We always love you, Roger Federer !
Group Blog
 
All Blogs
 

2012 The Golden year for Roger Federer.

สำหรับแฟน ๆ โรเจอร์
ปี 2012 ที่ผ่านมานับเป็นปีทองของโรเจอร์อย่างแท้จริง



ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จาก 2008-2012 ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เฟดทำสถิติได้ดีที่สุดแล้ว
แชมป์ 6 รายการ รองแชมป์ 3 รายการ และ 1 เหรียญเงินโอลิมปิคชายเดี่ยว

6 แชมป์ของเฟดในปี 2012 ค่ะ

1. ABN AMRO World Tennis Tournament
เป็นแชมป์ครั้งที่สอง หลังจากที่เคยได้เมื่อปี 2005



รายการนี้ชนะตาเดล J.M.Del Potro ด้วยนะ



2. Dubai Duty Free Tennis Championship
เป็นแชมป์ครั้งที่ 5 ของเฟด หลังจากที่ได้แชมป์นี้ในปี 2003-2005 และ 2007



ชนะคู่แข่งอย่างตาแอน Andy Murray ไปสองเซตรวด



3.BNP Paribas Open Indian Wells
ได้แชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่เคยได้สมาครั้งติดกันเมื่อปี 2004-2006



รองแชมป์คือ John Isner ที่ได้เข้าชิงรายการ Masters 1000 เป็นครั้งแรก



4. Mutua Madrid Open
เป็นแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่เป็นครั้งแรกที่พื้นผิวเป็น Blue Clay Court



ชนะ Tomas Berdych ไป 3-6,7-5,7-5



5. Wimbledon แกรนด์ สแลมรายการที่ 17 ของเฟด
ครั้งนี้เฟดทำสถิติแชมป์วิมเบิลดันครั้งที่ 7 ได้เท่าพีท แซมพราส
และยังทำให้เฟดได้กลับมาเป็นมือ 1 อีกครั้ง เพิ่มจำนวนสัปดาห์ที่ครองมือ 1
ได้มากกว่าแซมพราสอีกด้วย



ชนะคู่แข่งอย่างตาแอน Andy Murray ไป 3-1 เซต
4-6,7-5, 6-3, 6-4



6.Western & Southern Open
แชมป์ครั้งที่ 5 ของเฟด ก่อนหน้านี้คือ 2005,2007,2009-2010



ชนะ Novak Djokovic ในรอบชิง 6-0, 7-6(7)
เป็นครั้งแรกที่เฟดชนะคู่แข่งในรอบชิงได้ 6-0 นับจากปี 2007 เป็นต้นมา



ปิดท้ายด้วยเหรียญเงินโอลิมปิค ประเภทชายเดี่ยว
I won the silver medal !



คนได้เหรียญทองก็คู่แข่งเจ้าเดิม - ตาแอนเจ้าเก่า
ชนะเฟดไป 6-2,6-1,6-4



ส่วน J.M.Del Potro ที่เล่นมาราธอนในรอบรองชนะเลิศแล้วแพ้เฟดไป
เอาชนะโนเล่ได้ในรอบชิงเหรียญทองแดง



เฟดบอกว่า ไม่เสียใจที่ได้เหรียญเงิน
เพราะเมอร์เรย์เล่นดีกว่ามาก ๆ เป็น the best player of the tournament
และเฟดเองก็จำไม่ได้ว่า ตัวเองเคยเสียติดต่อกัน 9 เกม บนคอร์ตหญ้า
ครั้งสุดท้าย ในแมทช์ไหน
ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าเฟดไม่อึดจนชนะเดลได้ในรอบรอง
เฟดอาจจะไม่ได้แม้แต่เหรียญทองแดงด้วยซ้ำ



เฟดบอกว่า ตัวเองชนะได้เหรียญเงิน (เชียวนะ)
เพราะฉนั้นแฟนคลับไม่ต้องเสียใจไปหรอก
แอบเห็นใจเฟดเหมือนกันนะเนี่ย
เวลาเฟดชนะก็ต้องคอยปลอบใจคู่แข่ง เวลาแพ้ก็ต้องปลอบใจแฟนคลับตัวเองอีก



