Group Blog
 
All blogs
 

[PIC] ไปเวียนเทียนที่ดอกสุเทพกัน

เอาล่ะ หลังจากชมสวนแล้วไปลุยหม้อสุกี้กันแล้ว ก็ขึ้นดอยไปพร้อมกลิ่นสุกี้ฉุยๆ เลย (เอ... ไม่รู้คิดมากไปหรือเปล่า น้ำจิ้มสุกี้เค็มไปหน่อยนะ )

พอขึ้นไป เจอช้างน้อยบรรทุกน้ำสรงพระธาตุพระราชทานเลยค่ะ โชคดีที่เขายังจอดทิ้งไว้อยู่ เพราะวันที่เราขึ้นไป เป็นวันถัดจากวันเดินขึ้นดอยพอดี


เดินไม่ไหว หนักท้อง เลยขอตามคนแก่ขึ้นรถราง เอ้ย... ลิฟท์ลางขึ้นดอยละกัน เดี๋ยวนี้ทำเป็นอุโมงค์ลากขึ้น-ลงประหลาดๆ ไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย อุดอู้ด้วย แต่เขาให้ความเห็นว่า แบบนี้ปลอดภัยกว่า หลังจากมีข่าวรถรางตกดอยมาแล้ว

โผล่มาเจอซุ้มฟ้ามุ่ยกอใหญ่ ออกดอกเยอะแยะเลย ความจริงมีกุหลาบอีกกอ แต่มืดแล้ว กุหลาบสีไม่แจ่ม


ไหว้พระก่อนขึ้นพระธาตุแล้วแวะไปดูเมืองเชียงใหม่ยามโพล้เพล้ก่อนไปเวียนเทียน


อีกสักรูป บรรยากาศกำลังดี


แล้วก็ขึ้นมาบริเวณด้านในกัน พระธาตุดอกสุเทพยังสว่างเรืองรองในความมืด วันนี้วัดจัดไฟสวยมาก เห็นช่างภาพมาตั้งกล้องกันเยอะแยะเลย บรรยากาศดี


เปลี่ยนมาใช้โหมด Night Shot ดีกว่า ถ่ายยาก แต่ได้รูปสมจริง


ขนาดมือสมัครเล่น แถมใช้กล้อง Auto ครอบจักรวาล ก็ยังสามารถถ่ายรูปออกมาได้ขลังขนาดนี้


พอดีดึกมากแล้ว ก็เลยไม่ค่อยเห็นคนเดินเวียนเทียน และอีกอย่าง ไม่เห็นแสงเทียนเลย เพราะลมแรงมากค่ะ จุดแค่ธูปกันเท่านั้นเอง


พุทธศาสนิกชนเข้าวัดฟังธรรม เห็นแล้วใจสงบ มีทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยค่ะ


ตัวมอม ใครไม่เคยเห็นตัวมอมบ้าง ? หน้าตาตัวมอมที่วัดดอยสุเทพดุเชียว แต่ที่วัดพระสิงค์ออกจะน่ารักกะลุกปุก


ก่อนกลับแวะไปชมวิวกันก่อน ตอนนี้ความมืดเต็มตัวแล้ว เห็นตัวเมืองเชียงใหม่เปล่งประกายระยิบระยับ


หันมาดูองค์พระธาตุบ้าง สว่างไสวในความมืด


ขากลับเดินลงดีกว่า นี่ต้นขนุนบริเวณหน้าประตูทางขึ้นฝั่งบันได ลูกดกมากๆ ไม่รู้เพราะอากาศดีและได้ปุ๋ยดีหรือเปล่า ? รูปนี้เบลอมาก แต่ไม่กล้าถ่ายซ้ำ เพราะตรงโคนต้นน่ะ แฮะๆๆๆ.... ที่เก็บกระดูกค่ะ (ทั้งช้างและคน)


เอ้า...ฮึ้บ! เดินลงมาถึงจนได้ .... ถ่ายรูปอำลาดอยสุเทพกันหน่อย .... คิดว่า ถ้าได้ย้ายกลับไปเชียงใหม่ คงจะได้ไปกันบ่อยๆ เหมือนทุกปี ไปทุกปี ก็สนุกทุกปีค่า อากาศเย็นสบายดีแท้


กลับลงมาตอนราวๆ เกือบ 4 ทุ่ม อากาศข้างบนเย็นสบาย เลยพอลงมาถึงข้างล่าง เหนียวตัวน่าดู ก็...น้ำยังไม่ได้อาบเลยนิ แต่อิ่มบุญผ่องแผ้วกันไปตามๆ กัน




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2549    
Last Update : 2 มิถุนายน 2549 8:34:15 น.
Counter : 1308 Pageviews.  

