Blog ร้านชำยำ(การ)ตลาด สารพัดเรื่องการตลาด อร่อยย่อยง่ายมาก ไม่เชื่อลองอ่านดูเลยครัชชชช
 
 

So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด#5 เพลง หยุดเวลา ของราฟฟี่-แนนซี่

วันนี้ขอพาย้อนวัยไปในวันวานกับเพลงของพี่น้องราฟฟี่ แนนซี่ กับเพลงซึ้งๆเคล้าน้ำตาที่ชื่อว่า “หยุดเวลา”


“แต่เวลาช่างน้อย จนเกินไป ที่เราจะอยู่ด้วยกัน
โปรดหยุดเวลาไว้ ให้เธออยู่กับฉัน (อยู่กับฉัน)
โปรดหยุดยั้ง เอาไว้ จะได้ไหม (จะได้ไหม)
หยุดเวลาไว้ ให้เธอไม่จากไป
หยุด หยุดก่อน ที่ตัวฉัน จะขาดใจ”


ดูเนื้อเพลงข้างบนไป มีคำว่า “เวลา” กับ “หยุด” อยู่หลายจุดเลย งั้นถามกันก่อนดีกว่าว่า รู้กันหรือเปล่า คุณมีเวลาแค่ไหนที่จะทำให้ลูกค้าอยู่กับคุณ หลายคนอาจคิดว่านานเป็นชั่วโมง หรือเกิน 30 นาที มาลองดูจากตัวคุณเองก็ได้ครับ ปกติเรารอโต๊ะร้านอาหารดังๆ ได้นานกี่นาที เราจะตัดสินเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ตอนเดินผ่านช่วงหลังทานข้าวเที่ยงกี่นาที คุณเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตครบทั้งหมดกี่นาที (แบบมีโพยรายการที่จะซื้อนะ) ร้านอาหารจานด่วนชื่อดังบริการเสริฟอาหารคุณภายในกี่นาที คุณเองถ้าอยากสั่งอาหารมาเดลิเวอรี่ถึงบ้าน คุณจะคิดถึงร้านไหนเป็นร้านแรก แล้วคุณคิดเพียงกี่วินาทีครับ


เป็นยังไงบ้างครับ เพียงไม่กี่วินาทีเราตัดสินใจเกี่ยวกับ แต่ละยี่ห้อสินค้า จำนวนที่ต้องการ ขนาดไหนดี สีไหนโดน ดังนั้นคุณมีเวลาสั้นมากในการทำให้ลูกค้าตรึงตาตรึงใจให้อยู่กับคุณได้ ไม่ใช่ว่าของคุณไม่เจ๋งนะครับ แต่รอบกายลูกค้าคนหนึ่งมีหลายสิ่งที่วนอยู่รอบตัวเขาตลอดเวลา การที่จะเลือกอะไรสักอย่างก็ว่ายากแล้ว เราจะจัดการเวลาอันสั้นที่มีอยู่ให้ลูกค้าโอเคกับเราก็ยากกว่าอีก




แล้วแบบนี้ทำไงดีที่จะให้เวลาอันสั้นมีค่ามากที่สุด ผมมีข้อแนะนำ 3 คำสั้น คือ “จับ-จูบ-จริง” มีอะไรกันบ้าง มาดูกัน

- จับ นั่นคือคุณต้องใช้เวลาสั้นๆที่มีอยู่ให้มีค่าสุดติ่งกระดิ่งแมว ทำอะไรดีให้คุณดูโดดเด่น แต่ไม่จำเป็นต้องแตกต่างก็ได้ จนลูกค้าจับตา 2 ดวงของเขาอยู่กับคุณให้ได้

- จูบ ผมไม่ได้ให้เดินไปจูบปากลูกค้านะครับ หมายถึง สิ่งที่คุณทำในจุดแรก หรือตรงที่ลูกค้าเดินเข้ามาแล้ว ต้องจูบใจลูกค้าให้ได้เลย เรียกว่า เดินเข้ามาก้าวแรกก็จูบใจเลย หรือบริการนาทีแรกก็เลิฟเลิฟเลย อันนี้ต้องลองหาดูนะครับ วิธีนี้ทำได้ไม่ยากครับ

