....เมื่อคนชอบเที่ยว ช่างเล่า เจอกะคนชอบถ่ายรูป......
 

Torre de Belém ถึงลิสบอนซะที

และแล้ว ก็ถึงคิวของ Torre de Belém ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของลิสบอน เหมือนถ้าใครไปเชียงใหม่ ต้องไปดอยสุเทพ ประมาณนั้นแหละค่ะ
ที่เก็บไว้เป็นรายการสุดท้าย เพราะว่าที่นี่ กับ Jerónimos Monastery เค้าเปิดให้เข้าฟรี วันอาทิตย์ช่วง 10 โมงเช้า ถึงบ่ายสองค่ะ แนะนำให้ไปเช้าๆ นะคะ เพราะคนชอบของฟรีเยอะมากกกก ค่ะ โดยเฉพาะ ทางขึ้น Torre de Belém ค่อนข้างแคบ เดินสวนกันแทบไม่ได้ เวลาคนเยอะ ก็ต้องรอนานหน่อยค่ะ

Torre de Belém



นี่ก็สัญลักษณ์อีกอย่างของลิสบอนค่ะ



Jerónimos Monastery เป็นโบสถ์ที่สวยมากค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Torre de Belém ที่นี่ เป็นที่ตังของสุสานของ Vasco da Gama ด้วยค่ะ



อลังการมากค่ะ



ด้านในโบสถ์ค่ะ



จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของลิสบอน คือ Parque Eduardo VII ค่ะ



6 วันในลิสบอน กินปลาทุ๊กกกกวันเลยค่ะ อร่อยมาก ได้กินปลาหมึกย่าง พร้อมหมึกด้วยค่ะ เห็นสีคล้ำในจานแล้วน่ากลัว แต่อร่อยค่ะ ที่ห้ามพลาดอีกอย่าง คือ ปลาเค็ม Balcahau หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Codfisch เป็นอาหารยอดนิยมของคนโปรตุเกสเลยค่ะ

ร้านขายปลาเค็ม



มีรูปจากทะเลมาฝากด้วยค่ะ มีโอกาสได้ไปทะเลหนึ่งวัน อากาศร้อนมาก ประมาณ 30 องศา แต่น้ำทะเลเย็นเจี๊ยบเลย ก็เลยได้แต่นอนชมวิวเล่นๆ



ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่า ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์กับคนชอบเที่ยวคนอื่นบ้าง ก็จะดีใจมากๆ เลยค่ะ

เจอกันใหม่ ทริปหน้าค่ะ




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2552    
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 2:19:46 น.
Counter : 950 Pageviews.  

เที่ยวปราสาทแสนสวยที่ซินทรา

...หลังจากที่เดินเที่ยวในเมืองลิสบอนอยู่สองวันเต็มๆ ก็ออกไปเที่ยวนอกเมืองกันบ้าง ที่แรกคือ Parque das Nações เป็นสถานที่ที่เคยจัดงาน Expo 98 มีตึกสวยๆ แล้วก็มีหอคอยวาส โกดากามา (ชื่อคุ้นๆ มั๊ยคะ แล้วก็มีสะพานข้ามแม่น้ำ ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ( 17 กม) ถือเป็นสะพานที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ถ้ามีเวลาก็น่าไปเดินเล่นค่ะ



จุดเด่นของที่นี่คือ อคาเรียม ค่ะ รู้สึกว่าจะใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป มีปลาสวยๆ ให้ดูเยอะเลยค่ะ



วันต่อมา ก็ถึงคิวไปชมปราสาทที่ ซินทรา ปราสาท Palace of Pena นี่ดูคล้ายๆ Neuschwanstein ที่เยอรมัน แต่ในไกด์บุ๊คเค้าบอก ดูแปลกประหลาด พิลึกกึกกือ มากกว่าชวนฝัน เป็นยังงัย ต้องตามไปดูกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องหาทางไป ซินทรา กันก่อน ซินทรา อยู่ห่างจาก ลิสบอน ไปประมาณ 30 กม มีรถไฟไปทุกๆ 20 นาที ค่ารถไฟ ก็แส๊นจะถูก คือเที่ยวละ 1.70 ยูโร เองค่ะ (ค่ารถไฟ รถเมล์ ในเมืองมิวนิค แค่ป้าย สองป้าย ก็ปาไปเกือบ 2 ยูโร แล้วค่ะ) ว่าแล้วเราก็ไปขึ้นรถไฟกันที่สถานีรถไฟ สุดสวย Rossio เป็นสถานีรถไฟที่สวยมาก ตอนแรกยังงงอยู่เลยว่าทำไมไกด์บุ๊คแนะนำให้ไปดูสถานีรถไฟ

