• สวย ๆ งาม ๆ
• เรื่องของหมีน้อย
• 
• หมีน้อยชวนชิม
• เรื่องของเรา
• เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้
• ของอร่อยเมืองตาก
• ครัวบ้านหมีน้อย
• 

ลิงกับหมูบ้าสุด ๆ LET GO HONGKONG ทริปเวียนหัวกลับมาอีกแล้วครับ ปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้ลองไปเที่ยวกันเอง ครอบครัวเราก็มีคุณพ่อ หม่ามิ๊ ไอลิงแสบ พ่วง หมูบ้า (หลานชาย) เพิ่มมาอีกคน การตัดสินใจที่ช้าทำให้มีเวลาแค่นิดเดียวให้เตรียมตัวก็เลยมาลงตัวที่ฮ่องกงเนี่ยแหละ เค้าบอกว่าง่ายๆ สบายๆ เพราะเมืองประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย การเดินทางก๊แสนสะดวกมาก และแถมด้วยความเร้าใจ เหมือนนั่งรถไฟเหาะสุดๆ สงสัยใช่ม้า ทำไมใครๆ เรียกผมว่าลิง เดินทางโดยสายการบินไทย ของเรา ตอนจองตั๋วสั่งอาหารเด็กมาให้ไอแสบลองดู ปรากฎว่าถูกปากดีทีเดียว เป็นสเต็กไก่ รสชาติก็โอนะ (แอบชิม อิอิ) ของผู้ใหญ่เป็นเกี๊ยวอิตาลี่(ลาวิโอลี่)ใส้ผักโขม เหยียบฮ่องกงป๊าบ..ก็พบว่าอากาศหนาวโพดๆ เสื้อผ้าที่เซ็ตมาอารมณ์สบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เสื้อคลุมติดๆไปบ้างเผื่อวันขึ้นวิคตอเรียพีค แต่มันไม่พอกับคนขี้หนาวอย่างเราก็เลยแบบงั่กงั่กงั่ก แต่ผู้ชายสามคนกลับไม่ค่อยสะทกสะท้านอะไรกันเลย หนังหนากันจริง หาแท๊กซี่ไปโรงแรมก็ดันพาไปส่งคนละเกาะกันเลยโดนค่าแท๊กซี่ไป สามร้อยกว่าเหรียญเซ็งเข้าไปใหญ่ ง่วงก็ง่วงไปถึงก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ดีนะที่ยายหมวยพนักงานโรงแรมที่เราเข้าไปผิดเรียกแท๊กซี่ให้ใหม่ มาถึงโรงแรม ETON HOTEL แล้วโรงแรมตั้งอยู่บนถนนนาธาน ย่านจิมซาโจ่ยโรงแรมใหญ่มาก ห้องพักก็กว้างงงงมาก (ประชด) แต่ก็ทำไงได้จองช้าเต็มหมดแล้วแถมช่วงเทศกาลพี่แกก็ชาร์จเข้าไปอีก เช้าวันใหม่ มื้อแรกอาศัยง่ายๆไว้ก่อน ไปเจอ YOSHINOYA ร้านอาหารญี่ปุ่นและก็เคยประทับใจกันมาแต่มานี่เมนูไม่เหมือนกันแฮะ เป็นบะหมี่เนื้อ บะหมี่กับผัดไก่ แล้วก็ข้าวหน้าเนื้อ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าน่าจะเป็นบะหมี่ฮ่องกง แต่เฮ้ยนี่มันมาม่าบ้านเรานี่นา โอ้พระเจ้า หนังท้องตึง ก็เริ่มเดินทางกันวันนี้จะไปเดินเล่นที่หาดรีพัลย์เบย์ การเดินทางก็เอ่อ จะเรียกว่านั่งเมล์นรกหมวยยกล้อ หรือสปีดเร็วกว่านรกดี ไม่รู้จะหาคำจำกัดความอะไรให้เฮียเค้า ถนนก็แคบ ทางก็ชัน