Please.....draw me a sheep

ของขวัญวันวาเลนไทน์ชิ้นแรกในชีวิต



เกิดมาก็หลายร้อนหลายฝน มาปีนี้นี่แหล่ะที่เพิ่งได้ของขวัญวันวาเลนไทน์เป็นชิ้นเป็นอัน ก็มีบ้างที่เคยได้เป็นช็อคโกแล็ต หรือตุ๊กตา หรือดอกไม้ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว ตั้งแต่ยุคเฟื่องฟู ยุคเรอเนสซองส์ ว่างเว้นไปนาน จนพาลทำให้เกลียดวันวาเลนไทน์เข้าไส้ไปหลายปี

...ก่อนได้มาเจอสุดที่รักคนนี้ ...

ปีที่แล้วเราไม่ได้ฉลองวาเลนไทน์กัน ทั้งที่เป็นวาเลนไทน์แรกที่คบกัน เพราะญาติสามีเสียชีวิตก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ปีนี้ เป็นวาเลนไทน์แรกในฐานะสามีภรรยา ไอ้เราก็ 2 จิต 2 ใจ เราควรริเริ่มประเพณีวาเลนไทน์ของเรารึเปล่านะ สามีเคยซื้อช่อดอกไม้ช่อละหลายพันให้ ก็ชอบอ่ะนะ แต่พอเห็นมันเหี่ยวแล้วก็เสียดาย ช่อละตั้งหลายพัน ซื้อรองเท้าได้ตั้งหลายคู่ ยิ่งตอนนี้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เงินเขาก็เหมือนเงินเรา เอาไปซื้อของฟุ่มเฟือยเราก็เสียดาย เราเลยเงียบๆดีกว่า ไม่ต้องฉลองกันหรอก เอาแค่คริสต์มาส, วันเกิด กับวันครบรอบแต่งงานก็พอแล้ว

แต่เมื่อวานนี้สามีทำเป็นชวนไปเดินห้างหลังเลิกงาน บอกว่าอยากไปซื้อแผ่นซีดี... ไปก็ไป...แต่พอไปถึง พ่อคนดีก็บอกว่า วันนี้อยากให้เรามีความสุข อยากได้อะไรให้ซื้อเลย ไม่ต้องคิดทบทวน...เท่าไหร่ก็ได้ ไม่อั้น พี่แกจะจ่ายให้ รองเท้า กระเป๋าเสื้อผ้า อะไรก็ได้ กี่ชิ้นก็ได้ หยิบเลย ไม่ต้องคิด ถือเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์....แหม, เสียดาย, เมื่อวันจันทร์ไม่น่าแอบไปช็อปปิ้งคนเดียวเลย...วันนั้นซื้อรองเท้ามา 2 คู่ เสื้ออีก 2 ตัว ใช้เงินตัวเอง ...เซ็ง เซ็ง เซ็ง

ก็เลยเลือกสร้อยมุก 1 เส้น ( เลือกของแพง อิอิอิ ) กับขอกินอาหารญี่ปุ่นที่สามีไม่ค่อยชอบแทน...เท่านี้ก็พอแล้ว เห็นความตั้งใจของสามี เท่านี้ก็ปลื้มแล้ว ไม่อยากใช้เงินเยอะ อยากเก็บเงินไว้ไปเที่ยวมากกว่า

อีกอย่างไม่เคยเห็นว่าวันวาเลนไทน์จะเป็นวันสำคัญอะไร แค่เป็นช่องทางการค้าของคนขายดอกไม้ ขายการ์ด แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร บรรยากาศช่วงนี้ก็ดูแจ่มใสดี ดอกไม้ ตุ๊กตาสีแดงพรึ่ดเต็มไปหมด .... แต่คิดว่าถ้าคนรักกัน ควรแสดงความรักต่อกันเป็นพิเศษ มันก็อบอุ่นหัวใจดีนะ ชีวิตรักมันจะได้ไม่จืด....

