Group Blog |
ตัวคนเดียวเที่ยวเชียงใหม่สองวันสองคืน
รถไฟไป - บินกลับ - ขับรถเที่ยว
เริ่มเดินทางด้วยรถเมล์ค่ารถ 13 บาทค่ะ  วางกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ สบายๆค่ะ  จากนั้นต่อรถไฟฟ้าที่แบริ่งแล้วก็ต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานีอโศกไปโผล่ที่หัวลำโพงค่ะ จองรถตู้นอนปรับอากาศไปเชียงใหม่จ๊ะตามหมายกำหนดการใช้เวลา 12 ชั่วโมง o_O" ตรูดจะด้านไหมเนี่ย รถขบวนในรูปค่ะ   ก่อนจะปรับเป็นเตียงนอนเป็นแบบนี้ แอร์เย็นสบายทีเดียว  คนที่นั่งอยู่แล้วอย่าว่าเราเห่อนะ ก็คนมันไม่ได้นั่งมาแค่ 35 ปีนี่หว่า อิอิ พอปรับเป็นเตียงนอนแล้วนอนสบาย เพลินดีจ้า  ถึงสถานีเชียงใหม่ล่ะเจ้า รถไฟไทยใจดีเสมอ แถมให้อีกสองชั่วโมงหมอนรองกระดูกอิชั้นแทบจะหลุด -__-"  หลังจากนั้นไปรับรถเช่าของ Avis ที่โรงแรม Royal Princess Chiang Mai ได้น้องแจ๊สคันนี้มาซิ่งจ้า  วิ่งรอบคูเมืองสักพักแวะที่วัดโลกโมฬีเป็นที่แรก  คุณช้างตัวใหญ่ท่าทางใจดี  หลังจากนั้นไปกินข้าวแถวหลังวัดพระสิงห์ในเมืองเก่า อาหารอร่อย ร้านน่ารัก แต่ไม่ได้เก็บบรรยากาศเลยเพราะหิวมือสั่น  จากนั้นไปวัดพระสิงห์ เป็นวรวิหารนะคะ  โฮ่ๆๆๆ ทำบุญด้วยข้าวสาร กลัวอดอยาก  รูปก่อนการบูรณะ  หลังการบูรณะค่ะ  ตำนาน หรือความเชื่ออะไรกันหนอ ราวบันไดที่เราคุ้นตาว่าเป็นพญานาค จึงเป็นรูปจระเข้กัดสิงห์  ต่อกันที่วัดเจดีย์หลวง  สายเคเบิ้ลช่วยยึดโยงองค์เจดีย์ค่ะ เพราะเสียหายจากแผ่นดินไหวอย่างมาก  ด้านในศาลาของวัดเจดีย์หลวง  ยิ่งใหญ่สมเป็นวัดหลวงค่ะ   ต่อมาออกมาวิ่งถนนเลียบเมืองเก่า เจอร้านขายของฝากแฮนด์เมด กาแฟร้านนี้อร่อยใช้ได้เลยจ้า  จัดร้านได้น่ารักน่ารื้อจริงๆ  ร้านนี้นะคะ  คืนแรกนอนในรถไฟ คืนสองพักเกสต์เฮาส์  ประตูห้องเปิดไปเป็นสวนหิน  ชื่อห้องรังนก 1  บริเวณลอบบี้   เช้ามาขึ้นดอยสุเทพแวะไหว้ครูบาศรีวิชัยกันค่ะ  ที่จอดรถตลาดห้วยแก้วที่อยู่ติดกัน  เดินออกกำลังยามเช้ากันจ๊ะ คนเดียวเดินเย็นๆ สบายอารมณ์ดีแต๊ๆ กา  หากห้วยแก้วแห้งดอย วู๊ น้อยจริงๆ ขนาดเมื่อคืนฝนตกหนัก    เดินไม่ได้ลำบากลำบนอะไร เที่ยวได้ก็เที่ยวนะจ๊ะ แก่แล้วจะเดินไม่ไหว เอ้าฮึ๊บ หัวเข่าดังก๊อกกก -__-" เดินทางขึ้นเขาต่อไปวังบัวบาน จุดชมวิวนึง  เห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ลิบๆ  เหมาะเป็นที่พักผ่อนของครอบครัว บ้านที่มีผู้สูงอายุ เช่นฉัน เอ้ย ไม่ใช่ -"- ไปได้สบายค่ะ คุณพี่ท่านนี้แกอุตสาหะขับรถมาออกกำลังอะคิดดู๊ ที่สุดของแจ๊จริงๆ นอนกำลังหน้าผา  หมดเวลาต้องลงมาเที่ยวในเส้นทางค่ะ เดี๋ยวตกเครื่องตอนเย็น  ทำซะงามแต่ไม่เปิดให้บริการ ฮ่ววย หลอกให้เดินตั้งไกล   ดูยิ่งใหญ่แต่ไม่เป็นธรรมชาติ ทำไมไม่รู้นะคะ เราเรื่องมากมั้ง ฮี่ ฮี่ เดิน Chiang Mai Zoo Aquarium ชมปลาเพลินๆ ดีกว่าค่ะ  เทียบขนาดปลากับแว่นกันแดด    สำหรับคนที่เอาสัตว์เลี้ยงไปทางสวนสัตว์มีกรงให้ฝากค่ะ  เดินทางต่อไปวัดเจ็ดยอด  กรวยดอกไม้ในวัดน่ารักดีแฮะ  ไม้ค้ำโพธิตามความเชื่อ    ภายในวัดเจ็ดยอด  ใบเช่ารถของเอวิส ราคานี้สำหรับเช่ารถวันธรรมดาบวกค่าประกันรถแล้วค่ะ คูปองเช่ารถเรายังเหลืออีกสามใบแน่ะ ต้องหาที่เที่ยว กับใบจอดรถสวนสัตว์เชียงใหม่ 50 จอดได้ทั้งวันค่ะ  คืนรถเช่าที่สนามบินพร้อมเดินทางกลับบ้าน หลินปิงตามมาส่งผู้โดยสารขาออกด้วยฮี่ ฮี่  กลับตั๋วราคาพิเศษของโอเรี้ยนไทย ราคา 999 บาท โปรโมชั่นต้องจองภายใน 30 ก.ย.นี้ จองวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะคะ โหลด 20 ก.ก. ฟรีด้วยนะคะ  อะไรก็ดีมาน้อยใจขนมของนี่แหละบอกว่ามีหนมแจกบนเครื่อง แง๊ เค้าหิวข้าววว  สรุปแล้วทริปนี้สนุก ประทับใจ ประหยัดเวลา ไปคนเดียวเที่ยวแล้วจะติดใจนะเอ้อ :D
สิงค์โปร์ครั้งที่สาม
วันแรกของการเดินทางไม่ได้ทำไร เดินสถานเดียวกะว่าจะออกมาหาอะไรกินแถวโรงแรมก็กลายเป็นนอนสลบ -_-"  อาหารมื้อแรกของทริปนี้ อร่อยทั้งสองอย่าง เป็นเพราะหิวหรือร้านนี้มีฝีมือตอนนี้ยังเป็นปริศนา -"-  คุณบร๊ะช่วย นี่มันนึ่งปลาทั้งอวนลากหรือเยี่ยงไร เป็นคนไม่กินปลาแต่แอบๆ ถ่ายมาด้วยความฉงน วันแรกนั่งรถเมล์ไปสวนนก เอากล้องไปลืมเมโมรี่การ์ด อยากกระโดดถีบตัวเองเป็นการทำโทษ อาศัยกล้องเพื่อนกะแทบเล็ดถ่ายมา  ใส่เสื้อแดงไปซะเร้ย อิอิ ต้องปิดบังใบหน้าอันเบิกบาน อิชั้นจะพอดูได้ต้องแสงปานกลางถึงน้อยคร่ะ 555   นกส่วนใหญ่จะเป็นพวกปากขอ (Parakeet) เห็นเยอะสุดๆ เป็นนกโนรีหลากสี  นกแก้วอิเล็คตัสก็มีบ้างในกรงใหญ่ แต่ไม่ยักกะมีตัวผู้ให้เห็นซักตัว  มาร์คอร์กับกระตั๊วในส่วนโชว์เป็นอิสระ ไม่ขังกรง รูปพวกนี้เห็นเยอะละ ส่วนนกพีลิแกน ฟลามิงโกและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ได้ถ่ายเพราะคิดว่าถ่ายมาก็ไม่งามอะนะ  ด้วยสังขารที่เป็นอยู่ขอนั่งรถรางชมรอบสวนนกละกัน แค่ห้าเหรียญดีฝ่ามาเป็นลมให้อายชาวบ้าน T_T  ห้องน้ำในกรงนก เรียกอีกทีกรงคนในบ้านนก   การพรีเซนต์กิจกรรมด้วยนกจำลอง