ในบรรดารายการที่เฟดได้เข้าชิงในปี 2012 รายการนึงที่คิดว่เฟดได้แชมป์ชัวร์ ๆ แต่ดันพลิกล็อก
คือ Gerry Weber



ไป ๆ มา ๆ เฟดแพ้รอบชิงไป 7-6(5),6-4
ยกถ้วยใบใหม่ให้เพื่อนอย่างพี่ฮาส Tommy Haas ไปซะเนี่ย
เซ็งอ่ะ



ปีนี้รายการให้เกียรติเฟด โดยการเอาชื่อไปตั้งเป็นชื่อถนน



ที่จะไปสเตเดียม



Roger Federer Alle ตรงไปคือสเตเดียมที่จัดแข่งขันรายการ Gerry Weber
รายการนี้เฟดได้แชมชายเดี่ยมาห้าครั้ง 2003-2006, 2008
ได้แชมป์คู่หนึ่งครั้งในปี 2005 พาร์ทเนอร์คือพี่ Yves Allegro

ส่วนอีกรายการหนึ่งที่ทำให้ผิดหวังมาก ๆ ก็รายการในบ้านเฟดนั่นแหละ
Swiss Indoor ปีนี้ที่เฟดตามล่าแชมป์เป็นครั้งที่ 6
แต่พลาดท่าให้คู่ปรับเก่าอย่าง Del



และรายการสุดท้าย ATP World Tour Final
เฟดตามล่าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 7
แต่พลาดไปได้แค่รองแชมป์



สังเกตว่าเฟดได้แชมป์รายการนี้สองปีติดแล้วก็จะเว้นไป
2003-2004,2006-2007,2010-2011
ก็หวังว่าปีนี้จะ qualified แล้วได้แชมป์อีกสักครั้งนะคะ






 

Create Date : 01 มกราคม 2556    
Last Update : 4 มกราคม 2556 23:17:37 น.
Counter : 1544 Pageviews.  

Roger Federer talks about himself: >>>>>3

เป็นบทสัมภาษณ์โรเจอร์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555
โดย Federico Coppini
ที่มา : //www.tennisworldusa.org/?section=pre&id=7391



Q : มาคุยกันที่ประเด็นฮอตในปัจจุบัน คุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ
แต่คนที่วิจารณ์คุณได้แรง ๆ ที่สุดนั้น คือ คนสวิส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ว่า คุณไม่ค่อยจะลงแข่งเดวิส คัพ
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างในเรื่องนี้

Roger : มีคนพูดเกี่ยวกับตัวผมมากมายอยู่นะ
ในบางครั้งผมไม่สามารถที่จะตามไปคอมเม้นท์หรือไปอธิบายได้ทั้งหมด
ผมคงจะไปไฟต์กับทุกเรื่องไม่ได้หรอก
ผมไม่กลัวที่จะต้องตัดสินใจอะไรที่มันจะทำให้คนไม่ค่อยถูกใจนัก
และผมเองมีแผนที่จะลงเล่นเดวิส คัพ ในอนาคตอยู่เสมอ

