>>น้ อ ง ช า ย ค น เ ล็ ก<<
Group Blog
 
All Blogs
 

LA SALLE COLLEGE BANGKOK

คราวนี้ผมขอบ่นเรื่องที่โรงเรียน ที่วันนี้ (16มีนาคม) ผมไปรับผลสอบมาแล้วเจอเรื่องซวยสองเด้งหน่อยละกัน
เรื่องแรกเป็นเรื่องของใบรบ.
แน่นอนพอได้ยินว่าเป็นใบรบ. มันก็ต้องเป็นใบสำคัญถูกปะครับ ครูประจำชั้นบอกผมว่าให้ส่งรูปไป6ใบเพื่อใช้ติดในเอกสารต่างๆของโรงเรียน
โอเคครับส่งให้แล้ว6ใบเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคมหลังจากปีใหม่
วันนี้เป็นวันที่โรงเรียนประกาศผลสอบ ผมอยู่ม.6 แน่นอนว่าเอกสารสำคัญต่างๆผมก็ต้องได้มาทั้งหมด แต่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้กลับมาคือ
ใบรบ.
แน่นอนมันเป็นใบสำคัญที่จะต้องใช้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เหตุผลที่ผมไม่ได้น่ะหรอครับ
ทรงผมที่ถ่ายในรูปที่ใส่ชุดนักเรียนไม่ผ่าน
นี่เป็นเหตุผลที่ครูประจำชั้นผมบอกมา จากการบอกของครูหัวหน้าสายที่อยู่ฝ่ายวัดและประเมินผล
แต่อย่างเดียวที่ผมอยากจะถามกลับคือ ทำไมไม่ตรวจสอบตั้งแต่ทีแรก ทำไมถึงต้องดองไว้เป็นเดือนๆ
แล้ววันที่ตรวจรูปตรวจเมื่อไหร่ คำตอบคือ
ตรวจเมื่อวาน 15มีนาคม ครับ แล้ววันประกาศผลสอบของผมคือวันนี้ 16มีนาคม ลองคิดดูละกันว่าทำงานไม่มีระบบขนาดไหน ทำงานกันแบบไฟลนตูด ทุเรศ ผมพูดได้แค่นี้แหละ ถ้าเกิดว่าบอกตั้งแต่เนิ่นๆก่อนหน้านี้นะ จะไม่ว่าอะไรซักคำเลย
เรื่องที่สอง วารสารโรงเรียนครับ คือจะมีมาเป็นช่วงๆผมก็จำไม่ได้ละว่าเทอมนึงมีกี่เล่ม แต่ครับ
แต่ว่าเทอมที่สองปลายเทอมของปีการศึกษานั้นจะได้รับอีกเล่ม แล้วในเล่มนั้นก็จะมีรูปถ่ายของนักเรียนแต่ละห้อง ลงเป็นห้องๆเอาไว้ แต่ว่าของม.3 และม.6 เนี่ย จะพิเศษหน่อยคือเค้าจะบอกไว้ใต้รูปหมู่ที่ถ่ายไว้ว่า แถวนี้ๆจากซ้ายไปขวาคนนี้ชื่ออะไร แล้วก็จะมีรูปเดี่ยวแยกออกมาอีก บอกว่าคนนี้ชื่ออะไรเลขประจำตัวอะไร
แต่.........แต่อีกแล้ว ผมเป็นคนเดียวที่ไม่มีรูปเดี่ยวแยกออกมาน่ะสิครับ เป็นคนเดียวในม.6เลยด้วยซ้ำ ตอนที่ผมไปรับใบเกรดแล้วก็เอกสารต่างๆก็ได้วารสารมาด้วย ผมเปิดไปดูปรากฎว่าไม่มีรูปผม ผมก็เลยบอกกับครูประจำชั้นผมว่า เนี่ยไม่มีรูปผมอะทำไมไม่มี ครูผมก็บอกว่าไหนมาดู ก็ไม่มีจริงๆ ผมก็เลยตัดสินใจเดินไปหาครูที่อยู่ฝ่ายทำวารสารของโรงเรียน เจอแล้วผมก็เดินไปวีนครับ
ผม : เนี่ยมาสเตอร์ดูดิ ทำไมไม่มีรูปผมล่ะมันหมายความว่าไงเนี่ย
ครู : ไหนๆมาดูซิ (แล้วก็ดู)
ผม : นี่มาสเตอร์บอกตรงๆเลยนะ ว่าทุเรศมากแล้วก็ชุ่ยมากด้วย ผมเป็นคนเดียวเลยนะไม่มีรูปในนี้อะ ม.6ทั้งหมดไม่มีรูปผมคนเดียวเลยนะ
ครู : เอางี้ เธอลองไปคุยกับครูประจำชั้นดูนะว่าตอนที่ครูส่งไปให้ครูเธอตรวจบรู๊ฟเนี่ย มีรูปเธออยู่รึป่าว เพราะครูเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ครูเองก็เอารูปตอนม.3 ของคนที่ไม่มีรูปมาใส่เหมือนกันนะ
ผม : โอเคครับ
ก็เดินกลับไปที่ห้อง ก็ไปถามครูประจำชั้นผม เค้าบอกว่าตอนที่ครูที่ทำวารสารเรื่องรูปเนี่ยเค้าส่งมาให้ตรวจ ส่งมาตอนเช้าวันที่9มีนาคม แล้วก็จะเอาตอนเย็นวันนั้น เค้าบอกว่าตอนตรวจ ไม่มีรูปมผมแล้วก็เพื่อนผมอีกประมาณสองถึงสามคนที่ไม่มีรูป เค้าก็ตรวจดูแล้วก็ตรวจชื่อว่าสะกดถูกต้องรึป่าว เสร็จแล้วก็รีบส่งไป ด้วยความรีบเพราะจะเอาตอนเย็นวันนั้นเลย
แต่ตอนที่ถ่ายรูปเนี่ย ครูผมที่ทำวารสารน่ะ เค้าเรียกไปถ่ายรูปทีละคนๆเลย แล้วแน่นอน ผมก็ต้องถ่ายด้วยสิ แต่นี่ทำไมไม่มีผมล่ะ รูปผมหายไปไหน มันจะต้องมีรูปตอนส่งมาให้ครูประจำชั้นตรวจบรู๊ฟด้วยสิ แสดงว่ารูปน่ะหายไป
บอกตรงๆเลยละกันครับว่า ทุเรศ ชุ่ย แล้วก็เสียความรู้สึกอย่างมากๆ เพราะอีกอย่างผมเองก็จบม.6แล้ว ม.6มีครั้งเดียวในชีวิต จะให้ผมไปซ้ำชั้นเรียนอีกปีหรอ ทุเรศไปปะ
แค่นี้ละครับที่ผมอยากจะระบาย

