ทรงผมสั้น ดัดปลาย สวยเท่ห์ๆแบบสาวมั่น สาวเซอร์ ทรงผมผู้หญิง ดัดปลายอ่อนๆ แบบชี้ๆ เซอร์ๆ ทรงนี้ สาวมั่น สาวเท่ห์ คงชอบกัน เพราะมีความสวยเฉียบแตกต่างโดยเน้นที่ทรงผมที่ซอยเรียบง่าย ทรงผมผู้หญิง ดัดปลายอ่อนๆ แบบชี้ๆ เซอร์ๆ ทรงนี้ สาวมั่น สาวเท่ห์ คงชอบกัน เพราะมีความสวยเฉียบ แตกต่าง โดยเน้นที่ทรงผมที่ซอยเรียบง่าย ประมาณบ่า ไม่สั้นหรือยาวเกินไป เพื่อให้เซ็ทง่ายและให้รับกับใบหน้า เหมาะกับคุณผู้หญิงในทุกรูปหน้า  โดยแต่เพิ่มความน่าสนใจตรง การดัดปลายผมอ่อนๆ เพื่อให้ปลานผมชี้ ดูเป็นเซอร์ๆ เท่ห์ เปรี้ยวไปอีกแบบ สาวๆที่ชอบความเรียบง่าย แต่ชอบความเท่ห์ ลองเปลี่ยนสีผมด้วยโทรสี แดง น้ำตาล หรือส้ม จะช่วยให้ดูเป็นสาวมีเสหืน์ไปอีกแบบค่ะ การเซ็ททรงผมเพียงใส่มูล แล้วไดร์ช่วยปลายผม จับม้วนปลายผมให้ ปลายผมชี้ จับเป็นก้อน พร้อมใส่เจลในช่วงผมแสกข้าง เพื่อให้ผมอยู่ทรง และผมด้านหน้าปัดข้างออก ช่วยให้ทรงผมมีวอลลุ่มมากขึ้นด้วยค่ะ  //women.postjung.com/1338.html   Create Date : 15 มิถุนายน 2555     1 comment Last Update : 15 มิถุนายน 2555 20:41:32 น.     Counter : 8116 Pageviews.   Share Tweet

Nissan Caravan NV350 ว่าที่ Urvan ใหม่ให้ดูความงามอีกครั้งผ่านวีดีโอ เงียบหายกันไปตั้งแต่เมื่อช่วงปีที่แล้ว สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อย่างรถตู้รุ่นใหม่ของค่ายรถยนต์  Nissanที่มาโชว์โฉมเมื่องาน Tokyo Motor Show 2012  ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นว่าที่รถตู้รุ่นใหม่ ที่บ้านเร อาจจะรู้ในนาม  "Nissan Urvan"                 ชื่อที่คุ้นหูแม้อาจจะมาช้า แต่ในขณะที่เราเคยนำภาพของรถรุ่นนี้มาให้ได้ชมกันไปแล้ว Nissan ก็เพิ่งพาเราชมกันอย่างเป็นทางการ ในว่าที่รถตู้รุ่นใหม่  Nissan Caravan NV350 ในวีดีโอ ที่เผยถึงการออกแบบของรถจากตัวจริง โดยถ่ายทำที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ วีดีโอนี อาจจะยังเป็นภาษาญี่ปุ่นในการบรรยายถึงสรรพคุณของรถที่เน้นในการตอบสนองในการใช้งาน อย่างเหมาะสมกับความเป็นจริง แต่ยังดีที่มีภาษาอังกฤษแปลให้ Nissan Caravan NV 350 ยังไม่มีการเปิดเผยว่า จะวางจำหน่ายบ้าน เราแต่โดยรวมของรถคันนี้ ทางผู้ออกแบบ นาย เรียวอิจิ คุราโอกะ หัวหน้าทีมออกแบบ Nissan Caravan NV350  เปิดเผยว่า ทั้งหมดของรถคันนี้คือการเน้นความมั่นใจในการขับขี่ และยังดูมีความทันสมัยในตัวมันเองด้วย ทั้งนี้มีความเชื่อว่า Nissan Caravan NV 350 จะพร้อมวางขายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ในขณะที่ยังไม่มีราคาเปิดเผยมา เช่นเดียวกับสเป็คเครื่องยนต์คร่าวๆ ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไป .. สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 15 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 15 มิถุนายน 2555 20:40:10 น.     Counter : 2408 Pageviews.   Share Tweet