รูปนี้ในโอลิมปิคค่ะ แต่อยากเอาลง ด้วยเหตุผลส่วนตัว อิอิ



เดวิส คัพที่เนเธอแลนด์ เมื่อเดือนกันยายน



ความเห็นส่วนตัวนะคะ เฟดไม่ค่อยเล่นเดวิส คัพรอบแรกอยู่แล้ว
แต่ก็พร้อมเสมอที่จะลงเล่นรอบต่อไปเพื่อให้สวิสยังคงได้อยู่ในเวิลด์กรุ๊ปต่อไปอีก
– โดยส่วนตัวแล้วเราเห็นใจเฟดนะ และคิดว่าเฟดทำถูกแล้วล่ะ
ตามหลักการบริหารแล้ว ถ้าเรามีทรัพยากรจำกัด เราก็ต้องตัดสินใจแล้วว่า
ต้องเอาทรัพยากรที่มีอยู่ไปใช้ทำอะไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เดวิส คัพที่ดูแล้วสวิสมีแค่ 2 คน คือเฟดกับสตาน
ทุ่มลงไปถ้าเจ็บขึ้นมาก็ไม่คุ้มทั้งคู่ อีกอย่างหนึ่ง จริง ๆ แล้ว
คนสวิสอาจจะไม่ได้เห็นความสำคัญกับถ้วยเดวิส คัพมากเท่ากับชาติอื่น ๆ ก็ได้
จากการจัดอันดับของ World Economic Forum ในปี 2012-2013
พบว่า สวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงเป็นอันดับแรกของโลก
เค้ามีเรื่องให้เห็นความสำคัญ ให้ภาคภูมิใจได้มากมายหลายเรื่อง
จนไม่จำเป็นต้องมาเน้นที่เดวิส คัพอย่างเดียว ไม่เหมือนชาติอื่น ๆ ---
วิเคราะห์จากมุมมองของตัวเองนะคะ อย่าถือเป็นเรื่องจริงจัง



มาอ่านคำถามต่อไปกันดีกว่าค่ะ

Q : อะไรคือ ความยาก ลำบากของเดวิส คัพ

Roger :ผมคงต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการที่จะอธิบายเรื่องนี้ทั้งหมด
ในบางประเทศ และสำหรับบางกลุ่ม การแข่งขันรายการนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แต่ในประเทศอื่น ๆ มันอาจมีความแตกต่างออกไป
เมื่อผมตัดสินใจ ผมคิดเรื่องนี้หลายครั้ง จนมาได้ข้อสรุปว่า
สำหรับผมแล้วทางเลือกที่ดีที่สุดคือ
การไม่ลงแข่งเดวิส คัพกับ สาธารณรัฐเชคในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
ผมอาจจะเล่น.......แต่หลังจากนั้นผมอาจจะต้องงดรายการมาสเตอร์ 1000 ไปหลายรายการ



Q : รายการที่ไมอามีไม่ได้อยู่ในตารางของคุณใช่ไหม

Roger : ใช่แล้ว มันยากมากนะที่จะทำให้เข้าใจกันได้ในทุกเรื่องน่ะ
มีเรื่องที่ต้องอธิบายมากทีเดียว ผมได้แต่หวังว่าแฟน ๆ จะเข้าใจและเชื่อมั่นในตัวผม

ผมอยากจะพูดอะไรบางเรื่องเกี่ยวกับรายการที่บาเซิล
ผู้จัดรายการนี้ต้องการที่จะเสนอสัญญาระยะยาวให้ผม
ในขณะเดียวกันเราก็มีปัญหาการสื่อสารกันบางเรื่อง
จากนั้นทุก ๆ คนก็เริ่มพูดกันถึงประเด็นเรื่อง “เงิน”
กลายเป็นความผิดพลาด (ทางการสื่อสาร) ขึ้นมา

ว่า ผมอยากได้เงินมากขึ้นในการลงแข่งรายการที่บ้านตัวเอง



ทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดทั้งสิ้น
สำหรับเรื่องนี้เราต้องมาพูดกันถึงความจริงที่ว่า

รายการที่บาเซิล ปารีส และลอนดอนเป็นรายการที่แข่งติดต่อกัน
ปีนี้พอผมไม่ลงแข่งที่ปารีส ก็พูดกันว่า

“โอเค ไม่ลงแข่งปีนี้ปีเดียว ไม่เป็นไรนะ”

แต่.....ไม่มีใครพูดเลยว่า
“ขอบคุณที่ลงแข่งในรายการที่บ้านเกิดตัวเอง แล้วก็ไม่ลงในรายการมาสเตอร์ 1000”