- จริง สิ่งที่ลูกค้าต้องการเสมอ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร ผลิตภัณฑ์ใด บริการยังไง ความจริงใจก็ต้องมีอยู่ตลอดครับ เพราะการทำอะไรที่จริงใจ ก็เปรียบเสมือนซื่อสัตย์ต่อลูกค้าคนสำคัญของคุณทุกเวลา ตัวเราเองยังไม่ค่อยชอบคนที่ไม่จริงใจ ลูกค้าก็เหมือนกันแหละครับ


อ่านมาถึงตรงบรรทัดนี้แล้ว ได้เวลาหาจุด “จับ-จูบ-จริง” ของคุณให้เจอแล้วล่ะครับ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกแนะนำให้ดูละครอาเปี๊ยก พิศาล แนวซาดิส ตบจูบ ตบจูบ แทน จะบ้าหรือ ผมพูดเล่นนะครับ ถ้ายังคิดไม่ออก ผมแนะนำให้คุณไปลองเดินในห้างสรรพสินค้าดูตามแผนกต่างๆ ลองเดินไปหาอะไรอร่อยๆทาน หรือแม้แต่ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์สักเรื่อง ที่ผมบอกไปแนวนั้น เพราะสถานที่เหล่านี้มีจุด “จับ-จูบ-จริง” ให้คุณเห็นเป็นตัวอย่างได้ครับ


ขอบคุณเพลงหยุดเวลาจากราฟฟี่ แนนซี่ด้วยครับ




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2558 16:56:03 น.   
Counter : 677 Pageviews.  


So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด#4 เพลง ลอยกระทงวันสงกรานต์ ของอ่ำ อัมรินทร์

สวัสดีวันลอยกระทงครับ ชาว blog ร้านชำยำ(การ)ตลาด วันนี้หยิบเพลงมา So Sad Bad ถั่วมัวหมองคลองชลประทานกันแล้วครับ กับเพลงที่เข้าเทศกาลเลย คือเพลงลอยกระทงวันสงกรานต์ ของคุณอ่ำ อัมรินทร์


So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด #4 T_T ขอหยิบท่อนที่ร้องว่า...

"จดจำว่าเคยนัดใครบางคน เพื่อลอยกระทงด้วยกัน
ที่ตรงริมน้ำใต้เงาพระจันทร์ เธอกลับลืมคำสัญญา
ตั้งแต่วันนั้นผมยังฝังใจ ตรุษจีน วาเลนไทน์เรื่อยมา
ล่วงเลยวันนี้สงกรานต์ผ่านมา ตั้งใจจะมาลอยกระทง..."

พูดถึงวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆในประเทศไทยเราก็มีเยอะแยะนะครับ จากในเนื้อเพลงข้างบนก็บอกไว้หลายเทศกาลที่ดังๆ หลายอย่างเลย ตอนวันนี้เลยขอมาเจาะกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Cultural Marketing หรือการตลาดแบบตามประเพณีต่างๆ นั่นเอง ซึ่งถือว่าอีกหนึ่งรูปแบบทางการตลาดที่คุณๆ อาจจะเคยเจอะเจอพบเห็นกันผ่านตาบ้าง มีอะไรกันบ้าง ผมยกตัวอย่างมาให้ดูด้านล่างนี้เลยครับ

- วันเด็ก พาเด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ไปเที่ยวฟรีตามสถานที่ต่างๆ
- เครือข่ายมือถือชื่อดัง แจกกระทงให้ลูกค้าคนพิเศษฟรี เพียงแวะไปใช้บริการที่สาขาที่ร่วมรายการ
- สายการบินสุดเจ๋ง ขอมอบความพิเศษให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางในวันขึ้นปีใหม่ไทยด้วยขนมไทยมงคลสูตรพิเศษ
- ขนส่งมวลชนในวันพ่อและวันแม่แห่งชาติ พาคุณพ่อและคุณแม่เดินทางกับคุณลูกด้วยกันฟรี



แต่สิ่งที่หนึ่งที่ผมสัมผัสได้จากการทำ Cultural Marketing ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ในเชิงการกระตุ้นการขาย แต่เป็นในมุมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ (Branding) ของแต่ละผลิตภัณฑ์ หรือเป็นมุมของการตอบแทนสังคมขององค์กรต่างๆ นั่นเอง มองมุมในกลับกันนะครับ อันนี้ไม่มีจริงนะ ผมแค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพกัน ซึ่งถ้ามีจริงอันนี้เรียกว่าไม่ไหวจะเคลียร์ อ่อนเพลียจะคุยแน่ๆ เช่น