Rossio Train Station



พอถึงสถานีรถไฟที่ซินทรา ก็กระโดนขึ้นรถเมล์ สาย 434 ที่แทบจะเรียกได้ว่า มีไว้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คือจะวิ่งวนระหว่างสถานีรถไฟ ตัวเมืองซินทรา กับสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ ตั๋ววัน ถ้าจำไม่ผิด ราคา 4.50 ยูโร

ถึงแล้ว Palace of Pena อ้อ ถ้าใครตื่นเช้าๆ เค้ามี Happy Hour ลดราคาเข้าชมด้วยนะคะ แล้วก็แนะนำให้ซื้อ Combi ticket คู่กับMoorish castle ค่ะ ประหยัดตังค์กว่าซื้อแยกค่ะ



ทางเข้าตัวปราสาทค่ะ (น่าเข้ามั๊ยเนี่ยะ) ขอแนะนำว่า ถ้ามีเวลา ควรเข้าไปดูข้างในปราสาทนะคะ ปราสาทนี้ เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้า Don Fernando II อดีดเจ้าชายเยอรมันผู้ที่ทรงสร้างปราสาทนี้ ข้างในไม่หรูหรามาก แต่สวยค่ะ เค้าจัดได้ดีมาก มีความรู้สึกว่าเจ้าของห้องอาจจะพึ่งลุกไปหยกๆ





รอบๆปราสาท มีพาร์ค ให้เดินเล่นค่ะ มีจุดชมวิวสวยๆ ด้วย



ใกล้เข้าอีกนิด ชิดๆ เข้าไปอีกหน่อย....



อีกที่ที่น่าเที่ยวคือ Moorish Castle ค่ะ ใครที่นั่งรถบัส กรุณาลงที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปปราสาทนะคะ อย่าพลาดเหมือนเรา คือ มันเป็นวันเวย์น่ะค่ะ เค้าจะจอดที่นี่ก่อน แล้วจุดต่อไป คือ ปราสาท Pena ไม่มีการย้อนศร ตกลง คือได้เดินค่ะ แต่เดินลงเขา แล้วก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ค่อยยังชั่ว

Moorish Castle




Moorish Castle นี่ เป็นซากของปราสาทของชาวอาหรับ ที่คาดว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยศรรตวัตร (เขียนถูกป่าวเนี่ยะ) ที่ 9 ค่ะ ที่เหลืออยู่ คือ แนวกำแพงที่เลียบไปตามหน้าผา ดูคล้าย มินิ กำแพงเมืองจีน แต่ทางเดินค่อนข้างแคบ แล้วเวลาลมพัดแรงๆ ก็น่ากลัวเหมือนกันค่ะ



ปีนกำแพงจนเหนื่อย ก็ถึงเวลาลงไปตัวเมืองซินทรา ซะที ที่ตัวเมือง ก็จะมี Royal Palace of Sintra ลองทายซะคะ ว่ายอดแหลมๆ สองยอดนั่นคืออะไร

Royal Palace of Sintra



ใบ้นะคะ เจ้าปล่องสองปล่อยนั่น อยู่เหนือส่วนที่เป็นครัวพอดีค่ะ แม่นแล้วววว มันคือปล่องไฟดีๆ นี่เอง แหม ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นหอคอยซะอีก
ข้างใน พระราชวัง ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเท่าไหร่ค่ะ เรียกว่าพอเทียบกับ ปราสาท Pena แล้วดูจืดไปเลย