ราชินีป่าฝน “ดอกกระเจียว” เที่ยวกี่ทีไม่มีเบื่อ ทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูที่ อช.ป่าหินงาม หลายคนอาจจะขยาดกับสายฝน เพราะยังเข็ดกับน้ำท่วมปีที่แล้วไม่หาย เลยพาลไม่อยากให้ฝนตกเยอะๆ กลัวน้องน้ำจะมาเยี่ยมเยือนอีก แต่สำหรับต้นไม้ใบหญ้าแล้ว สายฝนเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่ฟื้นชีวิตและความเขียวขจีของป่า และยังทำให้ดอกไม้ที่ได้ชื่อว่า “ราชินีแห่งป่าฝน” อย่าง “ดอกกระเจียว” ที่หลับใหลอยู่ในดินออกมาเบ่งบานเริงร่าให้เราได้ชมกัน ดอกกระเจียว ได้ชื่อว่าราชินีแห่งป่าฝน “ดอกกระเจียว” หรือที่บางคนเรียกว่า “บัวสวรรค์” นั้น เป็นพืชวงศ์เดียวกับขิง และเป็นไม้ล้มลุกซึ่งมีเหง้าอยู่ใต้ดิน ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนเหง้าดอกกระเจียวจะฝังอยู่ใต้ดิน เมื่อเข้าสู่หน้าฝน สายฝนจะปลุกเหง้าดอกกระเจียวให้แทงหน่อต่อยอดเติบโตและค่อยๆ ผลิดอกออกมาอวดโฉมความงามสมดังฉายาราชินีแห่งป่าฝน และในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ดอกกระเจียวก็กำลังเบ่งบานให้เราได้ชื่นชมกัน แต่จะสามารถชมได้ที่ไหนบ้างนั้น ลองไปดูกัน หินถ้วยฟีฟ่า อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ อช.ป่าหินงาม กระเจียวเริงร่าในป่าหิน แหล่งชมดอกกระเจียวยอดฮิต ต้องยกให้ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” ในอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ที่กำลังอยู่ในช่วงการจัดงาน “เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามจังหวัดชัยภูมิ” โดยจัดขึ้นใน 2 พื้นที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง สำหรับอุทยานแห่งชาติป่าหินงามถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวแปลงใหญ่ที่สุด ในเมืองไทย ที่นี่มีดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงเบ่งบานเต็มท้องทุ่ง สีชมพูสดใสตัดกับสีเขียวสดของทุ่งหญ้าเพ็ก ที่มีต้นไม้ ก้อนหินใหญ่น้อย และผืนป่าเต็งรังเบื้องหลังเป็นฉากที่เพิ่มเสน่ห์และสวยงามให้มากขึ้น “ตะลอนเที่ยว” ขอ แนะนำให้เดินชมทุ่งดอกกระเจียวในช่วงเช้าตรู่ เพราะถือเป็นช่วงเวลาทองที่เหมาะแก่การชมทุ่งดอกกระเจียวที่สุด เพราะในช่วงนี้จะมีสายหมอกขาวโพลนที่กลั่นตัวจากความชุ่มชื้นของดินและไอฝน ลอยอ้อยอิ่งคลอเคลียดอกกระเจียวในทุ่ง รวมถึงน้ำค้างพร่างพราวที่เกาะค้างบนใบหญ้าและดอกไม้ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกใน การถ่ายรูปได้มากขึ้นไปอีก กระเจียวสีขาว แห่ง อช.ไทรทอง ทางอุทยานได้จัดทำทางเดินลัดเลาะไปในทุ่งหญ้าไว้ให้นักท่องเที่ยว เดินชมดอกกระเจียวได้อย่างสะดวก และยังเป็นการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินออกนอกลู่นอกทางไปเหยียบย่ำดอก กระเจียวเสียหาย และสำหรับใครที่หลงใหลความสวยงามของดอกกระเจียวจนอยากจะเด็ดติดมือกลับไปดู ที่บ้านแล้วละก็ ขอบอกว่าค่าปรับราคาดอกละ 500 บาท แบบไม่มีต่อ สำหรับในช่วงนี้ดอกกระเจียวที่ อช.