------------------------------------

คิดถึงเพื่อนๆม.6ทุกคนนะเว่ย จบกันจริงๆแล้วแล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
ส่วนคะแนนโอเอเน็ท ลุ้นจนขี้เกียจจะลุ้นละล่ะ

ต่อไปนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำสีจางๆ เรื่องราวมากมายเยอะแยะ ตั้งแต่อนุบาล1 จนถึงชั้นม.6 15ปีนี่มันเร็วจริงๆเนอะว่ามะคับ

รักเพื่อนทุกคน
รักครูทุกคน
รักโรงเรียนลาซาล ที่สั่งสอนให้ผมเป็นคนดี

BaNaNa
16มีนาคม2550




 

Create Date : 16 มีนาคม 2550    
Last Update : 16 มีนาคม 2550 23:28:05 น.
Counter : 827 Pageviews.  

---- Final Score ----

เห็นจั่วหัวไว้ว่า Final Score อะ
ก็คือชื่อหนังน่ะแหละ แต่แหม มันตรงกะชีวิตจริงตอนนี้จริงๆ
แค่ตัวเลขเพียง 4หลักที่จะต้องทำ ตัดสินอนาคตได้เลยว่ากรูจะได้เรียนที่ไหนนะเนี่ย
เริ่มแอบเครียดเข้าไปทุกวันๆ หนังสือตอนนี้ก็อ่านอยู่อะนะ แต่พออ่านๆไปก็เริ่มง่วงซักพักก็น็อกหลับ 5555

ไม่ได้ๆเราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตของเรา เย่ๆๆ
สอบวันที่24-25กุมภานี้ เราต้องทำให้ได้เพื่ออนาคตของเรา อิอิ

BaNaNa
6กุมภาพันธ์2550




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2550 21:03:31 น.
Counter : 316 Pageviews.  

ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน

วันปีใหม่ที่ผ่านมา รู้สึกว่ามีความสุขเหลือเกินจริงๆ
ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วย อากาศก็ดี ไปแล้วก็ยังไม่อยากกลับมากทม.เลย ร้อนก็ร้อน

อืม.....มีความสุขจริงๆ
แต่ว่าตัวผมเองอะนะ มองข้ามคนๆนึงไป
บอกตรงๆก็คือผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นพวกสารเลวยังไงบอกไม่ถูก
เวรกรรมจริงๆ ทำให้คนๆนึงเสียใจเพราะผม
อือใช่ และเหตุผลน่ะหรอ ผมก็บอกเค้าไปแล้วล่ะ ตอนแรกก็ไม่อยากจะบอกเลย เพราะถ้าผมพูดไปมันก็จะแรงมาก เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะผมเป็นคนที่พูดจาตรงๆน่ะสิ

และคนนั้นก็บอกให้ผมพูดออกไปเถอะ ผมก็เลยสาดเข้าไปซะชุดใหญ่เบ้อเร่อเลย แต่ผมก็บอกนะว่า ขอให้ปรับปรุงหรือว่าลดตรงส่วนนั้นลงไปอีกหน่อยจะดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้หยุดทำ

ถ้าลดลงไปหน่อยได้ก็จะดีมากเลย ขอบพระคุณอย่างสูง

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปจากชีวิตเค้าซะหน่อยนะ ผมเองก็ยังอยู่ที่เดิมอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหน ยังคุยกันได้เหมือนเดิม แต่ขอแค่ว่าสิ่งที่ผมบอกไปหวังว่าเค้าคงจะสามารถทำได้ไม่มากก็น้อยก็โอแล้ว

เรายังเป็นพี่น้องกันที่รักกัน อันนี้จริงอยู่
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รักกันชื่นมื่นปานจะกลืนกินกัน
แต่บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมรู้สึกเฉยๆกับเค้ามากกว่า
แต่ก็อย่างที่บอก ยังคุยกันได้เหมือเดิมทุกอย่างถ้าเค้าพร้อมที่จะเข้ามาหาผม แค่นี้แหละ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

แต่ที่ผมไม่ได้คุยกะเค้าซักเท่าไหร่ตอนนี้อะนะ อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยากมีโลกของผมบ้าง อยากอยู่กะเพื่อนๆ ก็แหงล่ะสิ ผมอยู่ม.6 ใกล้จะจบแล้ว เพื่อนผมต่างคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปอีกแค่ไม่ถึง40วันที่เราจะได้เจอหน้ากัน คิดแล้วก็เศร้าเนอะ ชีวิตเด็กม.ปลายกะลังจะหมดลงแล้ว

แค่นี้แหละที่ผมอยากจะบอก ถ้าอยากจะเข้ามาหาผมมาคุยกะผมทำอะไรกันก็ได้เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่บางทีผมก็ขอเวลาเป็นส่วนตัวมั่งนะ จะดีใจที่สุดเลย

ปล.สิ่งที่อยากจะขอคือว่าไม่อยากให้มาทำตัวเป็นเจ้าของของผมนะ รู้สึกว่ามันไม่ดียังไงบอกไม่ถูก
ปล.2 พูดไปแค่นี้ก็คงจะมากพอคงจะเข้าใจแล้วนะ

BaNaNa
7มกราคม2550




 

Create Date : 07 มกราคม 2550    
Last Update : 7 มกราคม 2550 12:03:02 น.
Counter : 439 Pageviews.  

Merry Christmas!!!

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 22ธันวาคม ที่รร.จัดงานวันคริสต์มาสอีกเช่นเคย ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายซะด้วยแล้วสิที่ได้ร่วมงานคริสต์มาสกับที่โรงเรียน เศร้าจัง
ไปดูรูปกันดีกว่า


ด้านหน้าปะรำพิธีที่ตึกหน้า บริเวณที่ใช้แสดงละครศักดิ์สิทธิ์น่ะเอง


"วันทามารีอา พระเจ้าสถิตกับท่าน ท่านเป็นผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ"


"โจเซฟ ข้ามีบางอย่างจะบอกกับท่าน"
"ข้ารู้แล้วมารี อัครเทวทูตกาเบรียล มาพบข้าเมื่อคืนนี้ ท่าน...จะให้กำเนิดบุตรชายซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้า"
จำได้ประมาณนี้คับ แหะๆ


นางฟ้าออกมาร่ายรำ
"ดารา...ประกายแจ่มฟ้า เป็นสัญญาณแน่นอน
ทูตสวรรค์ร้องอวยพร ประชากรเอ๋ยจงยินดี
กุมารน้อย...ประสูติแล้ว งามเพริศแพร้วไร้ราคี
เชิญ...ประทับในชีวี เพื่อข้านี้...พ้นบาปเอย"


คนนี้เพื่อนผมครับ เล่นเป็นหัวหน้านางฟ้า สวยป่าว


คนนี้รุ่นน้องผมเองครับ เล่นเป็นตัวประกอบในละครนี่ละ


คนนี้เพื่อนผมอีกคนเล่นเป็นพระแม่มารีครับ


แฮะๆๆ






รูปนี้ห้องผมตอนแข่งเต้นระหว่างห้องครับ
ก็ยังครองอันดับ1ต่อจากปีที่แล้วเหมือนเดิมครับ อิอิ









Merry Christmas & Happy New Year 2007 ทุกคนนะคร้าบบบบ




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2549    
Last Update : 24 ธันวาคม 2549 12:23:58 น.
Counter : 1012 Pageviews.  

.....ดุ๊กดิ๊ก.....

"ดุ๊กดิ๊กๆอยู่ไหน"
"กลับเข้าบ้านเร็วจะปิดบ้านแล้ว"
"ว่ายังไงดุ๊กดิ๊ก"
"ดิ๊กโว้ยมากินข้าวเร็วๆ"
.............................



ใช่แล้ว ดุ๊กดิ๊กเป็นหมาที่เลี้ยงอยู่ที่บ้านผมน่ะเอง
ผมเลี้ยงมันมาตั้งกะตัวยังเล็กๆอยู่เลย จำได้ตอนนั้นไปเอามาจากบ้านในหมู่บ้านเดียวกันนี่ล่ะที่หน้าปากซอย
เป็นพันธุ์สปริท สีขาวสลับน้ำตาลอ่อนๆ
ตอนที่เอามาตอนเล็กๆตัวมันเล็กน่ารักน่าเอ็นดูที่สุดเลย
ชื่อดุ๊กดิ๊กน่ะหรอ พี่ชายผมเป็นคนตั้งเอง
ผมเองก็อยากจะตั้งชื่อให้มันเหมือนกันนะ แต่นึกไม่ออก
จำได้ละว่าตอนเอามันมาผมอยู่ประมาณป.1-ป.2นี่แหละ
ตอนนั้นผมก็7ขวบได้ ในครอกเดียวกับดุ๊กดิ๊กเนี่ย มีอยู่ประมาณ7-8ตัว พี่น้องของมันก็อยู่ในหมู่บ้านผมนี่ล่ะ
จำได้ว่าคืนแรกแม่เอาดุ๊กดิ๊กเข้ามานอนในบ้าน แล้วมันก็ร้องดังมากๆ พอแม่ลองเอาไปนอนนอกบ้าน เออมันเงียบแฮะ ตั้งแต่นั้นมามันก็เลยนอนอยู่นอกบ้านตลอด แต่ก็มีบางที่ที่อาบน้ำให้มันเสร็จแล้ว ก็ให้มันเข้ามาเดินเล่นในบ้านอยู่บ้าง จำได้ว่าพออาบน้ำให้มันเสร็จนะ ต้องเอามันไปล่ามโซ่แล้วคล้องไว้หน้าบ้านให้โดนแดด จะได้แห้งเร็วๆ อือ ผมก็มีหน้าที่เอาข้าวให้มันกินนะ มันเป็นหมาที่เลือกกินจริงๆ แต่ถ้าได้กินอาหารเม็ดล่ะก็ แป๊ปเดียวหมดทุกที
เวลาผมกลับมาจากโรงเรียน มันจะคอยวิ่งออกมารับผมทุกตอนเย็นเลย ผมก็ลูบหัวมัน ยกขามันขึ้นมาแล้วก็พูดว่า "หวัดดีดุ๊กดิ๊ก เป็นยังไงมั่งฮึ สบายดีมั้ย" แล้วมันก็แลบลิ้นแผล่บๆ บางทีก็กระโจนขึ้นมาซะงั้นเล่นเอาแทบรับไม่ทันแน่ะ
เวลาพ่อผมกลับมาจากทำงาน มันจะคอยวิ่งออกไปรับเหมือนกัน ลืมบอกไปว่าดุ๊กดิ๊กขนเยอะมากๆเลย พองด้วยเลยดูเหมือนกับว่ามันตัวใหญ่ แต่จริงๆแล้วไม่หรอก พออาบน้ำแล้วเหลือตัวนิดเดียวเอง 55555 ต่อนะ พอพ่อผมกลับมาจากที่ทำงาน มันจะวิ่งออกไปรับทุกที แล้วก็กระโดดใส่เหมือนกัน หะๆๆ ที่สำคัญนะ มันสนิทกับพ่อของผมยิ่งกว่าผมซะอีก พอพ่อผมมามันก็วิ่งเอาหน้าเอาตัวไปถูพ่อผมซะงั้นอะ ขี้ประจบจิงๆเลยนะไอดุ๊กดิ๊ก
ดุ๊กดิ๊กมันเป็นหมาที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยนะผมว่า เพราะวันๆมันเอาแต่นอนแล้วก็กิน ไม่ค่อยลุกไปไหนซะเท่าไหร่ ถ้าหายไปก็แสดงว่าไปเดินเล่นแถวๆนี้แหละเดี๋ยวก็มา