- ร้านอาหารปิ้งย่างชื่อดังทำโปรโมทชุดบุฟเฟ่ต์เนื้อคอมโบ ราคาสุดพิเศษในช่วงเทศกาลกินเจ และมา 4 จ่าย 3 เฉพาะช่วงทานเจเท่านั้น
- วันเข้าพรรษา ร้านดื่มด่ำฟังเพลง ออกโปรเปิดเบียร์ฟรี 1 ขวดแถม 1 ขวด

อย่างที่ยกตัวอย่างทั้งสองแบบไป ผมเองคิดว่าประเพณีต่างๆ ของชาวไทย เป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข ความสนุกสนานบานทุ่ง ดังนั้นแนวทางการตลาดที่จะออกมาในช่วงเวลาเหล่านี้ ควรมอบความสุขให้กับลูกค้ามากขึ้น หรือทวีคูณความสุขให้ชุดใหญ่เถิดเทิงทิงนองนอยนั่นเอง

ก่อนจากกันในตอนวันนี้ ขอให้ชาวเพจทุกๆคนมีความสุขในวันลอยกระทงนะครับ อะไรที่ทำให้ทุกข์โศก ขอให้ปล่อยไปประทงครับ พร้อมขอขมาพระแม่คงคาด้วยครับ และต้องขอบคุณเพลงประจำตอนวันนี้ เพลงลอยกระทงวันสงกรานต์ของคุณอ่ำ อัมรินทร์ครับ




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2558 21:06:04 น.   
Counter : 351 Pageviews.  


So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด#3 เพลง จากคนรักเก่า อ๊อฟ ปองศักดิ์

ได้เวลามา So Sad Bad ถั่วมัวหมองคลองชลประทานกันแล้วครับ กับช่วง So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด #3 T_T

ตอนวันนี้ชอยกเพลงสุดฮิต สุดโปรดของผม เรียกว่าเป็น Top Playlist ที่เชื่อว่ายังอยู่ในใจคุณๆ (ในยุดเดียวกับผม) แน่นอน เพลงนี้ก็คืดเพลง "จากคนรักเก่า" ของคุณอ๊อฟ ปองศักดิ์ครับ เนื้องเพลงท่อนที่จะหยิบยกมา เลือกมาจากท่อนแรกของเพลงเลยครับ ท่อนที่ร้องว่า...

"เธอไม่ชอบไปไหนคนเดียว เธอไม่ชอบเจอความวุ่นวาย
ถ้าหากเธอโมโหเมื่อไร ให้เงียบไว้เดียวหายเอง
เธอชอบกุหลาบสีชมพู เธอชอบไปทะเลทุกปี
ถ้าอยากให้เธอนอนหลับฝันดี ก่อนนอน บอกเธอว่ารัก..."

ท่อนนี้อ่านดูผ่านๆ แล้วไม่น่าจะมีอะไร แต่ถ้าคุณมีลูกค้าประจำของร้านค้า หรือลูกค้าที่รักในตัวองค์กรของคุณ หรือลูกค้าที่รักผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างแรงแซงทุกโค้ง เครื่องมือที่สามารถช่วยต่อยอดทางการตลาดได้ คือ "การรู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าคนพิเศษของคุณ" ลองนึกภาพตามสถานการณ์ด้านล่างนี้นะครับ ถ้า...