ผมไม่ชอบให้เป็นแบบนี้ ผมเสียใจมากนะ
เวลาที่อ่านพบข่าวอะไรที่มันไม่จริง
ในเวลาเดียวกัน ผมคิดว่าผมทำหน้าที่ทูตของสวิสเซอร์แลนด์ได้ดีที่สุดแล้ว”



สำหรับผมแล้ว เดวิส คัพไม่ใช่รายการเดียว
ที่คุณจะลงแข่งได้ในฐานะตัวแทนของประเทศชาติ

หลายเรื่องในบาเซิลดูแย่ลง (Things in Basel went bad),
แต่ผมหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะได้ข้อสรุปภายในสองสามสัปดาห์ข้างหน้านี้

เฟดกับเหรียญเงินโอลิมปิค อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวสวิส



Q : เรื่องอื่นที่วิจารณ์กันอีกก็เรื่อง เงินก้อนใหญ่ที่คุณทำมาหาได้มา
จำนวนมันมากกว่า 50 ล้านยูโร รายการทัวร์อเมริกาใต้ที่เพิ่งจบไป
ที่คุณมีรายได้ประมาณ 10-12 ล้านยูโร
แล้วยังสัญญาที่ทำกับโมเอต์ แอนด์ชองดอง (Moet&Chardon)ที่เพิ่งเซนต์สัญญาไปอีกล่ะ
คุณเซ็งกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้บ้างไหม



Roger : ผมรู้ดีว่า ผมไม่สามารถทำให้คนทุกคนชื่นชมผมได้
เรื่องนี้ ถ้าหากว่า ไม่มีใครมาจ้างผมสิ ผมว่าน่าจะเป็นเพราะผมทำตัวในทางที่ผิด ๆ นะ
ความตั้งใจของผมก็คือไม่ใช่จะพบเห็นได้ในทุกที่โดยเฉพาะในสวิสเซอร์แลนด์
แต่ผมจะทำอะไรได้ล่ะ ถ้าสื่อทั้งหลายอยากจะเม้าท์ผมแบบนั้น
มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
และบางครั้งมันก็ยากที่จะยอมรับคำวิจารณ์พวกนั้น
แต่หลายปีที่ผ่านมานี่ผมได้เรียนรู้ที่จะวางเฉยกับเรื่องพวกนี้
สิ่งสำคัญคือการที่จะเป็นตัวของผมเองเสมอ (รู้ตัวเองอยู่เสมอ)
ดังนั้นสิ่งที่เขียนขึ้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร



Q : ทั้งคุณและคุณโทนีออกจาก IMG มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
ตั้งแต่วันนั้นก็ยังคงไม่มีการประกาศอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเลย

Roger : ในปีนี้เราต่างก็ไม่มีเวลามากพอที่จะจัดการได้ทุกเรื่อง
เรายังต้องการเวลาที่จะปรึกษากันต่อไปว่าแผนการของเราควรจะเป็นอย่างไร

บางทีจะมีการแถลงข่าวในช่วงแข่งออสเตรเลียน โอเพน
สัญญาของผมกับ IMG หมดไปแล้วเมื่อกลางฤดูร้อนที่ผ่านมา
และในช่วงนั้นผมต้องการที่จะมุ่งความสนใจไปที่เรื่องการแข่งขันเท่านั้น
และไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนตัวเอง



Q : ปี 2013 นี้คุณก็อายุ 32 แล้ว
คุณจะยังเล่นต่อไปไหม หากว่าหล่นมาอยู่ในอันดับ 10,20,30
(ถามได้นะ)



Roger : เราคงได้รู้กัน เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น
เป้าหมายของผมในปีหน้าไม่ใช่การจบปีด้วยอันดับ 20
ผมบอกคุณได้เลย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเร็วมากในวงการเทนนิส
ดูก็ได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับนาดาลที่มีอาการบาดเจ็บ



