ลองผิดลองถูกเข้าไปชีวิต มีครั้งเดียว ถ้ารอจะให้มันได้แต่ถูก ชีวิตมันก้อจะไม่ได้ทำไรเลย

คนบ้านเราฉลองสงกรานณ์กัน แต่ผมนั่นเสียวรอเวลาเปิดเรียนที่ญี่ปุ่น

ถึงจะว่านั่งเสียว แต่เอาเข้าจริง มันก้อไม่เสียวซะทีเดียว อยากให้เปิดเรียนซะมากเหมือนกันเพราะมันจะขจัดความว่างไปได้เยอะ ไม่งั้นก้อเหมือนอยู่นี่ผลาญตังไปวันๆโดยไม่มีอะไร (แม้ว่าจะตื่นเอาบ่ายสามก้อเหอะ กินข้าวมื้อเดียวก้อค่ำละ) มาอยู่นี่ก้อเสียค่าโง่ไม่หลายตังเหมือนกัน ด้วยเหตุหลายประการ แต่เปิดเรียนมันดีที่จะได้พูดเยอะหน่อย เจอคนต่างชาติเยอะๆ(ภาษามือจะได้คล่อง) แม้ว่าอยู่หอจะพยายามคุยกะคนอื่นละแต่มานก้อเข้าใจยากเหลือเกิน อึดอัดมากเลย ที่ปล่อยมุขไม่ได้เพราะพูดไม่รู้เรื่อง อยากทำบ้าๆบอๆละ แถมเปิดเรียน ก้อจะได้บัตร นักเรียน ไปทำโทรศัพท์ แล้วก้อ เปิดบัญชีธนาคารได้ด้วย (กูจะได้ไม่ต้องเก็บเงินก้อนไว้กะตัว มันเสียวตัวเองจะใช้)

เอาละเข้าเรื่องละ ด้วยเหตุที่ว่าขี้เกียจจำวันละ ว่าวันไหนมาก่อนหลังทำไรไปมั่งขอเล่าเรื่องผ่านภาพละกัน(ตาม รีเควส ว่าเน้นรูปไม่เน้นเรื่อง ขี้เกียจอ่าน ที่จิงกูก้อขี้เกียจพิมวะ)
มาเข้าเรื่องรถยนต์ก่อนเลยดีก่าครับ



ล็อตแรกเลยครับ ฮอนด้า ซีวิคไทป์อาร์ ที่วัยรุ่นไทยช๊อบชอบ เอาไปดูเป็นแนวๆละกันว่าเค้าแต่งกันแบบนี้ทำตามไปเลยจะได้ดูหรูขึ้น (พร้อมๆกับดูโหลด้วย มันเยอะเหลือเกิน) ถัดมา รถ อะไรก้อไม่รู้ เท่เหลือเกินไม่รู้ว่ามันจะเท่ไปไหน ทรงโบราณสะใจ ตราสัญลักษณ์ ก้อไม่เคยได้เห็นมาก่อน คาดว่าเจ้าของรถคันนี้ทำงานไม่สุจริตแน่ๆ แล้วก้อถัดมาอีกคันสีแด๊งแดง ฟอร์ด มัสแตง ตัวแรง ดูไม่สวยแต่รู้สึกว่ามันเท่โคตรๆ(ได้ไง) คนที่นี่บ้ารถยุโรปมากโดยเฉพาะ ปอร์ช วิ่งกันควั่ก ไม่รู้รวยกันมาจากไหนเหมือนกัน



ต่อมารถธรรมดามั่ง สองรูปแรกคับ คันแรกไม่มีในไทย ไม่รู้ว่าฮอนด้า อะไรเหมือนกันรถมันไม่ติดรุ่นข้างหลัง สงสัยไอ่เจ้าของมันอายเลยแกะออก เหมือนเอาแจ๊ซ(ชื่อ ฟิต ที่นี่) มายืดเสกลออกข้างให้ล่ำขึ้น (ออกแบบง่ายไปป่ะเพ่) ส่วนข้างในเหมือน ซีวิค สามประตูตัวนอก เลยไม่แน่ใจว่ามันเป็น ซีวิคห้าประตูป่าว ไม่ได้โดนใจไรหรอกเอามาให้ดูเฉยๆ ต่อมา มาสด้า แฟมมิเลีย ส่วนบ้านเราชื่อ โปเตเจ้ มาสด้ารุ่นไม่ค่อยนิยมบ้านเรา เนื่องจากตูดไม่สวย แต่งไม่ผ่าน ทั้งที่มีตัวแต่ง ออกมาเอาใจไวรุ่น ทั้งเบาะ เหมือนรถแข่ง หัวเกียร์ นาดิ ออกมาก้อยังไม่รอด เพราะน่าจะราคาขายตกกันฮวบๆ วัยรุ่นไทยเลยไป เล่นซีวิค กันอีกแล้ว ต่างกับมาสด้า สาม ที่ราคาสูงแต่ขายดีจัง เพราะเฉี่ยวเหลือเกิน แต่เริ่มโหลละ เลยไม่เวิร์คสำหรับผม