[PIC ]พากันลุยสวน ก่อนขึ้นดอยสุเทพไปเวียนเทียนกัน #1

คำเตือน : จะกระหน่ำรูปแบไม่เกรงใจใคร (เพราะเนทฉันยังไหว ) ใครเนทช้า เปิดหน้านี้ทิ้งไว้แล้วไปนั่งต้มมาม่ากินสักชามก่อนก็ได้

ด้วยความเห่อกล้องดิจิตอลตัวใหม่แต่ยังน้อยกว่าความขี้เกียจ กลับบ้านเมื่อวิสาขบูชาที่แล้ว เกือบสิ้นเดือนถึงได้เอารูปมาอวด

ไม่สายเกินไปสำหรับรูปสวยๆ (ในความคิดฉัน ฮ่า...)

คราวนี้ไม่ขอเน้นน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เริ่มกันเลยยย...

ต้นเดือนพฤษภาคม เป็นปลายแล้งต้นฝน ต้นไม้ใบหญ้าสดชื่นกันเชียว แล้วก็เป็นปลายช่วงลิ้นจี่วาย ...อ่าแต่อย่างน้อยก็ได้กินลิ้นจี่สวนเราอยู่ดี อ้ำๆๆๆ อร่อย เนื้อหนา หวานอมเปรี้ยวอร่อยจัง เสียอย่างเดียว เผลอกินหนอนได้หลายตัว


กินอิ่มแล้ว เดินชมสวนเราต่อดีกว่า กรี๊ดกร๊าด ดอกเอื้องช้างของเรา ปีนี้ทำแฮคทริคบานที 3 ช่อเลยเรอะ เทวดาเลี้ยงดีแฮะปีนี้


ลองซูมใกล้ๆ ดูซิ ?


ภาพเดี่ยวบ้าง


เมื่อก่อนเคยสงสัย ทำไมถ่ายรูปดอกไม้ชอบ close up กันจัง เดี๋ยวนี้ได้ 1 คำตอบ ทดลองพาว์ของกล้องนี่เอง
แม่ดอกรสสุคนธ์ ปีนี้ก็ไม่ยอมน้อยหน้า


แต่ยังสู้ไฮเดรเยียไม่ได้หรอก ปีนี้อู้ฟู่เป็นพิเศษเลย แหม๊...ตอนซื้อมาเป็นสีน้ำเงิน-ฟ้าทั้งนั้น แต่ปลูกไปปลูกมาเป็นสีชมพูทั้งก๊ก


บัวนี่ถูกหลอกซื้อมาจากจตุจักร เค้าบอกว่าบัวฝรั่ง เอ...หน้าตามันเหมือนบัวเผื่อนแฮะ ?!


ไฮเดรเยียมันเริ่มโรยแล้ว เลยไม่ฟู่ฟ่าเหมือนตอนบานใหม่ๆ ที่บางช่อใหญ่กว่าหน้าฉันอีก (หน้าบานเป็นแบบนี้นี่เอง ?)


แววมยุรา ซื้อมาแค่ 4 - 5 ถุง ตอนนี้ยึดพื้นที่ว่างทุกแห่งในสวน ถ้ามีที่ดินให้พอ ไม่เว้นแม้แต่ในกระถางดอกไม้ทั่วไป กอนี้อยู่ในกระถางกุหลาบ ที่โทรมซะไม่มี แม่แววมยุราเลยได้หน้าไป


บัวสวรรค์ ไม้ดอกจากอเมริกาใต้ ได้จากงานเกษตรแฟร์ปีนี้นี่เอง ไม่รู้อีกกี่ปีจะออกดอก หรือจะโดนต้มก็ไม่รู้


ตั้งแต่จากบ้านมา เจ้าพุด 3 สีทั้ง 2 ต้นบานทั้งปีทั้งชาติไม่อิดออด กลิ่นฟุ้งไปหมด มาหมดมู้ดตรงที่แม่ comment ว่า กลิ่นเหมือนอึ แต่ความจริงหอมนา


เดินถัดไป อ้อ...กอเอื้องลายต๊กโตนี่เอง (แปลไทย "กล้วยไม้ลายตุ๊กแก" ) out trend ไปแล้ว หลังจากมัน take over ต้นลำไยออกดอกดกหอมฟุ้ง แต่ไม่มีใครมาซื้อตัดดอกแล้ว เลยได้ยืนต้นยิ้มกริ่มให้เจ้าของชื่นชมไปคนเดียว แน่นอน เทวดาเลี้ยงอีกเช่นเคย


ไฟเดือนห้า ฝากเทวดาเลี้ยงไว้ใต้ดิน (มีอะไรที่เลี้ยงเองบ้างหะ ?!) ถ้าไม่ถึงหน้าฝน ไม่โผล่หน้าออกมาให้เห็น โผล่มาที ก็แดงพรึบทั้งสวน กอนี้อยู่หน้าบ้านพอดีแต่เริ่มโรยแล้วล่ะ


ดอกคูนหน้าบ้าน วายเกือบหมดต้น ยังเหลือช่องามๆ อยู่ช่อ 2 ช่อ


ศรีตรัง ได้จากงานเกษตรแฟร์ ต้นสูงชะลูด แต่ออกดอกกะหลอมกะแหลม ไม่ค่อยสวยเหมือนตอนไปเห็นที่ใต้เลย ม่วงพราวทั้งต้น