Q : นอกจากบาดเจ็บแล้ว นาดาลก็ยังคงเป็นมืออันดับ 4
Roger : ก็ใช่นะ แต่ในช่วงหกเดือนแรกของปี
นาดาลก็มีแต้มป้องกันเยอะมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราทุกคนในการที่จะเริ่มต้นใหม่ทุก ๆปี
และก็คงไม่ใช่สำหรับเขาด้วย
สำหรับผม ผมมุ่งเน้นที่รายการที่ตัวเองลงแข่งเพราะว่ามีไม่มากนัก
ปี 2012 นี่ต้องพูดว่ามัน “crazy”สักเล็กน้อย
ผมเป็นไข้นะ ตอนแข่งที่อินเดียน เวลส์ แต่ผมก็ได้แชมป์รายการนั้นมา



ที่มาดริด ผมมีปัญหาเรื่องหัวเข่า และก็ยังไม่ดีขึ้นแม้แต่ตอนที่แข่งที่โรม
ผมคิดว่าปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของผม
คือ ศักยภาพตัวเองที่จะเล่นให้ได้ดี แม้แต่ในเวลาที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเต็มร้อย
ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ผมสามารถเอาชนะได้แม้ว่าตัวเองจะป่วยอยู่



Q : การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ ริโอ
ดูเหมือนว่าจะยังอีกนานมากเลยนะเมื่อหกเดือนก่อน
แต่ตอนนี้ เหมือนมันจะมาถึงในอีกไม่นานนี้เอง

Roger : ทุกสิ่งมันขึ้นอยู่กับว่า คุณมองมันอย่างไร
Everything depends on how you see things.

ถ้าหากว่าคุณลงแข่งปีละ 25 รายการ
มันก็แน่นอนว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า คุณก็จะไม่สามารถรักษาคุณภาพดี ๆ เอาไว้ได้อีก
การตัดสินใจต่าง ๆ ของผมตั้งอยู่บนเงื่อนไขพวกนี้

ผมหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงบ่นว่า
ฤดูกาลแข่งขันมันยาวเกินไปและน่าเหน็ดเหนื่อยมาก
นักเทนนิสน่าจะเลิกบ่นกันได้แล้ว เพราะในการแข่งขัน

คุณสามารถจัดตารางการแข่งของตัวเองได้
ไม่มีใครบังคับคุณได้ว่าจะต้องลงแข่งรายการนั้นหรือรายการนี้
มันไม่เหมือนกับเล่นสกีที่ซีซั่นจะจบลงทันทีที่คุณบาดเจ็บ
นาดาลเองแม้จะบาดเจ็บแต่ก็กำลังจะกลับมาเล่นอีกในเร็ว ๆนี้
และลงแข่งได้ในรายการที่เขาเป็นคนเลือกเอง





 

Create Date : 25 ธันวาคม 2555    
Last Update : 25 ธันวาคม 2555 22:11:23 น.
Counter : 754 Pageviews.  

Roger Federer talks about himself: >>>>>2

เป็นบทสัมภาษณ์โรเจอร์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555
โดย Federico Coppini
ที่มา : //www.tennisworldusa.org/?section=pre&id=7391



Q : ก่อนที่จะมาที่นี่ (ลาตินอเมริกา) คุณไปพักผ่อนมาสองอาทิตย์แล้ว
แล้วก็มาที่นี่โดยไม่เอาภรรยาและลูกแฝดมาด้วย
รู้สึกไหมว่า มันผิดแผกแตกต่างไปอย่างมากเลยนะ

พอจบซีซั่น ผมก็อยากพักผ่อน
และใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ห่างไกลออกจากงานไปบ้าง



ถ้าผมทำอาชีพอื่นที่แตกต่างออกไป ผมก็อาจจะมีวิธีพักผ่อนที่ต่างออกไปอีกก็ได้
ตอนที่มาที่นี่ ผมไม่ได้เจอกับครอบครัวมาประมาณสิบวันแล้ว
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
เรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่ผมไปเซี่ยงไฮ้
แต่เราก็เจอกันทุกวันผ่าน Skype