ซิ่งจนคิดในใจถ้าเบรคแตกละมึงเอ๊ย.. มาถึงแล้ว เป็นบรรยากาศที่แปลกนะ อากาศหนาว แต่มาเดินเที่ยวทะเล คนก็ไม่ค่อยมีด้วยเพราะส่วนใหญ่เค้าจะตรงไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันเลย เดินตามชายหาดมาเรี่อยๆ ก็มาถึง ทัวร์ไทยลงเยอะมาก จนชักสับสนว่าเอะนี่เราอยู่เมืองไทยรึเปล่า ไปถึงก็จะพบรูปปั้นอยู่ตรงประตูทางเข้า เค้าว่าถ้าเอาแบงค์ลูบตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็เอาเงินเข้ากระเป๋า ตบ ตบ ก็จะเฮง เฮง จากนั้นก็เดินข้ามสะพานต่ออายุ ถ้าข้ามแล้วจะต่ออายุไปอีก 3 ปี แต่ห้ามเดินกลับนะจ๊ะ พอเดินลงสะพานไปก็จะเจอรูปปั้นปลาสีเหลือง อันนี้เค้าให้เอาเหรียญโยนเข้าปากปลาแล้วถ้าได้คำอธิษฐานก็จะสำเร็จ คนไปโยนเหรียญกันเยอะมาก ๆ แอบเห็นมีลุงแก่ ๆคนนึงคอยเดินเก็บเงินที่เค้าโยนแล้วไม่เข้าเนี่ย บางคนเค้าก็ไม่เอา วันนึงได้หลายอยู่นะลุง ไหว้เจ้าแม่กวนอิมเสร็จเราก็เดินทางไป STANLEY MARKET ตามหนังสือไกด์เค้าบอกเป็นย่านเหมือนเมืองฝรั่ง เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านค้าเสียดายไม่ได้ถ่ายมาเลย ของก็จะเป็นพวกของฝาก เสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำ ของเล่น สำหรับคนมีลูกน้อยก็จะมีซอยเล็กเข้าไปซอยหนึ่งเข้าไปสองข้างทางก็จะมีของเด็กขายทั้งซอยเลย แต่ราคาก็ไม่ถึงกับถูกอะไร ข้อดีคือมีให้เลือกเยอะมาก ลงรถเมล์จากสถานี EXCHANG SQURE ก็เดินหาของกิน เดินกันจนขาลากเพราะความอยากกินบะหมี่เกี๊ยวฮ่องกงที่ลือชื่อ แต่ก็ไม่เจอ รองท้องกันด้วย .. ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรแต่เนื้อมันก็คือวาฟเฟิลเนี่ยแหละต่างกันที่พิมพ์ที่อบ ตบด้วยไส้หมูย่าง เย็นชืดเป็นอะไรเลย กับลูกชิ้นจิ้มน้ำซอสที่เหมือนแกงกะหรี่ก็แปลกดีเหมือนกัน เดินหาไปมาก็มาเจอร้านอาหารจีนชื่อร้าน HARMONY RESTAURANT สั่งซี่โครงหมูผัดมะระราดข้าว กับ เนื้อผัดเส้นเล็ก อารมณ์เหมือนผัดซีอิ๊วเลยแต่เปลี่ยนเป็นเส้นเล็กแล้วก็ใส่เนื้อวัวนุ่มดีแต่มันไปนิ๊ด ส่วนของหมูริวไม่รู้จะหม่ำอะไรก็สั่งออมเล็ตมากิน ตอนเย็นไปวิคตอเรียพีค นั่งรถรางขึ้นไปแนะนำว่าให้ไปเย็นๆ ค่ำๆ หน่อยเพราะจะมองเห็นไฟในเมืองสวยมาก ไปถึงก็จะมีมาดามทุสโซ หุ่นขี้ผึ้งของคนดังให้เข้าไปดู แต่เราไม่ได้เข้าไปกันถ่ายรูปกับหุ่นที่โชว์ข้างหน้าเฉยๆ ขึ้นมาถึงแล้วหนาวมากกกก เหมือนมีเมฆหรือหมอกลอยอยู่รอบๆ ตัวเรา