ป่าหินงามเพิ่งเริ่มบานได้ประมาณ 15% ใครที่อยากจะเห็นช่วงดอกไม้บานเต็มท้องทุ่งควรรอช่วงปลายเดือนมิถุนายนเป็น ต้นไป ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่าง จุดชมวิวสุดแผ่นดิน ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย เป็นเขตรอยต่อของ 3 จังหวัด 3 ภาค อันได้แก่ จ.ชัยภูมิ (ภาคอีสาน) จ.ลพบุรี (ภาคกลาง) และ จ.เพชรบูรณ์ (ภาคเหนือ) มีลักษณะเป็นแนวผาและชะง่อนหินที่นักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปบน ชะง่อนหินริมหน้าผาดูน่าหวาดเสียว ผาหำหด จุดชมวิวที่ใครๆ ก็พลาดไม่ได้ที่จะมาถ่ายรูป และอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือประติมากรรมธรรมชาติ หรือ “ลานหินงาม” ซึ่งมีหินรูปร่างแปลกตาเกิดจากการกัดเซาะของลมและฝน จนกลายเป็นแท่งหินรูปลักษณ์แตกต่างกันให้คนได้จินตนาการ เช่น หินถ้วยฟีฟ่า หินรูปเรดาห์ หินตะปู หินรูปปราสาทโบราณ ฯลฯ เดินชมถ่ายรูปกันได้สนุกสนาน กระเจียวสีขาว ดาวแต้มดิน ที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” ในอำเภอหนองบัวระเหว (บัว-ระ-เหว๋) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งแห่งในการจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามจังหวัดชัยภูมิ ทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะบานช้าและร่วงโรยช้ากว่าที่ป่าหินงาม ทำให้นักท่องเที่ยวชมดอกกระเจียวได้แบบต่อเนื่อง แถมที่นี่ยังมีทั้งดอกกระเจียวสีชมพูสวยสดใส และดอกกระเจียวสีขาวดอกเล็กๆ น่ารักให้ชมกันจำนวนมากที่นี่ที่เดียว สำหรับเส้นทางการเดินทางขึ้นไปชมทุ่งดอกกระเจียวที่ อช.ไทรทอง บางช่วงค่อนข้างวิบาก ทางอุทยานจึงให้นักท่องเที่ยวจอดรถไว้ที่ทำการอุทยาน แล้วเหมารถกระบะโฟร์วีลของทางอุทยานต่อขึ้นไป แล้วจึงเดินไปตามเส้นทางเดินในป่า ซึ่งจะต้องผ่านแนวหน้าผาซึ่งเป็นหน้าผาตามสันเขาพังเหยด้านตะวันตก เช่น ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาอาทิตย์อัสดง ผาสวนสวรรค์ แต่หน้าผาที่ขึ้นชื่อที่สุดของ อช.ไทรทอง ต้องยกให้ “ผาหำหด” ซึ่งความสูงและความเสียวถูกบรรยายไว้ในชื่อหน้าผา ใครอยากรู้ว่าเสียวแค่ไหนต้องมาชมเอง กระเจียวใหญ่กว่า 1 ฟุต ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ส่วนดอกกระเจียวของที่นี่มีอยู่ 5 ทุ่งใหญ่ๆ สำหรับดอกกระเจียวสีชมพูจะชูก้านยาวล้อเล่นลมอย่างร่าเริงสกใส แต่ดอกกระเจียวสีขาวซึ่งมีขนาดเล็กว่าจะขึ้นอยู่เรี่ยพื้นดินเหมือนคนขี้อาย แอบยิ้มอย่างน่ารัก เมื่อดอกกระเจียวสีขาวขึ้นกระจายอยู่ในท้องทุ่งกว้าง มองไปแล้วดูคล้ายดวงดาวสีขาวแต่งแต้มพื้นดินให้ดูงดงามน่ารักไปอีกแบบหนึ่ง จากการสอบถามไปยัง อช.