คล้าน้ำ ... พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะ close up ออก แม่ฉันขำเจ้าต้นนี้แทบตาย บอกว่า ก้านยาวยืด แต่ออกดอกนิดเดียว ไม่เห็นจะน่าขำเลยเนอะ เหมือนเบ็ดตกปลาดี


แบตเกือบหมดแระ หันไปเจอกอลัดดาวัลย์ แต่ดอกร่วงหมดต้นแล้ว เจอแต่ดอกตำลึงที่แฝงตัวอยู่แทน ขอสักแชะ


น่าแปลกตอนที่ฉันอยู่บ้าน มันไม่เคยพากันงอกงามขนาดนี้เลย แต่พอฉันไม่อยู่บ้าน กลับงามสะพรั่งซะอย่างงั้น อาจจะเป็นเพราะตอนฉันออกจากบ้าน แม่ตัดไม้ข่มนาม เอ๊ย! ทำสาวพวกต้นลิ้นจี่ดึกดำบรรพ์ทั้งหลาย การทำสาวต้นไม้คือ ตัดกิ่งมันเกือบหมด เหลือแต่กิ่งหลักไว้เท่านั้น มันจะได้แตกกิ่งใหม่วัยสาวมาแทนไง

เดี๋ยวคราวหน้าพาขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พระกัน ไม่เกินปีจะรีบมา up date )




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2549 17:29:56 น.
Counter : 2157 Pageviews.  

บันทึก J-Winter Rock ณ MBK

นานๆ ถึงจะมา update ห้องนี้สักที

ภาพที่ปรากฏบน blog นี้ กรุณาอย่าทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปโพสต์ที่อื่นก่อนได้รับอนุญาต


เมื่อราวๆ 2 อาทิตย์ก่อน ฉันไปเดินเปิดหนังสือดูตามร้านหนังสือตามนิสัย คราวนี้ไม่รู้อะไรมาดลใจ ให้ไปเปิดหนังสือ J-spy ด้วย ด้วยความที่ห่างหายวงการ J-rock มานาน ก็กวาดตามองไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่รู้ทำไม มันไปสะดุดตาเอาว่า วันที่ 25 ธ.ค. 48 นี้ จะมีงานดนตรีและคอสเพลย์วง J-rock ที่ MBK ฝั่ง TOKYU ให้ดูฟรี ไหนๆก็ใกล้บ้านและมีธุระต้องไปเดินโต๋เต๋อยู่แถว MBK อยู่แล้ว ก็เลยเคลียร์คิวให้ว่าง แล้วไปดูดีกว่าว่าวงการณ์ J-rock บ้านเราเฉาไปถึงไหนแล้วเอ้ย... ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว (ปากงี้ ถึงได้มีโจกย์เยอะนะนี่ ? )

เมื่อรายละเอียดที่ไปแอบอ่านมาเขาว่างานเริ่ม 11.30 น. ด้วยประสบการณ์ที่ดอดไปหลายงาน พบว่างานมักเริ่มสายกว่าเวลาที่กำหนดเสมอ ทำให้ฉันเย็นใจไปถึงงานเอาเกือบเที่ยง แต่ไปถึงแล้วกลับพบว่า มีวงดนตรีเล่นๆ อยู่บนเวทีซะแล้ว แหม... สถานที่จัดงานทำเลดีจริงๆ อยู่ด้านสถานีรถไฟฟ้า แล้วติดประตูทางเข้า TOKYU เห็นๆ ซึ่งก็เป็นปัญหาต่อมาว่า ลูกค้าเดินเข้า-ออกไม่สะดวก ต้องให้รปภ.มาประกาศขอขยายทางเข้าเป็นระยะ เอ้านี่... ปีหน้าเลื่อนเวทีไปอีกด้านก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ เอาเวทีมาติดประตูทางเข้า - ออก เค้าคิดไม่ถึงจริงๆเหรอว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ? ตกลงเขาจัดงานโดยคิดว่าคงจะมีคนมาดู 10 กว่าคนมั้ง ? เห็นเก้าอี้ตั้งให้นั่งดูแค่ 10 กว่าตัว