พอขึ้นไปจุดสูงสุดที่เห็นเหมือนตึกอยู่ข้างหลังก็เลยทำให้เห็นแต่เมฆขาว ๆ ไม่เห็นอะไรเลย เสียดายตังค์จิงวุ้ย เช้าวันที่สาม ออกสตาร์ทกันด้วยโจ๊กเนื้อฮ่องกง ย่าน TEMPLE MARKET เนื้อนุ่มอร่อยเต็มคำ ชามก็ใหญ่แบ่งกันกินได้สบายๆ แต่โจ๊กนะดิ โจ๊กมันเหลวมั่กมาก ไม่เหมือนโจ๊กเมืองไทยที่ยังพอมีเนื้อข้าวอยู่บ้าง ให้อภัยที่เนื้อนุ่ม ร้านนี้สงสัยจะอร่อยของเค้าเพราะพอออกมาหน้าร้านเห็นมีรูปคนดัง(รึเปล่า)ติดไว้เต็มเลย กระเช้านอนปิ้ง เอ๊ยกระเช้านองปิงก่อนขึ้นเค้าก็มีห้างขายพวกสินค้า OUTLET ESPRIT TIMBERLAND LEVI COACH ราคาก็ไม่ได้ถูกอย่างที่คิดถึงแม้จะเป็นเอ๊าเล็ต ลีวายส์ก็ยังตัวละสี่ร้อยกว่าเหรียญ แต่เอสปรีก็ถูกกว่าเมืองไทยเหมือนกัน เลยสอยเสื้อกันหนาวมาหนึ่งตัว ส่วนกระเช้าเค้ามีให้เลือกสองแบบแบบ 360 องศา กับแบบธรรมดา ต่างกันก็อีตรงที่พื้นของกระเช้าเป็นกระจกใสๆ ให้ความรู้สึกหวาดเสียวดีพิลึก ขากลับนั่งกระเช้ากลับแต่มองไม่เห็นอะไรเลยทัศนวิสัยแย่มากสองแสบ ก็สนุกเพราะพ่นไอออกจากปากได้ เจอคุณพิมซอนย่าพอดีดูหน้าไอแสบดิเห็นคนสวยไม่เก็บอาการเล้ยยย ตกกลางคืนก็ไปดู "Symphony of Lights" การแสดงแสงสีเสียง คนมาเที่ยวฮ่องกงถ้าไม่ได้มาดูถือว่าพลาดอย่างแรง ดูการแสดงเสร็จก็เดินเล่นเลาะริมน้ำไปเรื่อย ก็จะเจอAvenue of Star เป็นถนนที่เหล่าดาราฮ่องกงเค้าประทับรอยมือกัน แต่เราก็ไม่ใช่แฟนหนังฮ่องกงซะด้วย ไม่รู้จักซักคน กลับไป TEMPLE MARKET หาอะไรกิน ถ้าใครคิดจะฝากท้องไว้มาแถวนี้ไม่ผิดหวัง เค้ามีทั้งอาหารทะเลแล้วก็บะหมี่เกี๊ยว (ที่เราเฝ้ารอ) ร้านเยอะมากราคาก็ไม่แพง เด็กๆ กินบะหมี่กับหนังปลากรอบ เราก็สั่งเกี๊ยว กุ้งเป็นกุ้ง วันที่สี่ DISNEYLAND HONGKONG หมูกับลิงเค้า กระดี๊กระด๊ามาก นั่งรถไฟฟ้ามิคกี้เม้าส์ ไม่ต้องพูดมากไปชมบรรยากาศกันดีกว่า อาหารในสวนสนุกต้องทำใจอย่างหนึ่งก็คือราคาแพงและรสชาติอย่าไปหวังมาก แต่ก็พอใช้ได้ เชคอินในโรงแรม Disney Hollywood Hotel อาหารในโรงแรม สองมื้อ เช้ามืดวันกลับ ลงมาเชคเอ้าท์ บรรยากาศตอนเช้าเงียบมาก เวลาประมาณตี 5 เหมือนโรงแรมเป็นของเราเลย ระหว่างรอเครื่องขึ้นเค้าจัดที่ไว้ให้เด็กๆ ด้วย ชอบตรงนี้จัง สรุปแล้วทริปนี้เราก็ผ่านไปได้ด้วยดี เหมาะกับคนที่มีเวลาไม่มากทั้งการเตรียมตัว และการพักอยู่ที่ฮ่องกง แต่มีติงนิ๊ดนึงตรงที่ไปหลาย ๆ ที่ พนักงานหรือคนขายไม่ค่อย FRIENDLY เลยแถมบางทียังมองเราด้วยหางตาแล้วก็ด่าเป็นภาษาจีน (เวลาเราจ่ายเงินช้า) ความที่เจอแบบนี้ พอขึ้นเครื่องการบินไทยปุ๊ปได้ยินคำว่าสวัสดีคร้าบ เราก็ยิ่งรู้สึกรักประเทศไทยขึ้นเป็นกอง รู้สึกชื่นใจและดีใจทีเป็นคนไทยจัง ก้าวลงเครื่องถึงเมืองไทยก็ยังได้ยินพนักงานการบินไทยยืนต้อนรับ น่ารักมาก ผิดกับตอนไปถึงฮ่องกง พนักงานหน้าเป็นตูดเลย อาหารบนเครื่อง จบแล้วลิงน้อย กับหมูอ้วนขอขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามานะคร้าบ ตอนนี้ไม่ว่างแระขอขับรถกลับบ้านก่อน บรื้นน....   Create Date : 03 พฤษภาคม 2553     Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 10:43:44 น. Counter : 1431 Pageviews.   17 comment Share Tweet

GO GO JAPAN เปิดมาด้วยรูปเลื้อย ไม่รู้เป็นอะไรกับสนามบิน เห็นทีไรหมีแสบจะนอนเลื้อยทุ๊กที กลับไปดูทริปเกาหลีได้ ห้องพัก 5 คืนแรก ห้องแบบตุ๊กตามาก ๆ คือแบบว่าเล็ก ๆ ไปหมดเตียงเหมือนเตียงคนแคระ ห้องน้ำก็น่าร๊าก ยืนได้พอดีๆ ทริปสุดมันส์นี้เริ่มต้นจากยายโรสผู้กระตุ้นต่อมฮาของพวกเรา เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งยายโรสโทรมา แก ๆ ฉันมีตั๋วถูก สนใจป่ะ เออสนสน ใจง่าย จริง ๆ นะเรา หลังจากตกลงปลงใจกันแล้ว ก็มีเวลาเตรียมตัว ประมาณ 3 อาทิตย์ กับทริป 9 วัน 4 ครอบครัว ประกอบไปด้วย ยายโรสกะกู่กง ครอบครัวยายเล็ก ตาวิทย์ น้าหยก น้าพิม ครอบครัวพี่ตั๋น พี่ตูน น้องทีที และก็ 555 ครอบครัวหมีแสบ เราซื้อตั๋ว JAPAN RAIL PASS แบบ 7 วัน คุ้มแสนคุ้ม หน้าตาเป็นอย่างนี้ พอเวลาถ้าใช้ตั๋วนี้เราจะเรียกว่าบัตรเบ่ง คือเวลาผ่าน ปกติแล้วเค้าจะต้องใช้ตั๋วสอดเข้าไปในช่องที่เราเดินผ่าน แต่ถ้าใช้เจ้าบัตรเบ่งที่ว่าเนี่ยเราก็เดินไปช่องริมสุด ควักเจ้าบัตรนี้ขี้นมาให้เจ้าหน้าที่ดู แล้วก็เดินผ่านไป เที่ยวปราสาท ฮิเมจิ ระหว่างทางเดินไปก็ไปเจอตลาดขายของมือสองของเค้า มีจักรยาน เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ ที่สำคัญราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ ระหว่างทางเป็นสวนสาธารณะ KOKO-EN ดอกซากุระบานเต็ม ๆ สวย มากๆ คนก็มานั่งกินลมชมวิวกันเยอะ เด็ก ๆ ก็มานั่งวาดรูป กัน อยากให้อากาศบ้านเราเป็นแบบนี้บ้างจัง จังหวัดตาก ร้อนตับแลบ ตอนเย็นคนตากไม่รู้จะทำอะไรก็ออกมานั่งชมดอกคูณกัน แก้ร้อน รับลมแม่น้ำปิง ต่อกันที่ โกเบ ไปฮาร์เบอร์แลนด์ ข้างหน้าทางเข้าเจอเค้าซ้อมการแสดงอะไรกันก็ไม่รู้ น่ารัก ๆ หนุ่ม ๆ ตาค้างเชียว เนวิเกเตอร์ อ่านแผนที่หน่อย ระหว่างเดินไปโกเบทาวเวอร์ เจ้าแสบก็หลับ เลยโดนแกล้งซะ (จริง ๆไม่ใช่แกล้งหรอก อยากให้เค้านอนสบาย ๆ คอจะได้ไม่ตั้ง ๆ ไง ) แอบไปเจอสาวญี่ปุ่น หลับไม่รู้เรื่องเหมือนกันเลย โดดกันหน่อย ไปสวนสนุก UNIVERSAL ไอแสบดิ๊ด๊าสุด ๆ แต่เครื่องเล่น สำหรับเด็กน้อย ไม่ค่อยมีเลย ต้องไปเล่นเครื่องเล่นเบบี๋ พวกบ้านสนูปปี้ อีที แล้วก็เดินเล่น เพลิน ๆ ป็อปคอร์น หลากรส รสกระเทียม รสพิซซ่า รสช๊อกโกแลตนม ฯลฯ ชินไชบาชิ สวรรค์ของนักช๊อป มีทุกอย่างคนก็เยอะ ของน่าหม่ำก็แยะ สัญลักษณ์ก็คือกูลิโกะแมน ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ได้แต่น้ำลายย้อย สารพัดตู้เกมส์ กด ๆ หยอดๆ ที่เป็นมือจับ จับ ตุ๊กตา จับไอศกรีม จับช๊อคโกแลต เครื่องเล่นดีวีดี กล้องถ่ายรูป สารพัดจะให้จับ อันนี้เป็นวงจรอุบาทมาก เริ่มจากครั้งแรกเราได้ลองให้ไอแสบเล่น หลังจากนั้นพอเจอตู้พวกนี้ที่ไหนก็ช่าง ไอ้แสบก็จะวิ่งไปเกาะตู้ไม่ยอมไปไหน วีรกรรมดื้อสุดแสน ยื้อยุดฉุดกระชากลากถู ผ่านตรงไหนเจอไอตู้เนี่ยหันมามองหน้ากันแล้วก็รีบเข็นรถเข็นแล้วก็วิ่งผ่านไปให้เร็วที่สุด บางทีก็ได้ผล บางทีก็กระโดดลงจากรถเลย เซ็งเป็ด ได้ตุ๊กตามาประมาณ 5 ตัว แต่หมดเงินไปประมาณ ล้านกว่าบาท เว่อร์ๆ ไปซะงั้น เมือง ทาคายาม่า โรงแรมที่เราไปพักเป็นที่พักญี่ปุ่นแท้ ๆ มีออนเซ็นด้วย แถมโรงแรมยังมีจักรยานให้ยืมปั่นชมเมืองด้วย อากาศดี ๆ เมืองสวยๆ ปั่นจักรยานวนไปวนมาก็จะหมดเมืองแล้ว เมืองเป็นเมืองเก่ามีร้านขายของที่ระลึก เป็นตรอกเป็นซอยเข้าไป แม่น้ำเค้า น้ำใสสะอาดมาก โดดๆๆๆ ปั่นจักรยานไปเจอแก็งค์คุณยายมานั่งแช่เท้าในน้ำแร่ เราก็เลยลงไปคุยปรากฎว่าเค้าให้บริการฟรี ๆ ค่ะก็เลย นั่งพักกัน ถ่ายรูปหน้าโรงแรม รวมรูป ยื้อ ยุด ฉุด กระชาก ลากถู ดูเอาเองล่ะกัน สองวันสุดท้าย ก็กะเตงกันเข้าเมือง คราวนี้เราจะไปเที่ยวกันในโตเกียว แน่นอนว่าบรรยากาศก็จะแตกต่างจากชนบทที่ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน เยอะแยะ แทบจะเหยียบกันตายขนาดนี้ แต่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของโตเกียว ร้านดอกไม้ตรงสถานีรถไฟฟ้า อะมีโยโกะ แหล่งช๊อปของถูก โดยเฉพาะเครื่องกีฬา ยี่ห้อดัง ๆ และเสื้อผ้าเด็กน่ารัก ๆ รองเท้ากีฬาเด็กเล็ก ๆ ที่ว่าหาที่อื่นยาก ๆ มาที่นี่เลือกไม่ถูกเลยละกัน