หมายเหตุ : ปีนี้เป็นปีแรกที่เฟดหอบหิ้วครอบครัวไปแข่งทุกประเทศ
ยกเว้นไปเซี่ยงไฮ้แต่เดิมมีข่าวว่าเมียร์ก้าและลูกสาวจะไปด้วย
ต่อมามีการขู่ทำร้ายเฟดผ่านเว็บไซด์แห่งหนึ่ง ถึงวันแข่งเฟดจึงไปกับทีมงานเท่านั้น

ในวิมเบิลดันปีนี้

สองสาวกับพี่เลี้ยง



แฟนคลับได้เห็นลูกสาวฝาแฝดของเฟดแบบเต็ม ๆ



รวมถึงที US Open ปีนี้ด้วย



Q : เพิ่งจบซีซั่น แต่คุณก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับปี 2013 แล้ว
(เฟดเริ่มซ้อมหลังกลับจากพักผ่อน และทัวร์ลาตินอเมริกาก็เหมือนเป็นการเตรียมพร้อมเช่นกัน)
แล้วในระหว่างช่วงคริสมาสนี้ล่ะ ?

ในระหว่างนั้นผมก็จะซ้อมเช่นกัน เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำคัญที่ผมต้องทำ
ปีที่แล้วผมใช้เวลาช่วงคริสมาสและช่วงวันสิ้นปีอยู่บนเครื่องบิน
(ไปแข่งรายการที่อาบูดาบี แต่ปีนี้ไม่ได้เล่นรายการนี้)
เมื่อไปออสเตรเลีย ผมตั้งใจว่าจะต้องใช้เวลาพักอย่างน้อย 3 วัน
ผมคิดว่าควรจะต้องดูแลร่างกายให้ดีกว่าเดิม ก่อนจะแข่งในรายการแกรนด์สแลม
ในช่วงฝึกซ้อมหนัก ๆนั้น ปกติผมนอนคืนละสิบหรือสิบเอ็ดชั่วโมง !!!!
เพื่อให้หายจากการอาการเหนื่อยและเพลีย
(ความจริงแฟนพันธุ์แท้เฟดคงจะจำกันได้ว่า เฟดเป็นคนที่นอนเยอะมากมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ !)

เพราะพอถึงเวลาแข่งในรายการใหญ่ ๆจริง ๆ แล้ว คุณจะได้นอนอย่างมากแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
แล้วยังต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บให้ได้ด้วย
ซึ่งเรื่องนี้นักกายภาพบำบัดของผมช่วยได้มากทีเดียว
stéphane vivier เป็นนักกายภาพคนปัจจุบันที่เฟดจ้างแบบเต็มเวลา
เดินทางไปด้วยกันตลอดตั้งแต่ปี 2009

อย่างไรก็ตาม ขนาดไปพักผ่อน เฟดก็ยังเข้ายิมนะคะ
รูปนี้จากเฟซบุ๊คของเฟดเอง ช่วงพักผ่อนก่อนจะไปทัวร์ลาตินอเมริกา



มีรูปทีมงานปัจจุบันของเฟดมาฝากค่ะ
Paul Annacone, Severin Lüthi, Roger Federer,
Tony Godsick, Stéphane Vivier, Nick Annacone



รูปนี้จากปาร์ตี้วันเกิดของเฟดปีนี้ที่ป้าแอนนาเป็นเจ้าภาพจัดให้ที่นิวยอร์ค
ในช่วงที่เฟดไปแข่ง US Open
(ดูรูปอื่น ๆ เพิ่มเติม
//www.vogue.com/parties/roger-federers-31st-birthday-party/)

Q : ปีหน้าเป็นปีแรกที่คุณไม่ได้แข่งรายการไหนเลยก่อนจะถึงออสเตรเลียน โอเพน
คุณคิดว่ามันเสี่ยงมากเกินไปหรือเปล่า

ผมมีคอนแท็คกับรายการที่ Doha ซึ่งผมต้องบอกล่วงหน้าก่อน
ปีหน้าผมคิดว่า ผมคงไม่สามารถลงแข่งได้มากเหมือนปีนี้อีกแล้ว
และปีนี้ที่โดฮา ผมก็เจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนจะลงแข่งรอบเซมิ

ในปี 2013 นี้เป้าหมายสำคัญที่สุดของผม
คือการฝึกซ้อมอย่างหนัก การพัฒนาวิธีการเล่นบางอย่างให้ดีขึ้น
ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของความอดทนด้วย (?)

