People Don't Change!
 
 

Bye Bye UK

ได้เวลากลับไทยซะที บ้านเราแสนสุขใจ






 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2553   
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 12:44:27 น.   
Counter : 747 Pageviews.  


[Unbelievable] Snow in March

เห็นหิมะตกเมื่อคืนกับวันนี้แล้วเป็นงง เมื่อเช้าเดินออกไปทำงานโดนหิมะตกใส่หัวอีก

เซ็งอารมณ์มาก ๆ เมื่อไรจะหยุดซะที Spring แล้วนะเฟ้ย

ว่าแล้วก็งัดเอารูปที่ถ่ายช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา ขึ้นมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า


































 

Create Date : 01 เมษายน 2553   
Last Update : 1 เมษายน 2553 2:32:38 น.   
Counter : 323 Pageviews.  


St. Patrick Day 2010 (3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก)

ยังจำได้ว่าเคยลง blog เกี่ยวกับ St.Patrick Day ไว้เมื่อสามปีที่แล้ว มาปีนี้ได้ฤกษ์ดีสามปีพอดีก็เลยออกไปชมพาเหรดที่กลางเมือง Belfast กันอีกครั้ง

เดินไปก็ได้แต่หวังว่าวันนั้นฝนคงไม่ตก แต่ก็อึมครืมเหลือเกิน



บรรยากาศทั่ว ๆ ไปก็เริ่มครึกครื้นกันแล้ว



สามสีนี้ขาดไม่ได้จริง ๆ สำหรับวันนั้น



พ่อหนุ่ม Leprechaun คนนี้ก็เดินแจกบัตรโฆษณาร้านข้าวไปทั่ว นักท่องเทียวก็ขอถ่ายรูปกันใหญ่



กลางเมืองปีนี้ซ่อมแซมไปทั่วเลย ถนนหนทางแทบจะวิ่งไม่ได้ ปีนี้เลยเปลี่ยนเส้นทางเดินพาเหรดกันเล็กน้อย ไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา



ชอบป้ายนี้จริง ๆ ไม่มีอะไรในโลกนี้หยุดการชอปปิ้งของผู้หญิงได้



เนื่องจากการซ่อมถนน ปีนี้เลยใช้ถนน Victoria Street แทนที่จะใช้ High Street เหมือนทุก ๆ ปี



คนดูพร้อม....



ตากล้องพร้อม ตำรวจก็พร้อม...



บ่ายโมงพาเหรดก็เริ่มออกเดิน (แต่ทำไมขบวนแรกกลายเป็นธงแคนาดาไปซะงั้น)



ปี่สก๊อตก็ดูเหมือนจะขาดไม่ได้เลยในงานพาเหรดต่าง ๆ



สีสันพาเหรดทั่ว ๆ ไปก็สีเขียวเป็นหลัก



สีอื่น ๆ ก็มีบ้างประปรายให้เป็นสีสัน



คุณพี่คนนี้แอ๊คท่าน่าดู



ข้างหลังคุณพี่ก็มีมวยคู่เอกระหว่าง St.Patrick กับงู โดยมากงูก็จะแพ้เป็นหลัก เห็นชกกันหลายยกเหลือเกิน



ไป ๆ มา ๆ ดูเหมือนจะมีสีอื่นมากกว่าสีเขียวแล้วนะเนี่ย



คนนี้เต้นสวย..



แต่เด็ก ๆ วัยไม่เกินสิบขวบดูเหมือนจะเป็นตัวชูโรงมากกว่า





เต่าทองตัวนี้คุณแม่พามา..



คนนี้คุณแม่พามาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ดูน้องจะเหนื่อยมาก หน้าตาเริ่มไม่สบอารมณ์



คนนี้ดูเนือย ๆ แต่คุณภรรยาชมว่าโตขึ้นต้องหล่อแน่ ๆ



เทวดาตัวน้อย ๆ ก็มานะ



รุ่นโตหน่อยก็มา



ไม่ใช่มีแต่เด็กนะครับ ผู้ใหญ่ก็มาเยอะเหมือนกัน



สองคนนี้มันส์สุด ๆ แล้ว ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เข็นไปเข็นมาหลายรอบมาก ๆ