รูปเมือง ซินทรา Sintra ค่ะ



ซินทรา เป็นเมืองเล็กๆ แต่บรรยากาศน่ารักๆ ค่ะ



ที่ซินทรา มีขนมอย่างหนึ่ง ซึ่งที่นี่เป็นต้นตำรับ เราก็ตามลายแทง ไปหาร้านนี้จนเจอ แล้วก็จิ้มๆ ในหนังสือ (ไม่รู้ว่าเค้าออกเสียงยังงัย) เนี่ยะๆ ชั้นจะชิมอันนี้ จำไม่ได้แล้วค่ะ ว่าขนมนี้ชื่ออะไร ไกด์บุ๊คก็ขายทอดตลาดไปซะแล้ววววว ใครรู้วานบอกด้วยค่าาาาา

โปรตุเกสนี่ สมกับเป็นต้นตำรับของหวานหลายๆ อย่างของไทยเลยค่ะ เพราะมีร้านขนมเยอะมาากกกก แต่ละอย่างก็น่ากิน (แต่กินแล้วอ้วน เนอะ) ทั้งนั้น ที่เราชอบมาก คือ Pastel de Nata คล้ายๆ กะพายหม้อแกงไข่ ค่ะ อร่อยดี

ปิดท้ายวันนี้ แบบหวานๆ นะคะ อ้อ ขนมที่เป็นยอดแหลมๆ นั่น มันคือ ฝอยทองเคลือบน้ำตาล !!! หวานมาาาากกกก ค่ะ ดีที่แฟนเป็นคนหลวมตัวซื้อมากิน ฮี่ๆ




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2552    
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 18:29:22 น.
Counter : 1176 Pageviews.  

...ชมเมือง แล้วชิมหอยทาก :)

จุดเด่นของลิสบอน คือการเป็นเมืองที่อยู่บนเนินเขา ริมแม่น้ำ ตรงกลางของเขตเมืองเก่า คือ Biaxa จะราบ แต่ทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวาก็จะเป็นเนิน วิวที่เด่นสะดุดตา ก็คงไม่พ้น วิวของ Castelo de Sao Jorge ซึ่งเป็นซากปราสาทเก่าค่ะ มีกำแพงล้อมรอบให้ไต่ขึ้นไปหาวิวเด็ดๆ นักท่องเที่ยวแต่ละคน ก็พากันปีน หาซอกหามุมถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน

Castelo de Sao Jorge


Castelo de Sao Jorge จาก Praca da Figueira วิวสุดฮิตอีกมุมหนึ่งค่ะ



เปลี่ยนมาดูวิวของลิสบอน จากบน Castelo de Sao Jorge มั่งค่ะ
ตอนที่ไปส่วนที่เป็นคล้ายๆ ท่าน้ำ Praca do Comercio (ที่จริง ตัวหนังสือเค้าจะมีคล้ายตัว ซีมีหาง หรือมีคล้ายๆลูกน้ำข้างบน แต่พิมพ์ไม่เป็นค่ะ ขออภัยด้วยนะคะ) กำลังซ่อมค่ะ น่าเสียดายเหมือนกัน



ป้อมปราการ.....



หามุมถ่ายกะเค้ามั่ง



ระหว่างเดินไปเดินมา ก็เห็นว่ามีร้านอาหารหลายๆ ร้าน ที่ติดป้าย Ha Caracois อ่านในโลนลี่ แพลนเน็ต เค้าบอกว่า เจ้าหอยทากนี่ มีเฉพาะตอนหน้าร้อน กินแกล้มเบียร์อร่อย เอาละวะ หอยทากก็ทากดิ สั่งมาชิมสักจากดิ โห แต่พอลุงเอามาเสริฟ แทบจะเป็นลม มันเป็นหอยทากตัวเล็กๆ แต่จานเบ้อเริ่ม ดูหน้าตาเหมือนที่คลานๆอยู่ตามถนนวันฝนตก ไหนๆ ก็ไหนๆ กลั้นใจชิมดูซักที ตบท้ายด้วย Sangria (จะว่าเป็นไวน์ค้อกเทล ก็น่าจะได้ค่ะ) อืมม์ ไม่เลวแฮะ แต่ก็อ่ะนะ กินๆไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องยอมแพ้ สมัยเด็กๆ เวลากินหอยขม มันก็จะอยู่ในเปลือกมันดีๆ ต้องเอาไม้จิ้มออกมา แต่นี่โผล่มาทั้งตัว แบบดูยังงัยก็เป็นหอยท๊าก หอยทาก ก็เลยยอมแพ้จ้า
นี่แหละ โฉมหน้า เจ้า Caracois



