ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปีในเดือนส.ค. ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.21 เยน จากระดับ 111.10 เยน แต่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9766 ฟรังก์ จากระดับ 0.9796 ฟรังก์

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2867 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2893 ดอลลาร์ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7335 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7346 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1696 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1679 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 133.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2543 จากระดับ 127.4 ในเดือนก.ค. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นจะลดลงสู่ระดับ 126.7 นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองดีขึ้นต่อสภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 24.3% จากระดับ 22.9% ในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่ง หลังจากเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนมิ.ย. แต่ชะลอตัวลงจากระดับ 6.4% ของเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 6.5% ของเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก RYT9