อลังมั่กมาก ปลาหมึกยักษ์ ไอแสบเจอเจ๊เกาหลีมาปิ๊ง เอาขนมมาให้หม่ำด้วย ไปเที่ยวชิบุย่า ผลไม้ไทย ดังไกลถึงต่างแดน แต่ราคา กินไม่ลง ฮาราจูกุ ของน้อยกว่าชิบุยะ เหมือนกัน ส่งท้ายก่อนขี้นเครื่อง แอบไปวัดอาซะกุซะ กันสามคน รำลึกความหลังกันหน่อย แถม จ้า รูปประทับใจระหว่างทริป หมดแระ ทริปเหนื่อย ๆ มันส์ ๆ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะจ๊ะ ขอบคุณรูปสวย ๆ จากกล้องกู่กง ยายโรส แล้วก็พี่ตูนด้วยคะ ปล.เม้นส์กันบ้างนะจ๊ะ และได้โปรดติดตามตอนต่อไป ของหม่ำ อร่อย ๆ ในญี่ปุ่น ขอบคุณหลาย ๆ เด้อ   Create Date : 05 มิถุนายน 2552     Last Update : 5 มิถุนายน 2552 22:30:55 น. Counter : 1779 Pageviews.   11 comment Share Tweet

แอ่วเจียงใหม่กับหมีน้อยกันเต๊อะ หยุดสามวันครอบครัวหมีได้ฤกษ์แอ่วเหนือกัน แคล้วคลาดกันมาหลายครั้งแล้ว ออกสตาร์ทกันตอนสาย ๆ หลังจากไปไหว้คุณพ่อของพวกเรากันแล้ว ไอแสบเหาะขึ้นไปนอนตรงนั้นน่ะ เค้าเรียกว่าส่วนไหนของรถใครรู้ช่วยบอกที ไปถึงบ่ายสองหิวไส้แทบขาด (ว่าไปนั่น) อดทนรอเพื่อ MIKE BERGER ที่เลิฟมั่ก ๆ เป็นเวลาหลับของไอแสบพอดีในใจนั้นแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง 555 ชั้นได้นั่งสวีทวี้ดวิ้ว กับสามี หม่ำกันแบบชิวๆ แล้วเว้ย ทันใดนั้นที่เบอร์เกอร์มาถึง ไอ้แสบตื่นแล้ว อ่ะ รู้เวลาจริงจริง จากนั้นข้ามไปฝั่งตรงข้ามกับร้านเบอร์เกอร์ ถนนนิมมานเหมินห์ ซ.1 ซึ่งจัดงาน NAP ถนนสายศิลปะ ติดใจงานนี้ที่เค้าจัดได้น่ารัก ๆ ดีมีของแต่งบ้าน งานประดิษฐ์เก๋ ๆ น่ารัก ๆ แค่ดูก็เพลินแล้ว ครอบครัวเรามาเดินที่นี่ 3 ปีติดกันแล้ว ตั้งแต่หมียังเป็นเบบี๋อยู่เลย อากาศเย็น ๆ เดินทอดน่อง สบายอารมณ์ ชอบ ๆ หลังจากนั้นเราก็ไปเชคอินเข้าโรงแรมบุบผาธารา ถ.พระปกเกล้า ซ.4 ห้องเล็ก ๆ น่ารัก กลางคืนติดใจไปเดินงาน NAP อีกรอบ และก็ถึงเวลาหม่ำ คราวนี้ไปกิน ร้านเนื้อตุ๋นรสเยี่ยม เป็นร้านเก่าแก่ แต่แยกสาขามา เมนูตามนี้เลยค่ะ สั่งข้าวแกงกระหรี่เนื้อตุ๋นกับเส้นเล็กน้ำทุกอย่าง อร่อยมาก ไปเที่ยวงานเชียงใหม่ไบค์วีคที่โรงแรมศิรินาถการ์เด้นพ่อหมีลูกหมีตาโตกันมาก คลั่งไคล้กันมากสองคนเค้าน่ะ ถ้ามีใครสมควรได้พรจากพระเจ้าให้ขออะไรได้ 1 อย่างนะ จะขอรถฮาร์เล่ย์ให้คุณพ่อหมี 1 คันเลย คนนี้สมควรจะได้ขี่รถฮาร์เล่ย์ที่สุดในสายตาของเรานะ รู้จักกันมา เป็นแฟนกัน 15 ปีก็เห็นเค้าคลั่งไคล้ฮาเล่ย์แล้ว