- คุณเดินเข้าไปร้านอาหารที่คุณไปทานประจำแล้วจำรสชาติที่คุณชอบทานได้ว่า ไม่ทานรสหวาน พร้อมรู้ว่าคุณไม่ชอบทานปลาหมึก และวันนี้วันพุธคุณทานมังสวิรัติ
- คุณจองโรงแรมแล้วเวลาเข้าพักทางโรงแรมมีป้ายเล็กๆ บนเตียง เขียนว่า เรารู้ว่าคุณชอบนอนแบบนุ่มๆ เราจึงเตรียมไว้ให้คุณสองใบ และอาหารเช้าแบบที่คุณชอบจะมาเสริฟที่หน้าห้องตอน 7 โมงเช้า เวลาที่คุณตื่นมาพอดี
- คุณเดินไปโรงงานที่ซื้อของด้วยกันประจำ เวลาออกใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี เจ้าหน้าที่จำได้ว่าต้องออกที่อยู่อะไร แล้วทำเอกสารถูกต้องเป๊ะเลย โดยคุณไม่ต้องเอยปากเลยสักคำ
- คุณช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า และทุกแผนกที่คุณจ่ายเงินค่าสินค้า พนักงานทุกคนพูดชื่อคุณได้ทุกครั้ง และกล่าวขอบคุณพร้อมตามด้วยชื่อคุณเสมอ

เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมว่าจริงๆ คุณสามารถลองเริ่มปรับ หรือทำตามดู เพื่อสร้างความประทับใจ หรือรอยยิ้มเล็กๆ ในหัวใจของคนพิเศษของคุณ


หลายๆ คนคงนึกว่าแล้วผมจะจำรายละเอียดของลูกค้าคนหนึ่งได้อย่างไร วิธีการเริ่มต้น ผมแนะนำจากการเริ่มเก็บข้อมูลเหล่านี้ในเป็นระบบระเบียบ หรือถ้าภาษาเทคนิค คือ การทำ Database นั่นเอง แต่ในช่วงแรกคุณสามารถทำฐานข้อมูลได้ง่ายๆ เช่น เก็บเป็นแบบสอบถาม แล้วนำมากรอกลงตารางใน Excel เป็นต้น แค่เท่านี้คุณก็เริ่มมีข้อมูลของคนพิเศษแล้วครับ

หลังจากนี้ก็แค่ทำให้คนพิเศษของคุณ รู้สึกพิเศษขึ้นมาทุกครั้งที่มาเจอเรา หรือแวะมาหาเรา แล้วบางครั้งความพิเศษดูเหมือนจะวัดค่าอะไรไม่ได้ อาจจะทำให้รายได้ของคุณทวีคูณขึ้นมา จนคุณอาจจะตกใจกับตัวเลขมูลค่าที่สูงขึ้น เพียงแค่คุณลองใส่ใจในความต้องการของลูกค้าสักนิดครับ

ขอบคุณเพลงจากคนรักเก่า ของคุณอ๊อฟ ปองศักดิ์ด้วยครับ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า ว่าผมจะหยิบเพลงไหนมาเล่าการตลาดกันต่อ ชอบหรือไม่ชอบตอนนี้ ฝากแนะนำหรือ Comment กันด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2558 21:17:47 น.   
Counter : 414 Pageviews.  


So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด#2 เพลง เบอร์สอง ของเต้ สันต์ Project Love Pill

"...เรามันเป็นคนดีที่สุด ไม่ไหว

แม้ว่าเอาชนะใจเธอ ไม่ได้
ขอให้เธอได้รู้ว่า คนอย่างฉันเข้าใจ
และไม่เคย จะโกรธเธอเลย

อาจจะเป็นแค่คนที่เธอ ไม่เคยจะหันมอง
อาจจะเป็นแค่คนที่เป็นได้เพียงแค่เบอร์สอง
อาจจะเป็นแค่รักจำลอง
เป็นของที่เธอไม่สน เลยมองข้ามไป..."


ยกเพลงนี้มาประเดิมเนื้อหาชุดใหม่ที่นำมาถ่ายทอดกันครับ ผมว่าเพลงนี้น่าจะโดนใจ เหล่าร้านหรือยี่ห้อผลิตภัณฑ์เบอร์สอง หรือเบอร์รองๆลงมา เพลงนี้จริงๆ ผมว่ามีมุมมองอีกมุมที่น่าคิดตามนะครับ


เพราะในเพลงบอกแล้วว่าเราเป็นคนดีที่สุดแล้ว แต่อาจจะชนะใจเธอ หรือชนะใจลูกค้าไม่ได้ เรามาลองวิเคราะห์ดูกันก่อนว่า สิ่งที่เราทำได้ดีแล้วมีอะไรบ้าง กลุ่มเป้าหมายของเราเขารับรู้เรื่องความดีของคุณบ้างหรือเปล่า และในพื้นที่ตลาดที่เราอยู่ในสมรภูมิการแข่งขันมีใครทำในลักษณะแบบเดียวกับเราหรือเปล่า ถ้าไม่มีนั่นคือจุดที่คุณรีบเน้นย้ำด่วนๆ ณ บัด now เลย


