ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 60.55 จุด รับ GDP สหรัฐโตเกินคาด,หุ้นเทคโนฯพุ่ง








ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมุมมองด้านบวกที่นักลงทุนมีต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา นอกจากนี้ การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,124.57 จุด เพิ่มขึ้น 60.55 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,914.04 จุด เพิ่มขึ้น 16.52 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.69 จุด เพิ่มขึ้น 79.65 จุด หรือ +0.99%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ ขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา โดยนางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ได้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐเกี่ยวกับการทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ หลังจากที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโกก่อนหน้านี้

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่แคนาดาและสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ก่อนเส้นตายวันศุกร์นี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถ้าหากข้อตกลงดังกล่าวให้ผลประโยชน์ที่ดีต่อแคนาดา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 4.2% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 4.1% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0% โดยได้แรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการใช้จ่ายในด้านซอฟต์แวร์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้แรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างคึกคัก โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 222.98 ดอลลาร์ หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดขึ้น 1.5% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.6% และหุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.4%

ส่วนหุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นอเมซอนสูงกว่านักวิเคราะห์รายอื่นๆในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยระบุถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

หุ้นบริษัทบางรายในกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า โดยหุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 0.4% และหุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.5%

หุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กนั้น หุ้นยัม ไชน่า และหุ้นนิว โอเรียลทัล พุ่งขึ้น 5.52% และ 4.27% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเน็ตเอส และหุ้น JD.com ปรับตัวลง 1% และ 0.65% ตามลำดับ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 0.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 2.3% ในเดือนก.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งการปรับตัวลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนปริมาณบ้านในตลาด, ราคาบ้านที่พุ่งสูง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ดีดตัวขึ้น

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก RYT9



Create Date : 30 สิงหาคม 2561
Last Update : 30 สิงหาคม 2561 10:41:07 น.
Counter : 234 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 4673538
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



WORLD FOREX ประเทศไทย คือผู้ให้บริการด้านการลงทุนออนไลน์ที่มีมายาวนานกว่า 10 ปี
All Blog