ดูแต่หนังสือรถ เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เนตก็ดูมันแต่รถ เค้าบอกว่าเสียงมันเข้าไปอยู่ในหัวใจเลย ซึ่งตอนนี้ความคลั่งไคล้มันเข้าไปอยู่ในสายเลือดของหมีน้อยด้วย หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่กัน ทำไมน้า ใครใครก็อยากไปดูหมีหลับ หมีเจอหมีตื่นเต้นใหญ่ ไปหม่ำข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่ามกันคนอลังการดาวล้านดวง เราไปนั่งด้านล่างกันข้าง ๆ กันนั้นมีคุณยายขายวาฟเฟิล ไอแสบก็อยากหม่ำมากไปยืนดู คุณยายก็แบบประมาณว่าจะรอเร้อคิวยาวน้า เป็นสิบคิวเลย จะลัดคิวให้ก็ไม่ได้ แต่หมีก็จะรอ สุดท้ายคุณยายทนสายตาวิงวอนของหมีที่ส่งไปหาคุณยายไม่ไหว คุณยายก็ลัดคิวให้จนได้ 555 หมีเอามือปาดน้ำลายบอกว่าเสร็จเรา อิอิ เข้าเชคอินโรงแรมชาร์โคล เฮ้าส์เค้าแต่งโรงแรมสไตล์อังกฤษ ชอบมากๆ เป็นโรงแรมที่ประทับใจที่สุด เล็ก ๆ น่ารัก ๆ บรรยากาศเป็นกันเอง ไปเที่ยวหายายทวดของเจ้าหมีไปเดินถนนคนเดินสันกำแพง แต่ลืมถ่ายรูปซะงั้น หลังจากนั้นเราก็ไปเดินที่ถนนคนเดินที่วัวลายกันต่อ คุณพ่อหมีไปเลือกแหวนเงินอยู่ ไอแสบก็บุ่นไปนั่งกับคนขาย มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ แหลมได้ใจจริง ๆ เช้าวันใหม่ตื่นมากินอาหารเช้ากันที่ข้างล่างเค้าทำเป็นร้านอาหารด้วยมีขนมเค้ก อาหารเหนือ อาหารฝรั่ง เมนู เบรกฟาสต์ ให้เลือกจากรายการอาหารตามนี้เลย ตบท้ายด้วยเค้กล้างปากอีก 1 ก้อน บอกใบไว้ก่อน วันนี้หม่ำเค้กไป 3 ก้อน รู้สึกผิดมั่ก ๆ โอ๊ย อ้วน ๆอีกแย้ว ขอแทรกเรื่องนิ๊ดนึง ตอนลงมาหม่ำมีฮาร์เล่ย์จอดอยู่ 1 คัน เริ่มจากเดินวน วนไป วนมา และแล้ว ... ช่างรวดเร็วจริง ๆ อย่าโกรธหมีน้อยเลยน้าคุณเจ้าของรถครับ ไปร้านไอติม IBERRY แต่ไม่ได้หม่ำไอติมนะ ไปซื้อของที่ระลึกร้านพี่โน้ต อุดม ได้ผ้าพันคอ กับหมวกมา ปิดท้ายทริปด้วย...LOVE AT FIRST BIKE รักแรกกัด คนเยอะอภิมหาอลังการมาก ๆ บลูเบอร์รีชีสเค้กมันเป็นอะไรที่แบบว่าอืม ไม่เสียดายที่แวะมาเลยง่ะ แบบละลายในปาก เคลิ้มไปเลย อีกก้อนเรียกไม่ถูกแต่ข้างในเป็นกล้วยและครีม ๆ แต่..เราเริ่มจุกแล้วอิ่ม ๆ อืด ๆ ลาไปก่อนนะครับกับทริป อิ่ม ๆอืด ๆอ้วน ๆ ขอบคุณที่แวะมานะคร้าบ   Create Date : 22 ธันวาคม 2551     Last Update : 22 ธันวาคม 2551 10:41:46 น. Counter : 1588 Pageviews.   4 comment Share Tweet