เฟดที่โดฮา เมื่อต้นปีนี้



เฟดในวันที่ประกาศถอนตัวเพราะเจ็บหลัง ไม่ได้แข่งในรอบเซมิกับซองก้า



>>>> ยังมีต่อ >>>>>




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2555    
Last Update : 23 ธันวาคม 2555 21:40:53 น.
Counter : 1442 Pageviews.  

Roger Federer talks about himself:



เป็นบทสัมภาษณ์โรเจอร์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555
โดย Federico Coppini
ที่มา : //www.tennisworldusa.org/?section=pre&id=7391


Q : สิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดในการไปทัวร์บราซิลครั้งนี้
เฟดเล่าว่า --- แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ได้เจอกับเปเล่ เขาได้พบกับเปเล่ในวันเสาร์ที่ 8
ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ๆ เปเล่นั้นเป็นตำนาน เมื่อได้พบกัน
เฟดก็ตื่นเต้นและนึกอยู่ในใจว่า --นี่เป็นเรื่องจริงนะเนี่ย ไม่ใช่แค่ฝันไป --



ในความรู้สึกของเฟดนั้นเปเล่เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้



เมื่อได้พบกัน เปเล่สวมกอดเขาไว้แล้วก็บอกว่า ดีใจมากที่ได้เจอเฟด
ส่วนเฟดก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสเช่นนี้



คลิปที่เฟดไปเจอกับเปเล่ค่ะ เฟดดาวน์โหลดไว้ในเฟซบุ๊คตัวเองด้วย



นอกจากช่วงเวลาดี ๆที่ได้เจอกับเปเล่ที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของตัวเองแล้ว



เขาเล่าว่า ยังมีช่วงเวลาดี ๆ กับเด็ก ๆที่นั่น
ซึ่งเฟดชอบมากที่ได้ให้คำแนะนำเด็ก ๆ
และอยากมีเวลาทำอะไรแบบนี้ให้มากขึ้นอีกในอนาคต



Q : แล้วมีอะไรที่ไม่ชอบบ้างไหม



ไม่มีนะ มีแต่ความสนุกสนานในทุก ๆ ที่ที่ไป
ผมได้เจอกับแฟน ๆ หลายคนที่พอเจอหน้าผมก็เอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้
เสียดายไม่มีรูปแบบนี้เลย อยากเห็นล่ะ)
พอเจอหน้าผม พวกเขาก็มีอาการตัวสั่นไปหมด
แล้วก็เริ่มร้องไห้ออกมาก ผมก็กอดเขาไว้
แล้วก็ปลอบใจว่า ไม่มีอะไรนะ ไม่ต้องร้อง



Q : เคยคาดหวังไว้ไหมว่าจะได้รับการต้อนรับขนาดนี้



ไม่ได้คาดหวังว่าจะมากขนาดนี้ ก่อนที่จะไปถึงอเมริกาใต้
ผมคิดว่า แฟน ๆที่นั่นคงจะดีใจมากที่ได้เจอผม
ซึ่งก็เป็นเรื่องของความสนุกสนานตื่นเต้นเป็นปกติของคนที่นั่น
ที่เราเคยพูดกันมานานแล้ว
แต่ผมไม่คาดมาก่อนเลยว่า การได้พบกับแฟน ๆที่นั่น
จะเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากขนาดนั้น



Q : เวลาที่มีคนยกย่องให้เกียรติคุณมาก ๆ แบบนี้
มันยากไหมที่คุณจะต้องนึกถึงตัวเองในฐานะที่เป็น โรเจอร์จาก Muenchenstein
(เขตที่เป็นบ้านเกิดของเฟด เป็นเขตที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางที่ค่อนข้างร่ำรวยในเมืองบาเซิล)

