We always love you, Roger Federer !
Group Blog
 
All Blogs
 

Wimbledon Anniversary: Federer's 15-Year Success Story.2

ฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความสำเร็จของโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ในวิมเบิลดัน ---- 2



Wimbledon 2003


โรเจอร์จบปี 2002 ด้วยการเป็นมืออันดับ 6
ปีนี้ในเฟรช์ โอเพน แกรนด์ สแลมรายการที่ 2 ของปี
เฮียก็ตกรอบเร็วอีกแล้วไปตั้งแต่รอบแรกเลย แพ้ Luis Horna จากเปรูไปสามเซตรวด
*** เฟรนช์ โอเพน เป็นแกรนด์ สแลมรายการแรกที่โรเจอร์
ผ่านเข้าไปได้ถึงรอบควอเตอร์ ตั้งแต่ปี 2001
แต่กลับเป็นรายการสุดท้ายที่คว้าแชมป์มาได้ในปี 2009 

อย่างไรก็ตามปีนั้นเขาก็ยังไปวิมเบิลดันได้ในฐานะมือวางอันดับ 4 ของรายการ
รองมาจากฮิววิตต์,อกัสซี, และเฟอเรโร่
โรเจอร์เอาตัวรอดจาก Feliciano Lopez ของสเปนไปได้ในรอบที่ 4
เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่เฮียชนะไปได้สามเซตรวดเพราะก่อนหน้านั้น
มีอาการเจ็บหลังเล็กน้อยในขณะทีก่ำลังวอร์มอัพ



วิมเบิลดันปีนี้ เป็นแกรนด์ สแลมรายการแรกที่เฟดเข้ามาได้ถึงรอบรองชนะเลิศ
เป็นแมทช์ที่เขาเล่นในระดับสุดยอดเลยทีเดียว ไม่เสียให้ Roddick เลยสักเซต
หรือแม้แต่กับ Mark Philippoussis ในรอบชิงชนะเลิศ
ก็ชนะได้สามเซตรวดเช่นกัน 7-6(5), 6-2, 7-6(4)
กลายมาเป็นนักเทนนิสสวิสเซอร์แลนด์คนแรกที่ได้แชมป์แกรนด์ สแลม

อันนี้ต้องย้ำแบบขีดเส้นใต้เลยค่ะ
ได้แชมป์แกรนด์ สแลมแรกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2003 !!!!



"ชัยชนะในวันนั้นเปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง
แม้จนถึงวันนี้ มันก็ยังจะคงเป็นความยิ่งใหญ่ที่สุด
ในชีวิตของผมตลอดไป"

น้ำตาหยดแรกของโรเจอร์ที่ออลอิงแลนด์ คลับ


"This victory changed my life completely. 
It willprobably remain my greatest one forever"

โรเจอร์ กับเมียร์ก้า -- หญิงสาวคนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด
ตั้งแต่ถ้วยแกรนด์ สแลมรายการแรก จนตอนนี้ได้มาแล้ว 17 รายการ


กับพ่อแม่ และ Peter Lundgren โค้ชในเวลานั้น



งานเลี้ยงฉลองแชมป์ Champion Dinner Party
นี่เป็นงานฉลองแชมป์ครั้งแรกที่โรเจอร์ไปร่วมงานด้วย
เนื่องจากเมื่อ ปี 1998 ที่เขาได้แชมป์เยาวชนนั้น
วันรุ่งขึ้นเป็นวันเริ่มต้นของการแข่งขันในรายการที่ Gastaad ในสวิสเซอร์แลนด์
รายการแรกที่เขาได้ wild card ลงแข่งอาชีพ
พ่อแม่ โค้ช Peter Carter (โค้ชในเวลานั้น) และตัวเขาเอง
ลงความเห็นว่า การแข่งขันอาชีพสำคัญกว่า เขาจึงสละสิทธิ์ที่จะไปร่วมงานครั้งนั้น

โรเจอร์กับเมียร์ก้า --ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกของเขา


แชมป์ฝ่ายหญิงปีนั้นคือ เซเรน่า วิลเลียมส์






โรเจอร์เคยบอกนักข่าวว่า
สิ่งที่เขาเสียดายที่สุดคือ ในวันที่เขาประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
Peter Carter โค้ชที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กจนเป็นวัยรุ่น
ก่อนที่จะไปเรียนที่ศูนย์เทนนิสแห่งชาติที่โลซานน์
และมาเป็นโค้ชให้เขาในช่วงปลายของการเล่นเยาวชน
และช่วงแรกของการเล่นอาชีพ ไม่ได้มีโอกาสเห็นเขาในวันนั้น
Peter ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในแอฟริกาใต้
ก่อนวันเกิดโรเจอร์ในปี 2002 เพียงไม่กี่วันเท่านั้น



Peter เป็นโค้ชที่โรเจอร์ออกปากว่า
"เป็นคนที่ให้เขามากที่สุด และเขาก็ติดค้างปีเตอร์อยู่มากที่สุดเช่นกัน"

ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่แชมป์วิมเบิลดันในปีนั้น
โรเจอร์จะอุทิศความดีให้กับ Peter Carter ด้วยอีกคนนึง
แม้เขาจะหาชีวิตไม่แล้วก็ตามที




ขึ้นต้นด้วยเรื่องน่ายินดี กลายเป็นจบแบบดรามาไปได้ซะนิ
ขออภัยค่ะ 
แต่ถ้าพูดถึงแกรนด์ สแลมแรกของเฮีย
แล้วไม่พูดถึงปีเตอร์ คาร์เตอร์มันก็แปลก ๆอยู่น่ะ
สำหรับท่านที่เพิ่งมาตามอ่านเรื่องราวของโรเจอร์ในบล็อกนี้
ลองหาบล๊อกเก่า ๆ ดูนะคะ 
เคยเขียนเล่าเรืองราวในวัยเด็กของโรเจอร์ มาร์โค และโค้ชปีเตอร์เอาไว้ค่ะ 

และอีกข่าวสำคัญ
สำหรับแฟน ๆ เทนนิส ในไทยแลนด์ โอเพนปีนี้
เราอาจจะโชคดีได้พบกับ Stanislas Wawrinka, the Swiss no. 2 ที่กรุงเทพฯค่ะ
อีกไม่เกินสามสัปดาห์ก็จะได้รู้กันแล้วล่ะค่ะ
ใครที่ชอบสตานก็ช่วยกันลุ้นหน่อยละกันค่ะ 





 

Create Date : 25 มิถุนายน 2556    
Last Update : 26 มิถุนายน 2556 0:03:55 น.
Counter : 1817 Pageviews.  

Wimbledon Anniversary: Federer's 15-Year Success Story.

ฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความสำเร็จของโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ในวิมเบิลดัน



สำหรับโรเจอร์แล้ว วิมเบิลดันเป็นทัวร์นาเม้นท์ในฝันของเขามาตั้งแต่ครั้งที่เขายังเป็นเด็ก


ที่นี่เป็นสถานที่ที่เขาได้เฉลิมฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง
ชัยชนะที่ทำให้เขากลายมาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ของโลกเทนนิส
แต่ --- มันก็เป็นที่เดียวกันกับที่เขาต้องเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญอีกด้วย

สิบปีหลังจากที่เขาได้ชัยชนะที่นี่เป็นครั้งแรกในปี 2003



พวกเราก็ได้กลับมาพบกับเขาอีกครั้งในการมาป้องกันแชมป์
ที่ทำให้เขากลายมาเป็นนักเทนนิสคนแรก
ที่จะมีโอกาสเป็นแชมป์ในรายการนี้ถึง 8 ครั้งด้วยกัน

ลองมาไล่เรียงดูความสำเร็จของโรเจอร์ไปพร้อม ๆ กันดีกว่า

1998: Big Moment for the 16-Year-Old
ในปี 1998 คือจุดสำคัญในชีวิตของเด็กหนุ่มอายุแค่ 16 ปี

โรเจอร์อายุยังไม่ถึง 17 ปีเลยด้วยซ้ำเมื่อเขาเข้าแข่งขันระดับจูเนียร์ในวิมเบิลดัน
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 เขาชื่นชอบบอริส เบคเกอร์ และสเตฟาน เอ็ดเบิร์กเอามาก ๆ
เป็นช่วงที่นักเทนนิสสองคนนี้กำลังดังและก็เป็นเจ้าแห่งวงการยุคนั้น