ปีนี้มีคนตัวสูงแค่คนเดียวเอง... ปีก่อน ๆ ยังมีตั้งหลายคนเลย สงสัยจะหมดงบ



ทุก ๆ ขบวนโดยมากก็ใช้พลังคนนี่แหละครับ ทั้งลาก ทั้งเข็นกันไป



คนไหนไม่เข็น ก็ตีกลองปลุกใจกันไปเรื่อย ๆ



หนูน้อยคนนี้คุณพ่อพามา ซึ่งวันนั้นเด็ก ๆ ทุกคนก็จะเลือกใส่สีเขียวเป็นหลัก หรืออย่างน้อยต้องมีอะไรสีเขียวติดตัว



หนอนตัวนี้คุ้นมาก เหมือนจะมาทุกปี



ขบวนนี้ออกแนวเรคเก้



ขบวนนี้กลองใหญ่ใบข้างหลังแปลกดีครับ บาง ๆ แต่เสียงดังมาก



ใบนี้แหละครับ คงเป็นกลองแบบโบราณ



คนไหนลากก็เหนื่อยหน่อย คนนั่งในขบวนก็สบายไป



คุณลุงคนนี้ขี้โกงสุดแล้วครับ แกใช้เครื่องมอเตอร์ไซด์ เลยไปไหนมาไหนเองได้โดยไม่ต้องมีคนลาก



เด็ก ๆ ก็คงซ้อมกันมาอย่างดีครับ เวลาแสดงเลยดูพร้อมเพรียงกันมาก ๆ







คนนี้ดูตั้งอกตั้งใจมาก



ขบวนนี้ยังกับลูกกวาดเลย



มีซานต้าคลอสแฝงตัวมาด้วย



ขบวนนี้เอาขนมปังปอนด์ (นักรักบี้) มาเดินด้วย ตัวใหญ่มาก ๆ



เด็กคนนี้น่าตาน่ารักมาก คนถ่ายรูปกันเยอะเลย



ปิดท้ายขบวนก็มี paramedic คอยให้ความช่วยเหลือเผื่อใครจะเป็นอะไรขึ้นมา



หันกลับมาดูเสื้อผ้าของคนดูส่วนใหญ่ก็เป็นเขียวเหมือนกันครับ







ปิดท้ายด้วยน้องหนูคนนี้ก็แล้วกันครับ ถ้าปีหน้ายังอยู่ Belfast อีกก็อาจจะมาอีกครับ






 

Create Date : 31 มีนาคม 2553   
Last Update : 31 มีนาคม 2553 5:45:34 น.   
Counter : 933 Pageviews.  


Tall Ship Festival

หายไปนานครับ มัวแต่นั่งถอนหายใจทิ้งไปวัน ๆ เพราะไม่มีงานมาให้ทำเท่าไร งานที่มีก็ปวดหัวจนไม่อยากจะทำ เราตีอย่างนึง ฝรั่งตีอีกอย่างนึง สุดท้ายดันไปเชื่อฝรั่ง แล้วไงล่ะปัญหาเยอะมาก ๆ มองไปทางไหนก็ไม่มีใครช่วยได้ ทุกคนถีบหัวเรือส่งหมด คิดมากปวดตับ "-_- ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาเอาสีข้างไถกันเข้าไป...

นั่งอยู่เฉย ๆ อาทิตย์แรก ๆ ก็ดีหรอกครับ แต่พอซักสองสามอาทิตย์ ก็เริ่มเบื่อ อยากทำงานขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้ใครนั่งว่าง ๆ ก็เริ่มหวั่นใจว่าจะโดนแจ๊กพอตกันเมื่อไร แต่ก็นะ.. ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป

เดือนที่แล้วได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม Tall Ship Festival ที่จัดขึ้นที่ Belfast จริง ๆ แล้วเป็นการแข่งขันเรือใบจากประเทศแคนาดามาที่นี่ครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์กว่า ๆ ผู้สื่อข่าวที่นี่ก็ขึ้นเรือมาจากแคนาดามากับเขาด้วย ถ่ายทอดผ่านดาวเทียมมาตลอดทาง ยังจำได้เลย วันที่เขาเห็นแผ่นดินครั้งแรก รายงานข่าวไปจะร้องไห้ไป... เข้าใจความรู้สึกคนเวลาจะกลับบ้านเลย... (ยิ่งมีแต่ทะเล ทะเล และทะเลมาสองอาทิตย์กว่า ๆ นี่คงยิ่งจิตตกเลย)