บ่นมากไปก้อมาดู รูปสุดท้าย รถรุ่นเดียวกะที่ขับตอนอยู่เมืองไทยอยู่มาตั้งอาทิตย์กว่าเพิ่งจะได้เจอคันแรก ทั้งที่ตัวบอดี้ของรถมัน ใช้เหมือนกันทั้ง เชสเซอร์ สปินเตอร์ เซลซิเออร์ มาร์คทู เครสต้า (มีอีกแต่ลืมละ โตโยต้ามันเล่นง่ายๆ แบบนี้ละ เครื่อง เจ ก้อลงกันหลายรุ่นเลย) แต่รถอื่นๆที่ว่ามาที่นี่เห็นบ่อย แคมรี่เพิ่งเห็นครั้งแรก แถมก้อไม่ตรงกะที่ขับซะทีเดียวเพราะเป็นตัววาก้อน ซะด้วย ถึงตูด วาก้อนจะดูสวยกว่ายังงัย แต่พอเจอ สติ๊กเกอร์ ที่ผมแปปรถเข้าไปก้อทำให้รถผมดูเท่กว่าเป็นกอง(ขยะ)ละ(สามารถดูได้ใน บลอค เรื่องที่สาม นะครับ)

(เวรกำพิมเพลิน ชักยาวละ)





ถัดมา ไม่ได้พิศวาท เป็นพิเศษเลยให้รูปใหญ่นะคับ แต่บังเอินจัดไม่ลงตัว นี่คือ ฮอนด้าไลฟ์ ทั้งคันนี้ ประทับใจเรื่องเดียวเป็นพิเศษ คือ ที่จับประตู ง่ายๆแต่เก๋ไม่ซ้ำใครดี ส่วนคันนี้ แชทซีไม่น่าพ้น แชทซี เดียวกับแจ๊ซ ดูมิติ ใกล้เคียงกันมาก



ต่อมาเป็น ของที่ไว้โชว์ที่ร้านเกมครับ ไอ่สองตัวแรก ขนาดพอๆกะคนจิง อาจใหญ่กว่านิด แต่แค่ครึ่งตัว น่าเอาไปไว้บ้านจิง ถึงจะไม่มีที่วางก้อเหอะ บังเอิญมันมีเครื่องเกมด้วย ขนาดน่าจะเท่าหัวกันดั้มจิงๆ เราเข้าไปเล่นละเหมือนอยู่ใน คอกพิท เลย จอโค้ง เท่ได้ใจจริง เป็น มุงมองเราเองเลยด้วย สู้กันในเมืองแบบสงครามจิงๆ แต่ละหุ่นก้มีความสามารถต่างกัน แต่แพงต้องใช้การ์ดเซฟเพื่อเก็บตังไปอัพเกรดหุ่น รึ เปลี่ยนรุ่น
ละก้ออันขวสุด เป็นที่โกนหนวดกันดั้ม ที่น่าสอยมาก ไปเจอใน ซุปเปอร์ ขนาดแผ่นโฆษณายังเป็นสามมิติ ถ้ามันเหลืออันสุดท้าย น่าจะสอยมาทั้งแผง แต่แพงนะ อันละสามร้อยกว่าบาทได้