When you love someone, you pick up the little things and magically turn them into something special




 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 8:40:58 น.   
Counter : 722 Pageviews.  

เมื่อร่องรอยแห่งความชรามาเยือน



เมื่อคืนลองลอกหน้าด้วย Garnier Mask ที่ไปซื้อมาจาก Boots ลองอันที่มันบอกว่าลอก cell ผิวเก่า ทำให้หน้าขาวสดใส -- ลอง mask ดู เขาให้รอ 10-15 นาที แล้วลอกออก ด้วยความเสียดาย ก็เลยล่อซะเกือบครึ่งชั่วโมงถึงลอกออก ตอนลอก หัวใจเราเปี่ยมไปด้วยความหวัง...มันต้องเหมือน face-off แน่ๆ หน้าเราต้องใสกิ๊ก ขาวกระจ่างใสแหนว เออ...แก่แล้วยังโง่ เชื่อโฆษณา

ลอกเสร็จ มันก็รู้สึกดีนะ ผิวตึงเปรี๊ยะ นุ่มๆ แต่พอส่องกระจก my gosh มันก็ยังเหมือนเดิมนี่หว่า แถมสังเกตเห็นตีนกาเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตีน สงสัยพอผิวมันดูสะอาดขึ้น ก็เห็นอะไรชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะตีนกากับถุงใต้ตา

ไปนั่งโอดครวญให้สามีฟัง ... เขาก็ฟังไป เล่น FIFA08 ไป ...เออออห่อหมกไปตามเรื่อง นึกว่าเขาไม่สนใจ เห็นเมามันกับการยิงประตู ... เกือบงอนแล้ว...ให้ตาย! แต่งงานแค่ 7 เดือน สามีก็แปลงร่างเป็นผู้ชายทั่วไปซะแล้ว แต่เราก็ไม่จริงจังอะไร กะอ้อนสามีเล่นๆ-- พอพักครึ่ง เขาก็ pause เกม แล้วพูดว่า come here, baby... your face looks great even with wrinkles, but..you call that wrinkles??? I see only beautiful skin...LOOK AT ME, LOOK AT MY FACE...THIS IS WRINKLE!!!! - รอดตัวไป พูดได้ดีมาก

อาทิตย์นี้มีแต่คนเขียนถึงความรัก บรรยากาศความรักอบอวลไปหมด...สำหรับเราความรักคือ อะไร ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ รู้แต่ว่ามันมาพร้อมความเป็นห่วง อยากให้คนที่เราใกล้ชิดมีแต่ความสุข สำหรับพ่อแม่พี่น้อง มันคือ unconditional love -> ยังไงก็รัก รักอย่างเต็มใจและไม่มีเงื่อนไข แต่กับสามี ต้องรอดูไปนานๆ อีกซัก 10 ปี ว่าเราจะมีอารมณ์เขียนบันทึกชื่นชมสามี หรือว่าจะเขียนด่า ก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่ฝรั่ง ท่านจะพูดเต็มปากรึเปล่าว่า ถึงเหี่ยวยังไง ไอ ก็ เลิฟ ยู




 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2551 8:59:07 น.   
Counter : 691 Pageviews.  

ผมขอโทษ...เป็นความผิดของผมเอง



เช้ามืดวันนี้ก็ขับรถไปส่งสามีไปทำงานตามปรกติ...
ถนนสายที่ใช้ทุกเช้า เป็นถนนสายกว้างที่ตัดผ่านสวน

วันนี้สามีนั่งเงียบๆ ไม่เล่าถึงฝันที่พ่อเจ้าประคุณฝันได้ทุกคืน
ท้องฟ้าก็ยังไม่สว่างดี ใจเราก็พลางคิดถึงทะเล อยากไปทะเลเหลือเกิน

จู่ๆ สามีก็พูดขึ้นมาว่า ระวัง!... เราก็ตกใจ หักพวงมาลัย...

รถส่ายไปส่ายมา...เกือบควบคุมไม่ได้....
บุญที่ไม่มีรถสวน หรือรถขับตามหลังมา
พอส่ายยึกยัก 2-3 รอบ ก็ตั้งสติ ตั้งรถได้ตรงตามปรกติ...

