เอา”ทันทีชะนีเด้ง แต่ถ้าเราไปเจอคนที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจอันนี้ไม่ผิดไม่พลาดนะครับ ไม่ใช่ว่าคนนี้ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่เรารู้คือ“ต้องมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง” แน่ๆเราต้องใช้วิทยายุทธ์ที่มีค้นหาให้เจอว่าคนนั้น คือใคร มาด้วยกันวันนี้หรือไม่


วิธีสังเกตง่ายๆ คหสต. นะครับเวลาใครเดินเข้ามาคนเดียว จุดนี้น่าจะฟันธงได้คนนี้แหลละตัดสินใจได้ 100%แต่ถ้าใครมา 2 ขึ้นไป ต้องสังเกตดีดีแล้วครับว่าคนไหนน่าจะมีน้ำหนักเคาะให้จ่ายตังค์ได้ ยิ่งถ้ามาเป็นเดอะแก๊งค์เลยล่ะก็อันนี้ยากล่ะครับ ต้องสังเกตพฤติกรรมไปเรื่อยๆ ใครที่ชอบตอบว่า “ไม่สวยอ่ะแกอันนี้ดีกว่า” คนนี้น่าจะพอมีแนวโน้มต้องโฟกัสเป็นพิเศษนั่นเอง

สรุปวันนี้คุณต้องหาให้เจอว่าคนที่เข้ามาหาคุณเพื่อมาสอบถามสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์แล้วคนนั้นคือคนที่มีอำนาจอยู่ในมือหรือเปล่านั่นเองแต่ถ้าแฟน bloggang คนไหนที่ชื่อจริงว่าอำนาจอันนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับ อิอิแล้วมาต่อตอนสุดท้ายของการถอดรหัส BANT Model กันต่อกับ B-Budget ครับ




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2558   
Last Update : 28 ธันวาคม 2558 13:35:00 น.   
Counter : 406 Pageviews.  


B.A.N.T. รหัสลับจับกลุ่มเป้าหมาย ภาค 2

เมื่อวานนี้เราได้รู้จักตัวอักษณที่รวมเป็นคำว่า BANT ไปแล้ว โดย #ร้านชำยำ(การ)ตลาด ซึ่งเล่าย้อนกลับหลังขึ้นมาด้านหน้าแทนงั้นวันนี้ขอต่อเนื่องกระบวนการ Reverse กลับมาที่ตัวอักษรที่ 2 คือ N หรือในภาษาอังกฤาแทนมาจากคำว่า Need หรือความต้องการ ก่อนอื่นเลยขอถามอะไรสักหน่อยครับ

คุณๆ เคยงงๆ สับสัน จนปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ปวดศรีษะ เนื่องจากหวัด ใช้ทิฟฟี่แผงสีเขียวกันบ้างหรือเปล่า ว่า “Want” กับ “Need” และยุคนี้มีอีกคำผุดขึ้นมาคือ “Desire” ต่างกันยังไง??? เพราะพี่ไทยแปลไปในทิศทางเดียวว่า “ความต้องการ” หมดเลย งั้นมาขยายความตรงนี้กันสักหน่อย หลายคนที่กำลังเกาหัวดังแกรกแกรกอยู่ ได้เวลามาไขข้อข้องใจแล้ว

NEED = ความต้องการที่จำเป็นอย่างยิ่งสิ่งจำเป็นพื้นฐาน จนขาดไม่ได้

WANT = ความต้องการที่อยากได้แต่ความเป็นจริงอาจจะได้หรือไม่ได้

DESIRE = ความต้องการที่เป็นแรงปรารถนาและเหมือนกันกับ WANT อาจจะได้หรือไม่ได้ก็เช่นกัน


งั้นเราขอวกกลับมาเรื่อง Needที่เป็นหนึ่งในการคัดเลือกใครสักคนว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายเราหรือเปล่าวิธีสังเกตดูง่ายๆ เลย เวลามีใครสักคนเดินเข้ามาในร้านของคุณประโยคแรกที่จะได้เริ่มบทสนทนากัน ผมเดาว่าน่าจะเป็นความเห็นทางการเมือง ไม่ใช่!!!จะบ้าหรอ ต้องถามว่าคุณลูกค้าต้องการอะไร หรือลูกค้าก็จะบอกเราเองว่ากำลังมองหาอะไรหรืออยากได้สิ่งใดยังไง

