People Don't Change!
 
**ITALY** [ Roma ]

นั่งรถไฟมาแค่ชั่วโมงครึ่งก็มาถึง Roma Termini ครับ



ถึงโรมก็เกือบบ่ายสามโมงเข้าไปแล้วครับ เลยไปเช็คอินที่โรงแรมเลยดีกว่า จะได้ทิ้งกระเป๋าเป้ไว้ที่โรงแรมด้วย สภาพห้องครับ มีจากุซซี่ด้วย (ตอนจองก็ไม่รู้หรอกครับ แต่สมราคามาก ๆ ทำเอากระเป๋ากางเกงข้างซ้ายแห้งไปเลย แต่เรายังมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อยู่ 555)



เก็บของเสร็จ เราสองคนก็ออกเดินชมเมืองทันทีครับ จากโรงแรมเดินอีกจิ๊ดเดียวก็เจอ Porta Pia ครับ



เยี่ยม ๆ มอง ๆ ก็ออกเดินกันต่อครับ อะไรที่เก่า ๆ เขาก็ยังรักษากันดีอยู่เลย แม้ว่าบางทีมันจะดูไม่สวยแล้วก็ตาม แต่ในบางมุมมันก็ยังสวยนะครับ เพียงแต่ภาพถ่ายมันถ่ายทอดออกมาไม่ได้ก็แค่นั้น



มีเรือด้วย...



แวะกินแตงโมเย็นฉ่ำกันแถว Repubblica ครับ



พื้นสวยมาก.. รูปนี้โชคดีไม่มีใครอยู่ในรูปเลย (ส่วนคุณภรรยาก็แกะเม็ดแตงโมอย่างเมามันอยู่ข้างหลัง)



มองไปด้านหน้าครับ ก็จะเจอน้ำพุกับโบสถ์ Santa Maria degli Angeli ที่เห็นอยู่ลิบ ๆ ครับ



เดินที่โรมรู้สึกเหนื่อยบ้างเหมือนกันครับ เพราะมีทางขึ้นเนินลงเนินเยอะเหมือนกัน



จุดหมายต่อไปเราก็คือ โบสถ์ Santa Maria Maggiore เห็นด้านหลังโบสถ์ตอนแรกก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน



ต้องย้อนมาดูด้านหน้า ใช่เลยครับ มาถูกแล้วละ



ยิ่งเห็นแม่พระประทับอยู่แบบนี้ก็ใช่เลยครับ



โบสถ์ที่อิตาลีเนี่ยผมว่าสวยและดูศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ทุก ๆ โบสถ์เลยครับ









เดินชมซักพักเราก็ออกมาข้างนอกครับ เจอเจ้าถิ่นอีกละ คุณภรรยาก็แจกขนมปังทำบุญให้อีกตามเคย



จุดหมายต่อไปคือ colosseo ครับ ระหว่างทางก็เดินผ่าน Domus Aurea ตอนแรกนึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ ดันเป็นตึกเก่า ๆ ล้อมรั้วไว้แค่นั้นเองครับ



เดินผ่านโบสถ์นี้ คิดถึงสีแดงที่ Florence เลย... (จริง ๆ มีโบสถ์เยอะมาก ๆ ครับ เดินผ่านบ้าง เข้าไปดูบ้าง แล้วแต่อารมณ์ในตอนนั้นจริง ๆ ว่าอยากเข้าหรือเปล่า โดยมากเลือกอันที่ข้างนอกดูสวย ๆ ไว้ก่อนน่ะครับ)



นี่ก็ฟุตบอลการกุศลหรือเปล่าไม่รู้ แต่เหมือนมาปิกนิกกันมาก ๆ เปิดเพลง ทำอาหาร ดื่ม เตะบอล... สารพัด ฯลฯ รู้อย่างเดียวฝุ่นฟุ้งมาก ๆ ลูกพี่



โอว... ในที่สุดก็มาถึงจนได้ Coloseeo (เดี่ยวจะส่งคุณภรรยาไปสู้กับสิงห์โตก่อน เพราะเราถือคติ lady first )



อืม... อันนี้หินสมัยเก่าหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าเดินยากจิ๊บ



Arco di Costantino ก็อยู่ใกล้ ๆ กันนี่ละครับ



ขนาดเย็นแล้วยังมีคนมาเข้าแถวเยอะพอประมาณ เราสองคนก็เอาด้วยเหมือนกัน โชคดีที่ยังเปิดอยู่



ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินเข้ามา... มันช่างยิ่งใหญ่เสียจริง ๆ แต่สงสารคนที่ต้องมาจบชีวิตที่นี่เสียเหลือเกิน ทำไมน้าคนเราถึงชอบการฆ่าฟันกันเสียจริง



Gladiator เราก็นั่งทอดถอนใจ หลังจากฆ่าพิราบไปตัวนึง... (หึ หึ ว่าแล้วมันก็ส่งตัวใหม่เข้ามา... อาศัยพวกเยอะกว่า )



คนโรมันสมัยก่อนนี่ก็เก่งจริง ใหญ่โตซะขนาดนี้ยังสร้างได้



แต่ถ้ารูปนี้เท่าตัวคนสมัยก่อนจริง ๆ ก็คงไม่แปลกใจเท่าไร เพราะตัวคงเหมือนยักษ์มาก ๆ และสิ่งก่อสร้างแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร



ถ้าให้เดา หินที่เป็นสีอ่อน ๆ คงเป็นของเก่า ส่วนสีอิฐคงเป็นส่วนที่ต่อเติม (มั้งครับ)





ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็มีวันเสื่อม...



ดูสิครับ พอออกมานะ ฟ้าใสเชียว (อย่างนี้แหละครับ ก็บังคับอากาศไม่ได้นี่นา ก็เราจะมามัวอ้อยอิ่งรอฟ้าสวยก็ไม่ได้ วัยรุ่นเซ็งเล็กน้อย...)



เดินผ่าน Palatino ครับ ทางเข้านี้ด้นปิดไปแล้ว ก็เลยไม่เข้า (ทั้ง ๆ ที่ตั๋ว Coloseeo ก็รวมค่าเข้าแล้วด้วย) อารมณ์ขี้เกียจเดินย้อนไปอย่างแรง



เดินผ่านตึกนี้เห็นแว๊ป ๆ นึกว่าข้างบนเป็นกำปั้นชูนี้วกลาง (คิดในใจกล้ามากเนอะ...) แต่ดูดี ๆ เป็นนิ้วชี้ครับ



เดินผ่านสนามกว้าง ๆ เหมือนจะเป็นสนามแข่งอะไรซักอย่าง วันนั้นมีเฮลิคอปเตอร์มาลงด้วย ฝุ่นฟุ้งกับเป็นกิโลเมตรเลยครับ



โบสถ์นี้ก็ดูน่าเข้าไปชม แต่ปิดไปแล้วครับ มีแต่คุณตำรวจอยู่สองสามคนข้างหน้า (รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันครับ เพราะว่าเห็นตำรวจทุกที่เลย แล้วเยอะด้วย ไม่แน่ใจว่าเขามี alert อะไรกันหรือเปล่า หรือว่าโรมเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ ดู ๆ แล้วเหมือนจะปลอดภัย หรือไม่ปลอดภัยก็ไม่รู้เหมือนกัน)