ไทรทอง ขณะนี้ดอกกระเจียวเริ่มบานแล้ว 30% ช่วงปลายเดือนมิถุนายนน่าจะบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งพอดี หากใครยังเที่ยวไม่ฉ่ำใจ เมื่อกลับลงมาที่ที่ทำการอุทยานแล้วก็อย่าลืมแวะไปพักผ่อนกับสายน้ำเย็นๆ ที่น้ำตกไทรทอง น้ำตกที่มีความสูงประมาณ 5 เมตร กว้าง 80 เมตร ในช่วงหน้าน้ำสายน้ำตกจะแผ่กว้างตกลงมาเป็นม่านน้ำงดงาม มีแอ่งน้ำใหญ่อยู่บริเวณหน้าน้ำตก เรียกว่าวังไทร สามารถลงเล่นน้ำกันได้ จุดชมวิวผาเขากลาง มองเห็นเทือกเขาพังเหยของชัยภูมิ กระเจียวดอกใหญ่ ในป่าซับลังกา ไม่ไกลจากดินแดนดอกกระเจียวจังหวัดชัยภูมิ ในจังหวัดที่มีพื้นที่ต่อกันอย่างจังหวัดลพบุรี ก็มีดอกกระเจียวให้ชมกัน แถมยังเป็นกระเจียวที่มีความพิเศษตรงที่เป็นกระเจียวดอกใหญ่ ความยาวถึง 1 ฟุต สถานที่ที่ว่าก็คือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา” อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ซึ่งบริเวณที่มีดงดอกกระเจียวขึ้นตามธรรมชาตินั้นเรียกว่า “ป่ากระเจียวย่อย” มีดอกกระเจียวขึ้นกระจายทั่วบริเวณ โดยดอกกระเจียวของที่นี่เรียกว่า “บัวชั้น” เป็นคนละพันธุ์กับบัวสวรรค์แบบที่ป่าหินงาม และขนาดดอกก็มีความยาวกว่า คือยาวเกือบ 1 ฟุต กลีบแข็งเป็นสีชมพูสด แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า โดยใครที่อยากชมต้องมาในช่วงเดือนกรกฎาถึงสิงหาคม นอกจากนั้น ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าซับลังกาก็ยังมีแหล่งศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจอย่าง “ผาเขากลาง” จุดชมวิวของป่าซับลังกา ห่างจากที่ทำการเขตฯ ราว 3 กิโลเมตร โดย ณ จุดนี้ เมื่อมองไปด้านหน้าจะเห็นเทือกเขายาวพาดขวางหน้า นั่นก็คือเทือกเขาพังเหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามของจังหวัดชัยภูมินั่นเอง และที่จุดเดียวกันนี้ในช่วงหน้าหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนจะเห็นสีของป่า ชัดเจน เพราะในแถบนี้จะมีทั้งป่าไผ่ ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ซึ่งจะขึ้นอยู่ในระดับความสูงที่ต่างกัน มองเห็นสีที่แตกต่างของป่าแต่ละประเภทได้เป็นชั้นๆ ทุ่งกระเจียวสีส้มที่ อช.น้ำตกพาเจริญ เนื่องจากที่นี่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งมีความเข้มงวดในการรักษาธรรมชาติมากกว่าอุทยานแห่งชาติ ผู้ที่สนใจจะมาท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติหรือต้องการชมดอกกระเจียว พันธุ์ยักษ์จึงต้องติดต่อกับทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาล่วงหน้าก่อน เข้าชม กระเจียวสีส้ม ชมเพลิน ดอกกระเจียวสีชมพูเห็นบ่อยแล้ว ดอกกระเจียวสีขาวก็มีแล้ว คราวนี้มาชมดอกกระเจียวสีส้ม ที่ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ” ที่มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก กันบ้าง กระเจียวสีส้มที่ปลูกเป็นทุ่งกว้างที่น้ำตกพาเจริญ ในผืนป่าตะวันตกอย่างจังหวัดตากก็มีดอกกระเจียวป่าขึ้นอยู่ตาม ธรรมชาติเช่นกัน ซึ่งก็มีดอกกระเจียวสีส้มที่ดูสวยแปลกตา จนทางอุทยานได้นำพันธุ์ดอกกระเจียวสีส้มมาปลูกไว้ที่บริเวณด้านหน้าทางขึ้น น้ำตกพาเจริญจนเป็นทุ่งดอกกระเจียวสีส้มดูสดใสไปทั่วบริเวณ เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน และทำให้ดอกกระเจียวสีส้มของน้ำตกพาเจริญเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นด้วย ส่วน “น้ำตกพาเจริญ” ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนนิยมมาเที่ยวและพักผ่อนเป็นจำนวนมาก เพราะเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากเมืองแม่สอด เป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำห้วยน้ำไหลมารวมกับแหล่งน้ำซับแล้วไหลลงสู่ชั้น น้ำตกที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยนับรวมได้ถึง 97 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปีแต่จะสวยงามที่สุดในช่วงปลายฤดูฝน ช่วงเดียวกับที่ดอกกระเจียวสีส้มจะบานช่วงกลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือน สิงหาคมนั่นเอง น้ำตกพาเจริญ น้ำตกน่าเที่ยวเมืองแม่สอด *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *  สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาบานของดอกกระเจียวได้ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร. 0 4489 0105 อุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. 08 9282 3437 อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ โทร. 0 5557 7590 และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา โทร. 0 3641 5936 //www.jaowka.com/   Create Date : 13 มิถุนายน 2555     1 comment Last Update : 13 มิถุนายน 2555 20:55:23 น.     Counter : 2503 Pageviews.   Share Tweet

งาน Retro Art เช็ควัยของคุณ มาเช็คกันสักหน่อยว่าคุณอายุเท่าไหร่ โดยกระดาษอาร์ตสร้างเป็นงาน Retro ได้แบบเก๋ๆ //webboard.sanook.com/forum/?topic=3609777   Create Date : 13 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 13 มิถุนายน 2555 20:53:29 น.     Counter : 6837 Pageviews.   Share Tweet

7เทคโนโลยีประหยัดชั้นนำ ที่มันมาแล้วในรถใหม่ใกล้คุณ ทุกวันนี้เมื่อพูดถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีราคาสุงขึ้นตามลำดับแล้ว เราคงต้องยอมรับว่า เจ้ารถเหล่านี้ ไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้มันดูก้าวกล้ำ แต่เมื่อเทียบรถที่มีขนาดเดียวกันกับยุคก่อน มันยังประหยัดขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มตัวเลขต่อไปเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองยุคน้ำมันแพง                 แม้บ้านเราจะยังไม่ค่อยได้พบเทคโนโลยีเหล่านี้มากมายนัก ส่วนหนึ่งคงต้องยอมรับว่า ต้องให้รัฐเป็นผู้นำในการเปิดช่องทางสู่ตลาดประหยัดมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะคุณน่าจะรู้ไว้ว่า รถยนต์ทุกวันนี้ มีอะไรมากกว่าแค่ 4 ล้อและพวงมาลัย บวกคันเร่งและเบรค แต่มันยังมีเหล่าเทคโนโลยียอดประชั้นนำด้วย 1.