คนเยอะมาก ๆ ครับ เขาว่ากันว่าคนครึ่งนึงของ Northern Ireland มาที่นี่ ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะวันเสาร์อากาศดี แดดออก คนเลยมากันล้นหลาม เวลาเดินนี่เหมือนไหลตามกันไปเลยครับ



ไม่แน่ใจว่ามีเรือจำนวนเท่าใดเข้าร่วมการแข่งขันนี้ เท่าที่เห็นวันนั้นโดยมากก็จะเป็นเรือลำใหญ่ ๆ มาจอด แล้วให้คนขึ้นชมฟรี ซึ่งเราสองคนก็พลาดไปหลายลำ เพราะว่าคิวยาว แล้วการจัดการก็ไม่ดีเท่าไร แบบว่าลูกทุ่งมาก ๆ ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่ฝรั่งเองก็บ่นให้ฟัง หวังว่าครั้งต่อ ๆ ไปคงจะดีขึ้นกว่านี้















บรรยากาศก็ครึกครึ้นทั้งบนบกและในน้ำครับ ใครมีเรือก็ไม่ต้องเบียดกับชาวบ้าน นั่งเรือตัวเอง เรือเพื่อนมาเยี่ยมชมกันไปครับ





หรือจะขึ้นเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวก็ได้ครับ แน่นอน มาไอร์แลนด์ทั้งที ไม่มี sponsor เบียร์เจ้าตำหรับก็เกินไป...



ลำนี้เล็กหน่อย จะเห็นได้ว่า safety กันสุด ๆ ไม่เหมือนบ้านเรา



จริง ๆ แล้วฝรั่งเนี่ย safety กันเยอะมาก ๆ ครับ แต่ว่าก็เห็นหลุดง่าย ๆ เยอะเหมือนกัน แต่งานนี้ coastguard วิ่งตลอดเวลาครับ คงกลัวคนตกน้ำสุด ๆ





คุณตำรวจก็มีครับ คงมาจัดการคนบางพวกที่ชอบก่อปัญหา แต่ตอนนี้คงไม่มี เพราะเห็นได้ว่าเจ้าตัวเล็กขับเรือเล่นอย่างเมามันอยู่



ลูกโป่งสวรรค์ที่เห็นร้องอยากได้กัน ได้แล้วก็ปล่อยขึ้นฟ้าซะงั้น...



สงสัยกะจะสอยสองลำนี่ลงมาละครับ แต่ก็คงมีวันทันหรอก.. พี่ท่านทั้งสองลำเล่นบินปล่อยควันไปมาเร็วมาก ๆ ถ่ายมาได้แค่นี้ละครับ



มาดูคนบนเรือบ้างดีกว่า... อันนี้พ่อหนุ่มฝรั่งเศส เก๊กตลอดงาน



พ่อหนุ่มอังกฤษ (ที่เหมือนสาวมาก ๆ) กำลังปีนโชว์



อันนี้พ่อหนุ่มไม่ทราบสัญชาติ กำลังซ่อมเครื่องซักผ้า (เกี่ยวมั้ยน้อ...)



แล้วเราสองคนก็ได้ขึ้นเยี่ยมชมเรือ Tenacious กันครับ โชคดีมาก ๆ เพราะว่าอยู่ดี ๆ เขาก็เปิดขึ้นตอน ตอนกำลังถ่ายเรือเขาอยู่พอดี จากนั้นถึงมีประกาศว่าเรือลำนี้เปิดให้ชมเปิดพิเศษ (ทั้ง ๆ ที่เขาต้องเตรียมเรือสำหรับแล่นวันพรุ่งนี้แล้ว)





พังงาเรือครับ (เรียกถูกมั้ยเนี่ย)



ออกทะเลกันเถอะ



ภาพจากบนเรือครับ











เจ้าหน้าที่เริ่มเตรียมแผนการเดินเรือกันแล้วละครับ เพราะวันถัดมาเขาต้องแล่นจาก Belfast ไปที่อื่น ซึ่งเราสองคนก็พลาดตอนเขากางใบเรือออกจากที่นี่เป็นขบวน เพราะว่าฝนตัวเดียวแท้ ๆ เลยครับ ไม่มีรถก็ลำบากอย่างนี้แหละ แถมบ้านก็ไม่ได้อยู่ริมทะเลด้วย