เวลาผมเดินไปสั่งข้าวอีกซอยนึง มันก็เดินไปเป็นเพื่อนผม พอผมสั่งเสร็จก็เดินกลับมาด้วยกัน บางทีก็วิ่งแข่งกับมันกลับบ้านเหมือนกันนะ ผลก็คือผมก็ชนะ 55555
บางทีแม่ผมไปเต้นแอโรบิคอีกซอยนึง มันก็ไปนั่งอยู่เป็นเพื่อนแม่ผมจนกว่าปแม่ผมจะเต้นเสร็จแล้วก็กลับมาด้วยกัน
แต่นับจากวันนี้ไป ผมไม่มีเพื่อนเดินไปสั่งข้าวกับผม ไม่มีใครมาต้อนรับเวลากลับมาถึงบ้าน ไม่มีใครไปนั่งรอแม่ผมเต้นแอโรบิค ไม่มีใครให้ผมเรียกมาบอกว่าให้มากินข้าว ให้เข้าบ้านได้แล้ว เพราะมันดึกแล้วนะ เพราะอะไรน่ะหรอ
ก็เมื่อวานนี้ (ศุกร์8ธ.ค.49) ตัวผมเองพอเลิกเรียนจากที่โรงเรียนผมก็ไปเรียนที่สยามต่อ เลิกเรียนก็สองทุ่ม ผมก็กลับบ้านมาถึงก็สามทุ่มครึ่ง อาบน้ำขึ้นนอน แต่ไฉนเลย ผมไม่รู้ว่าดุ๊กดิ๊ก โดนหมาอีกซอยนึงที่เป็นซอยเดียวกับที่ผมไปสั่งข้าวแล้วก็แม่ผมไปเต้นแอโรบิคกัดเป็นแผลลึก ผมเพิ่งจะรู้ก็เมื่อตอนเช้าของวันนี้ (เสาร์9ธ.ค.49)
ทีแรกผมก็กำลังนอนๆอยู่ แม่ผมก็ขึ้นมาเรียกบอกว่าดุ๊กดิ๊กโดนกัดลงไปดูเร็ว ผมก็รีบวิ่งลงไป ถามแม่ว่าโดนกัดเมื่อไหร่ แม่บอกว่าเมื่อคืน ผมก็บอกแม่ว่า ทำไมแม่ไม่บอกกล้วยตั้งแต่เมื่อคืนล่ะ ทำไมมาบอกเอาป่านนี้ แล้วพอผมดูดุ๊กดิ๊ก สภาพตอนนั้นคือเป็นแผลเพราะถูกเขี้ยวฝังลงไปที่ท้อง ที่หน้าก็มีรอยเขี้ยวเหมือนกัน ผมก็ถามแม่ว่าเรื่องมันเป็นยังไง
แม่ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ตอนแม่กำลังจะไปเต้นแอโรบิค คนซอยนั้นก็รีบวิ่งมาบอกแม่ว่าดุ๊กดิ๊กโดนกัดไปช่วยเร็ว พอแม่ไปถึงคนที่ซอยนั้นเค้ากำลังเอาน้ำสาดใส่ไอ้หมาพันธุ์ลาบราดอร์ผสมกับโกลเดนอยู่ ทำไงก็ไม่ปล่อย แม่ผมก็เลยกลับมาบ้าน มาเรียกน้าผู้ชายบ้านใกล้ๆให้ไปช่วย ตอนนั้นพ่อผม ตัวผม แล้วก็พี่ชายผมยังไม่กลับบ้าน น้าคนนี้เค้าก็ถือไม้ไปท่อนนึง ไปถึงก็ไปฟาดๆไอหมาตัวนั้นมันก็ยังไม่ปล่อย ซักพักนึงมันถึงจะปล่อยออกมา น้าผู้ชายเค้าก็เลยช่วยอุ้มเอากลับมาบ้านแล้วมันก็มานอนไม่ลุกไปไหนเลย ตอนแรกก็ช่วยกันห้ามเลือดที่มันไหลไว้ พอเลือดหยุดแล้วก็เลยล้างแผล ตอนแรกแม่ผมก็นึกว่ามันคงจะไม่เป็นอะไร เพราะมันถูกกัดบ่อยมาก แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง
แต่พอมาตอนเช้าวันนี้ แม่ผมลงมาเห็นกองเลือดเป็นลิ่มๆอยู่บนพื้นโรงรถ แม่เค้าก็ตกใจ แล้วพอดีคนข้างบ้านเค้าเปิดบ้านก่อนหน้าแม่ผมแป๊ปเดียว เค้าบอกว่าเห็นมันไอออกมาเป็นเลือดลิ่มๆเลย แม่ผมก็เลยรีบโทรตามหมอให้มา