สามีบอกว่า "ขอโทษ ก็มันมีแมวกระโดดตัดหน้า"
เราไม่ยักกะเห็นแมวตัวนั้น....มันคงแค่กระโดดยึกยักอยู่ข้างถนน

จากนั้นเราก็ค่อยๆขับแบบคืบคลาน เพราะขายังสั่นนิดๆ
ถึงที่ทำงาน ก่อนสามีลงจากรถเขาก็หันมากอดนานกว่าทุกวัน
...และพูดว่า....

"เป็นอะไรรึเปล่า? หายตกใจหรือยัง...
ผมขอโทษนะ เป็นความผิดผมเอง ไม่น่าตะโกนออกมา....
ถ้ามีอะไรตัดหน้า ก็ให้ชนเลย...ไม่เป็นไรแล้วนะ?"

เราบอกว่าไม่เป็นไร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่รถส่ายขนาดนี้...เขาบอกว่า

"...แต่คุณก็ควบคุมรถได้ดีนี่...เหมือนคนขับรถในหนังแอ็คชั่นเลย
เป็นสตั๊นท์แมนได้เลยนะเนี่ย...." แค่นี้ก็ทำให้เราหัวเราะได้แล้ว

..และก่อนลงจากรถ เขาก็พูดอีกครั้งว่า

"ขอโทษอีกทีนะ, เป็นความผิดผมเอง...ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ"

....เฮ้อ....กลับมาบ้านก็คิดว่า ดีแล้วที่เลือกสามีคนนี้...
ชอบผู้ชายที่ไม่อายที่จะขอโทษ... ถึงเป็นเรื่องเล็กน้อยก็เถอะนะ

แต่จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์จากสามี...
ดีใจ นึกว่าจะโทรมาถามว่าถึงบ้านปลอดภัยดีมั๊ย....

กลับกลายเป็นว่า...เขาลืมกุญแจไขโต๊ะที่จำเป็นต้องใช้ของในนั้น...ทำไงดี?

ปั๊ดโธ่...กำลังนึกชื่นชมคุณพี่อยู่...คุณพี่ก็ทำตัวเหมือนเดิมอีกแล้ว...พ่อคนขี้ลืม!!!!




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 9:13:40 น.   
Counter : 578 Pageviews.  

อากาศอึมครึม ฝนพรำ แบบนี้ทำเอาหมาหงอย





จำได้ตอนเด็กเวลาฝนตกแม่เคยพูดว่าอากาศแบบนี้หมาจะหงอย
ตั้งแต่นั้นเราก็สังเกตมาตลอด...เออว่ะ...หมามันหงอยจริงด้วย

ไม่ต้องรอฝนตกหรอก แค่ท้องฟ้าไม่มีแดด อึมครึม
หมาที่บ้านก็เริ่มนั่งซึมๆ หงอยๆ นอนซุกใต้โต๊ะ
....เหลือบตากลมโตมองคนโน้นคนนี้....
ถ้าวันไหนฝนตกพรำ ตัวที่ขี้เกียจหน่อย ก็จะหลับอุตุทั้งวัน......

ตอนนี้รู้สึกว่า เราก็เหมือนเจ้าลิตเติ้ลกับริต้าที่บ้าน
เพราะรู้สึกหงอย เหงา ซึมกะทือมา 2-3 วันแล้ว
....ตั้งแต่วันที่ฝนตั้งเค้านั่นแหล่ะ....

ช่วยด้วยเจ้าค่ะ....หมาหงอย....




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 7:21:25 น.   
Counter : 486 Pageviews.  