เอาละคะ หอยทาก ก็ชิมแล้ว มีแรงเดินชมเมืองกันต่อแล้วเนาะ วิวของเมืองอีกด้านค่ะ





โบสถ์ที่เห็นคือ Convento do Carmo เป็นซากของโบสถ์ที่เหลือจากแผ่นดินไหวค่ะ ตอนนี้เป็น museum ค่ะ
ตัวโบสถ์ เหลือเท่านี้แหละค่ะ



เนื่องจากตัวเมืองบางส่วน อยู่บนเนิน เค้าก็เลยมีการสร้างลิฟท์ขึ้นมา เพื่อให้สะดวกแก่การเดินทางค่ะ เราไม่ได้ขึ้นนะคะ งกค่ะ ค่าขึ้นประมาณ 2.50 ยูโร แต่ถ้าใช้บรรไดเลื่อนของรถไฟใต้ดิน ไม่ต้องเสียตังค์ค่ะ ฮี่ๆ ถ้าไม่ตั้งใจว่า อยากจะขึ้นลิฟท์นี่จริงๆ จังๆ ขอแนะนำให้ขึ้นบรรไดเลื่อนของสถานีรถใต้ดิน Baixa-Chiado แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังโบสถ์ Carmo ก็จะเดินไปเจอจุดสูงสุดของลิฟท์พอดีค่ะ



เห็นโบสถ์ Sé อยู่ไกลๆ



ตบท้ายวันนี้ ด้วยการพาไปชิม Ginja ค่ะ เวลาเดินผ่านร้านนี้ทีรัย ก็เห็นมีคนยืนอยู่เต็มหน้าร้านทุ๊กที ไกด์บุ๊คบอกว่า Ginja เป็นเหล้าเชอร์รี่ ของโปรตุเกสที่อร่อย ไม่ควรจะพลาด เพราะฉะนั้นเลยไปชิมซะหน่อย เค้าขายใส่แก้วพาสติกใบเล็กๆ ราคาแก้วละ 1.10 ยูโรค่ะ รสชาติหวานอร่อยดีค่ะ เหมือนๆ เหล้าดองเชอร์รี่ อืมมมม.....มิน่าล่ะ คนตรึมเลย



ตบท้าย ด้วยรูปโบสถ์ Carmo อีกรูป แล้วอีกตอนหน้า เราจะไปอคาเรี่ยม กับ ซินทรา กันค่ะ




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2552    
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 3:06:36 น.
Counter : 740 Pageviews.  

....ลิสบอน.....

ลิสบอน หรือที่เรียกตามภาษาโปรตุเกสว่า ลิสบัว เป็นเมืองที่เราคิดว่า มีอะไรบางอย่างที่ทำให้คิดถึงกรุงเทพ อาจจะเป็นเพราะโปรตุเกส เป็นต้นตำรับของขนมไทยหลายๆ อย่างก็ไม่รุ ไปทางไหนก็มีแต่ร้านขนม ฮี่ๆ
แต่ที่แน่ๆ ลิสบอนตั้งอยู่ริมแม่น้ำ (ตอนแรกนึกว่าเป็นทะเล) แล้วอยู่ใกล้ๆ ทะเลเหมือนกรุงเทพเลย ที่ลิสบอน มีอะไรสวยๆให้ดูเยอะ แต่ก็มีบ้าน ตึกโทรมๆ ขาดการดูแลเหมือนกัน มีขอทานเยอะมาก แต่บรรยากาศโดยรวมๆ ผู้คนก็เป็นมิตรดีค่ะ ตอนดึกๆ อาจจะต้องระวังหน่อย เพราะตอนเดินกลับโรงแรมมีคนเสนอขายกัญชา กะโคเคนให้ด้วย เรานี่ หัวเราะแบบเบรคไม่อยู่ ก็ แหม ใจคอจะซื้อขายโคเคนกันริมถนนนี่นะเร๊อะ พอรู้ตัวก็ต้องรีบเดินหนี เพราะคนขาย ดูท่าจะเสียหน้าอยู่ มองเราตาขวางเลย