แต่สุดท้ายหมอก็มา แต่ว่ามาช้า ช้ามากๆ เพราะดุ๊กดิ๊กทนไม่ไหวแล้ว ดุ๊กดิ๊กตายก่อนที่หมอจะมาถึง หมอบอกว่าดุ๊กดิ๊กซี่โครงหัก แล้วไปทิ่มกับปอด ปอดเลยแตก พอผมรู้ว่าดุ๊กดิ๊กตายแล้ว น้ำตาที่กลั้นไว้กลั้นไม่อยู่แล้ว น้ำตาไหลออกมาหมดเลย ก็แหงล่ะสิ ผมเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ ....... ตอนที่ดุ๊กดิ๊กตาย ตามันยังปิดไม่สนิท ผมพยายามเอามือปิดลงมาก็ปิดไม่ลง พอจับตัว ตัวก็เริ่มจะแข็งๆขึ้นมานิดนึงแต่ยังไม่มาก แล้วผมก็เดินไปกับแม่ ถามแม่ว่าไอ้บ้านนั้นมันอยู่ไหนพาไปหน่อย ผมเดินไปถึงก็ไปเรียกเจ้าของหมามันออกมา
เจ้าของหมามันก็พูดประมาณว่า ตัวเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง เค้าบอกว่าตอนนั้นเค้าไม่อยู่บ้าน ผมก็บอกว่าเออผมรู้เพราะผมก็ไม่อยู่บ้านเหมือนกันผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์มันเป้นยังไง แต่แม่ผมเห็น (เจ้าของหมาเป็นผู้หญิง ตอนนั้นแม่งกูอยากจะตั๊นหน้าเหลือเกิน ปากเก่งนักนะมึงไอ้หน้าส้นตีน) ไอเจ้าของหมาคนนี้มันก็บอกว่า แล้วจะให้พี่ทำยังไงในเมื่อหมามันตายไปแล้ว ผมก็บอกว่าผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรแต่จะมาบอกให้รู้ว่าหมาคุณ (ใจจริงอยากจะพูดว่าหมามึงกับมันมากกว่า) มากัดหมาผมตาย มันก็บอกว่าหมามันไม่กัดหมาใคร ก็นึกในใจ โถ่อีควายเอ้ย มึงทำมาเป็นพูด ไม่กัดบ้านแม่มึงสิหมากูตายอย่างนี้ทำมาปากดีเดี๋ยวก็ตัดสายเบรครถมึงเลยดีมั้ย แล้วมันก็บอกต่อว่านี่มันก็บนถนน หมาคุณมาเดินบนถนนแล้วหมามันกัดกัน ชั้นก็ช่วยไม่ได้นะ มันบอกว่าน้องเขยมันเผลอแง้มประตูเอาไว้ แล้วไอหมาเวรนี่มันก็ออกมา แล้วดุ๊กดิ๊กก็เดินเล่นที่ซอยนั้นอยู่แล้ว เพราะดุ๊กดิ๊กชอบไปเล่นกะเด็กซอยนั้นเพราะเด็กซอยนั้นชอบให้ขนมมันกิน พอดุ๊กดิ๊กเดินเล่นๆอยู่ ไอหมาเวรนั่นมันก็วิ่งเข้ามากัดดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊กก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าไอหมาเวรนั่นมันตัวใหญ่กว่าดุ๊กดิ๊กมาก หนักประมาณซัก30โลได้ ดุ๊กดิ๊กหนักยังไม่ถึง20โลเลย
สุดท้ายดุ๊กดิ๊กก็อดทนข้ามคืนมาได้ คงอาจจะเพราะว่ามันคงรอผมมั้ง เพราะเมื่อคืนผมก็ไม่เจอดุ๊กดิ๊กวิ่งออกมาทักทายผมเลย
เมื่อกี้นี้พ่อผมก็เพิ่งกลับมา ก็เดินไปที่บ้านเจ้าของหมาเวรนั่น พ่อผมไปถึงก็ไปกดออดจะเรียกเจ้าของออกมาคุยให้รู้เรื่อง ไอหมานั่นมันก็เห่าเสียงดังมากแล้วก็วิ่งมาที่หน้าประตู พ่อผมก็เลยเตะประตูรั้วบ้านมันไปทีนึง (สะใจผมมาก)