ในแมทช์แรกที่โรเจอร์ลงแข่งกับนักเทนนิสออสเตรียอย่าง Philip Langer
เขาบอกว่า --- เขาตื่นเต้นมาก และก็ดูเหมือนว่าเน็ตมันช่างสูงกว่าปกติเสียเหลือเกิน
จนต้องขอให้แชร์ อัมไพร์ ช่วยวัดดูซะหน่อยนึง (แอบฮานะเนี่ย คิดได้ไงล่ะ)
กรรมการก็ยอมทำให้แล้วก็บอกว่า "มันก็ปกติดีนะ"
นั่นแหละถึงได้ทำให้เขาเริ่มที่จะรีแลกซ์แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ้างในการเล่นบนคอร์ตหญ้า
(ต้องไม่ลืมว่า โรเจอร์โตมากับคอร์ตดินนะ)

ในวันที่ 5 กรกฎาคม เขาเอาชนะนักเทนนิสจอร์เจียที่ชื่อ Irakli Labadze ได้
สองเซตรวด ด่วยคะแนน 6-4, 6-4 ได้แชมป์วิมเบิลดันเยาวชนในปีนั้น
และยังจับคู่กับ Olivier Rochus คว้าแชมป์ชายคู่มาครองได้สำเร็จด้วย
จากความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ปลายปีนั้น โรเจอร์จบปีด้วยการเป็นมือ 1 ประเภทเยาวชน
และทำให้ได้ไวลด์ คาร์ดลงแข่งขันอาชีพในหลาย ๆ รายการเลยทีเดียว



1999 ราคาของการด้อยประสบการณ์

ในปี 1999 เป็นปีที่โรเจอร์ได้ไวลด์ การ์ดในรายการต่าง ๆ มากขึ้น
แมทช์ที่น่าจดจำคือ รอบแรกในวิมเบิลดัน ปีที่เขาลงเล่นอาชีพเป็นครั้งแรก
เขาได้แข่งกับนักเทนนิสที่มากประสบการณ์คนนึงของยุคนั้นคือ Jiri Novak จากเช็ค

ตอนนั้น Jiri เป็นมือวางอันดับ 59 โรเจอร์ขึ้นนำไปก่อน 2-1 เซต
ก่อนที่เขาจะเริ่มเสียสมาธิ นี่เป็นการแข่งขันแบบห้าเซตเป็นครั้งแรกในการเล่นอาชีพของเขา
หลังจากเสมอกัน 2-2 เซตแล้ว
เขาก็เสียเบรกพ้อยต์ไปทั้งหมดแปดครั้งในเซตตัดสิน และแพ้ไปด้วยคะแนน
3-6, 6-3, 6-4, 3-6, 4-6.
หารูปคอร์ตหญ้าไม่เจอ ดูคอร์ตดินแทนไปก่อนละกัน



ตอนนี้ Jiri รีไทร์ไปหลายปีแล้วค่ะ และไปเปิดรร.สอนเทนนิสอยู่ที่บ้านเกิดตัวเอง
จำได้ว่าตอนไทยแลนด์ โอเพน จัดครั้งแรก ๆ เขาเคยมาแข่งด้วยนะ

หมายเหตุ : กลับไปดูสถิติการแข่งขันของวิมเบิลดันในปีนั้น
                พบว่าขณะที่โรเจอร์ตกรอบแรก ภราดร ของไทยก็เข้ารอบสองไปได้นะ
                ก่อนจะไปแพ้ Y.Kafelnikov มือ 3 ตอนนั้น ตกรอบสองไปในที่สุด



ปี 2000 การมองโลกงดงามแบบไม่มีที่สิ้นสุด

“มันไม่มีทางแย่กว่านี้หรอก” เป็นสิ่งที่เฟดพูดออกมา
เมื่อรู้ว่าจะต้องเจอกับแชมป์แกรนด์ สแลมสองสมัยอย่าง Yevgeny Kafelnikov ชาวรัสเซีย
ซึ่งตอนนั้นเป็นมืออันดับ 5 ส่วนเฟดอยู่อันดับที่ 35
ในที่สุดเฟดแพ้ไป 3 เซตรวด 5-7,6-7,6-7
แต่เขาก็ยังคงมองเห็นแต่ด้านบวก “ผมเล่นได้ไม่ดีเลย แต่ก็เกือบจะดีแล้ว”
และ “ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งผมจะชนะและได้เป็นแชมป์รายการนี้”
คำพูดของเขาตอนนั้นเป็นเหมือนการมองโลกงดงามแบบไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ



ปี 2001 ช่วงเวลาแห่งเกียรติยศ

เฟดเปิดปี 2001 ได้อย่างสวยงาม ด้วยการเป็นมืออันดับ 15 ของโลก
ขณะที่มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงยิ่งขึ้น
ในวิมเบิลดันปีนั้น หลังจากเอาชนะ Christoph Rochus,Xavier Malisse,จากเดนมาร์ก
และ Jonas Björkman จากสวีเดนมาได้

เขาก็ผ่านเข้ามาถึงรอบสิบหกคนสุดท้ายเพื่อจะมาเจอกับแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพีท แซมพราส
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงเล่นกับนักเทนนิสระดับตำนานผู้นี้และเล่นในเซนเตอร์ คอร์ต



แซมพราส ณ เวลานั้น ยิ่งใหญ่จริง ๆ
ที่วิมเบิลดัน เขาแพ้แค่ครั้เงดียวเท่านั้นจากการลงเล่น 57 แมทช์
ได้แชมป์มาแล้ว 7 ครั้งจากแปดครั้งหลังสุด
และยังไม่แพ้ใครเลย (ที่นี่) 31 แมทช์ติดต่อกัน



“ผมกำลังลงแข่งเพื่อที่จะเอาชนะให้ได้” เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจอยู่ในตอนนั้น
แล้วเขาก็ทำสำเร็จ สามารถเอาชนะแซมพราส ผู้เป็นไอดอลของเขาลงได้
ใช้เวลาแข่งไป 3 ชั่วโมง 41 นาที ชนะไป 3-2 เซต
7-6 (9-7), 5-7, 6-4, 6-7 (2-7), 7-5

น้ำตาแห่งความปลื้มปิติยินดีไหลรินลงมาไม่ขาดสาย
ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มความกดดันให้กับเขามากยิ่งขึ้นไปด้วย
ในรอบแปดคนสุดท้ายเขาจึงแพ้ Tim Henman ไป 3-1 เซต





วิมเบิลดัน 2001
ในความทรงจำของแฟน ๆ เทนนิสอาจจะเป็นแค่เฟดล้มแชมป์อย่างแซมพราสลงได้
แต่สำหรับเฟดและแฟนพันธุ์แท้อีกหลายคน
ยังมีอีกเรื่องราวหนึ่งที่สำคัญและน่าจดจำ
นั่นคือวิมเบิลดัน 2001 เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นชีวิตคู่ของเฟดกับเมียร์ก้า
หลังจากที่รู้จักกันที่โอลิมปิค ซิดนีย์ในปี 2000
ทัวร์นาเม้นท์นี้เป็นรายการแรกที่เมียร์ก้ากับเฟดเดินทางมาด้วยกัน
พักในห้องเดียวกัน มีเรื่องราวน่ารัก ๆ ของหนุ่มสาวคู่นี้
ที่เฟดเล่าไว้ใน Fantastic Federer ที่เขียนโดย Chris Bowers
คริสเป็นนักข่าวอาวุโสสายเทนนิสที่เห็นเฟดมาตั้งแต่เด็ก



เฟดเล่าว่า คืนก่อนหน้าที่เขาจะต้องแข่งกับพีท แซมพราส
เมียร์ก้าซึ่งเห็นเขานอนกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา
กลัวว่าเขาจะพักผ่อนไม่พอ แล้วจะมีผลกับการแข่งขัน
เธอถามเขาว่า --- เขาไม่เคยชินที่มีเธอนอนอยู่ด้วยหรือเปล่า
ถ้าอย่างนั้นเธอจะลงเอาผ้าห่มไปปูแล้วนอนข้าง ๆ เตียงดีกว่า
เฟดจะได้นอนหลับได้อย่างสบายใจ !!!!