หมีน้อยบุกงานลอยกระทงสายไหลประทีป๑,๐๐๐ ดวง วันนี้ชวนกันไปเที่ยวงานลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง ที่จังหวัดตาก รูปภาพอาจจะด้อยไปนิ๊ด แบบว่าถ่ายจากกล้องตัวเอง มียืมภาพสวยๆ มาให้ดูด้วย ประวัติความเป็นมาก็ตามนี้เลยคะ การลอยกระทงสายก็จะมีการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมาจากคะแนนรวมที่มากที่สุดด้วยนะคะ คะแนนจะมาจากการประกวดต่าง ๆ ดังนี้ การประกวดกระทงนำ การประกวดกระทงกะลา การประกวดกระทงปิดท้าย การประกวดสภาพการลอย การประกวดการเชียร์ การประกวดขบวนแห่ การประกวดกระทงหน้าหน่วยงาน การประกวดธิดากระทงสาย ภาพบรรยากาศของงานค่ะ ครอบครัวเราไปลอยกระทงกันมาเมื่อคืน (วันที่ 12 พ.ย. 2551 ) คนเยอะกว่าทุกวัน ไปลอยโคมกัน เสร็จแล้วก็ไปลอยกระทงกันต่อ อากาศเย็นทีเดียวค่ะ เสร็จจากงานลอยกระทง ก็พากันไปหม่ำมาม่าตี๋ มาม่าหมูหมัก หมีน้อยหม่ำไปเติมไปสามรอบเชียว ลองถ่ายแบบพาโนรามา ดูคะ ยืนอยู่บนสะพานฟากหนึ่งมีแต่ความสว่างสดใส หันหลังกลับไปมองอีกฟากหนึ่งของสะพาน มืดสงบมาก ๆ เหมือนจิตใจคนเราบางครั้งก็ต้องการด้านที่สงบนิ่ง เหมือนกัน   Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551     Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 13:22:43 น. Counter : 2697 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Let go Korea 4 หายไปหลายวัน มาต่อกันที่ภาค 4 วันนี้เราจะกลับเมืองไทยกันแล้วคะ ตื่นมาตอนเช้า หน้าตางัวเงียสุดฤทธิ์ แต่ไม่เกิน 5 นาทีก็วิ่งกระจายแล้ว วัดโชเกซา วัดทางพระพุทธศาสนาแห่งเดียวที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองโซล เป็นวัดเล็ก ๆ คะ ถ้าเทียบกับเมืองไทย ในวัดมีคนนั่งสวดมนต์อยู่เต็มเลย พระพุทธรูป น่ารักมากคะ เจอกับเด็กอนุบาลของเค้ามาทัศนศึกษากัน ป๊ะกับน้องภูมิเข้ามีการทักทายกันพอประมาณ เสร็จแล้วภูมิก็เดินเข้าแถวเดินไปกับเค้า เตาะแตะ ๆกันไปก็ดูว่าลูกเราจะยังไงปรากฎว่าเดินไปกับเค้าจริง ๆ คะเราเลยวิ่งไปตามกลับมา อยากอยู่เกาหลีก็ไม่บอก ช๊อปเครื่องสำอางค์สกินฟู๊ดกับอีทูดี้ ราคาที่เมืองไทยจับไม่ลงเลยพอได้มาซื้อที่นี่ ต่างกันเกินครึ่งคะ ระหว่างนั่งรถไปสนามบินหมีน้อยมองวิวเพลินมาก ๆ ลืมซนเลย ซนอีกนิ๊ด ทิ้งทวน   Create Date : 30 เมษายน 2551     Last Update : 30 เมษายน 2551 11:14:08 น. Counter : 621 Pageviews.   3 comment Share Tweet