บรรยากาศในงานตอนเที่ยงๆ

อาจจะเนื่องจากไม่ได้ฟังเพลงใหม่ๆ J-rock มานาน ก็เลยไม่รู้ว่าวงที่เล่นบนเวทีเค้าเล่นเพลงของใคร แล้วที่น่าอายที่สุด ก็ตรงนึกว่าเขาขึ้นไปลองเครื่อง แต่ความจริงเล่นจริงๆ เอ่อ.... หลังจากดูมาเกือบทุกวง บางวงนะ แหม๊... ทุกคนเล่นดนตรีเน้นฝีมือจริงๆ ทุกวันแต่งตัวยังไง เค้าก็โดดขึ้นเวทีชุดนั้นเรยยยย.... งานแนวร๊อคนี่ นักดนตรีใส่ใจการแต่งกายนิ๊ดหนึ่งก็ดีนะ ฉันไม่ได้มางานนี้เพื่อดูพี่เสกโลโซหรือพี่แอ๊ดคาราบาวร้องเพลงญี่ปุ่น (เออ... พี่เสกกับลุงแอ๊ดเค้าก็แต่งตัวดีนะ) เฮ้ย! บ่นไปใย เค้าเล่นให้ดูฟรีก็ดีถมไปแล้ว ดนตรีมันอยู่ที่หัวใจ ! (กัดฟันพูด)

เอาล่ะค่ะ หลังจากมึนงงกับวงตรีที่พบ ก็เลยเดินดูงานบ้าง ก็มึนๆกับงาน ไม่ค่อยมีบูธอะไรเลย อ้อ... ลืมไป ไม่ใช่งาน Japanese Festival ที่ NED จัด ไปยืนดูกำหนดการตารางงาน ทำให้รู้ว่า วงที่จะ cover Dir en grey และ Luna Sea กว่าจะเล่นก็บ่ายนู่น เลยขอแว่บไปทำธุระก่อนดีกว่า แต่ตอนหลังมารู้ว่า พวกโปรแกรมที่เขาติดให้ดูกับตารางงานจริงๆนี่ ไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไหร่

แวบกลับมาที่งานอีกที พบว่ามีวงหนึ่งกำลัง cover Dir en grey แต่ .... นั่นเค้าขึ้นไปเล่นจริงๆ หรือขึ้นไปลองเครื่องก็ไม่รุ เพราะนักร้องนำกำลังหลบมุมอยู่ ขณะที่ยังไม่เลิกมึน เขาก็เล่นเสร็จพอดี เฮ้อ... เสียดายนะ อุตส่าห์มาเพราะอยากฟัง Dir en grey มาพูดถึงวงดนตรีให้จบไปเลยดีกว่า เพราะดูแต่ละวงที่ขึ้นมาเล่น ฉันก็มึนๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ อาจจะไม่ได้ตาม J-rock มานาน จนไม่รู้ว่าเขาเอาเพลงวงไหนมาเล่นบ้าง แต่นับว่า วง cover บ้านเรามีพัฒนาการที่ดี เป็นเมื่อก่อนนะ ขนาดเป็นวงที่ต้องเสียเงินเข้าดู แต่จบงานทีไร ทั้งคนเล่นและคนดูสาหร่ายเต็มหัว (เข้าใจมุขม่ะ ? ) แต่สนุกมาก คอสตูมอลัง แต่สมัยนี้เค้าคงเน้นฝีมือมากกว่าเนอะ ? บางวงเค้าว่าเค้า cover วง Luna Sea แต่ฟังตั้งนาน ยังจำไม่ได้เลยว่าเค้า cover เพลงไหน แต่ก็เห็นได้ชัดว่า การเล่น พัฒนาขึ้นมามากๆ เมื่อก่อน ... นักดนตรีเล่นนี่ คนดูใจเต้นเลยว่าจะรอดหรือเปล่า ? ตื่นเต้นลุ้นระทึกดี ก็สมัยนั้น ใจรักล้วนๆ เลย แล้วคำร้องก็ดีขึ้นมากๆ คือ ร้องเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ดีมาก ในแง่ของการออกเสียง ที่ประทับใจที่สุด คงเป็นวงที่ Cover วง L'arc-en-ciel ขอโทษที่จำชื่อวงไม่ได้ (เค้าไม่ค่อยพรีเซนต์วงกันเลย ยกเว้นวง FAKE ?) เล่นเพลงของ Laruku ได้ดี ได้ฟังเพลงของ Laruku หลายเพลง แม้แต่เพลงเก่าๆ อย่าง Burry Eyes ที่ยังขุดมาเล่น มือเบสยังอุตส่าห์คอสเป็น Edward Elric แห่ง Fullmetal Alchemist มาเล่นซะด้วย ส่วนวงขวัญใจผู้ชมคือ Nemesis มั้ง ? (เคยได้ยินข่าวลือว่ายุบวง แต่ยังอยู่หรือนี่ ?) นักร้องนำ Ciel นี่ไม่เห็นตั้งนาน ไม่รู้ว่าผอมลงหรือสูงขึ้นกันแน่ ?