เสียดายมาก เฟดไม่ยอมเล่าต่อว่า ยอมให้เมียร์ก้าไปนอนข้างเตียงหรือเปล่า

เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันของหนุ่มสาวคู่นี้มาตั้งแต่เริ่มต้น
ปี 2001 เมียร์ก้ายังเป็นนักเทนนิสอยู่ ยังไม่ได้รีไทร์นะคะ
วิมเบิลดันปีนั้นเธอก็ลงแข่งและตกรอบแรก ผลงานดีที่สุดของเมียร์ก้าในแกรนด์ สแลม
คือ รอบ 3 US Open ปีนั้นเอง

2002 ฝันไกลแต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

ในปีนี้โรเจอร์กลายมาเป็นหนึ่งในกลุ่มของนักเทนนิสที่มีโอกาสจะคว้าแชมป์ได้
และยังเป็นนักเทนนิสที่จอห์น แมคเอนโรยกให้เป็นตัวเต็ง
ที่มีโอกาสจะคว้าแชมป์วิมเบิลดันในปีนั้นอีกด้วย

“ผมมีโอกาสดีมากนะที่จะเอาแชมป์รายการนี้มาให้ได้”

แต่ในขณะที่เขาฝันหวานถึงแชมป์แกรนด์ สแลมรายการแรกอยู่นั่นเอง
ตอนนั้นโรเจอร์อยู่อันดับ 10 ของโลก มี Lleyton Hewitt เป็นมืออันดับหนึ่ง

แต่ความฝันของเขาก็สลายไปสิ้นเพราะเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี
ชาวโครเอเชีย Mario Ancic มืออันดับ 154
ชนะโรเจอร์ไปได้ 3 เซตรวด 3-6, 6-7, 3-6
ทำเอาแฟนเทนนิสช็อคกันทั้งวงการ

“ผมไม่เคยรู้จักแอนซิสมาก่อนเลย
และคิดว่าเขาเป็นพวกที่ชอบเล่นจากหลังเส้นเบสไลน์
แต่กลายเป็นว่า เขาวิ่งขึ้นหน้าเน็ตได้ตลอดเวลา ซึ่งผมประหลาดใจมาก ๆ”

เฮียมัวแต่ประหลาดใจอยู่กลับตัวไม่ทัน เลยแพ้โลด





ตั้งแต่วิมเบิลดัน 2002 จนถึงก่อนรอบชิงวิมเบิลดัน 2008 
มาริโอ แอนซิซก็ยังได้ชื่อว่าเป็นนักเทนนิสคนสุดท้ายที่เอาชนะโรเจอร์ได้ในวิมเบิลดัน


จากปี 2003 ไปจะขึ้น blog ใหม่นะคะ




 

Create Date : 22 มิถุนายน 2556    
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 21:55:54 น.
Counter : 1031 Pageviews.  

Wimbledon 2013 >>>>> Preview 1

ฤดูกาลแห่งคอร์ตหญ้า ฤดูกาลของเรามาถึงแล้วค่ะ
รายการแกรนด์ สแลมบนคอร์ตหญ้า Wimbledon 2013



ประกาศอันดับของมือวางแล้วเมื่อวานนี้

1- Djokovic, Novak (SRB) (=)
2- Murray, Andy (GBR) (=)
3- Federer, Roger (SUI) (=)
4- Ferrer, David (ESP) (=)
5- Nadal, Rafael (ESP) (=)
6- Tsonga, Jo-Wilfried (FRA) (+1)
7- Berdych, Tomas (CZE) (-1)
8- DelPotro, Juan Martín (ARG) (=)
9- Gasquet, Richard (FRA) (=)
10- Cilic, Marin (CRO) (+2)
11- Wawrinka, Stanislas (SUI) (-1)
12- Nishikori, Kei (JPN) (-1)
13- Haas, Tommy (GER) (=)
14- Tipsarevic, Janko (SRB) (=)
15- Almagro, Nicolás (ESP) (+1)
16- Kohlschreiber, Philipp (GER) (+2)
17- Raonic, Milos (CAN) (-2)
18- Isner, John (USA) (+3)
19- Simon, Gilles (FRA) (-2)
20- Youzhny, Mikhail (RUS) (+8)
21- Querrey, Sam (USA) (-2)
22- Mónaco, Juan (ARG) (-2)
23- Seppi, Andreas (ITA) (+3)
24- Janowicz, Jerzy (POL) (+2)
25- Paire, Benoit (FRA) (=)
26- Dolgopolov, Alexandr (UKR) (-2)
27- Anderson, Kevin (RSA) (-4)
28- Chardy, Jeremy (FRA) (-1)
29- Dimitrov, Grigor (BUL) (+2)
30- Fognini, Fabio (ITA) (=)
31- Benneteau, Julien (FRA) (+1)
32- Robredo, Tommy (ESP) (-3)