แน่นอน ผมมักจะเตือนตัวเองเสมอ ๆ ว่าผมมาจากไหน และผมเป็นใคร
ผมยังชอบที่จะมีชีวิตอยู่แบบคนธรรมดา ทั่วไป กลับไปสู่ความเป็นจริง
ใช้ชีวิตแบบสงบสุขอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง
ถึงแม้ว่าบางครั้งผมจะมีชีวิตในแบบที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อน
ผมคิดอยู่เสมอ ๆว่า ด้วยอายุขนาดนี้แล้วได้ใช้ชีวิตแบบที่ผมเป็นอยู่นี่
เป็นเรื่องสุดยอดแล้ว ผมตระหนักดีว่า “เทนนิส” ให้ผมได้มากแค่ไหน
และผมต้องขอบคุณกีฬาชนิดนี้จริง ๆ

เอาสองรูปนี้มาฝากค่ะ รูปแรกเป็นทิวทัศน์บริเวณที่เฟดไปซื้อสวิสชาเลต์เอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ



ชาเลต์ที่ว่านี่ เป็นสองหลังคู่ ของพ่อกับแม่และครอบครัวของไดอานาหลังนึง
อีกหลังเป็นของเฟดกับครอบครัว ตามข่าวบอกว่ามูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลล่าร์
มีเพื่อนบ้านใกล้ ๆ อีกประมาณ 4 หลัง
ข่าวนี้ blick ลงไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนรายการสวิสอินดอร์ ปีนี้เอง




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2555    
Last Update : 22 ธันวาคม 2555 21:58:04 น.
Counter : 861 Pageviews.  

Roger Federer : Swiss Athlete of the year 2012.

เฟดได้รางวัล "นักกีฬาสวิสแห่งปี" ค่ะ เป็นครั้งที่ 5 แล้วนะ ยินดีด้วยจริง ๆจ้า



ส่วนนักกีฬาหญิงปีนี้ได้แก่ Nicola Spirig นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค

Roger Federer and Nicola Spirig won the Credit Suisse Sports Awards 2012.



He is been honoured as "Swiss Athlete of the Year"
for the 5th time now.(2003, 2004, 2006, 2007, and 2012).



ROGER: "it is strange in a sense to receive an ovation like that in Switzerland.
It's hard to compare different sports, all deserved this award.
To Be here tonight was my desire,
I'm happy to share with you all this time. "



Congratulations Roger



Swiss Athlete of the year 2012 :

Male : Roger Federer.
Female : Nicola Spirig,triathlete Olympic Champion.
Team : FC Basel
New Comer : Benjamin Weger, biathlon.
Disable Athlete : Edith Wolf-Hunkeler, wheelchair sports.
Coach : Roberto Di Matteo, Chelsea Manager



"There is nothing more wonderful than receiving standing ovations in Switzerland.



I do hope I can continue to spark emotions,"



เว็บไซต์ของเฟดรายงานว่า นี่เป็นครั้งแรก นับจากปี 2005
เป็นต้นมา ที่เฟดมาปรากฏตัวรับรางวัลในงานด้วยตัวเอง
เนื่องจากสวิสอยู่ในเส้นทางที่เฟดกลับมาจากทัวร์ลาตินอเมริกา
และกำลังจะกลับไปที่ดูไบ



It was the first time since 2005
that he was able to personally attend the gala
as Switzerland was an ideal stop-over
between the Gillette Federer Tour through South America
and his next stop Dubai.



เฮฮา กันถ้วนหน้า



ดูดีทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ
He always be good looking !



Swiss Athlete of the Year 2012.






 

Create Date : 17 ธันวาคม 2555    
Last Update : 18 ธันวาคม 2555 14:28:15 น.
Counter : 1495 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

เวสาตรี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add เวสาตรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.