บินไปลิสบอนกะนี่ค่ะ สายการบินแห่งชาติ Tap Portugal



  จากมิวนิคไป ลิสบอน ก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ ค่าเครื่องบินกับค่าโรงแรม 6 คืน จ่ายไป 750 ยูโร สำหรับสองคน โรงแรมที่ไปพัก ชื่อ Pensao Residencial Portuense //www.pensaoportuense.com/default.aspx
เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่บริหารงานโดยครอบครัว สะอาด ทำเล
สุดยออดดดด เหมาะสำหรับคนที่ชอบความคล่องตัว และไม่จู้จี้เรื่องอาหารเช้าค่ะ เพราะอาหารเช้ามีขนมปังกะแยม เหมือนกันทุ๊กวัน กินไปหกวันนี่ก็เบื่อเหมือนกันนะคะ
รูปถ่ายจากหน้าต่างโรงแรมค่ะ ห่างจากโรงแรมไปนิดหนึ่งก็จะเป็นโซนร้านอาหาร สำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ



ห้องพักค่ะ ห้องไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็โอเคค่ะ



ห้องน้ำค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโถสุขภัณฑ์ อีกอันมีไว้ทำไม แฟนบอกว่า เอาไว้ล้าง... โดยเฉพาะ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ



เอาละค่ะ เอากระเป๋าไปโยนไว้ในห้องพักแล้ว ก็ออกสำรวจเมืองกันดีกว่า พอดีเครื่องดีเลย์ กว่าจะถึงที่พัก ก็เกือบจะทุ่มแล้ว ดีที่เป็นช่วงหน้าร้อนเลยยังไม่มืด เป้าหมายหลักตอนนี้เลยเป็นการเดินสำรวจร้านอาหารค่ะ แถวๆ ถนน Rau Portas de Santo Antao มีร้านอาหารเยอะมาก แต่ละร้านก็ล่าลูกค้ากันจริงๆจัง นี่ค่ะ ไปเยี่ยมๆ มองๆ ไปเจอเจ้าตัวนี้เข้า ดูหน้าตาน่ากลัว ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่ามันคืออะไร และกินยังงัย ไม่กล้าลองค่ะ



ที่อยากจะเตือนให้ระวังคือ ทุกๆ ร้าน เวลาเราไปนั่ง เค้าจะเสริฟ Cuvert เป็นพวกขนมปัง เนย แฮม อะไรประมาณนั้น ถ้าไม่อยากกิน ก็ต้องบอกให้เค้าเก็บไปเลยนะคะ ไม่งั้นไม่ว่าจะกินจะไม่กิน เค้าก็จะคิดเงินอยู่ดีค่ะ บางร้านเห็นราคาแล้วจะเป็นลม คือราคา 10 ยูโร ถ้าไปหลายๆ คนก็คงโอเค แต่ไปกันสองคนนี่ โหดมากเลยค่ะ เพราะเทียบกันจานหลัก ราคาจะประมาณ 10 ยูโร หรือถูกกว่า

วันถัดมา ก็เป็นการตะลุย Alfama (เป็นเขตเมืองเก่าที่มีการสร้างบ้านตามเนินเขา มีทางเดินซอกเล็กซอกน้อย เหมือนเขาวงกต ) โดยการนั่งรถรางเก๋ากึ๊ก สาย 28 ขึ้นเนิน ลงเนิน ไปชมวิวสวยๆ การนั่งรถรางสายนี้ คุ้มจริงๆ นะคะ บางทีถนนหักศอก ทางก็แสนจะแคบ แถมป้ายจอดรถ ก็อยู่ตรงเนินอีกต่างหาก กว่าจะถึงที่หมาย ก็ลุ้นกันซะเหนื่อย ค่ารถตลอดสาย ถ้าซื้อบนรถ 1.40 ยูโรค่ะ ถ้าซื้อตั๋วล่วงหน้า ราคา 81 เซ็นต์ค่ะ ถ้าใครนั่งรถไฟ ได้ตั๋วบัตรสีเขียวๆ อย่าลืมเก็บไว้นะคะ เอาไปโหลดเงินค่ารถบัส รถเมล์ รถไฟได้ค่ะ ตอนแรก็ไม่รู้เหมือนกัน ทิ้งไปตั้งหลายใบแน่ะค่ะ กว่าจะเก็ต