เอาละ ไม่รู้ทำไมต้องมาอัพรูปของกินตอนโคตรหิว แต่ขี้เกียจเดินไปซื้อของ เพราะมันทั้งไกลและหนาวก้อไม่รู้ ทนไปละกันเฟ้ย โรคกระเพาะแดกแน่ไม่นานนี้กู ดูเลย ครับ อันนี้ ผัดเปรี้ยวหวาน กะ ผัดน้ำมันหอย สองอย่างแรกที่ทำที่นี่ พยายามหา เครื่องที่ใกล้เคียงสุดๆมาทำละ หน้าตาดูได้ เหตุที่ทำอีกอย่างนอกจากอยากทำเพราะว่า วันก่อนเพื่อนต่างชาติที่หอบอกว่าเราจะมาทำข้าวเย็นกินด้วยกัน ผมเลยไปช็อบ แต่หานานไปเลยมาสาย ไม่ได้กินกะชาวบ้าน ต้องกินคนเดียว เศร้ามาก เพราะ ของแพง.ซื้อกินถูกกว่า เลยไม่ได้ทำผัดไทยที่เตรียมมาด้วย แต่ก้อกะว่าเอาไปทำที่ หอ คนไทยดีกว่า เหมือนกัน เลยไม่เป็นไร ทำไปเสร็จกินข้าวไปชามกว่าละค่อยนึกได้ว่าต้องถ่ายรูปสภาพเลยค่อนข้างยุ่งเหยิงไปนิด ส่วนก่อนอัพบลอควันนี้ไปทำผัดไทยมา เครื่องเกือบครบ สะใจมาก แต่ก้อหลายตังโคตร ทำเส็ดแล้วหน้าตาออกมาพอดูเป็นผัดไทยครับ แฮปปี้ แต่ว่า รสชาติไม่แฮปปี้ตาม ซวยมาเลยที่ไม่มี น้ำตาลให้ใส่ กร่อยกันไปเลย แล้วก้อไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วยเพราะว่าเผลอกิน(อีกแล้ว) หมดแล้วค่อยนึกได้ ส่วนเพื่อนๆที่ไม่ได้มาก้อโชคดีไปที่ไม่ต้องกิน คนอยู่ก้อหน้าตากล้ำกลืนกันสุดฤทธิ์

ส่วนข้างล่าง รูปเสื้อ ชินเซนกุมิ ซื้อมาให้หมาที่บ้านใส่(จะได้เข้าคู้กะเสื้อที่มี ของ กลุ่มชินเซน ของผมด้วยพอดี) ของตัวเองยังไม่ได้ซื้อแต่ ซื้อให้คุณหมา ยุกยิก ไปซะละ มันทำบุญมาเยอะจิงๆ ส่วนทางขวาลอง รีทัช ใส่ให้ คุณยุกยิก แบบหยาบๆว่าใส่แล้วจะเป็นไง สรุปก้อโอเคครับ



ต่อมาครับ ภาพวาดของ อาจารย์อะไรซักท่านนี้ละ ที่วาด แสลมดั้ง วากาบอน ละก้อ เรีบล แต่งานนี้มารับ จ็อบ วาดภาพผมที่เซต ให้ ยาเซตผมของ ชิเชโด้ ใช้วิชา สีน้ำจัดจ้าน ทีพี่แกชำนาญอีกละ เห็นอีกละก้ออึ้งอีก มันจะเก่งไปละเพ่ แต่เสียดายที่ มันสะท้อนเลยมองไม่เห็นเท่าไหร่
รูปขวาล่าง ไป คาราโอเกะ กะคนต่างชาติที่หอ มีไต้หวัน ห้า แล้วตามมาอีกหนึ่ง อเมริกา หนึ่ง อิตตาลี่ หนึง ไทยอีกหนึ่ง(ผมเอง) แล้วก้อคนที่ไม่รู้เรื่องที่สุดก้อผมอีก แล้วก้อต้องใช้เพลงไม้ตายอีกแล้ว ร้องได้ญี่ปุ่น สองสามเพลง ซึ่งไม่สมบุรณ์ สักเพลง แล้วก้อ จีนไป อีกหนึ่ง ที่เหลือเลือกแล้วล่ม ไปหมด ขอเลิกก่อน จะเซากัน เพลินๆแต่จ่ายตังไม่เพลินเลยคร้าบ(รู้สึกว่าตัวเองอ่านหนังสือไวขึ้นนิดนึงละ)