นี่คือจุดหมายต่อไปของเราครับ โบสถ์ Santa Maria in Cosmedin ครับ



ฮือ... ปิดแล้วอ่ะครับ อดเล่นสนุกกับ Mouth Of Truth เลย



Bolster ไปไหนถ้าไม่มีอะไรซ่อมไม่ใช่ตัวจริงนะครับ



ชอบวิธีที่เขา reserve สถานที่เก่า ๆ ไว้จังเลยครับ



เดินผ่าน Teatro Marcello ครับ



สมัยก่อนคงมีแต่ต้นไม้ใหญ่ ๆ แบบนี้เต็มโรมแน่ ๆ เลย



Campidoglio ครับ ถ้าเดินขึ้นไปข้างบนก็มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนกันครับ



ไม่ได้เดินขึ้นไป Ara Coeli ครับ เห็นแล้วว่าปิดแน่ ๆ แล้วก็ชันซะ สงวนแรงไว้ก่อนครับ ยังมีพรุ่งนี้อีกวันนึง



แวะถ่ายรูปกับ Monumento a Vittorio Emanuele II ซักพักครับ (ปิดซ่อมอีกเหมือนกัน) ภาพนี้ถ่ายตอนเดินออกมาหน่อยนึงครับ เพราะใหญ่โตซะเกินกล้อง compact จะเก็บได้หมด



เหอ ๆ อนุสาวรีย์ลูกสน



จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมน้องแมวจร กันแถว Area Sacra ครับ นับน้องแมวได้เยอะเหมือนกัน แต่ไม่มากเหมือนที่คิดไว้ครับ รูปนี้เห็นน้องดำสองตัวนอนอยู่มุมขวาล่างนะครับ



จากนั้นเดินกลับไปดูโบสถ์ Chiesa del Gesu กันครับ



สวยอีกเช่นเคยครับ






แน่นอน ศรัทธาในศาสนาย่อมมีอยู่ทุกที่ครับ เทียนนี้จุดโดยคนไร้บ้านที่อยู่หน้าโบสถ์ครับ



จากนั้นเราเดินไปที่ Pantheon กันครับ ตอนนั้นอากาศเริ่มเย็นแล้ว ไม่มีแดดมาแผดเผาเราให้รำคาญใจแล้วครับ



ตอนนี้เริ่มหิวข้าวแล้วละครับ หน้า Pantheon คนทานอาหารกันเต็มเลย แต่เราไม่ครับ ไปหาร้านเล็ก ๆ ตามตรอกซอกซอยทานดีกว่า รูปนี้หน้า Pantheon ครับ



สุดท้ายไปได้ร้านเล็ก ๆ ริมทางเดินไปน้ำพุ Trevi ครับ อาหารอร่อยมาก ของหวาน(ทีรามิสุ)ก็อร่อย ราคาไม่แพงแบบขูดเลือกขูดเนื้อ กระแดะกินกุ้งครับวันนั้น



อิ่มแล้ว ก็ออกเดินไปที่จุดหมายสุดท้ายของวันครับ ที่ ๆ เขาบอกกันว่าต้องมากลางคืนแล้วจะสวย ดูรูปกันเลยครับ Fontana di Trevi ครับ



คนเยอะมาก ๆ ประมาณเดินแถวปากคลองฯ พาหุรัด ประมาณนั้นครับ



โยนเหรียญกับคุณภรรยาเสร็จ ก็นั่งดูคนกันซักพัก แล้วก็เดินกลับโรงแรมกันครับ ขนาดยังไม่ถึงห้าทุ่ม แทบไม่มีคนหรือรถบนถนนเลย จูงมือกันเดินเรื่อย ๆ ผ่านป้อมคุณตำรวจที่เรียงรายประปราย ไม่นานก็ถึงโรงแรมครับ โชคดีมาก ๆ พอกลับถึงโรงแรมก็ฝนตกพอดี.... เฮ้อ ฟ้าฝนก็เข้าข้างเราเหมือนกันเนอะ

ไว้มาต่อวันสุดท้ายที่โรม (วาติกัน) ในวันหลังนะครับ




Create Date : 22 กรกฎาคม 2551
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 22:34:51 น. 0 comments
Counter : 931 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Bolster
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Bolster's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com