ลงจากเรือก็เดินถ่ายรูปก็อก ๆ แก็ก ๆ ไปตามเรื่องตามราวครับ


























จริง ๆ เขามีเรืออีกฝั่งนึงให้ชมด้วย แต่ไม่ไหวแล้วครับ คนเยอะมาก หิวข้าวแล้วด้วย เดินไปอีกทางก็คงไม่ต่างกันเท่าไร ก็เลยกลับบ้านดีกว่าครับ ขากลับโดยเจ้านี่ตบหน้าด้วย พอดีลมมันคงหมด เลยหดตัวลงมาตบเราได้ ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้ชมพู งวดหน้าเจอกันแน่




 

Create Date : 19 กันยายน 2552   
Last Update : 19 กันยายน 2552 19:53:10 น.   
Counter : 1485 Pageviews.  


Assignment in Manchester

หายไปนานเลยครับ ตอนนี้เกิดอารมณ์หดหู่อย่างหนัก เศรษฐกิจไม่ดี อะไร ๆ ก็กระเทือนไปหมด งานที่ว่าน้อยแล้วก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ หลัง ๆ แทบไม่ได้งานเลยครับ มีแต่ pipeline แต่ไม่มีน้ำ

จะหางานเองก็กระไรอยู่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ ได้แต่ติดต่อลูกค้าเก่า ๆ ว่ามี software version ใหม่ ๆ ออกมาแล้วนะ จะ upgrade หรือว่า implement หรือเปล่า แต่ไม่เสียงตอบจากสวรรค์เลยครับ เหมือนส่งสัญญาณเข้าหลุมดำยังไงก็ไม่รู้

ลูกค้าบางรายยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ โดนปิดกิจการไปก็มี ลดคนก็มี พอมีข่าวออกในทีวีทีไร ก็โทรไปหาลูกค้าที่เคยทำงานด้วยทันที โชคดีที่คนที่รู้จักยังโอเคอยู่ แต่ก็นะ ไม่มีใครรู้อนาคตว่าอาทิตย์หน้า เดือนหน้า หรือปีหน้าใครจะได้รับ jackpot

ตอนนี้เลยต้องอ้อน resource team ทาง mainland UK ให้หางานให้ เดือนก่อนก็ได้งานไปตรวจระบบของ University of Manchester มาให้ ก่อนไปคุณภรรยาทำหมูกรอบให้กินเพิ่มพลังก่อนไปครับ น่ากินที่สุดเลย...



วินาทีแรกที่เข้า motorway จากสนามบิน ไปยังที่ทำงานลูกค้า (U.Of Manchester) เนี่ยแทบลมจับ เพราะวันไปถึงฝนตกครับ แถมเครื่องลงตอนแปดโมง เป็นช่วงเวลาที่รถติดมั่ก ๆ กว่าจะเข้าไปถึงกลางเมืองได้ เสียเวลาชั่วโมงครึ่ง คนขับแท๊กซี่บ่นแล้วบ่นอีก...(เฮ้อ... ก็คนมันต้องไปนี่นา จะให้นั่งเฉย ๆ รอเวลารถไม่ติดหรือไง) คิด ๆ แล้วอยู่เมืองเล็ก ๆ นี่ดีจริง ๆ จะทำอะไรก็แป๊ปเดียวจริง ๆ

Assignment แบบนี้ไม่มีเวลานั่งเล่นครับ สามสี่วันอันตราย งานไม่เสร็จ หา solution ไม่ได้ ก็เสร็จแน่ ๆ ตรู แล้วระบบของที่นี่ก็มีปัญหามาตั้งสองปีแล้ว เขาก็ทนใช้กันมาตลอด.. ก้มหน้าก้มตาทำงานไป สุดท้ายวันแรกก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว (ยังไม่ได้อะไรเลยตรู) นี่ขนาดใช้เวลาออกไปหา sandwich กินแค่สิบนาที กลับมาทำงานต่อ... นี่ละน้าชีวิตตรู.... เวลาจะไปชมนกชมไม้ยังไม่มีเลย