โรเจอร์ยังเป็นอันดับ 3 ของรายการเหมือนปีที่แล้วเลย
และมีอันดับเท่ากับอันดับของ ATP





เนื่องจากวิมเบิลดันมีวิธีการจัดลำดับของมือวางต่างไปจากรายการแกรนด์ สแลมอื่น ๆ
โดยดูจากผลงานบนคอร์ตหญ้าย้อนหลังไป 1 ปีมีสูตรการคำนวณด้วยค่ะ
เดี๊่ยวจะไปเอาแปะไว้ให้เพื่อน ๆ (แฟน ๆ หน้าใหม่) ได้ดูกัน

จากการคิดคำนวณที่ต่างกันทำให้หนุ่มสวิสอีกคนนึง
คือ Stan อันดับหล่นมาหนึ่งอันดับ เพราะผลงานบนคอร์ตหญ้าปีที่ผ่านมาไม่ดี
ปีที่แล้วสตานตกรอบแรกในวิมเบิลดัน !!!!
แต่ปีนี้น่าจะดีขึ้น จากที่ตอนนี้น้องเข้ารอบแปดคนที่ Topshelf เนเธอร์แลนด์ไปได้แล้ว
(รายการนี้แทมมีของไทยคือได้แชมป์ด้วยนะ)

ส่วนโรเจอร์ไปลอนดอนตั้งแต่วันจันทร์ แต่เพิ่งลงซ้อมเมื่อวานนี้ (18 มิถุนายน)











และจากการที่นาดาลเป็นมือ 5 นี่ก็ทำให้นาดาลมีโอกาสที่จะเจอ Big 4
คนใดคนหนึ่งได้ในรอบควอเตอร์
อันนี้แฟน ๆ ก็ต้องไปลุ้นกันเองละนะคะ แฟนใครแฟนมัน

ส่วนจขบ.ลุ้นหนุ่มสวิสเบอร์ 2 รายการนี้มันดันหลุด Top 10
เพราะฉะนั้นก็น่าจะเจอสี่หนุ่มสี่มุม โนเล่ แอน โรเจอร์ และเฟเรร์ (ถ้ารอดไปได้)
ตั้งแต่รอบสิบหกคนนะ



รายการอุ่นเครื่องที่เนเธอร์แลนด์ เฟเรร์เป็นมือ 1 ของรายการ แต่ตกรอบแรก

สำหรับ Draws รายการนี้จะประกาศวันศุกร์ค่ะ


วันนี้สถานีวิทยุ BBC ให้เวลาออกอากาศเพื่อเป็นเกียรติกับตำนานแห่งเซนเตอร์ คอร์ตของวิมเบิลดัน
โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ นักเทนนิสผู้ซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการ
เขาได้แชมป์ 7 สมัยระหว่างปี 2003-2007, 2009, 2012
เจ้าของสถิติร่วมกับพีท แซมพราส) และรองแชมป์ 1 สมัย ในปี 2008

ผู้เข้าร่วมรายการสนทนาในวันนี้ได้แก่ โค้ชเทนนิสผู้มีชื่อเสียงอย่าง Nick Bollettieri
ผู้สื่อข่าวของ BBC : Jonathan Overend และนักเทนนิสคนที่แพ้โรเจอร์เป็นคนแรก
ในรอบชิงชนะเลิศในปี 2003 : Mark Philippoussis
การสนทนาทั้งหมดจะเกี่ยวกับความสำเร็จของโรเจอร์บนคอร์ตหญ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งนี้

ตัวเองไม่มีโอกาสได้ฟังนะคะ แต่มีเพื่อนต่างชาติฟังแล้วจดบันทึกไว้ให้
จะทยอยนำมาถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอีกต่อหนึ่งค่ะ

รูปล่าสุดของโรเจอร์ที่วิมเบอร์ดันวันนี้ค่ะ
กำลังไปซ้อมพร้อมกับ Paul และ Seve



Nick Bollettieri พูดถีงโรเจอร์ไว้ว่า
ไม่ว่าจะวงการไหน นักการเมือง หมอ หรือใคร ๆ ก็ตาม
มีคนที่เป็น "จีเนียส" อย่างโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์อยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น
โรเจอร์เป็นคนที่ทุ่มเทและก็ให้ "ใจ" กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำลงไป

here are only few people in life whether being in politics or being a doctor whatever it is,

Roger Federer is a genius, he has passion and he has heart in every single he does.

มีคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นในชีวิตนี้ ที่จะกลายเป็น "แบรนด์" ด้วยตัวเองเหมือนโรเจอร์
ซึ่งเราควรที่จะต้องพูดว่า "ขอบคุณ" กับผู้ชายคนนี้ด้วย
สำหรับทุกสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ไม่เฉพาะวงการเทนนิส แต่รวมไปถึงสิ่งที่เขาทำให้เด็ก ๆ
และกับพวกเราทุกคนด้วย --ทำให้เราเข้าใจว่า
ไม่ใช่การได้ชัยชนะเท่านั้นที่เป็นสิ่งสำคัญ
แต่วิธีการที่คุณเอาชนะก็สำคัญด้วย

และเขา-โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ได้ชัยชนะมาอย่างที่คนเป็นสุภาพบุรุษเขาทำกัน !!!

Only a few people in life that can be branded as Roger Federer, 
and for that we all must say thank you Roger for what you have done 
not only for tennis but you have done for sports, for children 
and for people to understand winning is important 
but it’s how you win, and he wins as a gentleman!!!



รูปซ้อมวันนี้ค่ะ (19 มิถุนายน)

เห็นบรรยากาศแล้วกลัวเจอฝนจริง ๆ



ชอบเสื้อที่ใส่ลงซ้อมค่ะ ลายสวยมากกกก









และส่งท้ายกับหนุ่มคนนี้ค่ะ ตอนนี้เข้ารอบ semi รายการที่เนเธอร์แลนด์ไปได้แล้วค่ะ



ก่อนหน้านี้สื่อทั้งหลายยกให้สตานเป็นเต็งหนึ่งในรายการ
เพราะเหลือมือวางอยู่แค่สตานกับ Chardy เท่านั้น
แต่น้องบอกว่า ถึงจะเป็นดาวเด่นบนแผ่นกระดาษ
แต่ถ้าดูผลงานสองปีย้อนหลังบนคอร์ตหญ้าแล้วล่ะก็
จะรู้ว่ามันไม่ใช่หรอก
ดังนั้นเขาก็จะโฟกัสที่ตัวเอง ปรับฝีมือตัวเองทุกวัน
และก็ตั้งความหวังไปทีละแมทช์

"So on the paper I might be the favourite,
but if you look at my results on grass during the last two years
it’s not that clear.
I just try to focus on myself,
improve every day and go match by match."

ถึงรอบนี้เหลือตัวเองเป็นมือวางอยู่คนเดียว ก็หวังว่าสตานจะโชคดี
ผ่าน Garcia - Lopez ไปเข้าชิงรายการคอร์ตหญ้าได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนะคะ

** ตั้งแต่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ในชีวิตและกลับมาคืนดีกับภรรยาอีกครั้งหนึ่ง
ปีนี้เปลี่ยนโค้ชใหม่ด้วย สตานก็ฝีมือดีวันดีคืนจริง ๆ **

21 มิถุนายน 2556
ล่าสุด Stan ชนะ Garcia-Lopez 6-1,6-4
เข้าไปชิงชนะเลิศรายการคอร์ตหญ้าได้เป็นครั้งแรกแล้วค่ะ


สถิติแพ้-ชนะของสตาน นับจากที่ได้แชมป์ที่ Estoril ในเดือนเมษายน
นับถึงวันนี้ไม่เลวเลยทีเดียว กับการชนะ 18 แพ้ 2
โดยแพ้นาดาลทั้งที่มาดริดและปารีส

และในวิมเบิลดันปีนี้ก็เป็นไปได้ที่จะต้องเจอกับนาดาลในรอบสิบหกคน !!!!




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2556    
Last Update : 21 มิถุนายน 2556 22:55:19 น.
Counter : 914 Pageviews.  


เวสาตรี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add เวสาตรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.