ถัดมาวัด คิโย มิซึ วัดน้ำใส ก่อนที่จะมาไป วัด ยาซากะ มาก่อน(วัดป่ะวะ) แต่ไม่ลงรูป ขี้เกียด ก้อเรื่อยๆครับที่นี่สวยเป็นปกติ มันเหมือนๆที่อื่นๆ สงบหน่อย คนขึ้นไปเพื่อกินน้ำจากยอดเขาบนวัด(ละมั้ง) คนต่อแถวกันตรึมเลย ผมเลยขอผ่านมากดภาพดีก่า ไม่ชอบทำไรที่คนทำกันเยอะๆ อ่อเจอคนไทยตรึมเลยเพราะมาเที่ยวช่วงสงกรานณ์พอดีด้วย ไฮไลท์ที่ทางเดินครับเพราะต้องขึ้นเขา อย่างกะไปพระธาตุดอยสุเทพเหนื่อยโคตร แต่ข้างทางมีร้านค้าที่ดักชาวต่างชาติโง่ๆอย่างเราตรึมเพราะของแพงกว่าปกติมากเหมือนกัน แล้วก้อมีของถิ่นๆ เช่นโดราเอมอน ในชุด ชินเซ็นกุมิ ที่หาที่อื่นไม่น่าจะได้ครับ เพราะ กลุ่มนี้เรื่องเกิดที่เกียวโต น่าสอยอีกละ แต่แพงเลยต้องตัดใจ เผื่อจะเจออีกทีหลัง แล้วก้ออยากได้ผ้าคาดหัวกลุ่มชินเซนอีก และทางขวาล่างภาพชุดกลุ่มชินเซน ตั้งแต่ไซส์เล็กไปจนใหญ่ ที่ผมมีสงสัยจะตัวกลาง เพราะตัวข้างล้าง มันมีลายตรงบ่า แล้วผ้าก้อดูพริ้วกว่าด้วย แล้วก้อมีตัวสีดำ น่าจะตัวเดียวกะหัวหน้ากลุ่ม ตัวหลักๆ อิจิทากะ โทชิโซ ใส่ อยากได้อีกละ (ดาบก้ออยากได้ แต่ไม่รู้เอาไปทำแมวอะไร) เห็นพูดถึงกลุ่มชินเซนมานาน เหตุที่ชอบกลุ่มนี้เพราะว่า ชอบที่คนกลุ่มนี้ตัวหลักๆสู้พื่ออุดมการครับ แต่แล้วโดนเก็บทีหลังอยู่ดี (สู้เพื่ออุดมการ เหมือนพวกในเพลงเพื่อชีวิตเลย) จิงๆก้อไม่ได้เห่อแค่นี้หรอก บังเอิน ชุดมันเข้าท่า อย่าง สปาตันก้อชอบนะครับ อีกหลายอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึง แต่ก้อไม่ได้ชื่อชอบมากขนาดนั้นหรอก ไม่อยากชื่อว่าไปบ้าเรื่องราวคนอื่นไม่ดูเรื่องตัวเอง ก้อทำไปตามสมควรครับ ต้องยอบรับว่าที่นี่โปรโมทดีเอาประวัติ สารมาซื้อขาย ทำรายได้ ได้ดี ท้ายสุดของการไปวัดเราแวะร้านราเม็งที่ตีนเขา เพราะบนเขามันแพง แต่ก้อไม่พ้นว่าแพงอีก เพราะชามละ หก เจ็ด ร้อยเยน เหมือนจะปกติ แต่ว่าคนขายแถมวิญญาณหมูมาด้วย มีเนื้อจิงๆจึ๋งเดียว (กูไม่ได้มากินหมี่จับกังนะเฟ้ย) รสชาติค่อนไปทางจืด คาดว่าเจ้าของเซฟ คอร์ส ทุกอย่าง ขนาดว่าไม่ค่อยใส่เครื่องปรุงด้วย