จบวันแรกว่าจะไปหาซื้อผ้าพันคอแมนยูฯฝากหลาน ๆ หน่อย กว่าจะเลิกก็หกโมงครึ่งไปแล้ว ร้านก็ปิดไปแล้ว.. กลับโรงแรมก็ได้ฟระ ฝนก็ตก.. ว่าจะออกไปเดินเล่นก็มีอันต้องพับไป โรงแรมก็ดูน่ากลัวขนาด ทำไมมันดูบางจังฟระ มันจะหักกลางมั้ยเนี่ยถ้าลมแรง ๆ



ห้องก็มาตราฐานโรงแรมใน brand นี้แหละครับ ไม่ได้แตกต่าง แต่วันนี้อยู่สูงจัง... ปกติใน Ireland/UK ไม่ค่อยมีตึกโรงแรมสูงมาก ๆ แบบนี้น่ะครับ



เมืองใหญ่นี่รถเยอะดีจริง ๆ



อยู่ว่าง ๆ ระหว่างรออาหารจาก room service เลยถ่ายรูปนี้มาให้ดูครับ ว่าเวลาโดน assignment แบบนี้จะเอาอะไรติดตัวไปด้วยบ้าง



ถ้าโดยสารด้วยเครื่องบินก็จะออกมาในแนวนี้แหละครับ เป้ใบเดียว แบบที่มีช่องเก็บเสื้อผ้าด้วย (ใบนี้แพงน่าดู คำนวนเป็นเงินไทยแล้ว แทบเขกหัวตัวเอง ซื้อมาได้ไงฟระ แพงจิ๊บ) เพื่อว่าเข้าออกสนามบินจะได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอกระเป๋า

ในกระเป๋าเป้ก็จะมี
1. ห่อเสื้อผ้า (ที่เห็นเป็นก้อนดำ ๆ ทางขวานั่นแหละครับ) เป้ยี่ห้อนี้เขาจะมีเหมือนห่อผ้าเอาไว้จัดระเบียบให้ ก็เสื้อเชิรต์สองสามตัว กางเกงอีกตัว ชุดนอน ฯลฯ .... ผู้ชายจะเอาอะไรกันไปมากมาย)
2. เสื้อสเวตเตอร์อีกซักตัว (ช่วงที่ไปไม่หนาวมากมาย) มีเสื้อแจ๊กเกตกันฝนอีกตัว (ไม่อยู่ในรูป) ก็พอแล้วครับ จริง ๆ คนที่นี่ชอบใส่สูทกันนะ แต่ผมเผอิญไม่ชอบ (เป็นพวกไม่แต่งตัวอย่างรุนแรง)
3. เนทไทซักสองเส้น เอาแบบที่ใส่กับเสื้อได้ทุกแบบ สีพื้น ๆ ไว้ก่อน
5. ถุงพลาสติกใสเอาไว้ใส่พวกลิควิดต่าง ๆ เวลาผ่าน security ที่สนามบิน
6. Passport อันนี้ต้องพกไว้แน่นอน เผื่อมีใครถามหา
7. กระดาษทิชชู่ลายหมีพูล (อันนี้ไม่น่าเชื่อ... มันติดมาในเป้ได้ไงฟระ)
8. แน่นอน Notebook ของบริษัท บวก extra battery เผื่อเวลาที่ทำงานลูกค้าไม่สะดวกให้เสียบสายไฟ อย่างน้อยก็อยู่ได้เกือบห้าชั่วโมงแล้วกัน
9. สายชาร์จไฟต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น battery notebook, มือถือ เอาไปให้หมด
10. สายล็อคของ notebook อันนี้ขาดไม่ได้ ของบริษัทหายขึ้นมา ใช้หนี้กันหัวโต
11. สาย Lan เผื่อต้องใช้ แต่โดยมากเดี๋ยวนี้ก็ wireless กันหมดแล้ว
12. หูฟัง กับไมค์ เอาไว้คุย skype กับคุณภรรยา
13. External harddisk อันนี้ถ้าลืมก็มีตาย ความรู้และเอกสารต่าง ๆ อยู่ในนี้หมด เก็บมาสี่ปีกว่าแล้ว เสียว ๆ เหมือนกันว่าซักวันมันจะไปสวรรค์
14. สมุดจด เอาไว้จดอะไรต่าง ๆ เผื่อต้องอ้างอิงทีหลัง
15. บัตรประจำตัวพนักงาน อันนี้ไม่รู้จะเอาไปทำไม แต่เผื่อไว้ก่อน ชื่อเราดันเหมือนอินเดีย แต่หน้าดันเหมือนเกาหลีปนจีนปนญี่ปุ่น เผื่อลูกค้าไม่เชื่อ
16. มือถือครับ ไม่อยู่ในรูป แต่ต้องใช้เน้อ
17. กล้องถ่ายรูปครับ แต่โดยมากไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรน่ะครับ วัน ๆ อยู่แต่ใน office