แล้วหยิบเรื่องนั้นเอาออกมาป่าวประกาศให้โลกรู้ ให้ลูกค้าทราบเพิ่มเติม จากสิ่งที่ลูกค้าเดินผ่านไปไม่แวะหันมามองบ้าง หรือผ่านสายตาไป ลองหยิบประเด็นใหม่นี้ นำมาพูดกันดีกว่า หรือถ้าเคยพูดไปแล้ว ลองหยิบมาปัดฝุ่นสักหน่อย เอามาเล่าใหม่อีกครั้งอาจจะเกิดผลดีก็ได้ เรื่องแบบนี้น่าสนับสนุนนะ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย พอคนรับทราบมากขึ้น จากที่เห็นคุณเป็นมวยรอง ก็อาจจะกลับมาเป็นมวยนำก็ได้

เช่น Call Center ที่ดูแลคุณได้เสมอ, พนักงานบริการให้คำแนะนำอย่างครบถ้วน ไม่หมกเม็ด, การออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะ หรือแม้แต่บริการหลังการขายที่ลูกค้าประทับใจ เป็นต้น


แต่ต้องย้ำว่าสิ่งที่นำมาบอกเล่าให้คนรับรู้ เป็นเรื่องดี งานคุณภาพ ทำได้จริง และต้องทำสม่ำเสมอนะครับ เพราะผมเชื่อว่ามีลูกค้าบางกลุ่มที่ค้นหาคุณภาพที่ถูกใจ บวกกับราคาเหมาะด้วย นอกจากจะแค่เอาแต่ราคาถูก ราคาต่ำข้างเดียวเสมอ


ได้เวลามาปฏิวัติตัวคุณเองกันเถอะครับ ใช้คำว่าปฏิวัติดูแปลกๆ แต่เปล่าพาดพิงอะไรนะครับ แต่ผมว่าคำนี้่ความหมายดีนะ มาเริ่มออก Start ปรับปรุงสักนิด หรือพยายามพัฒนาแบบ Non stop ครับ ดุเหมือนน่าเหนื่อยตลอดไป แต่เหงื่อที่ไหลไคล้ย้อยครั้งนี้ อาจแลกด้วยรายได้ที่มากมายนะครับ คืนนี้ขอฝากไว้สำหรับเพลงแรกของเศร้าเล่าการตลาดครับ ชอบหรือไม่ชอบ แนะนำกันมาได้นะครับ และขอบคุณเพลงเบอร์สองด้วยครับ




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2558 12:57:55 น.   
Counter : 237 Pageviews.  


So Sad Marketing Music เพลงเศร้าเล่าการตลาด#1 เพลง Please ของอะตอม

“รู้ฉันรู้ยังไงก็คงไม่ต่าง

รู้ฉันรู้ยังไงเธอก็เลือกเขา
รู้ถึงฉันขอร้องยังไงเธอคงต้องลืมเรื่องของเรา
เพราะว่าเขาดีกว่า เพราะเขาสำคัญกว่า

รู้เธอมีเหตุผลอะไรสักอย่าง
ที่ทำให้เธอไม่คิดจะอยู่กับฉัน
อาจเป็นเพราะเธอแค่เหงาใจในวันที่เราพบกัน
เธอแค่มีความสุข แต่ว่าเธอไม่ได้รักกัน
…”


มาดูกันว่าเพลงนี้จุดการตลาดที่หลายๆคนชอบลืมกันนั่นคือรู้ว่า “เธอมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ที่ทำให้เธอไม่คิดจะอยู่กับฉัน อาจเป็นเพราะเธอแค่เหงาใจในวันที่เราพบกัน เธอแค่มีความสุขแต่ว่าเธอไม่ได้รักกัน”