เจ้าของบ้านมันก็ออกมามันก็บอกว่าคุณมาเตะประตูทำไม พ่อผมก็บอกว่าหมาคุณน่ะดูแลให้ดีๆนะ ระวังเอาไว้อย่าปล่อยออกมา ถ้าปล่อยออกมาตายแน่ เจ้าของมันก็ปากดีมันบอกว่า ถ้าจะทำก็เลยสิ ทำให้เห็นต่อหน้าด้วยนะ พ่อผมก็สาดกลับไปว่า ก็ปล่อยออกมาเลยสิรออะไร มันก็ทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามา แต่ก็ไม่เดิน แล้วมันก็พูดเปลี่ยนเรื่องว่า ตรงนั้นมันถนน หมาคุณมาเดินแล้วหมาชั้นไปกัดจะให้ชั้นทำยังไง พ่อผมก็สาดกลับไปอีกว่า มันไม่เกี่ยวกันอย่ามาพูด ระวังไว้ให้ดีๆเหอะหมาคุณน่ะ อย่าเผลอปล่อยออกมาเชียวนะ แต่ตอนนั้นผมกับแม่เดินเข้าไปห้ามเอาไว้ พ่อผมก็เลยยอมเดินออกมา
พ่อผมเค้าไปหามีดอีโต้ยาวประมาณ2ฟุตเจอในตู้เก็บของ เมื่อกี้เค้าก็นั่งลับอยู่ ผมคิดว่าพ่อผมคงเอาตายเลยละมั้ง เพราะพ่อผมก็รักดุ๊กดิ๊กมากเหมือนกันนะ ดุ๊กดิ๊กอยู่มาได้ถึง11ปี นานเลยทีเดียว

ดุ๊กดิ๊ก หลับให้สบายเถอะนะ ถือว่าหมดเวรแล้วกันนะดุ๊กดิ๊ก ไปเกิดใหม่ซะนะ คิดถึงแกมากๆนะไอดุ๊กดิ๊ก

ปล.ตอนนี้ผมก็ยังนึกอยู่เลยว่าดุ๊กดิ๊กยังอยู่ เดินไปซื้อของกินกลับมาบ้านก็ยังก้มดูใต้ท้องรถเลยว่าดุ๊กดิ๊กอยู่รึป่าว แต่ก็มานึกขึ้นได้ว่าดุ๊กดิ๊กไม่อยู่แล้ว เฮ้อ

คิดถึงแกมากๆนะดุ๊กดิ๊ก

BaNaNa
9ธ.ค.2549




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2549    
Last Update : 9 ธันวาคม 2549 19:05:13 น.
Counter : 994 Pageviews.  

1  2  3  4  

น้องชายคนเล็ก
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้องชายคนเล็ก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.