หลังจากได้รับรู้ความต้องการของใครสักคนแล้วธุรกิจของคุณตอบโจทย์ได้ แบบนี้ก็คลิ๊กปุ๊บใช่เลยทันทีขมีขมันแต่ถ้าสิ่งที่ลูกค้าต้องการเรายังตอบไม่ได้ทันที ก็อย่าเสียใจไปครับ!!! สิ่งที่คุณได้มากกว่าที่ผมให้มองข้ามไป เพราะคุณจะได้ข้อมูลสุดวิเศษชัยชาญว่าคนที่เดินมาหาเรามีความต้องการแบบแท้จริงเป็นอะไรสิ่งที่คุณต้องทำแบบด่วนด่วนก่อนขบวนสุดท้าย รวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้ครับอนาคตธุรกิจของคุณอาจจะหมุนเลี้ยวย้อนศรกลับไปตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเดิมๆได้นะ


มาดูตัวอย่างกันดีกว่า ธุรกิจแนวอสังหาริมทรัพย์เปิดตัวบ้านเดี่ยวทำเลใหม่คุณได้แวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ แต่ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไรเพราะรูปแบบบ้านอาจจะไม่ชอบ พอดูไปดูมาตัวเองน่าจะเหมาะกับคอนโดมากกว่าพร้อมด้วยทำเลที่ขอเน้นๆ อยากได้ติดรถไฟใต้ดินหน่อยสุดท้ายองค์กรนี้อาจจะไม่ได้ลูกค้ารายนี้ในวันนี้แต่ในวันหน้าข้างหน้าไม่แน่นะครับ ค่อยๆให้ข้อมูลเพิ่มเติมระหว่างรอโครงการที่เหมาะไปพอโครงการแนวที่ลูกค้าคนนี้ได้ทิ้งข้อความฝากรักฝากความต้องการเอาไว้เราก็ติดต่อกลับไปหาได้ หรือแม้แต่เราสามารถส่งประสบการณ์สุดพิเศษให้ได้ เช่นเชิญมารอบเปิดตัวคอนโดที่ใหม่ก่อนใครได้เลยหรือแม้แต่การเลือกห้องแบบที่ลูกค้าต้องการไว้ให้ลูกค้าล่วงหน้าในวันที่มาจองเพราะเรารู้ข้อมูลที่คุณต้องการ เจอแบบนี้เข้าไป ลูกค้าคนนี้ก็ฟินเฟร่อออออออออออ

ผ่านไปอีกหนึ่งตัวอักษรแล้วนะครับพรุ่งนี้มาต่อเติมเสริมความคิด กับ #ร้านชำยำ(การ)ตลาด กับตัวอักษรตัว A นะครับใครชอบหรืออยากให้เอาประเด็นไหนมาตีแตก ล้วงแคะแกะเกา ลองนำเสนอมากันได้เลย ^_^ผมรอความคิดเห็นดีดีจากทุกคนอยู่นะ และขอบคุณภาพประกอบจาก Google ด้วยครับ




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2558   
Last Update : 25 ธันวาคม 2558 16:20:47 น.   
Counter : 760 Pageviews.  


B.A.N.T. รหัสลับจับกลุ่มเป้าหมาย ภาค 1

วันนี้ผมจะพาคุณย้อนไปหนึ่ง Step ก่อนที่คนๆ หนึ่งจะก้าวข้าม จากผู้สนใจ หรือกลุ่มเป้าหมายของคุณ เปลี่ยนสถานะเป็นลูกค้าของคุณนั่นเอง อีกหนึ่งรูปแบบสมการสุดฮิต (แต่ปัจจุบันมีหลายๆ ทฤษฎีเริ่มออกมามากขึ้น...) ภาษาอังกฤษเรียกว่า BANT Model ซึ่งจริงๆ เกิดจากตัวอักษร 4 ตัวมารวมพลังกัน นั่นก็คือ