สุดท้าย ละครับ เนื่องจากวันก่อนไปดู รร ภาษาอีกที่เนื่องจากที่บ้านอยากให้เรียนกันท้งวันไม่มีพักครึ่งวัน เลยไปดูตามหน้าที่ เอาเอกสารมา(ทั้งๆที่ ที่เก่ายังไม่เริ่มเรียนเลย) ก้อนั่งรถไฟไปเอง ตุ๊มๆต่อมๆเหมือนกัน บินเดี่ยวครั้งแรก ก้อไม่ยากเท่าไหร่คับ(ทำคุย) แถมไปถึงก้อเจอเลยแค่ข้ามถนน ไม่ต้องเดินงมให้เมือยตุ้ม สภานที่ใหญ่ดีครับ บรรยากาสน่าเรียนมั่กๆ สมกะที่พี่ชาย ชอบโม้ให้ฟัง แต่ถ้าจะถามจิงๆก้อขี้เกียจย้ายเหมือนกันละ ขนของก้อลำบาก ไหนจะหาที่พักอีก อีกทั้งจะต้องทำเรื่องเอกสารวุ่นวายอีกเพียบ คิดว่ายังงัยก้อไม่ได้ไปไหนหรอกน้า
จบละครับ ยาวอีกละเรา ขนาดเอาออกไปสองเรื่องละนะ

มาแถมซักนิด วันนี้ตื่นมาดู ขบวนการห้าสีทันละครับ (วันก่อนจะไปดูสดที่สวนสนุกแถวเกียวโต แต่ไปคนเดียวมันแปลกๆไปหน่อย ถ้าจะนั่งรถไฟเหาะคนเดียว เลยไม่ไป แต่ถ้าไรเดอร์ไปชัวร์) แล้วต่อจากขบวนการห้าสีก้อ ไรเดอร์ เดนโอ ที่รอจะดูสดๆมานาน แต่สังขารไม่ดีเพราะดันนั่งทำ บลอค ถึงตีสาม แต่ตื่นมาดูเจ็ดโมงครึ่งได้เองเพราะนาฬิกาปลุกไม่ดังยังงง แล้วเช้าก้อไปรอเพื่อนๆที่หอ นัดสิบโมงแต่ได้ออกสิบเอ็ดโมงแน่ะ ไปวัด มีขายของทำมือ แต่ถอนตัวอย่างรวดเร็วเพราะขี้เกียดฝ่าคน คนเยอะโคตร อย่างกะแจกของแน่ะมาเดินขนาดนี้ แล้วก้อไป คินคาคุจิ วัทอง ที่เป็นวัง โชกุน ในเรื่องอิคคิวซัง ก้อสวยตรงปราสาทเท่านั้นเองละครับ แต่ก้ออยากดูแค่นั้นอยู่ละ เรียกว่าหมดเรื่องคาใจ งานหน้า เอกะมูระ ชัวร์ แต่รอได้งานทำก่อนจะได้เป็น ชินเซนกุมิ สมใจ(อีกแล้ว)

เสริมเรื่อง ชินเซนกุมิอีกนิด เหตุที่ชอบมีอีกอย่าง คือเสื้อที่กลางหลังเขียนไว้ว่า มาโคโตะ แปลว่า สัจธรรม รึ ความถูกต้อง ซึ่ง เค้าต้องการจะบอกว่าพวกเค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าเชื่อกันว่าถูกต้อง(เท่มาก)

จบละครับไปโลด ไม่อัพแล้วว ขี้เกียจทำรูป นานๆจะมาอีกที


Create Date : 14 เมษายน 2550
Last Update : 15 เมษายน 2550 21:11:52 น. 3 comments
Counter : 1090 Pageviews.  

 
where is my sweet boy* take more pic of him si!!555


โดย: kang IP: 124.121.82.172 วันที่: 15 เมษายน 2550 เวลา:20:06:57 น.  

 
ชินเซนกุมิ ที่โดนเคนชินสังหารไป 108 ศพ อะนะคะ
กั่กๆๆ

รับ tag เบิร์ดด้วยนะพี่
อยากรู้เป็นยังไง ก็จิ้ม blog เบิร์ดเลย

take care ค่า


โดย: นกน้อยไขลาน วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:1:52:27 น.  

 
เห็นกันดั้มแล้วคิดถึงไอ้โจ้เลยนะเนี่ย
ว่าแต่....
ขอรูปสาวๆยุ่น หน่อยดิ
5555+


โดย: toffie IP: 58.136.48.237 วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:46:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บอกเล่าต่อกัน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพิ่งเริ่มฝึกนะครับ ขอครับแนะนำจากผู้รู้ไม่รู้ทุกท่านด้วย อยากก้าวหน้า
[Add บอกเล่าต่อกัน's blog to your web]