หลักอากาศพลศาสตร์ อาจจะเป็นที่ได้ยินมานานมากแล้ว แต่เราคงไม่คิดว่านี่คือเทคโนโลยีประหยัดของรถวันนี้ ซึ่งเป็นการเน้นในเส้นสายการออกแบบให้ลู่ลม โดยลดค่าสัมประสิทธิ์เสียดทานอากาศให้น้อยลง ส่งผลให้มีความลู่ลมมากยิ่งขึ้น ยิ่งค่านี้น้อยเท่าไร ก็ทำให้ลดการให้น้ำมันในการขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในย่านความเร็วสูง อย่างเช่น  Mitsubishi Mirage ที่ค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศ หรือ Cd เพียง 0.29 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะประหยัดน้ำมันมากกว่า 2.ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ระบบที่มีชื่อเสียงเรียงนามต่างกัน ตามแต่ที่ค่ายรถยนต์จะเรียก แต่มันมีแนวทางเดียวกัน คือลดการใช้งานเครื่องยนต์เมื่อไม่ได้ขับเคลื่อน งปัจจุบันในไทยก็มีเข้ามาแล้วใน  Nissan Almera ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนหัวบันไดไม่แห้ง โดยการทำงานของระบบนี้ใช้วิธีการสั่งเครื่องยนต์หยุดทำงานชั่วคราว โดยสัมพันธ์กับระบบส่งกำลัง ระบบไฟฟ้า และ ระบบปรับสภาพอากาศในห้องโดยสารเพื่อความเหมาะสม และเมื่อปล่อยเบรคเครื่องยนต์ก็พร้อมทำงานอีกครั้ง 3.ยางลดแรงต้าน  อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูนัก แต่ถ้าเราพูดว่า Low Rolling Resistant Tire หลายคนคงจะถึงบางอ้อในฉับพลันกับยางที่ช่วยในการประหยัดน้ำมันได้เป็นเลิศ "ยางลดแรงต้าน" มีมาได้สักพักหนึ่งแล้ว  โดยยางประเภทนี้เริ่มคิดค้นมาตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งจากข้อมูลของ California Energy Commission (CEC) เผยว่า ยางประหยัดน้ำมันเหล่านี้ช่วยคุณประหยัดได้ถึง 1.5-4.5%  ของการบริโภคน้ำมันเมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ใส่ยางแบบเดียวกันนี้  โดยในบ้านเราก็มียางแบบนี้หลายยี่ห้อ เช่น  Bridgestone Ecopia และ Michealin Energy XM2  เป็นต้น 4.ปุ่ม และไฟ Eco ...  คงไม่ต้องบอกว่าเจ้าไหนเป็นต้นคิดในเรื่องนี้ เพราะคงทราบกันดีอยู่แล้ว โดยหลักการทำงานก็ไม่ยากเพราเมื่อกดปุ่มระบบก็จะเข้ามาควบคมุการสั่งจ่ายน้ำมันและลิ้นปีผีเสื้อ โดย นาย  คริส มาร์ติน จากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Honda  เปิดเผยว่า เมื่อกดปุ่ม Eco ระบบจะเข้าไปทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อ โดยจะทำงานให้อยู่ในช่วง 10- 80 % ซึ่งเมื่อใช้คันเร่งน้อยลงก็ทำให้มีโอกาสที่จะประหยัดน้ำมันมากขึ้น 5.