B = Budget

A = Authority

N = Need

T = Time

ก่อนอื่นหลายคนคงสงสัยกันอยู่ว่าเจ้าตัวอักษรสี่ตัวนั้นช่วยอะไรในมุมการทำการตลาดเนี่ย เพราะองค์ประกอบต่างๆ ข้างบนที่คุณอ่านผ่านตาไป สามารถชี้จุดจับกลุ่มเป้าหมายให้คุณได้ง่ายขึ้น และยังคัดกรองคนที่คุณอาจจะให้ความสำคัญก่อน หรือแม้แต่ถ้างบประมาณมีจำกัด แล้วต้องเลือกติดต่อสื่อสาร ออกกิจกรรม ทำแคมเปญกับคนกลุ่มหนึ่งได้สะดวกยิ่งขึ้น

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้ #ร้านชำยำ(การ)ตลาด ขอแหกกฎกติกาการอธิบาย คนอื่นๆ อาจจะเล่าจากตัวอักษรตัวแรกไล่ลงมาตามลำดับ เราขอกลับด้านตีลังกาหลังฟิคแฟคราวดอฟ 2 รอบครึ่ง โดยเล่าย้อนหลังขึ้นมาแทน วันนี้มาเริ่มจากตัว T กันนะ


เจ้าตัว T แปลความกันสั้นๆ คือเรื่องราวของระยะเวลาต่างๆ แล้วคือเวลาอะไรที่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของเราล่ะ นั่นคือระยะเวลาที่กฃลุ่มเป้าหมายจะตัดสินใจซื้อนั่นเองครับ ยกตัวอย่างให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้น เช่น ธุรกิจรถยนต์แห่งหนึ่งรู้ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าคุณอยากจะซื้อ เพราะคุณเคยไปลงทะเบียน และตอบแบบสอบถามในงานมหกรรมโชว์รถเมื่อตอนต้นปี ผ่านมาถึงเวลา 6 เดือนพอดี ทางบริษัทส่ง SMS โปรโมชั่นพิเศษผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี พร้อมส่วนลดพิเศษอีก 50,000 บาท ถ้าออกรถภายใน 31 ธันวาคม

จะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละคนมีระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อสินค้าสักอย่างไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน บางคนปุ๊บปั๊บซื้อเลย บ้างก็รอคิดไปคิดมาขอนอนหลับไปตื่นหนึ่งก่อนค่อยว่ากัน หรืออาจจะนานหลายเดือนค่อยว่ากันอีกทีก็มีเหมือนกัน

สิ่งที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกเลย คุณจะต้องพฤติกรรมลูกค้าปัจจุบันของคุณให้ได้ว่าปกติ ลักษณะการตัดสินใจซื้อเป็นอยู่ในรูปแบบใดบ้าง แล้วลองนำมาเป็นตัวเลือกในแบบสอบถาม เพื่อเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลในอนาคต สำหรับคนที่เดินเข้ามาร้าน หรือธุรกิจของคุณ แล้วยังไม่ตัดสินใจซื้อในตอนนี้ ข้อมูลชุดนี้อย่างน้อยบอกคุณได้ว่า คนคนนี้น่าจะมีแนวโน้มย้อนกลับมาหาเราอีกครั้งในเร็ววันนี้ หรือนานอยู่พอควรนั่นเอง

ผ่านไปหนึ่งตัวอักษรแล้ว น่าจะเริ่มพอเห็นไอเดียกันบ้างนะครับ พรุ่งนี้เราจะย้อนไปที่ตัวอักษรถัดไปนั่นคือตัว N ครับ อย่าลืมมาติดตามกันต่อนะ ชอบหรือไม่ชอบบทความนี้ บอกความคิดเห็นกันมาได้เลย #ร้านชำยำ(การ)ตลาด ขอรับฟังทุกความเห็นนะครับ




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2558   
Last Update : 25 ธันวาคม 2558 16:21:31 น.   
Counter : 1213 Pageviews.  



สมาชิกหมายเลข 2684335
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ!!! ขอต้อนรับเข้าสู่ ร้านชำยำตลาด blog เกี่ยวกับการตลาดที่คุณหรือใครๆก็อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก มีคำติคำชมอย่างไร ส่งมาบอกกันได้นะ เพราะทุกความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเราเสมอครับ
[Add สมาชิกหมายเลข 2684335's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com