Eat, Pray, Love วินาทีที่มีความสุขประจำวันนี้




เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดูรายการ Oprah แนะนำหนังสือเรื่อง Eat, Pray, Love ผู้หญิงคนนึง (คนเขียน) เกิดเบื่อโลก เบื่อสามีงี่เง่า เลยออกไป search หาความหมายของชีวิต เริ่มต้นที่ Italy ใช้ชีวิตสนุกอย่างเดียว 4 เดือนเต็ม กิน กิน กิน ( อันนี้ชอบ ) เพื่อเรียนรู้ชีวิตที่มีความสุข จากนั้นก็ไป meditate ที่ india เพื่อหา inner peace จากนั้นก็ไป bali เพื่อเข้าถึงธรรมชาติ จนได้พบรักใหม่...เธอก็เอาประสบการณ์พวกนี้มาเขียนเป็น Journal แบบ How To การเรียนรู้ความสุขและมีความสงบภายในใจกับทุกวินาทีที่มีชีวิตอยู่

พี่โอปราห์แกปลื้มกับหนังสือเล่มนี้มาก แต่ดูแล้วเราก็ได้แต่คิดว่า ฝรั่งกรี๊ดกร๊าดไปได้ กับ concept อะไรแบบนี้ ทั้งที่ พระพุทธเจ้าของเรา คิดได้ตั้งนาน แถมบอกวิธีปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมให้ชาวพุทธอย่างเราได้เรียนรู้อีกด้วย ...

ยังไงก็เถอะ...the point is...คนเขียนหนังสือคนนี้ (เป็นผู้หญิงอายุก็คงพอกับเรา หรือไม่ก็มากกว่าเล็กน้อย ) บอกว่าวิธีหนึ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข คือ อย่า curse ตัวเอง อย่าพูดว่าฉันมันเลว ฉันมันโง่ etc., มันเหมือนกับแช่งตัวเอง เราอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ บังเอิญเป็นคนโชคดี หลงตัวเองอยู่เป็นทุน คิดว่าตัวเองเก่งและน่ารักอยู่ตลอดเวลา เลยยังไม่ค่อยได้ curse ตัวเองเท่าไหร่

...และอีกคำแนะนำที่เราคิดว่าจะเอามาใช้ คือ จดบันทึกวินาทีที่เรามีความสุขในแต่ละวัน และเมื่อเราเศร้า ให้มาอ่านบันทึกนั้น แล้วเราจะรู้สึกว่า เออ เนอะ ชีวิตเรายังมีความสุขอีกหลายอย่าง เราจะรู้สึก appreciate life มากขึ้น

เมื่อวานนี้เหรอ...ช่วงเวลาที่มีความสุข ก็คือ

ตอนเย็นลองทำ chicken wing ใช้ hot sauce จาก Louisiana ที่ซื้อมาจาก foodland ให้สามีกินกับ french fries - สามีก็นั่งกินไม่พูดไม่จา เราเอามากินปีกนึง รู้สึกว่าเค็มเกินไป แถมไม่เผ็ดเหมือนตอนเคยเอาซอสพริกศรีราชามาทำ แต่ก็เงียบๆ ทำเป็นว่า ฉันตั้งใจทำให้เค็มนะยะ... พอกินเสร็จ สามีไปล้างมือล้างปาก แล้วก็มา kiss 1 จุ๊บ บอกว่า thank you, baby -the chicken was good - แล้วก็ไปนั่งดูทีวีต่อ ถึงสามีจะทำแบบนี้เป็นประจำ ถ้าเป็นมื้ออาหารที่เราทำเอง แต่ก็ถือเป็น 1 moment ที่มีความสุขสำหรับวันนี้

แล้วคุณล่ะ? วินาทีที่มีความสุขประจำวันนี้ของคุณคือ อะไร?




 

Create Date : 17 มกราคม 2551   
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 7:23:04 น.   
Counter : 561 Pageviews.  

1  2  3  4  

Crazy Victoria
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...บางวันก็เหงา บางวันก็มีชีวิตสุดวุ่นวาย....
เลยอยากพักสมอง ขีดเขียน ระบายอารมณ์ ถึงเรื่องที่สนใจ แบ่งปันเรื่องราว ความรู้สึก ถึงกันและกัน......

[Add Crazy Victoria's blog to your web]