“หมดกัน….”
อ่านใน Manager แล้วชอบมาก ๆ ก่อนหน้านี้ก็เห็นใน โฆษณาแล้วนะ ยิ่งชอบเข้าไปอีก ได้ข้อคิดดี ๆ เพียบเลย

ลองอ่านดูล่ะกัน
---------------------------------------------------------------------------------
ถ้ามีโอกาสอยู่หน้าจอทีวีฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบนั่งดูโฆษณา





“หมดกัน….”





ครั้ง แรกที่ได้ยินได้เห็นโฆษณาชิ้นนี้ เสียงเด็กในโฆษณาเข้ามาสะดุดโสตประสาท ฉันเลยหันไปตามเสียงนั้น โฆษณาชิ้นนี้ ตัวแสดงมีแค่พ่อกับลูก นั่งดูสองสามหน จึงเห็นตั้งแต่ต้น คนที่แสดงเป็นพ่อกำลังคุยโทรศัพท์และท่าทางหมดอาลัยตายอยาก พูดด้วยเสียงที่หมดแรงว่า “หมดกัน” เดาเอาว่าธุรกิจกำลังมีปัญหา



หลังจากที่พ่อวางหูแล้ว ภาพก็จับไปที่ลูกชายตัวเล็กอายุประมาณ 5-6 ขวบ กำลังนั่งเล่นอยู่กับพื้น ท่าทางกำลังสร้างอะไรสักอย่างที่เป็นแบบจำลอง แล้วสิ่งนั้นพัง เจ้าลูกชายก็พูดคำว่า “หมดกัน” เหมือนกับพ่อ (ไม่รู้เลียนแบบพ่อรึเปล่า)



จากนั้นอีกไม่กี่วินาที ลูกชายก็ไม่สนใจอะไรรอบตัว เขาพูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคว่า “ทำใหม่ก็ได้”



หลาย คนคงเคยเห็นโฆษณาชิ้นนี้กันแล้ว ยาหม่องน้ำชื่อจีนยี่ห้อหนึ่งนั่นเอง เสียงคนพากษ์ก็ตลก แต่เนื้อหาโฆษณานั้นจัดอยู่ในประเภทตลกแบบมีสาระ ฉันว่าเขาช่างคิดนะคะ กระตุกต่อมคิดและสอนผู้ชมได้ดีทีเดียว ไม่งั้นฉันคงไม่หยิบมาเล่าได้เป็นฉากๆหรอก



มนุษย์ ต่างวัยสองคนในโฆษณา สอนให้เรารู้ว่า คนต่างวัยกันมักคิดไม่เหมือนกัน ประสบการณ์การมองโลกหรือสิ่งที่บ่มเพาะ หล่อหลอมทำให้รูปแบบการคิดไม่เหมือนกัน พ่อลูกในโฆษณายาหม่องชิ้นนี้ อายุห่างกัน น่าจะประมาณ 25-30 ปี แน่นอนคนวัยต่างกัน ความคิดย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว พ่อกับลูกก็คิดไม่เหมือนกัน สังเกตไหมว่าความคิดที่ต่างกัน มักนำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้งด้วย



กลับมาสู่โฆษณา…ฉันเห็นกล้องจับไปที่ตัวพ่อ ขณะที่ลูกบอกว่า หมดกัน แล้วตามด้วย ทำใหม่ก็ได้…ดู เหมือนพฤติกรรมของลูกและคำพูดที่ออกจากปากลูก ณ เวลานั้น ประดุจดั่ง แสงทองที่ส่องมายังพ่อ พ่อเหมือนมาถึงทางตัน แต่เสียงของลูกที่มากระทบโสตประสาทพ่อ ก็เป็นตัวเปิดทางให้กับพ่อ คำพูดของลูกในโฆษณาทำให้พ่อมีความหวัง



และ ส่วนใหญ่ผู้คนบนโลกใบนี้ ก็มีกระบวนการคิดที่เหมือนกับพ่อในโฆษณายาหม่อง ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ใหญ่ทั่วไป และลูกชายในโฆษณาก็เป็นตัวแทนของเด็กทั่วไปด้วย



เรา เคยมองกันบ้างไหมวา การคิดแบบเด็กๆ ก็ช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆไปได้ง่ายๆนะคะ เด็กมองโลกไม่ซับซ้อน และความคิดไม่ซับซ้อนด้วย เด็กจะเดินไปในทางตรงๆไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่ต้องอ้อมไปอ้อมมา เด็กไม่ค่อยจะวกวนเหมือนผู้ใหญ่



เด็ก อยากทำอะไรก็ทำ อยากแสดงอะไรออกมาก็แสดง เด็กไม่ค่อยเก็บเหมือนผู้ใหญ่ เด็กทะเลาะกันแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ดีกัน ต่างกับผู้ใหญ่ ที่ทำอะไรก็ดูเหมือนจะยากไปหมด กว่าจะทำอะไรได้ที ปีหนึ่งก็ยังไม่ไปถึงไหน



ฉันว่าการฝึกคิดแบบเด็กๆดูบ้างก็น่าจะดี การดำเนินชีวิตอาจจะง่ายขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้



Create Date : 08 ตุลาคม 2552
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 14:50:26 น.
Counter : 457 Pageviews.

1 comment
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ขอเป็นสมาชิกใหม่ใน blog ด้วยคนนะค่ะ



Create Date : 29 กันยายน 2552
Last Update : 29 กันยายน 2552 15:49:59 น.
Counter : 355 Pageviews.

2 comment

tangieka
Location :
ภูเก็ต  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]