โดยมากไปแบบนี้ก็จะไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกครับ กลับมาโรงแรม กินข้าวในโรงแรม (บางทีก็อาจจะได้ไปกินข้างนอกบ้าง แต่ไม่มากนัก) โทรกลับหาคุณภรรยา สรุปงานวันนี้ ทำเอกสาร ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับวันรุ่งขึ้น วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แหละครับ

วันที่สองก็เหมือนเดิม จากโรงแรมก็ตรงเข้า office ลูกค้า ผ่านนักศึกษามากมาย ที่อาจจะคิดว่าไอ้นี่ทำไมมาผูกเนคไทเดินอยู่แถวนี้ แล้วก็เริ่มงานกันเลยครับ ตั้งแต่แปดโมงสี่สิบห้า พักกินข้าว (sandwich อีกนั่นแหละ) สิบนาที รู้ตัวอีกทีก็หกโมงอีกแล้วครับ เดินโต๋เต๋กลับโรงแรมเหมือนเดิม พลาดไปซื้อผ้าพันคอแมนยูอีกละ แต่อย่างน้อยก็ยังดีครับว่าสามารถหาข้อสรุปได้แล้วว่าลูกค้าเจอปัญหาอะไร เกิดขึ้นจากอะไร ลูกค้าก็เลยจัดการให้กลับบ้านได้เลยวันรุ่งขึ้นตอนเย็น หลังจากตอนแรกทำการจองตัวไว้สี่วัน

เดินกลับโรงแรมมาพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี สวยดีเหมือนกัน



คืนนั้นก็เลยง่วงทำเอกสารครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องให้ลูกค้าก่อนออกจาก site งาน ปั่นกันหูตูบเลยแต่ก็เสร็จกว่าแปดสิบเปอร์เซนต์ละ โทรหาคุณภรรยาแล้วเข้านอนดีกว่า....

ตื่นเช้ามาก็เลยสบาย ๆ หน่อยเพราะว่าเหลือแต่งานเอกสารแล้ว เลยเดินเอื่อย ๆ ได้ เช้า ๆ แบบนี้นักศึกษาเยอะเหมือนกันครับ ผมก็เดินอืด ๆ ถ่ายรูปได้ซักรูปสองรูปก่อนจะถึง office ของลูกค้า จริง ๆ แล้วชอบอยู่ตึกนึงในมหาวิทยาลัยครับ ตึกทีมีคนเล่นดนตรีในห้องเล็ก ๆ น่ะครับ มีทั้งกีตาร์ แซกฯ ไวโอลิน เปียนโน ฯลฯ ชอบจัง.....





วันที่สามก็ค่อนข้าง relax หน่อยครับ ไม่เครียดเหมือนสองวันแรก เพราะว่าอย่างน้อยลูกค้าก็รู้แล้วว่าคุ้มสตางค์ที่จ้างมา ถึงจะแก้ปัญหาได้ไม่หมด แต่ก็รู้ว่า direction ต้องไปทางไหน (แน่สิ สามวันจะเอาอะไรกันมากมาย ไม่ใช่ superman นะจ๊ะ)

สิ้นวันก็เหมือนสิ้นใจครับ สี่โมงก็คลานขึ้น taxi ไปสนามบิน กว่าจะถึงบ้านก็สามทุ่ม เหนื่อยแทบขาดใจ... แต่ก็นะดีกว่าอยู่เฉย ๆ ปิดท้ายด้วยภาพแห่งความทรงจำครับ โดนกระรอกที่ kensington park ข่วนเมื่อสองเดือนก่อนโน้น แสบไปหมดทั้งแขนเลย เพราะดันไปทำซ่าใส่เสื้อแขนสั้นให้มันปีน ไว้จะมาอัพรูปผู้ต้องหาให้ดูครับ เจอกันคราวหน้าครับ...




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551   
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 1:24:45 น.   
Counter : 987 Pageviews.  


1  2  3  4  

Bolster
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Bolster's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com