หันไปดูคอสเพลย์กันมั่งดีกว่า ช่วงเช้าๆนี่ยังเห็นคอสเพลย์ประปราย (เช้าเรอะ ? เที่ยงกว่านี่นะ ?) เห็นคอสเพลย์เริ่ดๆ หลายคนเลย แม้ว่าจะมีคนบอกว่า บางคนลงทุนทำชุดเดียว แต่เล่นซะคุ้มตั้งหลายงาน ก็น่าเห็นใจนะ ชุดหนึ่งมันไม่ใช่ถูกๆ ใช้เวลาขนาดไหน ? (ไม่รู้เหมือนกัน อลังการณ์งานสร้างขนาดนั้น เป็นฉันก็ต้องเล่นให้คุ้มเหมือนกัน งานนี้มือใหม่หัดถ่าย รู้สึกเขินเหมือนกันที่ไปขอเขาถ่ายรูป แทนที่คนถูกถ่ายจะเขิน แต่คนขอถ่ายเขินเอง งานนี้ไม่ลืมจกเอากล้องถ่ายรูป (ของคนอื่น) ไปถ่ายด้วย สนุกดีเหมือนกัน (ที่ได้ถ่ายรูปนะ ไม่ใช่ที่ไปจกกล้องเขามา) ทำให้อยู่ในงานได้นานขึ้น รู้สึกว่ามีอะไรให้ทำ ส่วนใหญ่ก็เป็น Dir en grey และ Gothic Lolita หลังจากประกวดคอสเพลย์แล้วและดู Nemesis (ถ้าจำชื่อไม่พลาดนะ) แล้วอีกนิดหน่อยก็กลับบ้านดีกว่า เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ดูอีก 2 วงที่เหลือ แต่พอดีมีงานที่ต้องกลับไปทำก่อน แล้วไม่ได้อยู่รอฟังผลประกวดคอสเพลย์ด้วย เพราะฉันคิดว่า ทุกคนคอสได้ยอดเยี่ยมเหมือนกัน แค่ใจ ก็เกินร้อยแล้ว

มาดูรูปกันดีกว่า หลายๆรูปที่ถ่ายมา แต่ไม่ได้เอาแปะเพราะรูปมันไม่ค่อยดีนะ ความจริงแล้วมีประทับใจนักคอสหลายคนเลย โดยเฉพาะเหล่าโทชิยะและเคียว หุ่นให้ใจรักกันทั้งนั้น เห็นชินยะ คนหนึ่ง น่าจะมีคาโอรุบ้างน้าาา....


ถ้าจำไม่ผิด วงนี้กำลังเล่นเพลงของ Dir en grey นักร้องนำเขาคงขี้อายมากเลยนะนี่ มาเจอเค้าก็เล่นเสร็จพอดีเลย อดดูว่านักร้องนำหน้าตาน่ารักขนาดไหน


Gothic Lolita ที่น่ารักคนหนึ่งจ้ะ


Toshiya ชุดตอนออก 3 single รวดกับ Yoshiki จำไม่ได้แล้วว่า image ไหน แต่ในยุค major debut album แรกก็แล้วกัน



Kyo กับ Toshiya


บักเอ็ดเล่นเบสกับเค้าด้วย ?! เอ็ดคนนี้น่ารักดี แฟนๆ เพียบ แถมมีคุณแม่น่ารักมากๆ ด้วย น่าอิจฉาจริงๆ วงนี้ Cover L'arc-en-ciel จ้า เล่นได้เจ๋งไปเลย ฉันบันทึก VDO Clip ของวงนี้เอาไว้ด้วย


Dir en grey อีกเช่นกันกับ ? คนกลางน่าจะคอส shinya นะ ?


กลุ่ม Gothic Lolita จ้า คนกลางยืนเค้าคอส เจ้าแม่ Gothic Lolita Mana ไง (ว่าแล้วคิดถึง ป่านนี้คุณหญิงเธอเป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่รู้)


Toshiya พร้อมดาบซามูไร งานนี้ Toshiya แต่ละคน กินกันไม่ลงจริงๆ


เจอ Die 1 คน มาพร้อมสวัสดิกะที่ปลดปล่อยไม่ได้ (เฮ้ย... ไม่ใช่ Bleach น้า)


นึกไม่ออกว่าเค้าคอสใคร ? แต่เท่จริงๆ


นี่ก็อลังการณ์ Toshiya อีกคน เท่าที่ดูมา ยังไม่สามารถตัดใจเลือก Totchi คนไหนได้ แอ๊!!!


Totchi กับกลุ่ม Gothic Lolita


Kyo คนนี้เหมือนมั่กๆ เค้าลงทุนเจาะปากด้วย ชอบน้องคนนี้เป็นพิเศษเลย


นี่ถ้าพกเพื่อนไปด้วย คงต้องขอไปยืนฉีกยิ้มข้างๆน้องเค้า แล้วส่งรูปไปให้ชาว Diru ดูแน่ๆเลย

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทาง MBK และ Sponsers ทุกท่านที่ช่วยจัด event แบบนี้ให้ชาว J-rock และคอสเพลย์ทั้งหลายได้มีเวทีแสดงออกท่ามกลางพายุ K-pop ที่พัดกระหน่ำเมืองไทย ทำให้วันคริตส์มาสของฉันปีนี้ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่หน้าคอมพ์ หรือเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้างสรรพสินค้า หวังว่า คงจะมีงานครั้งต่อไปอีกนะคะ

Gumbari Kudasai ชาว J-rock และ Cosplay ทั้งหลาย!!!