ขนาดรถตำรวจ ยังต้องหลีกทางให้รถรางเลยค่ะ แหม กลัวได้หัดขับรถที่ลิสบอนจริงๆ ถนนน่ากลัวมาก ทั้งแคบ ทั้งชัน ขอนินทาหน่อยเถอะค่ะ แล้วแต่ละคนนะคะ ขับรถโหดๆท้างน๊าน นั่งรถบัสทีหนึ่งหัวสั่นหัวคลอน ถนนเป็นยังงัยไม่รู้ พ่อเหยียบแบบไม่มีชะลอเลยค่ะ



ถึงแล้วค่า จุดชมวิว Largo das Portas do Sol เสียดายสองวันแรกที่ไปถึง ฟ้าครึ้ม ฝนปรอย รูปเลยออกมาแบบครึ้มๆ นี่แหละค่ะ
อ้อ เรื่องภาษา ส่วนใหญ่เค้าก็พูดภาษาอังกฤษกันได้นะคะ เหลือบ่ากว่าแรงก็ใช้ภาษาชี้ กะจิ้มค่ะ

Alfama from Largodas Portas do Sol


หลังคาแดงงงงง.......



ตึกส่วนใหญ่ในลิสบอนจะประดับด้วยกระเบื้องค่ะ ดูสวยไปอีกแบบค่ะ


ดูกันใกล้ๆ ค่ะ ตึกแต่ละหลัง ก็มีลวยลายการประดับกระเบื้องต่างๆ กัน



ที่พลาดไม่ได้สำหรับ เขตเมืองเก่า คือโบสถ์ไสตล์โรมัน ที่สร้างตั้งแต่ปี 1147 ส่วนหนึ่งของโบสถ์ เปิดให้เข้าชมฟรีค่ะ แต่ส่วนที่เก็บตังค์ค่าเข้า (2.50 ยูโร) ก็จะมีโลงศพของนักบุญต่างๆ แล้วก็ส่วนด้านหลังของโบสถ์ที่มีการขุดพบอารายธรรมสมัยโบราณค่ะ ก็โอเคนะคะ คิดว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไปค่ะ



สิ่งที่สะดุดตา หลังจากที่เดินซอกแซก เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ ก็คือ การตากผ้าค่ะ คือเค้าจะตากผ้ากันนอกบ้านค่ะ ที่ลิสบอนลมจะแรง ดูผ้าที่โบกสะบัดไปตามสายลม ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ...


ตอนต่อไป จะพาไปเดินชมเมืองอีกด้านหนึ่งต่อค่ะ แล้วตามมาเที่ยวนะคะ




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2552    
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 0:14:16 น.
Counter : 1184 Pageviews.  

 
 

Apfelsine
Location :
Munich Germany

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อดีต เป็นเภสัช ที่รพ เชียงราย ตอนนี้ อยู่ฝ่ายวิเคราะห์ อาหาร และยา โดย HPLC ของบริษัทแห่งหนึ่งที่มิวนิคค่ะ
พึ่งมารู้ตัว ว่าชอบเที่ยวตอนมาอยู่เยอรมันนี่แหละค่ะ แล้ว Juergen เค้าก็ชอบถ่ายรูป เลยมีรูปสวยๆ ที่อยากจะเอามาแบ่งปันค่ะ
เวลาจะไปไหนที ก็ search หาข้อมูลจากพันทิพ จากบล๊อก ก็ช่วยได้เยอะ ก็เลยอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง....
[Add Apfelsine's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com