ถ้าเปรียบเธอคือลูกค้าแล้วคุณเคยรู้กันหรือเปล่าว่า “ลูกค้าไม่อยู่กับเราเพราะอะไรกันบ้าง”หรือ”ลูกค้าแค่แวะมาแล้วทำไมไม่รักเราหละ แค่มาครั้งเดียวแล้วจากไปเลยหรือ” เอาเหตุผลแบบความจริงนะไม่ใช่แบบประมาณเอาเอง นั่งเทียนเขียนข่าว เดาสุ่มเองหรือความรู้สึกคิดว่าอะไรบางอย่าง ลูกค้าไม่ชอบเราเพราะอย่างงั้น ลูกค้าไม่มาเจอเราอีกเพราะอย่างงี้

เรื่องนี้ต้องขยายความครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วรีบค้นหาเหตุผลแบบด่วนๆ เช่น

- เคยได้เข้าไปบ้างหรือยังว่าในโลกอินเตอร์เน็ตว่ามีใครพูดถึงเราในเชิงไม่ดี

- ได้อ่านคำแนะนำบริการเราในใบแสดงความคิดเห็นหรือยัง

- ลูกค้าไม่เข้าใจโปรโมชั่นหรือกิจกรรมที่เราจัดหรือไม่

- เคยนั่งสังเกตพฤติกรรมการให้บริการของลูกน้องเราเองบ้างมั้ย

- ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือเปล่า

เก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ เพื่อจะได้รวบรวมแง่มุมที่น่าสนใจเอามาปรับปรุงแก้ไขให้งามงดเช้งกระเด๊ะ ทำให้ลูกค้ากลับมาอยู่กับเราแทนหรือถ้าจากเนื้อเพลงก็ให้เธอคิดอยู่กับฉันนั่นเองหรือแม้แต่วันที่ลูกค้าเหงาใจเองก็ยังคิดถึงเราเสมอเช่นกัน

หนึ่งทางออกที่ผมลองเดาว่าคุณกำลังคิดอยู่แก้ปัญหานี้โดยการใช้กลยุทธ์ลดราคาเลย สำหรับผมกลยุทธ์นี้ใช้เป็นครั้งคราวพอได้แต่ใช้ระยะยาวไม่น่าโอเคคุณกำลังเอาตัวเองไปเสี่ยงกับสิ่งที่ควบคุมได้จริงหรือเปล่าต้องลองตอบคำถามนั้นดูครับ เพราะว่าการลดราคาแบบถาวร หรือยาวๆ ผู้บริโภคจดจำไปแล้วและกลายเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะคาดหวังต่อ ถ้าคุณขึ้นราคามาขายราคาที่สูงขึ้นลูกค้าก็อาจ Say goodbye ไปหรือถ้าคู่แข่งจับแนวทางคุณได้ ก็มาชิงตัดหน้าลดกระหน่ำกว่าเข้าไปอีกถ้าเราทุ่มทุนสู้ไม่ไหว งานนี้มีเทหน้าตัก แต่ไม่ใช่รักหมดใจนะครับกลายเป็นหมดทั้งตัวและใจพร้อมกันได้เลย


ดังนั้นต้องวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนว่าปัญหาลูกค้าไม่ปลื้มไม่รักเราเกิดจากอะไรแล้วมุ่งหน้าวิ่งชนอย่าไปกลัวที่เข้าไปแก้ไข ปัญหาจุดนั้นๆ ให้เร็วที่สุดด่วนจี๋เลย เพื่อไม่ให้ลูกค้าหลุดไปจากเราไปหรือแม้แต่ถ้าลูกค้าเลือกกลับมาหาเราอีกครั้ง จะได้รักเราเลยและผมหวังว่าทุกอย่างที่คุณได้ลองปรับจะตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น เหมือนเนื้อเพลง Please ในท่อนนี้ครับ

“แต่เลือกฉัน เลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี

โปรดถามใจเธออีกที เพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่เธอ”

ขอบคุณเพลง Please ของคุณอะตอมครับ




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2558 12:58:27 น.   
Counter : 386 Pageviews.  



สมาชิกหมายเลข 2684335
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ!!! ขอต้อนรับเข้าสู่ ร้านชำยำตลาด blog เกี่ยวกับการตลาดที่คุณหรือใครๆก็อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก มีคำติคำชมอย่างไร ส่งมาบอกกันได้นะ เพราะทุกความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเราเสมอครับ
[Add สมาชิกหมายเลข 2684335's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com