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2548    
Last Update : 27 ธันวาคม 2548 12:45:24 น.
Counter : 1303 Pageviews.  

ไปดู STAR WARS EP III มาแล้ว!



หนังดังที่กำลังกวาดรายได้ถล่มทลายอย่างไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะภาคนี้จอร์จ ลูคัส เจ้าของเรื่องประกาศสร้างเป็นภาคสุดท้ายเสียด้วย ทำเอาแฟนแห่กันไปดู แต่ความจริง Star Wars ที่สร้างมากว่า 30 ปี ตลอดเวลา 30 ปี ก็มีคนรุ่นต่อๆมาเอามาดูรุ่นแล้วรุ่นเล่า แค่นี้แฟนๆของสตาร์วอร์สจะเพิ่มทวีคูนชนิดปิดประตูเจ๊ง นอกเสียจากว่า ลูคัสจะสร้างมาชนิดสุนัขไม่รับประทาน (ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคิดว่า ไม่ขาดทุนนะ)

Star Wars ความจริงแล้ว ฉันเพิ่งมาดูตอนที่เขาเอามา edit แล้วฉายใหม่อีกรอบนี่เอง เมื่อก่อนดูก็งั้นๆแหละ แต่พอมาดูในจอสกรีนใหญ่แล้ว Oh.....มันช่างตื่นตาตื่นใจ มหัศจรรย์จริงๆ ภาค 4-5-6 ก็เลยดูมันไปซะภาคละ 3 รอบ ภาคที่ชอบมาที่สุดก็ The Empire Strike Back ดูมันเป็นดราม่าเข้มข้นดี และคงเพราะฉันเป็นพวก anti -hero ด้วยมั้ง อย่างนี้น่าจะเดาได้ว่า ขวัญใจฉันคือ Darth Vader ! แน่นอน แต่ใช่ว่าฉันจะพอใจภาค 1-2-3 ?!

Star Wars ภาค 1-2-3 คืออัตชีวประวัติของ Darth Vadar ก่อนที่จะมาเป็น Sith Lord (ไม่แน่ใจ แต่แน่ใจว่า Darth Vadar มีตำแหน่งท่าน Lord) สมัยที่ยังใช้ชื่อว่า อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ และเป็นเจได ถึงขนาดนั้น ยังกดเข้าไปตั้ง 3 ภาค รวมเวลาเล่าเรื่องการเติบโตของ Darth Vadar ปาเข้าไป 1 ใน 3 ของเรื่องสตาร์วอร์สทั้งหมด (1-9 ?!) ออกจะฟุ่มเฟือยไปหน่อยในการเล่าถึงคนๆหนึ่งตั้ง 3 ภาค แต่เพราะเขาเป็น Darth Vadar ! แม้จะเป็นตัวร้าย แต่ก็ถือว่าเป็นตัวร้ายที่มีแฟนๆมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกภาพยนต์

ภาค 3 เปิด สไตล์ของสตาร์วอร์ส คือ ไม่จำเป็นต้องเล่าเหตุการณ์ต่อจากภาคก่อน และไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุการณ์สำคัญในช่องว่างระหว่างภาคนั้น ใช้ตัวหนังสือบรรยายเป็นอันจบ (ประหยัดทั้งงบและเวลา) ฉากสงครามอวกาศฉันกลับไม่รู้สึกตื่นตาตื่นใจเลยสักนิด เมื่อเทียบกับกองทัพจักรวรรดิไล่โจมตีพวกลุคและกัปตันโซโลในภาค 5 โถ....แค่ยานบินวิ่งไล่ยิงกันบน เกมส์เพลย์ฯ ทำกันมโหฬารพอๆกันมานานแล้วค่ะ ไหนจะ anime ยุ่นปี่อีก ยิงกันสนั่นอวกาศ เพราะฉะนันฉากเปิดภาค 3 ก็ไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นตาสำหรับฉัน