พวงมาลัยไฟฟ้า คิดไม่ถึงล่ะสิว่า วิศวกรยานยนต์เขาคิดอะไรมากกว่าที่คุณคิด และพวงมาลัยไฟฟ้า คือหนึ่งในเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันที่จะพบได้ ในหลากรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งดั้งเดิมเราจะใช้ระบบไฮโดรลิกในการควบคุมพวงมาลัย และมันทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้กินกำลังเครื่องยนต์แต่พวงมาลัยไฟฟ้าจะทำงานเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น ทั้งยังทำให้ลดเรื่องน้ำหนักของระบบไฮโดรลิคลงไปได้จำนวนมาก อย่างเช่นในรถ Chevrolet Malibu ที่เปิดตัวไปแล้วที่ต่างประเทศ เชฟโรเล็ตอ้างว่า มันจะมีอัตราประหยัดกว่าเดิมถึง 2.5% จากการใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ 6.แปรผันความจุเครื่องยนต์ .. ยอดเทคโนโลยีแห่งยุค ที่คุณอาจจะไม่คิดว่ามันมีจริง อันที่จริงมันมาถึงเมืองไทยนานมากแล้ว แต่ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงกันเท่าไรนัก กับระบบแปรผันความจุ หรือจะเรียกว่า "แปรผันการทำงานของลูกสูบ" ก็คงไม่ผิด ความจริงก็มีหลายเจ้าที่พัฒนาระบบนี้ แต่ในบ้านเรา  Honda  ดูจะเป็นผู้นำ ที่ใส่มาในรถ  Honda Accord V6 ในชื่อ variable cylinder management (VCM) โดยจะจัดการสั่งการทำงานของลูกสูบให้เหมาะสมกับสภาพใช้งาน ซึ่งเวอร์ชั่นปัจจุบันมันสามารถเปลี่ยนการทำงานได้ 3 แบบ คือ ทำงานแบบ 6 สูบ 4 สูบ และ 3 สูบ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมจากระบบคอมพิวเตอร์   7.เทอร์โบเพิ่มพลังประหยัดน้ำมัน ยังไม่เห็นดป้นที่ชัดเจนในไทย แต่ก็เริ่มมาแล้วสำหรับรถพลังแรงในแบบประหยัดน้ำมัน และในอนาคตจะต้องมีมากรุ่นกว่านี้อีก เทคนิคการเพิ่มเทอร์โบประหยัดน้ำมัน เป็นเรื่องที่อาจจะขัดแย้ง เมื่อเทอร์โบคือการเพิ่มสมรรถนะ แต่กลับกันมันก็กินน้ำมันมากกว่า นั่นอาจจะเป้นขข้อเท็จจริงที่เลี่ยงไม่ได้ แต่วิศวกรยานยนต์ก็มีไอเดียดี ว่า ทำไมไม่เพิ่มกำลังให้เครื่องเล็กเพื่อที่จะทำงานได้เหมือนเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่เครื่องเล็ก ทำอย่างไรมันก้ย่อมประหยัดกว่า และนั่นเป็นที่มาของแนวคิด โดยเฉพาะ การให้พลังแรงบิดมากขึ้นอาจช่วงให้ตอบสนองดีขึ้นด้วย ขณะนี้ในบ้านเรา ก็มี Proton Exora turbo  เมาประเดิม ด้วยกำลัง 138 แรงม้า แต่ความสามารถและการใช้งานของมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เลยทีเดียว ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อาจจะพูดได้ว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของคำว่า เทคโนโลยีประหยัด ที่หลายคนอาจจะไม่รู้สึกว่ารถใหม่อาจจะมีดีกว่าที่คุณคิด แต่ไม่ว่าอย่างริ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ทุกวันนี้ราคาน้ำมันต่างแพงขึ้น และคงถึงเวลาที่เราต้องหันมาขบคิดเรื่องการทำตัวเองให้ประหยัดมาก  ๆ   Create Date : 13 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 13 มิถุนายน 2555 20:51:35 น.     Counter : 2379 Pageviews.   Share Tweet