น่ารักและสร้างจินตนาการ บ้านเราทำไมทำน่ารักบ้างไม่ได้ ไม่เข้าจึย -"-    ตุ๊กตาช่างคุณภาพดีและน่ารักจริงๆ แต่ด้วยนโยบายประหยัดต้องตัดใจ อะซิกๆ  มื้อเที่ยงที่สวนสัตว์ ฟลุ๊คแฮะวันนั้นแถมชานมฟรี ให้เแปดเต็มสิบแต้ม ^^  ปากทางเข้าแต่ถ่ายตอนเดินออก ไม่มีกล้องรู้สึกเซ็งมิอยากถ่ายสิ่งใด -"- วันถัดมาไปเดินดูตลาดท้องถิ่น กับถนนย่านบูกิส อืมมม ไม่ว่าอาหารหรือเครื่องดื่มสู้บ้านเราไม่ได้ในเรื่องรสชาติ แต่การนำเสนอเค้ากินขาดจริงๆ  มื้อเช้าหิวจัด (ตามฟอร์ม) ไม่ได้เก็บภาพ  ดอกไม้หลากสี เข้าใจว่าเป็นการคือเลืองโชคลางตามแบบฉบับคนจีน  นกแก้วทำนายโชคชะตา พอหมดลูกค้าเดินเข้ากรงเอง พอเราเดินผ่านมันปิดกรงหนีซะด้วย หนอย -*-  สามล้อเรียงรายให้บริการนักท่องเที่ยวที่ถนน Bugis มื้อเที่ยงไป Harbour Front กินที่ Kopitium ชั้นใต้ดิน  หน้าตาดีแต่รสชาติงั้นๆ อะ ฮะเก๋าก็กุ้งแช่แข็ง สวยแต่รูปจูบไม่หอม สองอย่างประมาณเจ็ดเหรียญ ไม่แพงก็ต้องยอมรับอะนะ  Nationalgeographic ดีใจม๊ากกก ที่ได้เจอร้านนี้ ห้ามถ่ายภาพในร้าน ข้างในตกแต่งให้บรรยากาศเคร่งครึม เหมาะกับคนรักธรรมชาติและผจญภัย ใครไปแล้วไม่ชอบให้ถีบ  อิอิ รองเท้าคู่นี้ถูกใจสุดๆ พื้นเป็นผ้าทอมือ แล้วใช้มือเย็บเข้ากับพื้นด้านล่างที่เป็นพื้นสังเคราะห์ ราคา 100 SGD ไปช่วงจัดรายการเหลือ 69 SGD ดีใจที่สวดเลยลวกเพี่ย ชอบๆๆ ^^  อุดหนุนสมุดริมลวดราคา 9 SGD กับ น้ำหอมสำหรับบ้าน ราคาเต็ม 55 SGD ไปตอนลดราคาเหลือ 25 SGD ความเป็นมาของน้ำหอมแบรนด์นี้ยาวเหยียด ข้อดีคือส่วนประกอบมาจากธรรมชาติ 100% ที่กล่องแปะสติ๊กเกอร์ว่า selected by Nationalgeographic ชะรอยเราจะเป็นแฟนพันธุ์แท้องค์กรนี้จิงๆ อิอิ  ซื้อแล้วใส่เลย ก็เห่อนี่เฟร้ย 5555  Merlion ตัวพ่อที่ Sentosa   ริมน้ำยามค่ำ  Merlion สัญลักษณ์แห่งสิงค์โปร์พักร้อนครั้งแรกในรอบสี่สิบปี  แว๊กกกก นึกว่าตามมาหลอกหลอน มองอีกทีวันชาติสิงค์โปร์เค้าจ๊ะ   ปิดท้ายที่น้องเหมียวตัวนี้ เจอกันทุกวันที่สถานีรถไฟฟ้าใกล้โรงแรม คุณนายแกน่าจะเป็นลูกผสม Burmese Cat สีสวยมาก เหมือนสิงโตตัวเมีย ขอสังเกตุคือ อยู่สี่วัน หาแมวหางยาวไม่เจอซักตัว ใครไปเที่ยวสิงค์โปร์ฝากถ่ายมาแบ่งกันด้วยเน้อ สำหรับรีวิวไม่มีรายละเอียดการเดินทางฉบับนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ล่ะค่า ^^ |
tantaro
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] |
||||||||||||