เรื่องราวในภาค 3 ก็รู้สึกจะรวบรัดชอบกล ดูง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน เหมือนการ์ตูนพวก PG13 ส่วนอนาคิน นั้น ....ช่างเป็นคนหนุ่มที่อ่อนไหวง่าย เจ้าอารมณ์ แต่ซื่อบริสุทธิ์ซะไม่มี....... (ยกมือกุมขมับ 3 วิ) ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือเด็กชายตัวน้อย ที่ดูแววแล้วน่าจะเป็นคนดี จากพื้นฐานเป็นคนมีน้ำใจ เป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น อาจจะเป็นไปได้ว่า จุดหักเหของชีวิต คือการสูญเสียแม่ไปโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ ทำให้อนาคินกลายเป็นคนที่กลัวการสูญเสียจนหลงเข้าสู่ด้านมืด ..... ตามหลักการเลี้ยงดูเด็กนั้น เขาว่า เด็กจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อนาคินเติบโตมาในหมู่เจได ที่รับประกันจริยธรรมว่าแน่นเปรียะ เรียกว่า ตั้งแต่เด็กหัวเท่ากำปั้น จนโตมีเมียนั่นแหละ ฝึกวิถีเจไดมาตลอด แต่หลักธรรม คำสั่งสอนของเจได ไม่ได้ซึมซับเข้ากะโหลกหนาๆของอนาคินสักนิดเดียว เผลอเป็นไม่ได้ มีแต่จะเอียงวูบไปด้านมืด (อันนี้ตามความเชื่อของนักวิทย์ฯกลุ่มหนึ่ง เขาว่า คนเราอาจจะชั่วเพราะ DNA ก็ได้ ต่อให้เลี้ยงดียังไง มันก็จะชั่วให้ได้) อยู่กับโอบีวันมาเป็น 10 กว่าปี นอกจากเพลงดาบแล้ว นอกนั้นสอนอะไรไม่ค่อยซึม พอเจอ Sith Lord เข้าหน่อย พูดไม่กี่คำ มันก็เชื่อเขาหมดซะแระ! พฤติกรรมของอนาคินนี่ ทำเอาฉันสงสัยว่าใครคือพ่อของอนาคิน ความจริงเรื่องนี้คงไม่มีใครถาม ถ้าคุณแม่ของอนาคินดันไม่ไปพูดกำกวมใส่ไกวคอนเข้าให้ ?! ฉันว่า พ่อของอนาคิน อาจจะเป็นพวก Sith สักคนหนึ่งได้ พนัน 1 : 100 เลยอ่ะ!



นางเอกของเรื่อง เพดเม่ อมิดาลา ..... ฉันไม่รู้เลยนะนี่ว่าการแต่งงานของเพดเม่กับอนาคินเป็นความลับ ไม่มีใครรู้ ? เฮ้ย....แล้วที่แม่นางมาคลุกอยู่กับอนาคินทั้งวัน-คืนในภาค 3 นี่ไม่มีใครสงสัยหรือว่าท่านวุฒิสมาชิกหายไปไหน ? ทุกทีเห็นมีนางกำนัลตามเป็นพรวน (แค่เป็นราชินีจากการเลือกตั้งก็เซอร์ไพร์สคนดูในภาค 2 พอแรงแล้วนะ) ที่อยู่ก็ไม่ได้ลับตาคนอะไร กระจกใสอยู่ชั้นบนสุดของตึกอีก ? เพดเม่.... ฉันนึกว่าเธอจะเป็นหญิงเก่งแบบนางฮิลารี คลินตันเสียอีก แต่ภาค 3 นี้เธอนางเอ๊ก นางเอก ผู้หญิ๊ง ผู้หญิง เป็นแม่บ้านแม่เรือน เชื่อสามีไปหมด บทเธอไม่ค่อยมีอะไรเลยในภาคนี้ นอกจากเป็นตัวต้นเหตุ แต่ตอนจบภาค 3 ทำไม Darth Vader ไม่ไปชุบชีวิตเธอล่ะเฟ้ย ?!

โอบีวัน.... ฉันว่าภาคนี้พี่ยวน แมคเกรเกอร์ โดนเด่นมากนะ เป็นคนเดียวที่พาตัวเองผ่าน 3 ภาคไปอย่างดงาม ส่วนฉากที่รอคอย โอบีวันดวลกับอนาคิน ถ้าไม่เน้นฉากหลังมากไปหน่อย ฉันว่าก็พอดูได้นะ ไม่ดุเดือดเหมือนที่คิด ฉากดวลกับพวก sith 2 ภาคแรกยังดูมันส์กว่า แต่ตอนท้ายของการดวลนี่สิ ดูมันชนะเพราะฟลุคชอบกล แต่คิดว่ามันน่าจะออกมารูปแบบนี้อยู่แล้ว เพราะโอบีวันไม่น่าจะเก่งกว่าอนาคิน ตอนดวลกับเค้าท์ดูกู ยังน่วมซะไม่มี

เค้าท์ดูกู .... ดารารับเชิญชัดๆ ฉันว่าบทบาทของเค้าท์คนนี้ แค่เป็นสะพานเชื่อมพวกวุฒิสมาชิกโฉดนั่นกับอนาคินเท่านั้น ช่างลงทุนซะไม่มี แสดงว่าการได้อนาคินมา คุ้มกว่าเสียเค้าท์ดูกูไปสินะ ?

General Grievous .... ขวัญใจเลยล่ะ ชอบจังตัวประหลาดกึ่งหุ่นยนต์แบบนี้ เท่ที่สุดในเรื่องเลย !

