ช่วงเวลา 05.00 - 07.00 น. จะเป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ทำงาน หากไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้แล้วปล่อยให้ล่วงเลยมาถึง 07.00 - 09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาทำงานของกระเพาะอาหารซ้ำร้ายกว่านั้นเจ้าของกระเพาะยังไม่ทานข้าวเช้าอีก ทีนี้แหละอุจจาระจากลำไส้ใหญ่ที่ยังค้างคาใจอยู่จะถูกบีบตัวขึ้นมาผ่านลำไส้เล็กมายังกระเพาะอาหารซึ่งจะมีการดูดซึมอีกครั้งที่นี่ (พูดง่ายๆคล้ายจะมีคุณค่าว่า “อุจจาระรีไซเคิล”) และเนื่องจากอุณหภูมิของร่างกาย 37 องศาส่งผลให้เกิดการบูดเน่าของอาหารที่ค้างอยู่ อุจจาระดังกล่าวจึงมีแก๊สที่เกิดจากการบูดเน่าปนอยู่ด้วย ดังนั้นแก๊สพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด คำถามคือแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราและมันสำคัญมากพอที่จะต้องใส่ใจหรือไม่ มาดูกันเลย

1.มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก เนื่องจากเลือดที่ถูกเจือปนด้วยแก๊สพิษนี้จะถูกส่งไปเลี้ยงปอดและปอดจะทำการขับออกทางผิวหนังและลมหายใจ

2.ช่วงเวลา 12.00 – 13.00 น. จะมีอาการง่วงนอน (อันนี้ไม่ต้องรอให้อุจจาระมีสารพิษก็ได้นะ ข้าวเหนียวก็คาที่แล้ว) เนื่องจากเลือดที่ปนเปื้อนแก๊สพิษนี้จะถูกส่งไปเลี้ยงหัวใจ หัวใจจะอ่อนล้า ไม่สดชื่น

3.เมื่ออายุมากขึ้นจะปวดเข่า , เป็นริดสีดวงทวาร

4.หากไม่ขับถ่ายในช่วงเวลา 05.00 – 07.00 น. เป็นเวลานานๆประกอบกับไม่ทานอาหารเช้าในช่วงเวลา 07.00 – 09.00 น. สมองจะไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เมื่อแก่ตัวความจำจะเสื่อมเร็ว

วิธีแก้ไข

1.พยายามขับถ่ายระหว่างเวลา 05.00 – 09.00 น. ถ้าไม่ขับถ่ายให้ทานขมิ้นชันเป็นประจำเพื่อบริหารลำไส้ใหญ่ (เดี๋ยวนี้มีขมิ้นชันแบบแคปซูลทานสะดวกขึ้นเยอะแต่ต้องลองถามเรื่องความสะอาดกับกรรมวิธีของผู้ผลิตนะคะเพราะกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดสารสเตียรอยด์ได้ค่ะ)

2.ควรทานข้าวเช้าทุกวันระหว่างเวลา 07.00 – 09.00 น.

Create Date : 15 สิงหาคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2558 14:25:38 น.		0 comments
Counter : 184 Pageviews.
Share Tweet