เจได.... การรุมกินโต๊ะเจได ก็สมารถฆ่าได้ สภาเจไดน่าจะมีระบบป้องกันตัวเองและคนที่อยู่ในสภาดีกว่านี้ แต่ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรได้เลยนะ แถมพากันไปจับ Sith Lord ก็ความลับจังเลย พอทำภาระกิจไม่สำเร็จ เลยกลายเป็นพวกกบฏไปซะฉิบ แถมยังเป็นข้ออ้างให้ฝ่ายสาธารณรัฐกำจัดเจไดได้โดยชอบธรรมอีกต่างหาก (ยกมือกุมขมับ 3 วิ) สภาเจไดออกจะใหญ่โต แต่ประชุมทีไร ฉันเห็นมีอยู่สัก 10 คนทุกที ? เลยไม่รู้ว่าสภาเจไดมันมีกันแค่นี้จริงๆเหรอ ? ไม่เคยเห็นเจไดมาชุมนุมกันเยอะมาก่อน ยกเว้นตอนภาค 2 ที่ไปช่วยโอบีวัน อนาคินและเพดเม่

เอาเป็นว่า ดูสนุกพอใช้ค่ะ แต่จะไปดูอีกรอบหรือเปล่านี่ ? ยังคิดหนักอยู่เลย ภาค 1 ดู 2 รอบ ภาค 2 ดู 1 รอบ และภาค 3 ....... ลูคัสคิดถูกแล้วที่สร้างภาค 4-5-6 ก่อน ฉันว่า มันซีรีส์ที่สนุกที่สุดแล้วนะ ส่วนภาค 7-8-9 นั้น ฉันว่าเรื่องมันผ่านจุด peak มาแล้ว ทิ้งให้เราคิดว่า ณ กาแลคซี่อันไกลพ้นนั้น ทุกคนอยู่ด้วยความสงบสุขหลังจากกำจัดจักรพรรดิแห่งความชั่วร้ายไปได้ จะดีกว่านะ (^_~);

ไปดูสตาร์วอร์สนี่ บอกตรงๆว่าฉันไม่ค่อยจำเนื้อเรื่องกับตัวละครสักเท่าไหร่หรอก หนักไปในทางดูวิวว์ทิวทัศน์และเทคโนโลยีเสียมากกว่า สตาร์วอร์สนี่เป็นเรื่องของชนชั้นปกครองนะ เลยทำให้เราเห็นแต่พวกอยู่บนตึกชั้นบนสุด อยากรู้จริงๆว่าสามัญชนในเมืองใหญ่ของสตาร์วอร์สเค้าอยู่กันยังไง ? เข้าล่างชั้นหนึ่งจะมีอากาศพอหายใจไหม ? ตึกสูงเยอะเหลือเกิน พวกชนดาวต่างๆทำมาหากินกันอย่างไร ? แม้ว่าในภาค 4-5-6 จะมีให้เห็นบ้าง แต่ว่ามันก็พวกบ้านนอกไปหน่อย

อีกอย่าง นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเชื่อคำทำนายอะไรงมงาย อย่างอนาคิน แม้เขาจะมีพลังมาก แต่ไม่เหมาะจะเป็นเจได เขาจะไปทำมาหากินอย่างอื่นที่เครียดน้อยกว่านี้ !?




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2548 12:19:55 น.
Counter : 1301 Pageviews.  

Dir en grey Live in Germany!

ตอนแรกกะว่าจะไม่ up blog แล้วนะ แต่อดไม่ได้ พอดีได้ข่าวที่น่าภูมิใจในฐานะแฟน J-rock มา ครือ ที่เยอรมันจะมีงานคล้าย Big rock day ขึ้นมา งานใหญ่บึ้มมาก แล้วเค้าก็เชิญพวกวง rock ดังๆ มาร่วมงานเพียบ! รายละเอียดดูในนี้ (แต่ทำไมทำแต่ภาษาเยอรมันฟ่ะ ?)

//www.rock-am-ring.com/schedule.html

so Dir is the first day on the alternate stage
and Kagerou is on the 3rd day the Talent Forum stage

Dir en grey กับ Kagerou ได้รับเชิญไปด้วย เดี๋ยวนี้ได้ข่าวว่า พวก J-rock ดังใหญ่ในเยอรมัน เท่าที่เรารู้พวกที่ไป on tour ที่เยอรมันแล้วก็มี Kozi (อดีตกีต้าร์ Malice Mizer) แล้วก็ Pata (อดีตกีต้าร์ X Japan) อีกเหมือนกัน ถือว่า เป็นความภาคภูมิใจของวงร็อคเอเซียเลยนะ

อ้อ... ข่าวว่า Dir en grey จะได้ออก MTV ยุโรปด้วย อ่า.... ฟังแล้วนึกถึงวงดนตรีร็อคบ้านเราอย่าง "ดอนผีบิน" ที่เคยได้ข่าวว่า ไปดังแถวยุโรปเลยนะ



สู้เค้านะ Dir en grey!

source : Big-Red-Die Mailing list




 

Create Date : 26 เมษายน 2548    
Last Update : 27 เมษายน 2548 8:26:42 น.
Counter : 913 Pageviews.  

1  2  3  

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.